ผู้จัดการรายวัน 360- "พาณิชย์" จัดแมชชิ่งซื้อขายข้าว-มันสำปะหลัง เชิญผู้ซื้อ-ผู้นำเข้า 300 รายจาก 41 ประเทศ เจรจาตรงผู้ประกอบการไทย คาดตกลงซื้อขายกันได้ไม่ต่ำกว่า 6.3 หมื่นล้านบาท ชาวนาเมืองชาละวันร้อง “บิ๊กตู่” ประกันราคาข้าวหอมมะลิเกี่ยวสดตันละ 8 พัน บอกที่ให้เปล่าไร่ละ 800 ไม่พอ “ยิ่งลักษณ์” ชวนชาวสมุทรปราการ-แฟนเพจ ซื้อข้าวถุงจากชาวนาที่หน้าห้างอิมพีเรียลเวิลด์สำโรงวันนี้
วานนี้ (10 พ.ย.) นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้เตรียมจัดกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจ (บิสสิเนส แมชชิ่ง) โดยเชิญผู้ซื้อ ผู้นำเข้าจากต่างประเทศ ประมาณ 300 ราย จาก 41 ประเทศ มาเจรจาซื้อขายข้าวและมันสำปะหลังจากผู้ประกอบการของไทยประมาณ 100 ราย ระหว่างวันที่ 13 - 16 พ.ย.59 โดยการจัดกิจกรรมครั้งนี้ จะเป็นการช่วยเพิ่มช่องทางการตลาดในการระบายผลผลิตข้าว ทั้งข้าวสาร ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากข้าว มันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ที่กำลังออกสู่ตลาด ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ราคาในประเทศปรับตัวสูงขึ้นได้
** คาดยอดซื้อขายไม่ต่ำกว่า 6.3 หมื่นล้าน
นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ในการจัดบิสสิเนสแมชชิ่งครั้งนี้ จะเกิดการสั่งซื้อใหม่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก โดยเบื้องต้นคาดว่าจะมีการตกลงซื้อขายข้าว และผลิตภัณฑ์จากข้าว มันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ทั้งการซื้อขายทันทีและต่อเนื่อง รวมมูลค่าไม่ต่ำกว่า 6.3 หมื่นล้านบาท แยกเป็นการซื้อขายข้าว 2.8 หมื่นล้านบาท และมันสำปะหลัง 3.5 หมื่นล้านบาท โดยการตกลงซื้อขายที่ได้มีการเจรจากันได้แล้ว เช่น การลงนามในสัญญาการซื้อขายข้าวหอมมะลิ จำนวน 10,000 ตัน กับบริษทเจ้าของซุปเปอร์มาเก็ต 759 Store ที่มีสาขาในฮ่องกงมากกว่า 250 แห่ง และเคยนำเข้าจากคู่แข่ง แต่ได้หันมานำเข้าจากไทย การสั่งซื้อข้าว GABA Rice จำนวน 100 ตันของบริษัทจากฮ่องกง ซึ่งเป็นการขยายตลาดลูกค้ารักสุขภาพ การลงนามซื้อข้าวไรซ์เบอร์รี่ และเส้นก๋วยเตี๋ยว รวม 1,000 ตัน กับบริษัทของฮ่องกง รวมไปถึงสัญญาซื้อขายมันสำปะหลัง อีกหลายรายการ
** “ชาวนาพิจิตร” ร้องนายกฯประกันข้าวเพิ่ม
ที่ศาลากลางจังหวัดพิจิตร นางจิตรพิมาน แก้วทอง กำนัน ต.หนองปลาไหล อ.วังทรายพูน นายเทียนชัย เจียมศรีชัย ตัวแทนเกษตรกร ต.หนองพระ นายสมหมาย สนามทอง ตัวแทนเกษตรกร ต.วังทรายพูน และนายละมัย สิงห์เถื่อน ตัวแทนเกษตรกร ต.หนองปล้อง พร้อมชาวนา อ.วังทรายพูน อ.เมือง อ.สากเหล็ก กว่า 300 คนได้เดินทางเข้ายื่นข้อเรียกร้องถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขอให้รัฐบาลช่วยเหลือชาวนาผู้ปลูกข้าวหอมมะลิ 105, กข 15 จำนวนกว่า 2,900 ราย ที่ต้องประสบกับปัญหาขาดทุนเพราะราคาข้าวตกต่ำเหลือแค่เพียงตันละ 6,000 บาทเศษ ซึ่งไม่คุ้นต้นทุน จึงขอให้รับประกันราคาข้าวเกี่ยวสดในราคาตันละ 8,000 บาท
