MGR Online - สืบค้นเจ้าของโครงการ “เดอะเชียงใหม่คอมเพล็กซ์” ทั้ง “มาลิน สกาย” ร้านดังที่การ์ดรุมกระทืบ “ลูกนายพล” รวมทั้ง “มาลินพลาซา” และโรงแรม “เดอะคอร์เชียงใหม่” พบเจ้าของโรงแรม “พีรยา คุวานันท์” ลูกสาวคนสุดท้องผู้ก่อตั้งดีลเลอร์รถกระบะอีซูซุภาคอีสาน “โค้วยู่ฮะ” เพจดัง “นักล่าเน็ตไอดอล” ระบุ “ไอ้บอล” ไม่ใช่ไฮโซ แค่ลูกน้องที่ไว้วางใจดูแลธุรกิจ ตระกูลใหญ่คุวานันท์ กุมขมับ เอาชื่อแม่ไปทำเสียหาย ฉาวอีกผับอยู่ห่างรั้ว ม.เชียงใหม่ แค่ไม่กี่เมตร ทั้งที่ “บิ๊กตู่” ออกกฎชัด ห้ามใกล้สถานศึกษา 300 เมตร พอเกิดเรื่องก็ปิดตัวเอง
จากกรณีที่ นายอิศราชนุวัฒภ์ วรรคาวิสันต์ หรือ เจมส์บอนด์ อายุ 23 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยพายัพ ลูกชาย พล.ต.วิทยา วรรคาวิสันต์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 38 จังหวัดน่าน ถูกการ์ดร้านอาหารมาลินสกาย ถนนห้วยแก้ว ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งมี ไฮโซบอล กฤษณะ อมิตรสูญ ผู้บริหารโรงแรม The Core Hotel ถนนห้วยแก้ว แฟนหนุ่มของดาราสาวเซ็กซี อุ้ม ลักขณา วัธนวงส์ศิริ เป็นหุ้นส่วน ได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อคืนวันที่ 25 พ.ย. ที่ผ่านมา เพราะไม่พอใจที่ถูกการ์ดนักแสดงไทยทีวีสีช่อง 3 ใช้อภิสิทธิ์ห้ามไม่ให้บุคคลอื่นใช้ห้องน้ำ ขณะที่ดาราทำกิจธุระส่วนตัวนั้น
ต่อมา น.ส.ภาณุมาศ อุดมขันติกุล ตัวแทนผู้บริหารโครงการเดอะเชียงใหม่คอมเพล็กซ์ เจ้าของโครงการมาลินพลาซ่า นำกระเช้าดอกไม้เข้าเยี่ยม นายอิศราชนุวัฒภ์ เพื่อแสดงความเสียใจ พร้อมระบุหลังเกิดเหตุผู้บริหารไม่สบายใจ และเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น จึงขอยกเลิกสัญญาทั้งหมด ขณะที่ นายธนิน เลิศอำรุงกุล เจ้าของร้านมาลินสกาย ที่ตั้งอยู่หน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แถลงกับสื่อมวลชนเป็นครั้งแรก ว่า ข่าวที่ระบุว่า นายกฤษณะ อมิตรสูญ แฟนของ อุ้ม ลักขณา วัฒนวงศ์ศิริ นักแสดง เป็นหุ้นส่วนของร้านนั้นไม่จริง
ในช่วงที่ยังไม่เป็นข่าว ชื่อของ “ไฮโซบอล” หรือ นายกฤษณะ อมิตรสูญ ในช่วงที่เป็นข่าวคบหากับนักแสดงช่อง 3 “อุ้ม ลักขณา วัธนวงส์ศิริ” เมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ระบุว่า นักธุรกิจหนุ่มมาดเซอร์ มีดีกรีเป็นผู้บริหาร เดอะ คอร์ โฮเต็ล โรงแรมดังของเมืองเชียงใหม่ และเดอะเชียงใหม่คอมเพล็กซ์
จากการตรวจสอบสถานที่ตั้งร้านมาลิน สกาย ตั้งอยู่ในโครงการมาลินพลาซ่า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการเดอะเชียงใหม่คอมเพล็กซ์ ตั้งอยู่ริมถนนห้วยแก้ว ตรงข้ามมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และอยู่ติดกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เส้นทางมุ่งหน้าไปยังดอยสุเทพ
อย่างไรก็ตาม จากการสืบค้นชื่อบริษัท “เดอะ เชียงใหม่ คอมเพล็กซ์” จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ไม่พบข้อมูล มีแต่ บริษัท เชียงใหม่ คอมเพล็กซ์ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2533 ทุนจดทะเบียน 80 ล้านบาท ที่ตั้งอยู่เลขที่ 152 ถนนช้างคลาน ต.ช้างคลาน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ วัตถุประสงค์ล่าสุด จำหน่ายอาคารชุด มี นายคฤห์ สิมะวงศา เป็นกรรมการบริษัท
