นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสนช. คนที่ 1 ในฐานะประธานคณะกรรมพิจารณาปรับปรุงอาคารรัฐสภา และพัฒนาระบบรักษาความปลอดภัย แถลงปฏิเสธ กรณีที่มีกระแสข่าวว่า ทางรัฐสภาจะจัดทำบัตรใหม่ให้แก่ สมาชิกสนช.-สปท.-กรธ. รวมไปถึงผู้ติดตามสมาชิกสนช. และเจ้าหน้าที่ทั้งหมด ว่า ไม่เป็นความจริง เพราะมติคณะกรรมการฯ ให้จัดทำบัตรใหม่เฉพาะ สมาชิก สนช. ผู้ติดตาม และเจ้าหน้าที่ของทั้ง 2 สภา เท่านั้น โดยเหตุที่ไม่ทำบัตรใหม่ให้กับ สปท. เพราะกำลังจะหมดวาระ หลังรัฐธรรมนูญประกาศใช้ 120 วัน ขณะเดียวกัน กรธ. ก็จะอยู่ทำหน้าที่ต่ออีกเพียง 240 วัน หลังรัฐธรรมนูญประกาศใช้เท่านั้น แต่บัตรประจำตัวของเจ้าหน้าที่สภาผู้แทนราษฎรได้หมดอายุไปตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมาแล้ว ส่วนเจ้าหน้าที่ของวุฒิสภา ก็กำลังจะหมดในปี 2560 ดังนั้นคณะกรรมการฯไม่ได้ผลาญ หรือ ถลุงงบอย่างที่เป็นข่าว เพราะคำนึงถึงความคุ้มค่าของการใช้งบประมาณแผ่นดิน
ทั้งนี้ เหตุที่ต้องทำบัตรใหม่ มีเหตุผล 3 ข้อ เพราะ 1. รูปแบบบัตรเดิมของทั้ง 2 สภา มีถึง 23 แบบ จึงเป็นปัญหาของเจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐสภา ในการจดจำในการรักษาความปลอดภัย 2. บัตรแบบเดิมมีการถ่ายรูปบุคคลแตกต่างกัน บางคนใส่สูท บางคนใส่เครื่องราชย์ บัตรใหม่จึงจะเน้นถ่ายเฉพาะใบหน้าของบุคคล เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐสภาจดจำใบหน้า เพื่อการรักษาความปลอดภัยและการเข้าถึงพื้นที่ และ 3. การปรับปรุงระบบรักษาความปลอดภัยให้เข้มงวด และมี ประสิทธิภาพ จึงลดรูปแบบบัตรชนิดต่างๆ ให้เหลือ 6 แบบ โดยจะแบ่งประเภทสีของบัตร แยกแยะการเข้าออกพื้นที่รัฐสภา เช่น ชั้น 2 อาคาร 1 จะสงวนให้เฉพาะสมาชิกสนช. เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ข้าราชการทั้ง 2 สภารวมกันแล้ว มีกว่า 3,000 คน จึงต้องการใช้งบประมาณให้คุ้มค่า การจัดทำบัตรใหม่ทั้งหมด 100,000 กว่าบาทเท่านั้น และมีการราคาถูกกว่าเดิม เพราะทำในปริมาณมาก และรูปแบบมีเพียง 6 แบบเท่านั้น
ด้านนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เป็นข้อเสนอจากคณะกรรมการพิจารณาปรับปรุงอาคารรัฐสภา และพัฒนาระบบรักษาความปลอดภัย ที่เห็นควรปรับเปลี่ยนให้ทันสมัยมากขึ้น โดยบัตรประจำตัวจะเป็นระบบสมาร์ทการ์ด ที่สามารถเก็บข้อมูลได้ครอบคลุม ซึ่งถือว่ามีความจำเป็นต้องเปลี่ยนบัตร เพื่อรักษาความปลอดภัย ซึ่งตนได้พิจารณาแล้วว่ามีความเหมาะสม อยู่ที่ราคา 50 บาทต่อคน ถือว่าราคาถูก จากเดิมที่กังวลว่าจะใช้งบประมาณมากกว่านี้ และคณะกรรมการฯ แนะว่าควรจะทำตั้งแต่วันนี้ เพื่อเป็นตัวอย่างไว้ และรัฐสภาทั้งสองฝ่ายก็พร้อม ซึ่งตนได้ถูกสมาชิกต่อว่า ว่าทำไม่ต้องทำบัตรใหม่ แต่ก็ได้อนุมัติไปแล้ว เมื่อหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตถึงการทำบัตรให้กับสมาชิก ทั้งที่จะหมดวาระอีกไม่นานนี้ ตนก็จะให้ คณะกรรมการชุดดังกล่าวพิจารณาถึงความเหมาะสม เรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง จะให้ทำอย่างโปร่งใส และราคาถูก คุ้มค่า รวมทั้งอยากให้คณะกรรมการอธิบายให้สมาชิกเข้าใจว่า ทำไมต้องทำบัตรใหม่
ทั้งนี้ เหตุที่ต้องทำบัตรใหม่ มีเหตุผล 3 ข้อ เพราะ 1. รูปแบบบัตรเดิมของทั้ง 2 สภา มีถึง 23 แบบ จึงเป็นปัญหาของเจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐสภา ในการจดจำในการรักษาความปลอดภัย 2. บัตรแบบเดิมมีการถ่ายรูปบุคคลแตกต่างกัน บางคนใส่สูท บางคนใส่เครื่องราชย์ บัตรใหม่จึงจะเน้นถ่ายเฉพาะใบหน้าของบุคคล เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐสภาจดจำใบหน้า เพื่อการรักษาความปลอดภัยและการเข้าถึงพื้นที่ และ 3. การปรับปรุงระบบรักษาความปลอดภัยให้เข้มงวด และมี ประสิทธิภาพ จึงลดรูปแบบบัตรชนิดต่างๆ ให้เหลือ 6 แบบ โดยจะแบ่งประเภทสีของบัตร แยกแยะการเข้าออกพื้นที่รัฐสภา เช่น ชั้น 2 อาคาร 1 จะสงวนให้เฉพาะสมาชิกสนช. เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ข้าราชการทั้ง 2 สภารวมกันแล้ว มีกว่า 3,000 คน จึงต้องการใช้งบประมาณให้คุ้มค่า การจัดทำบัตรใหม่ทั้งหมด 100,000 กว่าบาทเท่านั้น และมีการราคาถูกกว่าเดิม เพราะทำในปริมาณมาก และรูปแบบมีเพียง 6 แบบเท่านั้น
ด้านนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เป็นข้อเสนอจากคณะกรรมการพิจารณาปรับปรุงอาคารรัฐสภา และพัฒนาระบบรักษาความปลอดภัย ที่เห็นควรปรับเปลี่ยนให้ทันสมัยมากขึ้น โดยบัตรประจำตัวจะเป็นระบบสมาร์ทการ์ด ที่สามารถเก็บข้อมูลได้ครอบคลุม ซึ่งถือว่ามีความจำเป็นต้องเปลี่ยนบัตร เพื่อรักษาความปลอดภัย ซึ่งตนได้พิจารณาแล้วว่ามีความเหมาะสม อยู่ที่ราคา 50 บาทต่อคน ถือว่าราคาถูก จากเดิมที่กังวลว่าจะใช้งบประมาณมากกว่านี้ และคณะกรรมการฯ แนะว่าควรจะทำตั้งแต่วันนี้ เพื่อเป็นตัวอย่างไว้ และรัฐสภาทั้งสองฝ่ายก็พร้อม ซึ่งตนได้ถูกสมาชิกต่อว่า ว่าทำไม่ต้องทำบัตรใหม่ แต่ก็ได้อนุมัติไปแล้ว เมื่อหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตถึงการทำบัตรให้กับสมาชิก ทั้งที่จะหมดวาระอีกไม่นานนี้ ตนก็จะให้ คณะกรรมการชุดดังกล่าวพิจารณาถึงความเหมาะสม เรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง จะให้ทำอย่างโปร่งใส และราคาถูก คุ้มค่า รวมทั้งอยากให้คณะกรรมการอธิบายให้สมาชิกเข้าใจว่า ทำไมต้องทำบัตรใหม่