นางจิตรพิมาน แก้วทอง กำนัน ต.หนองปลาไหล กล่าวว่า การช่วยเหลือของรัฐบาลที่ให้มาในรูปแบบให้เปล่าแก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวหอมมะลิ 105 และ กข 15 ไร่ละ 800 บาท ไม่เกิน 15 ไร่ เป็นเงิน 12,000 บาท รวมถึงมาตรการจำนำข้าวในยุ้งฉางนั้นเกษตรกรไม่ถูกใจ และไม่สามารถทำได้ เนื่องจากปัจจุบันนี้ในพื้นที่มียุ้งฉางให้เก็บผลผลิตแค่เพียง 1-2 % เท่านั้น ดังนั้นจึงอยากเรียกร้องขอราคาข้าวหอมมะลิเกี่ยวสดในราคาตันละ 8,000 บาท
ด้านนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการ จ.พิจิตร ได้พบปะรับหนังสือร้องทุกข์ไว้เพื่อเสนอต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือต่อไป จากนั้นกลุ่มชาวนาก็สลายตัวกลับโดยไม่มีการชูป้ายแต่อย่างใด
** “สหกรณ์เชียงใหม่” จัดพื้นที่ขายตรงถึงผู้บริโภค
ที่ จ.เชียงใหม่ นายจำรูญวิทย์ จันทรานนท์ ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมสหกรณ์ สำนักงานสหกรณ์ จ.เชียงใหม่ เป็นประธานเปิดให้เกษตรกรชาวนานำข้าวสารมาจำหน่ายแก่ผู้บริโภคโดยตรงไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง ตามโครงการข้าวสหกรณ์ช่วยชาวนา ที่บริเวณลานจอดรถ บริษัท ไทวัสดุ จำกัด ถนนซูเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่-ลำปาง ต.ยางเนิ้ง อ.สารภี โดยมีเครือข่ายเกษตรกรใน จ.เชียงใหม่ นำข้าวสารคุณภาพดีที่เป็นผลผลิตจากชาวนาวางจำหน่ายตรงถึงผู้บริโภคให้ได้เลือกซื้อ ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวทางการแก้ไขปัญหาราคาข้าวตกต่ำ ด้วยการเปิดพื้นที่ให้เกษตรกรชาวนาได้นำข้าวไปวางขายตามจุดจำหน่ายต่างๆ เป็นการกระจายผลผลิตข้าวสารจากเกษตรกรถึงประชาชนโดยตรง
** หน่วยทหารทั่วไทยรับซื้อข้าวเลี้ยงกำลังพล
อีกด้าน น.อ.ธนาธิป แข็งเขตการณ์ หัวหน้ากองส่งกำลังบำรุงกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด พร้อมคณะทหารเรือ เดินทางมารับมอบข้าวสารจำนวน 2.5 ตัน จากกลุ่มเกษตรกรบ้านเกียรติเจริญ ต.โคกม้า อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ซึ่งการรับมอบข้าวสารดังกล่าวเป็นไปตามข้อตกลงการช่วยเหลือชาวนา เพื่อนำไปประกอบเลี้ยงกำลังพลในหน่วย โดยหน่วยบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด กองบัญชาการนาวิกโยธิน กองทัพเรือ สำหรับการรับส่งมอบข้าวครั้งนี้ เป็นชุดที่ 1 จำนวน 2.5 ตัน และจะทยอยรับส่งมอบข้าวสารอินทรีย์ เดือนละ 5 ตัน
เช่นเดียวกับ พ.อ.ณรงค์ วิชญาณวรวุฒิ รองเสนาธิการกองพลทหารราบที่ 3 กองทัพภาคที่ 2 ที่ได้นำกำลังพลทหารในสังกัด ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.สมชาติ แน่นอุดร ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 3 ออกให้บริการเปิดจุดรับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนาในพื้นที่บ้านเหมืองตะโก หมู่ที่ 6 ต.อรพิมพ์ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา เพื่อช่วยเหลือชาวนาในช่วงที่ราคาข้าวเปลือกกำลังตกต่ำ โดยหน่วยทหารได้รับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนาที่ในราคาที่สูงกว่าท้องตลาดปัจจุบัน ที่ราคากิโลกรัมละ 10 บาท และนำไปสีกับโรงสีชุมชนภายในพื้นที่ เพื่อนำไปบรรจุใส่ผลิตภัณฑ์ไปใช้ในกิจการทางทหารและจำหน่ายยังร้านค้าสวัสดิการภายในค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 เบื้องต้นเริ่มต้นรับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนาในชุดแรก จำนวน 5 ตัน พร้อมกันนี้ ยังได้ออกตรวจเยี่ยมโรงสีบริเวณใกล้เคียง และขอความร่วมมือให้ทางโรงสีช่วยเหลือชาวนาด้วยการรับบริการสีข้าวราคาถูก
