นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย นางทรงพร โกมลสุรเดช ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูเกียรติ รัตนชัยชาญ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ พร้อมด้วยอธิบดี และผู้บริหารหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย และ 18 หน่วยงานภาครัฐ เป็นผู้แทนของหน่วยงานลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการนำร่องการดำเนินการตามแนวทางการบูรณาการฐานข้อมูลประชาชนและการบริการภาครัฐ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในการดำเนินงานร่วมกัน ตามนโยบายรัฐบาลและแผนพัฒนาประเทศ เพื่อให้ประชาชนสามารถติดต่อขอรับบริการได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า เพื่อให้งานบริการของรัฐในด้านต่างๆ มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สามารถลดภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นกับผู้ขอใช้บริการ และตอบสนองต่อนโยบายรัฐบาล กระทรวงมหาดไทยมีความพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการใช้ประโยชน์จากเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก โดยจะช่วยให้การบริการของรัฐด้านต่างๆ มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และสามารถขยายผลไปสู่การให้บริการแบบเบ็ดเสร็จ ผ่านทางช่องทางออนไลน์ในอนาคตตามมติคณะรัฐมนตรี ที่แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มดำเนินการเชื่อมโยงข้อมูลกับกรมการปกครอง กลุ่มปรับปรุงระบบงานรองรับการใช้บัตรประชาชนแบบเอนกประสงค์ใบเดียว หรือสมาร์ทการ์ด และกลุ่มการให้บริการประชาชนแบบเบ็ดเสร็จผ่านระบบออนไลน์ เช่น การให้บริการขอใช้น้ำประปา ซึ่งจะส่งผลให้ลดการลงทุนที่ซ้ำซ้อน และนำไปสู่การใช้ทรัพยากรร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ ถือเป็นโอกาสดีที่ทั้ง 18 หน่วยงาน ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญที่จะร่วมกันพัฒนาและปรับปรุงระบบงานบริการของหน่วยงาน ตลอดจนผลักดันให้เกิดการพัฒนาของระบบ Digital Government ภายใต้นโยบาย Digital Economy หรือเศรษฐกิจดิจิตอลอย่างเป็นรูปธรรม
ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า เพื่อให้งานบริการของรัฐในด้านต่างๆ มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สามารถลดภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นกับผู้ขอใช้บริการ และตอบสนองต่อนโยบายรัฐบาล กระทรวงมหาดไทยมีความพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการใช้ประโยชน์จากเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก โดยจะช่วยให้การบริการของรัฐด้านต่างๆ มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และสามารถขยายผลไปสู่การให้บริการแบบเบ็ดเสร็จ ผ่านทางช่องทางออนไลน์ในอนาคตตามมติคณะรัฐมนตรี ที่แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มดำเนินการเชื่อมโยงข้อมูลกับกรมการปกครอง กลุ่มปรับปรุงระบบงานรองรับการใช้บัตรประชาชนแบบเอนกประสงค์ใบเดียว หรือสมาร์ทการ์ด และกลุ่มการให้บริการประชาชนแบบเบ็ดเสร็จผ่านระบบออนไลน์ เช่น การให้บริการขอใช้น้ำประปา ซึ่งจะส่งผลให้ลดการลงทุนที่ซ้ำซ้อน และนำไปสู่การใช้ทรัพยากรร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ ถือเป็นโอกาสดีที่ทั้ง 18 หน่วยงาน ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญที่จะร่วมกันพัฒนาและปรับปรุงระบบงานบริการของหน่วยงาน ตลอดจนผลักดันให้เกิดการพัฒนาของระบบ Digital Government ภายใต้นโยบาย Digital Economy หรือเศรษฐกิจดิจิตอลอย่างเป็นรูปธรรม