xs
xsm
sm
md
lg

“มีชัย”ตอกคนดักดานหาว่าฟุ้งซ่าน ปัดกีดกันกลั่นแกล้งกกต.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เมื่อเวลา 13.00 น. วานนี้ ( 16 พ.ย.) ที่รัฐสภา คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) จัดงานสัมมนา"การรับฟังความคิดเห็น ร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และ ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมด้วนว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว." โดยผู้ร่วมสัมมนาส่วนใหญ่เป็นสมาชิก สปท.-สนช.และข้าราชการ ส่วนตัวแทนพรรคการเมือง ส่วนใหญ่เป็นพรรคเล็ก พรรคชาติไทยพัฒนา และ พรรคประชาธิปัตย์ แต่ไม่มีตัวแทนพรรคภูมิใจไทย และ พรรคเพื่อไทยเข้าร่วม
นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรธ. กล่าวเปิดการสัมมนาว่า ขณะร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง และ ร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยกกต. ที่เป็นกฎหมายหัวใจสำคัญชี้ว่าจะมีเลือกตั้งเมื่อไร ซึ่งกฎหมาย กกต. เราวางกลไก วางอำนาจ ให้มีดาบเพียงพอรบราฆ่าฟันกำกับดูแลการเลือกตั้งให้สุจริต เที่ยงธรรมได้ เขียนคุณสมบัติ ลักษณะต้องห้ามไว้อย่างละเอียด ครบถ้วน สมบูรณ์ ลอกมาจากรธน.หลัก ที่ผ่านประชามติทั้งหมดไม่ได้แก้ไขแตะต้องใดๆ แต่ที่มีคนเข้าใจผิด คิดว่ากรธ.ตั้งใจออกคุณสมบัติกลั่นแกล้งนั้น ไม่ใช่ ใครมีคุณสมบัติครบถ้วนตามรธน.ใหม่ หรือไม่ เรากำหนดให้มีคณะกรรมการสรรหาองค์กรอิสระมาชี้ขาด ไม่ใช่ กรธ.มีอำนาจชี้ขาด เราไม่ได้คิดฟุ้งเฟ้อ เพ้อเจ้อ เอาตามอารมณ์ สิ่งใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น บางท่านตามไม่ทันอาจจะรับไม่ได้ คิดว่ากลั่นแกล้งเฉพาะตัว หลักเกณฑ์สำคัญที่กำหนดสำหรับ กกต. พอถึงคราวองค์กรอื่นจะทำแบบเดียวกัน ไม่ใช่จ้องเล่นงานกกต.คนเดียว เช่น เรื่องการคงอยู่ หรือการไป ของคณะกรรมการองค์กรอิสระ ถ้าเราใช้กับกกต.อย่างไร ทุกองค์กรอิสระ รวมทั้งศาลรธน. ก็จะใช้อย่างเดียวกัน
นายมีชัย กล่าวว่า สิ่งใหม่ๆ ในร่างกฎหมาย กกต. จะมีของใหม่เปลี่ยนแปลงไปพร้อมกับโลก ประเทศไทยเองต้องเปลี่ยน กม.ทุกฉบับที่เริ่มลงมือทำจากนี้ก็ต้องเปลี่ยน จะไม่ให้ใครมีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด จนทำให้เกิดความเสียหายเดือดร้อนกับประชาชนได้ รัฐบาลเองกำลังวางกรอบให้สอดคล้องกับร่างรธน. ที่กำหนดเอาไว้ใน มาตรา 77 เรื่องลักษณะการออกกม. ต้องไม่มีกม.ฟุ่มเฟือย ไม่จำกัดสิทธิ ไม่ใช้ระบบการอนุญาตเสียจนคนทำมาหากินไม่ได้ ต้องไม่ใช้ระบบคณะกรรมการ อะไรๆ ก็ประชุมคณะกรรมการ จนไม่มีใครตัดสินใจ ในที่สุดพอตัดสินใจแล้ว กลับหาคนรับผิดชอบไม่ได้
