บมจ.เนชั่น ขาดทุนสุทธิงวด 9 เดือน 622 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้นจากปีก่อนเกือบ 2 พันเปอร์เซ็นต์ หลังจากภาวะเศรษฐกิจซบเซา ส่งผลกระทบรายได้โฆษณาลดลง 32% และรายได้การจำหน่ายสื่อสิ่งพิมลดลง 18%
นายสุพจน์ เพียรศิริ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายบัญชี บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ NMG แจ้งผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 3 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2559 ว่า บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิรวม 280.98 ล้านาบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.069 บาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 15.60 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.153 บาท
ขณะที่งวด 9 เดือนแรกของปีนี้ ขาดทุนสุทธิ 622.76 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.153 บาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 34.01 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.009 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้นลดลง 656.77 ล้านบาท หรือ 1,931.11%
ทั้งนี้ บริษัทได้ชี้แจงสาเหตุที่กำไรสุทธิลดลง ดังนี้ 1.รายได้จากการขาย และบริการสำหรับงวดเก้าเดือนของปี 2559 ลดลงร้อยละ 27 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2558 โดยมีสาเหตุหลักมาจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ และส่งผลกระทบทำให้รายได้จากการขายโฆษณาลดลงร้อยละ 32 และรายได้จากการจำหน่ายสื่อสิ่งพิมพ์ พ๊อกเกตบุ๊กส์ การ์ตูน และหนังสือเด็ก ลดลงร้อยละ 18
2.ต้นทุน และค่าใช้จ่ายสำหรับงวดเก้าเดือนของปี 2559 เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2558 เหตุผลหลักมาจากต้นทุน และค่าใช้จ่ายในการขาย และบริหาร ลดลงร้อยละ 4 ซึ่งสอดคล้องกับรายได้จากการขายและบริการที่ลดลง
ผลขาดทุนจากการปรับโครงสร้างการประกอบธุรกิจเพิ่มขึ้น จำนวน 204.45 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทย่อยมีการปรับโครงสร้างการประกอบธุรกิจผลิต และจำหน่ายสิ่งพิมพ์ ซึ่งเป็นผลมาจากพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป บริษัทย่อยดังกล่าวได้บันทึกสำรองค่าเผื่อมูลค่าสินค้าลดลง และตัดจำหน่ายลิขสิทธิ์สำหรับสิ่งพิมพ์สำหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2559 ให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ในปัจจุบัน จำนวน 193.48 ล้านบาท และ 10.97 ล้านบาท
พร้อมกันนี้ บริษัทได้ชี้แจงว่า ผู้สอบบัญชีไม่ได้ให้ความเห็นต่อข้อมูลทางการเงิน ไม่ได้เกิดจากความไม่ครบถ้วนถูกต้อง หรือมีความบกพร่องในการจัดทำข้อมูลทางการเงินของบริษัทแต่อย่างใด แต่มีสาเหตุ เนื่องมาจากถูกจำกัดขอบเขตโดยสถานการณ์ ณ ปัจจุบัน อันเป็นผลมาจากมีผู้คัดค้านการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงกรรมการของบริษัทต่อนายทะเบียนบริษัทมหาชนกระทรวงพาณิชย์ และเป็นเหตุให้บริษัทไม่สามารถจัดส่งเอกสาร ซึ่งลงนามรับรองโดยกรรมการผู้มีอำนาจลงชื่อกระทำการแทนบริษัทตามที่ปรากฏชื่อในหนังสือรับรองบริษัทของกระทรวงพาณิชย์ ให้แก่ผู้สอบบัญชีเพื่อใช้ประกอบการสอบทาน และแสดงความเห็นของผู้สอบบัญชีตามมาตรฐานในการปฏิบัติหน้าที่ของผู้สอบบัญชีในเรื่องดังต่อไปนี้
1.หลักฐานแสดงมติคณะกรรมการของบริษัทซึ่งอนุมัติให้ออกงบการเงินระหว่างกาลสำหรับงวด 3 เดือน และ 9 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2559
2.หลักฐานซึ่งแสดงว่าคณะกรรมการบริษัทได้พิจารณาถึงความเหมาะสมของการจัดทำประมาณการกระแสเงินสดคิดลด ในการประเมินการด้อยค่าของมูลค่าตามบัญชีของใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ และประกอบกิจการโทรทัศน์ของบริษัทย่อยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
3.หลักฐานการออกหนังสือรับรองเกี่ยวกับความรับผิดชอบของผู้บริหารต่อข้อมูลทางการเงินระหว่างกาลสำหรับงวด 3 เดือน และ 9 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2559
บริษัทขอเรียนว่า เหตุที่ผู้สอบบัญชีต้องยึดถือข้อมูลกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทตามหนังสือรับรอง ซึ่งมีการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงรายชื่อกรรมการให้เป็นที่เรียบร้อยแล้วเท่านั้น เป็นไปตามบทบัญญัติมาตรา 8 แห่งพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ.2535 ซึ่งระบุว่า “ผู้ถือหุ้น หรือบริษัทจะถือเอาประโยชน์จากบุคคลภายนอกจากข้อความ หรือรายการใดๆ ที่ต้องจดทะเบียนตามพระราชบัญญัตินี้ไม่ได้จนกว่านายทะเบียนจะรับจดทะเบียนเรียบร้อยแล้ว …..”
ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อให้การจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงกรรมการของบริษัทต่อกระทรวงพาณิชย์ ให้ถูกต้องเป็นที่เรียบร้อยโดยเร็ว เพื่อมิให้เกิดข้อจำกัดในการปฏิบัติหน้าที่ของผู้สอบบัญชีของบริษัท และหากมีความคืบหน้าประการใด บริษัทจะแจ้งให้ทราบต่อไป