ปัจจุบัน บริษัทดังกล่าว “เสร็จการชำระบัญชี” และจากการตรวจสอบชื่อ “คฤห์ สิมะวงศา” ไม่พบว่ามีข้อมูลทางธุรกิจ หรือทางสังคมใดๆ
ขณะที่การตรวจสอบ โรงแรมเดอะคอร์เชียงใหม่ ซึ่งตั้งอยู่ในโครงการเดอะเชียงใหม่คอมเพล็กซ์ อาคารห้องพัก 5 ชั้น ที่ปลัดอำเภอเมืองเชียงใหม่ พร้อมกับตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ได้เข้าตรวจสอบ พบว่า ไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการ ระบุ บริษัท โฮมรีสอร์ท จำกัด เป็นเจ้าของ
ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า บริษัท โฮมรีสอร์ท จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 17 พ.ค. 2553 ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท ที่ตั้งอยู่เลขที่ 99/64, 99/105-107 หมู่ 1 ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ วัตถุประสงค์ล่าสุด ให้เช่าห้องพัก และเฟอร์นิเจอร์
มี น.ส.พีรยา คุวานันท์ และ นายนริศ พงศ์น้อย เป็นกรรมการบริษัท
ในปี 2556 มีรายได้หลัก 7,371,687.09 บาท ต่อมาปี 2557 มีรายได้หลักลดลงมาเล็กน้อย อยู่ที่ 7,067,718.50 บาท และปี 2558 มีรายได้หลักลดเหลือ 6,148,006.76 บาท ส่วนรายจ่ายในปี 2556 รวม 7,070,938.20 บาท ปี 2557 รวม 8,648,623.15 บาท และปี 2558 รวม 8,658,833.20 บาท
ส่วนกำไรสุทธิ ปี 2556 มีกำไรสุทธิ 257,253.95 บาท ปี 2557 กลับขาดทุน 1,621,125.65 บาท และปี 2558 ขาดทุนสูงถึง 2,508,990.38 บาท
ชื่อของ น.ส.พีรยา คุวานันท์ เป็นบุตรสาวคนที่ 6 คนสุดท้องของ นายวิญญู คุวานันท์ หรือ นายฮกเช็ง แซ่โค้ว ชาว จ.ขอนแก่น ผู้ก่อตั้ง บริษัท โค้วยู่ฮะมอเตอร์ จำกัด ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์อีซูซุในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ปัจจุบัน โค้วยู่ฮะมอเตอร์ มีสำนักงานตัวแทนจำหน่ายทั้งภาคอีสาน ที่ จ.ขอนแก่น จ.ร้อยเอ็ด จ.มหาสารคาม จ.เลย ก่อนสยายปีกไปยังกรุงเทพมหานคร และภาคเหนือที่ จ.ลำปาง
ตามรายงานข่าวระบุว่า โรงแรมเดอะคอร์เชียงใหม่ มีหุ้นส่วนด้วยกัน 3 คน คือ สามีของ นางพีรยา, นางพีรยา และ บอล กฤษณะ อมิตรสูญ แต่ในการจดทะเบียนทางกฎหมายมีเฉพาะชื่อของนางพีรยา และสามี เป็นผู้มีอำนาจ ส่วน บอล กฤษณะ ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้บริหารโรงแรม
นอกจากนี้ ทั้ง นางพีรยา และ นายนริศ สองสามีภรรยายังเป็นเจ้าของ บริษัท โค้วยู่ฮะ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เจ้าของโครงการ Amorini สันโค้ง เชียงราย (ตามการอ้างอิงของหนังสือพิมพ์เชียงรายนิวส์ ฉบับเดือนพฤศจิกายน 2557 หน้า 8)
นอกจากนี้ นางพีรยา ยังเป็นผู้บริหารและเจ้าของโครงการ มาลิน วิลเลจ หมู่บ้านบนเนื้อที่กว่า 40 ไร่ บริเวณเขาไผ่ หมู่ 5 ต.ทับมา อ.เมือง จ.ระยอง
เฟซบุ๊ก “นักล่าเน็ตไอดอล รีเทิร์น” ระบุว่า “ไฮโซบอล” หรือ นายกฤษณะ ไม่ใช่น้องแท้ๆ ของ “เจ๊น้อง” หรือ นางพีรยา เป็นแค่คนธรรมดาที่ได้รับความไว้วางใจให้ดูแลธุรกิจให้ ซึ่งชื่อ “มาลิน พลาซา” หรือ “มาลิน สกาย” เป็นชื่อของนางมาลิน คุวานันท์ มารดานางพีรยา
