ผู้จัดการรายวัน360-แกรมมี่ไม่เอาไว้ ประกาศยกเลิกสัญญา "น็อต กราบรถ" ปลดออกจากทุกรายการ ชี้ควรเป็นตัวอย่างที่ดีต่อเยาวชน ลั่นไม่มีนโยบายสนับสนุนคนที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ ไทยบีพีเอสเอาด้วย ปลดจากพิธีกรและงดออกอากาศละครที่แสดง ผบ.ตร.บอกรับไม่ได้ สั่งเร่งรัดดำเนินคดี ด้าน "วิกรม" โพสต์แรง ซัดพฤติกรรมป่าเถื่อน ไม่น่าเชื่อจบสูง ทำอาชีพสื่อ ทั้งยังได้รางวัลบุคคลดีเด่น บอกสังคมอย่าปล่อยให้คนเถื่อนแบบนี้มีที่ยื่น เผยล่าสุดถูกยึดคืนรางวัลแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ “น็อต อัครณัฐ อริยฤทธิวิกุล” นักแสดง ดีเจ และพิธีกรดังรายการ “เวคคลับ” เจ้าของวาทะเด็ด “กราบรถกู” ถูกแฉคลิปเป็นหนุ่มขับรถมินิคูเปอร์สีเหลือง ทำร้ายร่างกายคู่กรณี คือ นายกิตติศักดิ์ สิงโต หรือบอย ซึ่งขี่รถจักรยานยนต์ โดยลากคอคู่กรณีและต่อยหมัดใส่ใบหน้า จนอีกฝ่ายถึงกับดั้งหัก ขณะที่ผู้เสียหายแจ้งความกลับข้อหาทำร้ายร่างกาย และในส่วนพิธีกรดัง ก็ยังแจ้งความกลับอีกฝ่ายด้วยในข้อหาขับรถประมาท บอกตนต่อยป้องกันตัว เพราะคู่กรณีมีท่าทีต่อสู้ จนเกิดกระแสดรามาในโลกออนไลน์และสื่อต่างๆ
ล่าสุด ต้นสังกัดไม่นิ่งนอนใจกับเรื่องดังกล่าว ได้ออกประกาศขอยกเลิกสัญญาและปลดอีกฝ่ายออกจากทุกรายการ เพราะไม่มีนโยบายสนับสนุนนักแสดงให้มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม
“จากเหตุการณ์การเผยแพร่คลิปพฤติกรรมอันไม่เหมาะสมของ น็อต อัครณัฐ ผ่านทางโซเชียลมีเดียเมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 พฤศจิกายน ที่ผ่านมานั้น บริษัท จีเอ็มเอ็มทีวี จำกัด ในฐานะต้นสังกัดรู้สึกเสียใจกับการกระทำดังกล่าวเป็นอย่างยิ่ง และเห็นถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากฐานะการเป็นพิธีกร และนักแสดง ซึ่งควรเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเยาวชน บริษัทไม่ได้นิ่งนอนใจกับกรณีที่เกิดขึ้น โดยได้พิจารณาถึงบทลงโทษ เพื่อจะได้ไม่เป็นแบบอย่างที่ไม่ดีแก่เยาวชนและสังคม ตามนโยบายของบริษัทที่ไม่สนับสนุนพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม โดยมีข้อสรุปว่า บริษัทได้ยกเลิกสัญญาการเป็นพิธีกร และนักแสดง ในสังกัดของบริษัทและขอยุติการทำงานทุกประเภทของ น็อต อัครณัฐ โดยมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป"บริษัท จีเอ็มเอ็มทีวี จำกัด ระบุไว้ในแถลงการณ์
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในส่วนของร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดัง ซึ่งมีชื่อเจ้าตัวเป็นหุ้นส่วนด้วยและถูกวิพากษ์วิจารณ์สนั่น ก็ออกมาโพสต์ข้อความระบุว่า กำลังพิจารณาถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม โดยจะแจ้งรายละเอียดให้ทราบในภายหลัง