**พัน.ร.4 ซื้อตรงชาวนาอุทัยฯเดือนละ 8 ตัน
ที่ จ.อุทัยธานี กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 4 จ.นครสวรรค์ ได้สั่งซื้อข้าวเปลือกจากโรงสีชุมชน บ้านสำนักโก หมู่ที่ 4 ต.หนองหญ้าปล้อง อ.ทัพทัน เดือนละ 8 ตัน ในราคาตันละ 8,000 บาท สูงกว่าท้องตลาดตันละ 1,500-2,000 บาท โดยเฉพาะข้าวพันธุ์หอมประทุม ซึ่งตลาดรับซื้อเพียงตันละ 6,000-6,500 บาทเท่านั้น โดย พ.ท.จิภัทธ หอมสะอาด ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 4 กล่าวว่า นอกจากนี้ทางหน่วยฯ ยังได้จัดส่งกำลังพลสนับสนุนช่วยเป็นแรงงาน ทั้งสีข้าว และคัดสิ่งเจอปนในข้าวสาร เพื่อลดต้นทุนในการจ้างแรงงานไปสีข้าว
ส่วนที่ จ.เชียงราย พล.ต.บัญชา ดุริยพันธ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 ระบุว่า จากนี้จะเร่งหาวิธีการพัฒนาตลาดเกษตรดอยทอง ค่ายเม็งรายมหาราช จ.เชียงราย ซึ่งตามปกติจะเปิดขายพืชผักปลอดภัยจากสารเคมีทุกวันศุกร์ เป็นตลาดกลางซื้อ-ขายตรงระหว่างชาวนากับผู้ซื้อ เป็นลานตาก เป็นแหล่งดูสินค้าของผู้รับซื้อ เพื่อไม่ให้ราคาข้าวตกต่ำลงอีก และดึงดูดผู้ซื้อโดยไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลางที่อาจทำให้ต้นทุนสูงขึ้น โดยขณะนี้ได้นำร่องเปิดให้มีการนำข้าวมาจำหน่ายเพื่อระบายผลผลิตเดิม ซึ่งมีโรงสีเข้าร่วมจำนวน 5 แห่งแล้ว แต่รายละเอียดนั้นหากทุกหน่วยงานเห็นชอบก็จะได้ร่วมกันพัฒนาตลาดเกษตรดอยทองตามเป้าหมายนี้ต่อไป
** “ปู” เปิดตลาดนัดขายข้าวถุงอีกวันนี้
วันเดียวกัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพในขณะกำลังบรรจุข้าวสารใส่ถุงผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ 'Yingluck Shinawatra' พร้อมข้อความเชิญชวนประชาชนชาว จ.สมุทรปราการ และแฟนเพจ ร่วมกันซื้อข้าวจากชาวนา ในวันที่ 11 พ.ย.59 เวลา 16.00 น. ที่หน้าห้างอิมพีเรียลเวิลด์สำโรง จ.สมุทรปราการ นอกจากนี้ยังำได้แสดงความขอบคุณจิตอาสาและชาวนาจาก จ.พิษณุโลก ที่ได้มาร่วมกับชาวนาจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือบรรจุข้าวใส่ถุงเพื่อเตรียมขายในครั้งนี้ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้นำข้าวสารที่อ้างว่าซื้อจากชาวนาที่สีมาขายที่ จ.อุบลราชธานี และนำจำหน่ายที่หน้าห้างแฟชั่นไอส์แลนด์ ถ.รามอินทรา โดยแบ่งจำหน่ายถุงละ 5 กิโลกรัม 100 บาท หรือกิโลกรัมละ 20 บาท และสามารถจำหน่ายได้หมด 10 ตันเศษ ในเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง ซึ่งก็ถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการจัดฉากว่าเป็นการนำข้าวจากโรงสีมาจำหน่าย ไม่ใช่การจำหน่ายข้าวที่ซื้อจากชาวนาโดยตรงมาครั้งหนึ่งแล้ว.
