นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารกลาง ยอมรับว่า การประชุมกกต. เมื่อวันที่ 15 พ.ย. ที่ผ่านมา มีมติให้สำนักงานฯ แจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ด้านสืบสวนสอบสวน จากกรณีพบว่าทุจริตเบิกเบี้ยประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาเรื่องร้องคัดค้าน จำนวน 2 ล้านบาท โดยกรณีดังกล่าว ตนพบเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นผลจากการเข้ามาดูแลงานด้านบริหารกลาง 2 เดือนที่ผ่านมา เมื่อพบความผิดปกติ ก็ได้ประชุมกับผู้ที่เกี่ยวข้อง และได้มีการสอบถามข้อเท็จจริงจากอนุกรรมการ เจ้าหน้าที่ จึงให้ดำเนินการตรวจสอบ โดยให้สำนักกฎหมายดำเนินคดีทางกฎหมาย และสอบสวนทางวินัย พร้อมกับให้มีการรายงานให้ที่ประชุมกกต.ทราบ
ทั้งนี้ สำนักงานกำลังพิจารณาสั่งพักงานเจ้าหน้าที่รายดังกล่าว และไม่ถือว่าตนไปก้าวก่ายงานด้านสืบสวนสอบสวน เพราะดูแลด้านบริหารกลาง ก็มีหน้าที่ดูแลงบประมาณและบุคลากร แผนยุทธศาสตร์ ซึ่งคิดว่า นายบุญส่ง น้อยโสภณ กกต.ด้านสืบสวนสอบสวน น่าจะดีใจ ที่ตนเข้ามาช่วยทำให้ปัญหาตรงนี้ลดน้อยลง
เมื่อถามว่าจะมีการตรวจสอบการเบิกเบี้ยประชุมของ คณะอนุกรรมการวินัยคำร้องคัดค้านทั้ง 25 คณะด้วยหรือไม่ และรองเลขาธิการด้านสืบสวนสอบสวน ในฐานะผู้บังคับบัญชาของเจ้าหน้าที่ดังกล่าว จะมีความผิดฐานบกพร่อง ปล่อยให้มีการทุจริตหรือไม่ นายสมชัย กล่าวว่า ขอรอดูผลการสอบสวนก่อน ถ้าหากพบว่ามีข้อมูลทุจริตคณะอื่นด้วย ก็จะมีการสอบสวนในคณะอื่นต่อ ส่วนผู้บังคับบัญชา ก็ต้องดูว่าปล่อยปละละเลยหรือไม่ ก็ต้องพิจารณากัน ส่วนที่มีข่าวว่าเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว ให้ผู้ใหญ่วิ่งเต้นและชดใช้เงิน นายสมชัย กล่าวว่า ความผิดถือว่าสำเร็จแล้ว คงไม่พ้นคดีอาญา ทั้งนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นไม่อยากให้มองว่างานสืบสวนสอบสวนมีปัญหาทั้งระบบ เพราะเรื่องการปลอมแปลงเบี้ยประชุมเกิดขึ้นได้กับทุกหน่วยงานราชการ
ด้านนายบุญส่ง น้อยโสภณ กกต.ด้านกิจการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่สืบสวนทุจริตเบี้ยประชุมว่า ยังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบข้อเท็จจริง ยังไม่ชัดเจนว่าการทุจริตดังกล่าวเป็นการปลอมทั้งขบวนการ ตั้งแต่ต้นจนจบหรือไม่ ถ้าหากพบว่ามีเจ้าหน้าที่กระทำความผิดจริง ก็จะต้องให้พักราชการ อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวเป็นการกระทำของพนักงานบางคนเท่านั้น
ทั้งนี้ สำนักงานกำลังพิจารณาสั่งพักงานเจ้าหน้าที่รายดังกล่าว และไม่ถือว่าตนไปก้าวก่ายงานด้านสืบสวนสอบสวน เพราะดูแลด้านบริหารกลาง ก็มีหน้าที่ดูแลงบประมาณและบุคลากร แผนยุทธศาสตร์ ซึ่งคิดว่า นายบุญส่ง น้อยโสภณ กกต.ด้านสืบสวนสอบสวน น่าจะดีใจ ที่ตนเข้ามาช่วยทำให้ปัญหาตรงนี้ลดน้อยลง
เมื่อถามว่าจะมีการตรวจสอบการเบิกเบี้ยประชุมของ คณะอนุกรรมการวินัยคำร้องคัดค้านทั้ง 25 คณะด้วยหรือไม่ และรองเลขาธิการด้านสืบสวนสอบสวน ในฐานะผู้บังคับบัญชาของเจ้าหน้าที่ดังกล่าว จะมีความผิดฐานบกพร่อง ปล่อยให้มีการทุจริตหรือไม่ นายสมชัย กล่าวว่า ขอรอดูผลการสอบสวนก่อน ถ้าหากพบว่ามีข้อมูลทุจริตคณะอื่นด้วย ก็จะมีการสอบสวนในคณะอื่นต่อ ส่วนผู้บังคับบัญชา ก็ต้องดูว่าปล่อยปละละเลยหรือไม่ ก็ต้องพิจารณากัน ส่วนที่มีข่าวว่าเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว ให้ผู้ใหญ่วิ่งเต้นและชดใช้เงิน นายสมชัย กล่าวว่า ความผิดถือว่าสำเร็จแล้ว คงไม่พ้นคดีอาญา ทั้งนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นไม่อยากให้มองว่างานสืบสวนสอบสวนมีปัญหาทั้งระบบ เพราะเรื่องการปลอมแปลงเบี้ยประชุมเกิดขึ้นได้กับทุกหน่วยงานราชการ
ด้านนายบุญส่ง น้อยโสภณ กกต.ด้านกิจการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่สืบสวนทุจริตเบี้ยประชุมว่า ยังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบข้อเท็จจริง ยังไม่ชัดเจนว่าการทุจริตดังกล่าวเป็นการปลอมทั้งขบวนการ ตั้งแต่ต้นจนจบหรือไม่ ถ้าหากพบว่ามีเจ้าหน้าที่กระทำความผิดจริง ก็จะต้องให้พักราชการ อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวเป็นการกระทำของพนักงานบางคนเท่านั้น