"จากการรับฟังความเห็นเรื่อง กกต.จังหวัด เราพบปัญหาเรื่องการทำงานที่ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพเท่าที่ควร จริงหรือที่ กกต.จังหวัด ต้องอยู่ประจำทั้งปี ในเมื่อการเลือกตั้งมี 4 ปีครั้ง แล้วถามว่าเคยจับคนทุจริตเลือกตั้งได้หรือไม่ ซึ่งยังไม่ค่อยมากเท่าที่ควร ถ้าการทำงานที่ผ่านมาได้ผลจริง จะเกิดเสียงร่ำลือเรื่องการซื้อเสียงทั่วทุกหัวระแหงหรือ เราจึงหาวิธีเปลี่ยนการทำงาน ซึ่งการเขียนแบบนี้ ไม่ได้เกิดจากความฟุ้งซ่าน แต่ศึกษา รับฟัง คิดไตร่ตรองอย่างดี ถามเจ้าหน้าที่ กกต.เองแล้วด้วยว่าทำได้ไหม ยืนยันว่า กรธ. มีงานหนัก ไม่มีเวลาฟุ้งซ่าน เปิดใจกว้างเพื่อให้ได้สิ่งดีที่สุดที่จะเกิดประโยชน์กับประเทศชาติ และการเมือง เราอาจเพิ่มอาวุธ หรือช่องทางการจับทุจริตเลือกตั้งให้กกต. อาจจะไปไกลถึงขั้นให้มีงบประมาณ สำหรับการคนชี้เบาะแส เพื่อให้เกิดความมีประสิทธิภาพ ประชาชนที่ชี้เบาะแส ถ้าเรามีค่าตอบแทนให้ เขาก็น่าจะช่วยได้ เพราะมีความเสี่ยง แต่แน่นอนว่า มันมีความอันตรายอยู่ในตัว ถ้ากลั่นแกล้งกัน เพราะฉะนั้นในบทลงโทษเราจึงเขียนแปลงเลย ใครกลั่นแกล้ง ทั้งพรรค ทั้งสมาชิก และผู้บริหาร จะมีโทษสูงมาก ถ้าจับได้ไล่ทัน จะถูกลงโทษรุนแรง" นายมีชัย กล่าว
**อเมริการอาจลอกรธน.ไทยไปใช้
นายมีชัย กล่าวต่อว่า จำนวนกกต.ที่เราเพิ่มขึ้นในร่างใหม่ จาก 5 คน เป็น 7 คน เพราะต้องมีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านมาคอยดูแลเรื่องผู้ทุจริต เรื่องตั้ง ให้ทำงานรวดเร็ว ถูกต้อง จึงเพิ่ม อีก 2 คน จากผู้พิพากษามาเป็นกกต. ส่วนอีก 5 คนจะไปเอาคนที่ชำนาญการ มีความถนัดทางด้านบริหารการเงิน การบัญชี การคลัง ก็แล้วแต่คณะกรรมการสรรหาพิจารณา องค์กรทั้ง 5-6 องค์กร รวมทั้งศาลด้วย จะเป็นเสาที่ค้ำยันให้ระบบการปกครอง และระบบการเมืองเดินไปข่างหน้าอย่างชนิดที่สมเหตุสมผล อาจจะเข้มงวด แต่ทั้งหมดเขียนจากสิ่งที่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทย ถ้าไม่เกิด เราไม่ไปรบกวน
"ผมระลึกในใจไว้ว่า วันหนึ่งข้างหน้า อเมริกาอาจจะต้องมาเลียนแบบรธน.ไทย เพราะถ้ารธน.อเมริกา ยอมให้โหวตโน แล้วมีเสียงข้างมาก แล้วคนตระหนักก่อนหน้านี้ การเลือกตั้งก่อนหน้านี้ เสียงโน อาจจะดังมากกว่าก็เป็นได้ ดังนั้นอะไรของเราที่แปลกใหม่ แปลว่าเรามีประสบการณ์ ที่อื่นเขาไม่มีประสบการณ์ เขา นึกไม่ถึง ไม่อาจจะเขียนได้ เขียนไปคนคงหัวเราะ แต่ของเราพบมาทุกรูปแบบ เราจะเขียนเข้มข้นลักษณะนี้เอามาเขียนไว้ในกม.ลูกทั้ง 10 ฉบับ"