วานนี้ (10 พ.ย.) นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้เตรียมจัดกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจ (บิสสิเนส แมชชิ่ง) โดยเชิญผู้ซื้อ ผู้นำเข้าจากต่างประเทศ ประมาณ 300 ราย จาก 41 ประเทศ มาเจรจาซื้อขายข้าวและมันสำปะหลังจากผู้ประกอบการของไทยประมาณ 100 ราย ระหว่างวันที่ 13 - 16 พ.ย.59 โดยการจัดกิจกรรมครั้งนี้ จะเป็นการช่วยเพิ่มช่องทางการตลาดในการระบายผลผลิตข้าว ทั้งข้าวสาร ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากข้าว มันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ที่กำลังออกสู่ตลาด ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ราคาในประเทศปรับตัวสูงขึ้นได้
** คาดยอดซื้อขายไม่ต่ำกว่า 6.3 หมื่นล้าน
นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ในการจัดบิสสิเนสแมชชิ่งครั้งนี้ จะเกิดการสั่งซื้อใหม่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก โดยเบื้องต้นคาดว่าจะมีการตกลงซื้อขายข้าว และผลิตภัณฑ์จากข้าว มันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ทั้งการซื้อขายทันทีและต่อเนื่อง รวมมูลค่าไม่ต่ำกว่า 6.3 หมื่นล้านบาท แยกเป็นการซื้อขายข้าว 2.8 หมื่นล้านบาท และมันสำปะหลัง 3.5 หมื่นล้านบาท โดยการตกลงซื้อขายที่ได้มีการเจรจากันได้แล้ว เช่น การลงนามในสัญญาการซื้อขายข้าวหอมมะลิ จำนวน 10,000 ตัน กับบริษทเจ้าของซุปเปอร์มาเก็ต 759 Store ที่มีสาขาในฮ่องกงมากกว่า 250 แห่ง และเคยนำเข้าจากคู่แข่ง แต่ได้หันมานำเข้าจากไทย การสั่งซื้อข้าว GABA Rice จำนวน 100 ตันของบริษัทจากฮ่องกง ซึ่งเป็นการขยายตลาดลูกค้ารักสุขภาพ การลงนามซื้อข้าวไรซ์เบอร์รี่ และเส้นก๋วยเตี๋ยว รวม 1,000 ตัน กับบริษัทของฮ่องกง รวมไปถึงสัญญาซื้อขายมันสำปะหลัง อีกหลายรายการ
** “ชาวนาพิจิตร” ร้องนายกฯประกันข้าวเพิ่ม
ที่ศาลากลางจังหวัดพิจิตร นางจิตรพิมาน แก้วทอง กำนัน ต.หนองปลาไหล อ.วังทรายพูน นายเทียนชัย เจียมศรีชัย ตัวแทนเกษตรกร ต.หนองพระ นายสมหมาย สนามทอง ตัวแทนเกษตรกร ต.วังทรายพูน และนายละมัย สิงห์เถื่อน ตัวแทนเกษตรกร ต.หนองปล้อง พร้อมชาวนา อ.วังทรายพูน อ.เมือง อ.สากเหล็ก กว่า 300 คนได้เดินทางเข้ายื่นข้อเรียกร้องถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขอให้รัฐบาลช่วยเหลือชาวนาผู้ปลูกข้าวหอมมะลิ 105, กข 15 จำนวนกว่า 2,900 ราย ที่ต้องประสบกับปัญหาขาดทุนเพราะราคาข้าวตกต่ำเหลือแค่เพียงตันละ 6,000 บาทเศษ ซึ่งไม่คุ้นต้นทุน จึงขอให้รับประกันราคาข้าวเกี่ยวสดในราคาตันละ 8,000 บาท
นางจิตรพิมาน แก้วทอง กำนัน ต.หนองปลาไหล กล่าวว่า การช่วยเหลือของรัฐบาลที่ให้มาในรูปแบบให้เปล่าแก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวหอมมะลิ 105 และ กข 15 ไร่ละ 800 บาท ไม่เกิน 15 ไร่ เป็นเงิน 12,000 บาท รวมถึงมาตรการจำนำข้าวในยุ้งฉางนั้นเกษตรกรไม่ถูกใจ และไม่สามารถทำได้ เนื่องจากปัจจุบันนี้ในพื้นที่มียุ้งฉางให้เก็บผลผลิตแค่เพียง 1-2 % เท่านั้น ดังนั้นจึงอยากเรียกร้องขอราคาข้าวหอมมะลิเกี่ยวสดในราคาตันละ 8,000 บาท
