เอกชนยื่นหนังสือถึงนายกฯ จี้เอาผิดคนทุจริตปลอมปนข้าวตามโครงการรับจำนำข้าวยุค “ยิ่งลักษณ์” ที่ชัยนาท หลังพบผสมข้าวขาว ข้าวเสีย แถมหาแหล่งปลูกมิได้ เชื่อนำมาจากต่างชาติเพื่อสวมสิทธิ์ ขณะที่องค์การคลังสินค้าฟ้องต่อกองปราบฯ แล้ว แต่ตำรวจโอนไปให้ สภ.หันคา สอบต่อ หวั่นถูกแทรกแซง แถมไร้ความคืบหน้า จี้ตั้ง กก.สอบ 17 โรงสี และข้าราชการ เชื่อเป็นขบวนการใหญ่ ยันมีหลักฐานแน่
วานนี้ (23พ.ย.) ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักงานก.พ. นายบวรทัต พิชยธนกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชิงตั๊ก กรุ๊ป จำกัด เข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ให้ดำเนินการเอาผิดกับผู้ทุจริตปลอมปนข้าว ตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2556/57 ในคลังสินค้าบริษัท สุพรีมไลฟ์ เอเจนซี หลังที่ 3 จ.ชัยนาท หลังพบว่ามีข้าวขาวและข้าวเสีย ที่ปลอมปนอยู่เป็นจำนวนมาก โดยจากการสุ่มตรวจของ นายอภิชาติ วรรณวิจิตร ผู้อำนวยการ ศูนย์วิทยาศาสตร์ข้าว มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ยังพบว่า ข้าวดังกล่าวไม่ทราบแหล่งที่ปลูกมาจากแหล่งใด เชื่อว่าเป็นข้าวที่นำเข้าจากต่างประเทศเพื่อสวมสิทธิ์ ในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกปีการผลิต 2556/57
โดยก่อนหน้านี้ องค์การคลังสินค้า (อคส.)ในฐานะผู้เสียหาย จึงแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับ บริษัท สุพรีมไลฟ์ เอเจนซี่ หลังที่ 3 จ.ชัยนาท กับพนักงานสอบสวนกองกำกับการ 2 กองปราบปราม เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.59 ที่ผ่านมา และได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนเรื่องดังกล่าวเป็นกรณีพิเศษ แต่ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ และยังพบว่าได้มีการโอนคดีให้พนักงานสอบสวน อ.หันคา จ.ชัยนาท และกังวลว่าจะถูกแทรกแซง และทำให้คดีล่าช้า จึงเรียกร้องให้นายกฯ ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องดังกล่าว และแหล่งที่มาของข้าว ข้าราชการที่เกี่ยวข้อง และโรงสีที่เข้าร่วมโครงการทั้ง 17 แห่ง
ทั้งนี้ ตนเชื่อว่า กระบวนการทุจริตปลอมปนข้าวในคลัง มีการเตรียมการมาตั้งแต่ต้นเป็นกระบวนการใหญ่ ทางบริษัทมีหลักฐานการทุจริต และรายละเอียดบุคคลที่เกี่ยวข้อง พร้อมมอบให้พนักงานสอบสวนดำเนินการต่อไป
**สนช.จัดงานช่วยชาวนาขายข้าว
พล.อ.ดนัย มีชูเวช ประธานคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เปิดเผยว่า ทางคณะกรรมาธิการได้ร่วมกับคณะกรรมาธิการการพาณิชย์ การอุตสาหกรรมและการแรงงาน และคณะอนุกรรมการดำเนินงานโครงการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พบประชาชน ณ สนามหลวง จัดโครงการซื้อข้าวเก็บไว้บริโภคในครัวเรือน เพื่อช่วยเหลือชาวนาไทยที่ได้รับผลกระทบจากราคาข้าวเปลือกตกต่ำ โดยรับซื้อข้าวจากชาวนาโดยตรงหรือซื้อผ่านชุมชนสหกรณ์การเกษตรต่าง ๆเพื่อเป็นการลดภาระของรัฐบาล เพื่อให้ทุกคนซื้อข้าวเก็บสต็อกไว้ที่บ้านเหมือนเป็นยุ้งฉางเล็กๆ โดยโครงการดังกล่าวจัดขึ้นในวันที่ 24 พ.ย.-30 ธ.ค. 59 เวลา 09.00-14.00 น. ที่ชั้น 1 อาคารรัฐสภา 2 ทุกวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ ซึ่งเปิดจำหน่ายวันแรกในวันที่ 24 พ.ย. เป็นข้าวหอมมะลิจากจังหวัดอุตรดิตถ์ 7 ตัน บรรจุถุงละ 5 กก.ราคา 140 บาท และข้าวขาวปทุม 1 บรรจุถุงละ 5 กก.ราคา 80 บาท ทั้งนี้จะบรรจุอยู่ในถุงสุญญากาศเพื่อป้องกันมอดเจาะและเป็นการรักษาคุณภาพข้าว สามารถเก็บไว้บริโภคตลอดทั้งปี และในช่วงปลายเดือนธ.ค. จะนำข้าวชนิดต่างๆ บรรจุถุงละ 2 กก. เพื่อซื้อมอบเป็นของขวัญของฝากในช่วงเทศกาลปีใหม่ได้
