ผู้จัดการรายวัน 360 - ตลท.ประกาศขึ้นเครื่องหมาย SP ห้ามการซื้อขายหุ้นเครือเนชั่นฯทั้ง 3 บริษัท หลังผู้สอบบัญชีไม่ให้ความเชื่อมั่นงบการเงิน พบงวด 9 เดือนแรกปี 2559 ทั้งเครือขาดทุนรวมเกือบ 1 พันล้านบาท
วานนี้ (15 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้ประกาศขึ้นเครื่องหมาย SP (Suspension) และ NP (Notice Pending) จำนวน 5 บริษัท ได้แก่ บริษัท บางกอกรับเบอร์ จำกัด (มหาชน) (BRC) บริษัท เค.ซี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (KC) บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (NBC) บริษัท เนชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็ดดูเทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) (NINE) และ บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (NMG) เนื่องจากผู้สอบบัญชีไม่ให้ความเชื่อมั่นต่องบการเงินตามที่บริษัทจดทะเบียนดังกล่าวได้นำส่งงบการเงินสิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.59 ฉบับที่ผ่านการสอบทานมายัง ตลท.ซึ่งตัวเลขผลการดำเนินงาน และฐานะการเงินของบริษัทที่ปรากฏในงบการเงินอาจไม่แสดงค่าที่แท้จริงของกิจการ โดย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อาจสั่งการให้บริษัทแก้ไขงบการเงินได้
ทาง ตลท.จึงขึ้นเครื่องหมาย SP เพื่อห้ามการซื้อ หรือขายหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียน ดังกล่าวตั้งแต่การซื้อขายรอบเช้าของวันที่ 15 พ.ย.59 เพื่อให้ผู้ถือหุ้น และผู้ลงทุนทั่วไปมีเวลาในการพิจารณารายงานของผู้สอบบัญชีประกอบกับตัวเลขในงบการเงิน และหมายเหตุประกอบงบการเงินอย่างระมัดระวัง โดยจะอนุญาตให้ซื้อขายหลักทรัพย์ของ KC, NBC, NINE และ NMG พร้อมกับการขึ้นเครื่องหมาย NP ตั้งแต่การซื้อขายรอบเช้าวันที่ 16 พ.ย.59 จนกว่าบริษัทจดทะเบียนดังกล่าวจะนำส่งงบการเงินฉบับแก้ไข หรือจนกว่าจะได้ข้อสรุปว่า ไม่ต้องแก้ไขงบการเงิน สำหรับ BRC ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังคงห้ามการซื้อ หรือขายหลักทรัพย์ของบริษัทต่อไป เนื่องจากอยู่ระหว่างแก้ไขคุณสมบัติในการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ใน 5 บริษัทดังกล่าว มี 3 บริษัท ซึ่งอยู่ในเครือบริษัท เนชั่นมัลติมีเดียกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (เครือเนชั่นฯ) คือ NBC, NINE และ NMG โดยแต่ละแห่งได้แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 3 และงวด 9 เดือนสิ้นสุด 30 ก.ย.59 ดังนี้
NBC ไตรมาส 3 ขาดทุนสุทธิ 58.25 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.109 บาท เทียบกับปีก่อนขาดทุนสุทธิ 3.13 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.006 บาท งวด 9 เดือนขาดทุนสุทธิ 174.39 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.326 บาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 2.99 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.006 บาท ขาดทุนสุทธิเพิ่มขึ้น 171.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 5,732.44%
NINE ไตรมาส 3 ขาดทุนสุทธิ 4.55 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.027 บาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 2.92 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.017 บาท งวด 9 เดือน ขาดทุนสุทธิ 176.33 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 1.037 บาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ขาดทุน 9.89 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.058 บาท ขาดทุนสุทธิเพิ่มขึ้นกว่า 166.44 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1,682.91%
และ NMG ไตรมาส 3 ขาดทุนสุทธิรวม 280.98 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.069 บาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 15.60 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.153 บาท ขณะที่งวด 9 เดือนแรกของปี ขาดทุนสุทธิ 622.76 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.153 บาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 34.01 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.009 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้นลดลง 656.77 ล้านบาท หรือ 1,931.11%
เมื่อคำนวณผลขาดทุนสุทธิของเครือเนชั่นฯ ทั้ง 3 บริษัท ปรากฏว่า งวด 9 เดือน มีผลขาดทุนสุทธิรวมทั้งสิ้น 973.48 ล้านบาท
โดยเครือเนชั่นญได้ชี้แจงสาเหตุที่กำไรสุทธิลดลงว่า เกิดจากรายได้จากการขายและบริการ งวด 9 เดือน ลดลงจากปีก่อน 27% สาเหตุหลักมาจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจและส่งผลกระทบทำให้รายได้จากการขายโฆษณาลดลง 32% และรายได้จากการจำหน่ายสื่อสิ่งพิมพ์พ๊อคเก็ตบุ๊คส์ การ์ตูนและหนังสือเด็กลดลง 18% ขณะที่ต้นทุนและค่าใช้จ่าย เพิ่มขึ้น 5% แม้ต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารจะลดลง 4% สอดคล้องกับรายได้จากการขายและบริการที่ลดลง ประกอบกับผลขาดทุนจากการปรับโครงสร้างการประกอบธุรกิจเพิ่มขึ้นจำนวน 204.45 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทย่อยมีการปรับโครงสร้างการประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายสิ่งพิมพ์ ซึ่งเป็นผลมาจากพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป บริษัทย่อยดังกล่าวได้บันทึกสำรองค่าเผื่อมูลค่าสินค้าลดลงและตัดจำหน่ายลิขสิทธิ์สำหรับสิ่งพิมพ์ งวด 9 เดือน ให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ในปัจจุบันจำนวน 193.48 ล้านบาท และ 10.97 ล้านบาท.