ด้านนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการ จ.พิจิตร ได้พบปะรับหนังสือร้องทุกข์ไว้เพื่อเสนอต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือต่อไป จากนั้นกลุ่มชาวนาก็สลายตัวกลับโดยไม่มีการชูป้ายแต่อย่างใด
** “สหกรณ์เชียงใหม่” จัดพื้นที่ขายตรงถึงผู้บริโภค
ที่ จ.เชียงใหม่ นายจำรูญวิทย์ จันทรานนท์ ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมสหกรณ์ สำนักงานสหกรณ์ จ.เชียงใหม่ เป็นประธานเปิดให้เกษตรกรชาวนานำข้าวสารมาจำหน่ายแก่ผู้บริโภคโดยตรงไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง ตามโครงการข้าวสหกรณ์ช่วยชาวนา ที่บริเวณลานจอดรถ บริษัท ไทวัสดุ จำกัด ถนนซูเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่-ลำปาง ต.ยางเนิ้ง อ.สารภี โดยมีเครือข่ายเกษตรกรใน จ.เชียงใหม่ นำข้าวสารคุณภาพดีที่เป็นผลผลิตจากชาวนาวางจำหน่ายตรงถึงผู้บริโภคให้ได้เลือกซื้อ ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวทางการแก้ไขปัญหาราคาข้าวตกต่ำ ด้วยการเปิดพื้นที่ให้เกษตรกรชาวนาได้นำข้าวไปวางขายตามจุดจำหน่ายต่างๆ เป็นการกระจายผลผลิตข้าวสารจากเกษตรกรถึงประชาชนโดยตรง
** หน่วยทหารทั่วไทยรับซื้อข้าวเลี้ยงกำลังพล
อีกด้าน น.อ.ธนาธิป แข็งเขตการณ์ หัวหน้ากองส่งกำลังบำรุงกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด พร้อมคณะทหารเรือ เดินทางมารับมอบข้าวสารจำนวน 2.5 ตัน จากกลุ่มเกษตรกรบ้านเกียรติเจริญ ต.โคกม้า อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ซึ่งการรับมอบข้าวสารดังกล่าวเป็นไปตามข้อตกลงการช่วยเหลือชาวนา เพื่อนำไปประกอบเลี้ยงกำลังพลในหน่วย โดยหน่วยบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด กองบัญชาการนาวิกโยธิน กองทัพเรือ สำหรับการรับส่งมอบข้าวครั้งนี้ เป็นชุดที่ 1 จำนวน 2.5 ตัน และจะทยอยรับส่งมอบข้าวสารอินทรีย์ เดือนละ 5 ตัน
เช่นเดียวกับ พ.อ.ณรงค์ วิชญาณวรวุฒิ รองเสนาธิการกองพลทหารราบที่ 3 กองทัพภาคที่ 2 ที่ได้นำกำลังพลทหารในสังกัด ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.สมชาติ แน่นอุดร ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 3 ออกให้บริการเปิดจุดรับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนาในพื้นที่บ้านเหมืองตะโก หมู่ที่ 6 ต.อรพิมพ์ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา เพื่อช่วยเหลือชาวนาในช่วงที่ราคาข้าวเปลือกกำลังตกต่ำ โดยหน่วยทหารได้รับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนาที่ในราคาที่สูงกว่าท้องตลาดปัจจุบัน ที่ราคากิโลกรัมละ 10 บาท และนำไปสีกับโรงสีชุมชนภายในพื้นที่ เพื่อนำไปบรรจุใส่ผลิตภัณฑ์ไปใช้ในกิจการทางทหารและจำหน่ายยังร้านค้าสวัสดิการภายในค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 เบื้องต้นเริ่มต้นรับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนาในชุดแรก จำนวน 5 ตัน พร้อมกันนี้ ยังได้ออกตรวจเยี่ยมโรงสีบริเวณใกล้เคียง และขอความร่วมมือให้ทางโรงสีช่วยเหลือชาวนาด้วยการรับบริการสีข้าวราคาถูก