**เล็งให้รางวัลผู้ชี้เบาะแสทุจริต
จากนั้นนายมีชัย ให้สัมภาษณ์ว่า ได้เพิ่มเนื้อหาของ ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยกกต.ไว้เยอะ อย่างผู้ชี้เบาะแสการทุจริตการเลือกตั้ง ก็เป็นบทบาทใหม่ที่ กรธ. เพิ่มให้ คล้ายๆ กับข้อมูลของสำนักข่าวกรอง ที่เป็นข้อมูลมาจากประชาชน หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ไม่เปิดเผยตัว ส่วนค่าตอบแทนของผู้ชี้เบาะแส คงเป็นเรื่องที่ กกต.จะไปออกระเบียบเอง
ส่วนกรณีที่ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. ระบุว่า การพ้นจากตำแหน่งกกต.ควรพ้นจากวาระ หรือทำผิดวินัยมาก กว่าพ้นเพราะขัดคุณสมบัติ ดูจะไม่เป็นธรรม นายมีชัย กล่าวว่า ขอเลิกพูดถึงได้แล้ว ในรธน.เขียนเช่นนั้น ที่ผ่านมากรธ.พยายามหาช่องทาง แต่ไม่มีช่องเปิดไว้ แม้ในร่างรธน. จะบอกว่า การอยู่ต่อไปของกรรมการองค์กรอิสระ ให้เป็นไปตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ แต่การจะกำหนดอะไรในพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ต้องคำนึงถึงร่างรัฐธรรมนูญด้วย ในเมื่อร่างรธน. ระบุว่า จะพ้นก็ต่อเมื่อขัดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้าม อย่างคนที่เคยเป็น กก.ในองค์กรอิสระใดมาแล้ว จะเป็นซ้ำอีกไม่ได้ เพราะเราหวังว่า จะไม่ได้ผูกขาดอยู่กับคนเดิมๆ กรธ.จึงไม่อยู่ในฐานะที่จะไปยกเว้นอะไรได้ เสี่ยงที่ กรธ.จะทำขัดต่อรธน. ก็จะเกิดขึ้น คนจะว่า กรธ.อีก

** "สมชัย"แขวะ เกิดนานใช่จะเก่งกว่า

ด้านนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.กล่าวถึงหลักการของร่างกฎหมาย กกต. ที่นำเสนอว่า ต้องการทำให้ กกต.มีบทบาทสำคัญ 3 ข้อ คือ 1. ทำให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งให้มากที่สุด เพราะถ้าใช้สิทธิกันมาก การทุจริตก็จะน้อย 2. ทำให้การใช้สิทธิอยู่บนพื้นฐานของความเข้าใจ และ 3. ทำให้มีกลไกป้องกันการทุจริตเลือกตั้ง อยากขอเรียกร้องทุกพรรคการเมืองที่มา ร่วมกันแสดงความเห็นอย่างเต็มที่ ส่วนกรธ. ก็ควรรับฟังอย่างจริงใจ ไม่ใช่ใช้งบประมาณจัดงานเป็นพิธิกรรม แล้วก็ไม่นำเอาข้อเสนอไปใช้
"แต่ร่างที่ กกต.เสนอมาเป็นคนละเรื่องกับที่ กรธ.เขียน ผมอาจทำให้ต้องวงแตกกันนิดนึง เช่น เราเสนอมาให้มี กกต.จังหวัดเหมือนเดิม แต่ กรธ. เขียนกลับไม่มี แล้วมีผู้ตรวจการเลือกตั้งขึ้นมาแทน ผมว่ามันเป็นกลไกที่ใช้ไม่ได้ กรธ.ควรเขียนกฎหมายแล้วเปิดให้เราได้วิจารณ์กัน แล้วผมจะวิจารณ์เอง ผมทำเพื่อบ้านเมือง ไม่ได้ทำเพื่อรักษาหน้าใคร กกต. เสนออะไรไม่เหมาะสม วิจารณ์ได้ อยากให้สังคมไทยใช้ความจริงมาคุยต่อหน้ากัน ไม่ใช่เกิดมานานกว่า ร่างกฎหมายมาหลายฉบับกว่า แล้วหมายความว่าต้องเก่งกว่า" นายสมชัย กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น