สำหรับความเคลื่อนไหวของน็อต ที่มีกำหนดการจะเปิดแถลงข่าวในช่วงบ่ายวานนี้ (7 พ.ย.) นั้น ฝ่ายประชาสัมพันธ์จีเอ็มเอ็ม ทีวี ได้แจ้งในช่วงเช้าก่อนที่จะมีแถลงการณ์ยกเลิกสัญญาในเวลาต่อมาว่า ขอยกเลิกแถลงข่าวกับสื่อมวลชน เพราะเมื่อคืน (วันที่ 6พ.ย.) น็อตได้พูดกับนักข่าวที่อยู่โรงพักไปหมดแล้ว และกลัวว่าจะเสียรูปคดี
นอกจากนี้ สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ซึ่งน็อตเป็นพิธีกรอยู่ คือ รายการ Thailand Science Challenge รวมถึงการแสดงละครโทรทัศน์อยู่อีก 1 เรื่อง คือ ก๊วนสืบหลังเลิกเรียน ก็มีประกาศออกมาว่าจะระงับการออกอากาศผลงานทั้งหมดของน็อต อัครณัฐ เนื่องจากพิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นการกระทำที่เป็นแบบอย่างที่ไม่เหมาะสมแก่เด็กและเยาวชน โดยมีผลตั้งแต่วันนี้ (7พ.ย.) เป็นต้นไป
ทางด้านความเคลื่อนไหวของสังคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกันอย่างกว้างขวาง
โดยที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.ทรงพล วัธนะชัย ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 (ผบก.น.6) ในฐานะรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ได้กำชับ ตำรวจสน.ยานนาวา ให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย ให้ความเป็นธรรมตามพยานหลักฐานที่ปรากฎ และพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ยังได้สั่งการตรงมาที่ตนให้เร่งรัดการดำเนินการตามกฎหมายอย่างเป็นธรรม เพราะเป็นเรื่องที่สังคมให้ความสนใจ เพราะ ผบ.ตร. เห็นคลิปแล้ว รับไม่ได้ เห็นว่าเป็นคดีจราจรปกติ อุบัติเหตุบนท้องถนนเล็กน้อย แต่กลับปรากฏการทำร้ายร่างกายกันตามที่เห็น ดูเป็นการใช้อารมณ์และไม่มีสิทธิทำขนาดนั้น จึงสั่งกำชับให้ดำเนินการโดยเร็วตามกฎหมาย
ส่วนการดำเนินคดี พนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา แจ้งว่า ดำเนินคดีเป็น 2 ส่วน คือ 1.การเฉี่ยวชน ซึ่งจะดำเนินคดีตามพ.ร.บ.จราจรทางบก และ2.การทำร้ายร่างกาย เป็นความผิดอาญา ซึ่งต้องดูว่าเข้าข่ายบาดเจ็บสาหัสหรือไม่ แต่ถ้าไม่ถึงขั้นสาหัส ก็เป็นเพียงการทำร้ายร่างกาย
ด้านนายวิกรม กรมดิษฐ์ นักธุรกิจ นักเขียน ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหาร บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชัน ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก Vikrom Kromadit วิกรม กรมดิษฐ์ ถึงกรณีดังกล่าว ว่า ตนไม่เห็นด้วยกับการกระทำของนายอัครณัฐ ที่จบการศึกษาระดับสูงจากสถาบันชั้นนำ และทำอาชีพด้านสื่อสารมวลชน