**พัน.ร.4 ซื้อตรงชาวนาอุทัยฯเดือนละ 8 ตัน
ที่ จ.อุทัยธานี กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 4 จ.นครสวรรค์ ได้สั่งซื้อข้าวเปลือกจากโรงสีชุมชน บ้านสำนักโก หมู่ที่ 4 ต.หนองหญ้าปล้อง อ.ทัพทัน เดือนละ 8 ตัน ในราคาตันละ 8,000 บาท สูงกว่าท้องตลาดตันละ 1,500-2,000 บาท โดยเฉพาะข้าวพันธุ์หอมประทุม ซึ่งตลาดรับซื้อเพียงตันละ 6,000-6,500 บาทเท่านั้น โดย พ.ท.จิภัทธ หอมสะอาด ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 4 กล่าวว่า นอกจากนี้ทางหน่วยฯ ยังได้จัดส่งกำลังพลสนับสนุนช่วยเป็นแรงงาน ทั้งสีข้าว และคัดสิ่งเจอปนในข้าวสาร เพื่อลดต้นทุนในการจ้างแรงงานไปสีข้าว
ส่วนที่ จ.เชียงราย พล.ต.บัญชา ดุริยพันธ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 ระบุว่า จากนี้จะเร่งหาวิธีการพัฒนาตลาดเกษตรดอยทอง ค่ายเม็งรายมหาราช จ.เชียงราย ซึ่งตามปกติจะเปิดขายพืชผักปลอดภัยจากสารเคมีทุกวันศุกร์ เป็นตลาดกลางซื้อ-ขายตรงระหว่างชาวนากับผู้ซื้อ เป็นลานตาก เป็นแหล่งดูสินค้าของผู้รับซื้อ เพื่อไม่ให้ราคาข้าวตกต่ำลงอีก และดึงดูดผู้ซื้อโดยไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลางที่อาจทำให้ต้นทุนสูงขึ้น โดยขณะนี้ได้นำร่องเปิดให้มีการนำข้าวมาจำหน่ายเพื่อระบายผลผลิตเดิม ซึ่งมีโรงสีเข้าร่วมจำนวน 5 แห่งแล้ว แต่รายละเอียดนั้นหากทุกหน่วยงานเห็นชอบก็จะได้ร่วมกันพัฒนาตลาดเกษตรดอยทองตามเป้าหมายนี้ต่อไป
** “ปู” เปิดตลาดนัดขายข้าวถุงอีกวันนี้
วันเดียวกัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพในขณะกำลังบรรจุข้าวสารใส่ถุงผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ 'Yingluck Shinawatra' พร้อมข้อความเชิญชวนประชาชนชาว จ.สมุทรปราการ และแฟนเพจ ร่วมกันซื้อข้าวจากชาวนา ในวันที่ 11 พ.ย.59 เวลา 16.00 น. ที่หน้าห้างอิมพีเรียลเวิลด์สำโรง จ.สมุทรปราการ นอกจากนี้ยังำได้แสดงความขอบคุณจิตอาสาและชาวนาจาก จ.พิษณุโลก ที่ได้มาร่วมกับชาวนาจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือบรรจุข้าวใส่ถุงเพื่อเตรียมขายในครั้งนี้ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้นำข้าวสารที่อ้างว่าซื้อจากชาวนาที่สีมาขายที่ จ.อุบลราชธานี และนำจำหน่ายที่หน้าห้างแฟชั่นไอส์แลนด์ ถ.รามอินทรา โดยแบ่งจำหน่ายถุงละ 5 กิโลกรัม 100 บาท หรือกิโลกรัมละ 20 บาท และสามารถจำหน่ายได้หมด 10 ตันเศษ ในเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง ซึ่งก็ถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการจัดฉากว่าเป็นการนำข้าวจากโรงสีมาจำหน่าย ไม่ใช่การจำหน่ายข้าวที่ซื้อจากชาวนาโดยตรงมาครั้งหนึ่งแล้ว.