วานนี้ (23พ.ย.) ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักงานก.พ. นายบวรทัต พิชยธนกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชิงตั๊ก กรุ๊ป จำกัด เข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ให้ดำเนินการเอาผิดกับผู้ทุจริตปลอมปนข้าว ตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2556/57 ในคลังสินค้าบริษัท สุพรีมไลฟ์ เอเจนซี หลังที่ 3 จ.ชัยนาท หลังพบว่ามีข้าวขาวและข้าวเสีย ที่ปลอมปนอยู่เป็นจำนวนมาก โดยจากการสุ่มตรวจของ นายอภิชาติ วรรณวิจิตร ผู้อำนวยการ ศูนย์วิทยาศาสตร์ข้าว มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ยังพบว่า ข้าวดังกล่าวไม่ทราบแหล่งที่ปลูกมาจากแหล่งใด เชื่อว่าเป็นข้าวที่นำเข้าจากต่างประเทศเพื่อสวมสิทธิ์ ในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกปีการผลิต 2556/57
โดยก่อนหน้านี้ องค์การคลังสินค้า (อคส.)ในฐานะผู้เสียหาย จึงแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับ บริษัท สุพรีมไลฟ์ เอเจนซี่ หลังที่ 3 จ.ชัยนาท กับพนักงานสอบสวนกองกำกับการ 2 กองปราบปราม เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.59 ที่ผ่านมา และได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนเรื่องดังกล่าวเป็นกรณีพิเศษ แต่ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ และยังพบว่าได้มีการโอนคดีให้พนักงานสอบสวน อ.หันคา จ.ชัยนาท และกังวลว่าจะถูกแทรกแซง และทำให้คดีล่าช้า จึงเรียกร้องให้นายกฯ ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องดังกล่าว และแหล่งที่มาของข้าว ข้าราชการที่เกี่ยวข้อง และโรงสีที่เข้าร่วมโครงการทั้ง 17 แห่ง
ทั้งนี้ ตนเชื่อว่า กระบวนการทุจริตปลอมปนข้าวในคลัง มีการเตรียมการมาตั้งแต่ต้นเป็นกระบวนการใหญ่ ทางบริษัทมีหลักฐานการทุจริต และรายละเอียดบุคคลที่เกี่ยวข้อง พร้อมมอบให้พนักงานสอบสวนดำเนินการต่อไป
**สนช.จัดงานช่วยชาวนาขายข้าว
พล.อ.ดนัย มีชูเวช ประธานคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เปิดเผยว่า ทางคณะกรรมาธิการได้ร่วมกับคณะกรรมาธิการการพาณิชย์ การอุตสาหกรรมและการแรงงาน และคณะอนุกรรมการดำเนินงานโครงการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พบประชาชน ณ สนามหลวง จัดโครงการซื้อข้าวเก็บไว้บริโภคในครัวเรือน เพื่อช่วยเหลือชาวนาไทยที่ได้รับผลกระทบจากราคาข้าวเปลือกตกต่ำ โดยรับซื้อข้าวจากชาวนาโดยตรงหรือซื้อผ่านชุมชนสหกรณ์การเกษตรต่าง ๆเพื่อเป็นการลดภาระของรัฐบาล เพื่อให้ทุกคนซื้อข้าวเก็บสต็อกไว้ที่บ้านเหมือนเป็นยุ้งฉางเล็กๆ โดยโครงการดังกล่าวจัดขึ้นในวันที่ 24 พ.ย.-30 ธ.ค. 59 เวลา 09.00-14.00 น. ที่ชั้น 1 อาคารรัฐสภา 2 ทุกวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ ซึ่งเปิดจำหน่ายวันแรกในวันที่ 24 พ.ย. เป็นข้าวหอมมะลิจากจังหวัดอุตรดิตถ์ 7 ตัน บรรจุถุงละ 5 กก.ราคา 140 บาท และข้าวขาวปทุม 1 บรรจุถุงละ 5 กก.ราคา 80 บาท ทั้งนี้จะบรรจุอยู่ในถุงสุญญากาศเพื่อป้องกันมอดเจาะและเป็นการรักษาคุณภาพข้าว สามารถเก็บไว้บริโภคตลอดทั้งปี และในช่วงปลายเดือนธ.ค. จะนำข้าวชนิดต่างๆ บรรจุถุงละ 2 กก. เพื่อซื้อมอบเป็นของขวัญของฝากในช่วงเทศกาลปีใหม่ได้