โดย นางพีรยา มี “กู๋ใหญ่” หรือ นายจิราวุฒิ คุวานันท์ พี่ชาย เป็นผู้บริหารโค้วยู่ฮะหลังจากแบ่งมรดกแล้ว นายจิราวุฒิ ก็บริหารงานบริษัท โค้วยู่ฮะ เพียงอย่างเดียว ส่วน นางพีรยา แยกขาดกับพี่ชาย และได้สมบัติคือ ที่ดินที่ จ.เชียงใหม่ ที่ตั้งของมาลิน พลาซา และ จ.ภูเก็ต
ซึ่งหลังเกิดเรื่อง ตระกูลคุวานันท์ เสียใจที่น้องสาวทำชื่อมาลิน ซึ่งเป็นชื่อมารดาเสียหาย และเรื่องธุรกิจสีเทา ที่ระบุว่า นายกฤษณะ มีส่วนเกี่ยวข้องนั้น คนในตระกูลคุวานันท์ส่วนใหญ่ไม่เกี่ยวข้อง เพราะน้องสาวน่าจะตัดพี่ตัดน้องกันไปนานแล้ว
อีกด้านหนึ่ง เฟซบุ๊กเพจ “ภาคีคนฮักเจียงใหม่” ซึ่งเป็นเครือข่ายภาคประชาสังคมใน จ.เชียงใหม่ ได้ออกมาวิเคราห์กรณีที่สถานบันเทิง “มาลิน สกาย” ปิดตัวเองลงหลังเกิดเรื่อง ระบุว่า “พอเกิดเรื่องอื้อฉาว วันรุ่งขึ้นมาลินสกายผับ ก็ปิดตัวเองทันที แถมยกเลิกสัญญาเช่าสถานที่ จัดการเคลียร์ได้รวดเร็วมาก น่าจะเป็นมืออาชีพ
กระแสข่าวที่สังคมสนใจ อยากรู้แค่เรื่องคดี ใครซ้อม ใครสั่ง ใครผิด? สังคมยังไม่สนใจประเด็นที่ว่า มาลินสกายผับชื่อดังหน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ชิงปิดตัวเองทำไม? เปิดตรงนั้นได้ยังไง? ปกติผับขายเหล้าเปิดตรงนั้นได้หรือไม่? ได้ใบอนุญาตหรือเปล่า?
เพราะมีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดสถานที่หรือบริเวณห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รอบสถานที่ศึกษา 300 เมตร วันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2558 ลงนามโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
วัดระยะทางด้วยแผนที่กูเกิล จากผับมาถึงรั้วมหาวิทยาลัยไม่ถึง 100 เมตร หรือผับได้รับการยกเว้นตาม พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการตามกฎหมายว่าด้วยสถานบริการ (โซนนิง) เป็นแบบไหน ประชาชนอยากรู้
ในเมื่อผับชิงปิดกิจการ ประชาชนเลยไม่ได้รู้ ตำรวจก็ไม่อยากรู้ ไม่มีใครอยากรู้เลยหรือว่า ผับเปิดตรงหน้ามหาวิทยาลัยได้อย่างไร”
เมื่อมีการลากเส้นสถานบันเทิงมาลิน สกาย พบว่า อยู่ห่างจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพียงแค่ถนนห้วยแก้ว คั่นกลางเท่านั้น คิดเป็นตัวเลข 82.61 เมตร ไม่นับรวมรั้วมาลินพลาซา ติดกับช้อปช่างยนต์ ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
ขณะที่เฟซบุ๊กเพจ “สนับสนุนการปฏิรูปตำรวจ” ระบุว่า “เผยโฉมหน้าหุ้นส่วนอีกหนึ่งคน ของร้านมาลินสกายที่เชียงใหม่ ที่เป็นข่าวรุมกระทืบลูกชาย ผบ.มทบ.38 ในตอนนี้ ที่แท้มีตำรวจเป็นหุ้นส่วน และไม่ใช่ตำรวจธรรมดา เป็นพนักงานสอบสวนประจำโรงพักช้างเผือก ยศ พ.ต.ต. มีหน้าที่รับเรื่องร้องทุกข์และทำคดีเอง ดูแลทั้งคอนโดเดอะคอร์ ที่อยู่ในตลาดนั้น ทางร้านหรือทางคอนโดหรือทางตลาดมีเรื่อง ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น พี่กากีเคลียร์ให้ ตำรวจหุ้นเอง ทำคดีเอง แล้วจะกลัวใครไหม ร้านนี้กระทืบมาหลายคนแล้ว จะสั่งกระทืบอีกสักร้อยคน พี่กากีเคลียร์ให้หมด”
ผลจากการที่การ์ดสถานบันเทิงใช้กำลังกับนักเที่ยวอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย แม้เหยื่อจะเป็นถึงลูกนายพลก็ตาม แต่ก็เป็นการดีหากสังคมจะช่วยกันพลิกเรื่องราวที่เกิดขึ้น ให้กลายเป็นการจัดระเบียบสังคม โดยเฉพาะปัญหาร้านเหล้ารอบมหาวิทยาลัย พร้อมทั้งปราบปรามผู้มีอิทธิพล ตามนโยบายของรัฐบาลไปพร้อมกันด้วย