.
วานนี้ (15 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้ประกาศขึ้นเครื่องหมาย SP (Suspension) และ NP (Notice Pending) จำนวน 5 บริษัท ได้แก่ บริษัท บางกอกรับเบอร์ จำกัด (มหาชน) (BRC) บริษัท เค.ซี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (KC) บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (NBC) บริษัท เนชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็ดดูเทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) (NINE) และ บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (NMG) เนื่องจากผู้สอบบัญชีไม่ให้ความเชื่อมั่นต่องบการเงินตามที่บริษัทจดทะเบียนดังกล่าวได้นำส่งงบการเงินสิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.59 ฉบับที่ผ่านการสอบทานมายัง ตลท.ซึ่งตัวเลขผลการดำเนินงาน และฐานะการเงินของบริษัทที่ปรากฏในงบการเงินอาจไม่แสดงค่าที่แท้จริงของกิจการ โดย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อาจสั่งการให้บริษัทแก้ไขงบการเงินได้
ทาง ตลท.จึงขึ้นเครื่องหมาย SP เพื่อห้ามการซื้อ หรือขายหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียน ดังกล่าวตั้งแต่การซื้อขายรอบเช้าของวันที่ 15 พ.ย.59 เพื่อให้ผู้ถือหุ้น และผู้ลงทุนทั่วไปมีเวลาในการพิจารณารายงานของผู้สอบบัญชีประกอบกับตัวเลขในงบการเงิน และหมายเหตุประกอบงบการเงินอย่างระมัดระวัง โดยจะอนุญาตให้ซื้อขายหลักทรัพย์ของ KC, NBC, NINE และ NMG พร้อมกับการขึ้นเครื่องหมาย NP ตั้งแต่การซื้อขายรอบเช้าวันที่ 16 พ.ย.59 จนกว่าบริษัทจดทะเบียนดังกล่าวจะนำส่งงบการเงินฉบับแก้ไข หรือจนกว่าจะได้ข้อสรุปว่า ไม่ต้องแก้ไขงบการเงิน สำหรับ BRC ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังคงห้ามการซื้อ หรือขายหลักทรัพย์ของบริษัทต่อไป เนื่องจากอยู่ระหว่างแก้ไขคุณสมบัติในการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ใน 5 บริษัทดังกล่าว มี 3 บริษัท ซึ่งอยู่ในเครือบริษัท เนชั่นมัลติมีเดียกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (เครือเนชั่นฯ) คือ NBC, NINE และ NMG โดยแต่ละแห่งได้แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 3 และงวด 9 เดือนสิ้นสุด 30 ก.ย.59 ดังนี้
NBC ไตรมาส 3 ขาดทุนสุทธิ 58.25 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.109 บาท เทียบกับปีก่อนขาดทุนสุทธิ 3.13 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.006 บาท งวด 9 เดือนขาดทุนสุทธิ 174.39 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.326 บาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 2.99 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.006 บาท ขาดทุนสุทธิเพิ่มขึ้น 171.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 5,732.44%
NINE ไตรมาส 3 ขาดทุนสุทธิ 4.55 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.027 บาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 2.92 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.017 บาท งวด 9 เดือน ขาดทุนสุทธิ 176.33 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 1.037 บาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ขาดทุน 9.89 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.058 บาท ขาดทุนสุทธิเพิ่มขึ้นกว่า 166.44 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1,682.91%
และ NMG ไตรมาส 3 ขาดทุนสุทธิรวม 280.98 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.069 บาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 15.60 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.153 บาท ขณะที่งวด 9 เดือนแรกของปี ขาดทุนสุทธิ 622.76 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.153 บาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 34.01 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.009 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้นลดลง 656.77 ล้านบาท หรือ 1,931.11%
เมื่อคำนวณผลขาดทุนสุทธิของเครือเนชั่นฯ ทั้ง 3 บริษัท ปรากฏว่า งวด 9 เดือน มีผลขาดทุนสุทธิรวมทั้งสิ้น 973.48 ล้านบาท
โดยเครือเนชั่นญได้ชี้แจงสาเหตุที่กำไรสุทธิลดลงว่า เกิดจากรายได้จากการขายและบริการ งวด 9 เดือน ลดลงจากปีก่อน 27% สาเหตุหลักมาจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจและส่งผลกระทบทำให้รายได้จากการขายโฆษณาลดลง 32% และรายได้จากการจำหน่ายสื่อสิ่งพิมพ์พ๊อคเก็ตบุ๊คส์ การ์ตูนและหนังสือเด็กลดลง 18% ขณะที่ต้นทุนและค่าใช้จ่าย เพิ่มขึ้น 5% แม้ต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารจะลดลง 4% สอดคล้องกับรายได้จากการขายและบริการที่ลดลง ประกอบกับผลขาดทุนจากการปรับโครงสร้างการประกอบธุรกิจเพิ่มขึ้นจำนวน 204.45 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทย่อยมีการปรับโครงสร้างการประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายสิ่งพิมพ์ ซึ่งเป็นผลมาจากพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป บริษัทย่อยดังกล่าวได้บันทึกสำรองค่าเผื่อมูลค่าสินค้าลดลงและตัดจำหน่ายลิขสิทธิ์สำหรับสิ่งพิมพ์ งวด 9 เดือน ให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ในปัจจุบันจำนวน 193.48 ล้านบาท และ 10.97 ล้านบาท.
.