“ผมไม่เห็นด้วยกับการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนที่ใครๆ ก็ไม่อยากให้มี แต่กลับกลายมาเป็นการทำร้ายร่างกายคนที่เขาไม่แสดงการขัดแย้งอะไรเลย ไม่รู้ว่าคุณคนนี้แกใหญ่โตมาจากไหนถึงแสดงความป่าเถื่อนต่อหน้าสาธารณชนได้ถึงขนาดนี้ หากเป็นคนไร้การศึกษาก็อาจพอเข้าใจได้ แต่ได้ข่าวว่าจบถึงจุฬาฯ และมีอาชีพเกี่ยวกับสื่อสารมวลชน แถมยังได้รับรางวัลบุคคลดีเด่นอีก ทำให้ผมรู้สึกเป็นห่วงสังคมไทยเราจริงๆ ว่า ความเห็นแก่ตัวแล้วมักจะทำความเดือดร้อนรุนแรงกับคนที่อ่อนแอกว่าถือเป็นเรื่องที่สังคมหรือองค์กรที่ว่าจ้างคนจำพวกนี้ ไม่ควรปกป้องพฤติกรรมป่าเถื่อนที่โลกปัจจุบันรับไม่ได้ สังคมไทยต้องรักษาความยุติธรรมและสงบสุขด้วยกัน ไม่ควรมีที่ยืนให้กับคนเถื่อนเหล่านี้ครับ” นายวิกรม ระบุ
ส่วนเฟซบุ๊กของนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองผู้อำนวยการสำนักงานกิจการและโครงการในพระดำริพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา สำนักงานอัยการสูงสุด โพสต์ข้อความเตือนสติโดยยกกรณีน๊อต เวคคลับ ว่า “ความยุติธรรม ไม่สามารถตัดสินกันได้ที่กลางถนน เกิดเหตุกระทบกระทั่งควรขอโทษกันไว้ก่อน เพื่อยุติความรุนแรงในสังคม อยากได้ความยุติธรรมต้องไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ ไม่ใช่ตัดสินกันที่กลางถนน ถ้าใช้ความรุนแรงตัดสินกันที่กลางถนน คงจบที่ฝ่ายหนึ่งไปห้องฉุกเฉิน อีกฝ่ายไปห้องขังล่ะครับ ข้อหาทำร้ายร่างกาย ยอมความกันไม่ได้นะครับ แถมความผิดต่อเสรีภาพอีก”
ด้านเพจดัง CSI LA ได้ออกมาขุดประวัติทนายดัง โดยเผยข้อมูลการจดทะเบียนร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดัง ระบุว่า ร้านดังกล่าวมีชื่อหนุ่มน็อต กับ “น.ส.อรัชพร ทินะพงศ์” เป็นคณะกรรมการ ซึ่งนามสกุลเดียวกัน คาดทนายส่วนตัวเป็นว่าที่พ่อตา
“ที่เเท้ทนายของน็อต กราบรถกู ก็คือว่าที่พ่อตา และหุ้นส่วนร้านอาหารนี่เอง ถ้าออกมารับผิดตั้งแต่แรก สังคมยังให้อภัย แต่ยิ่งแถทำให้คนเกลียดทั้งทนายและนายน็อตเอง ส่วนธุรกิจร้านอาหารไม่รู้ว่าจะไปรอดไหม เพราะโดนชาวโซเชียลถล่มหนักมากๆ”
ขณะที่นายอำนาจ หมัดสดาย ประธานคณะกรรมการสมัชชานักจัดรายการข่าววิทยุโทรทัศน์หนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย(สว.นท) กล่าวว่า คณะกรรมการฯ ได้มีมติเรียกคืนรางวัลคนไทยตัวอย่างประจำปี 2559 จากน็อต เนื่องจากแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมและเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีต่อสังคมไทย
วันเดียวกันนี้ นักแสดงสาวช่อง 3 “พาย พิมพ์พัชร วัชรเสวี” ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กป้องพิธีกรฉาว โดยระบุว่า ได้รู้จักด้านอื่นๆ ด้านดีๆ ของ น็อต อัครณัฐ คนยอมรับผิดแล้ว อย่าเหยียบกันให้จมดิน คนทำไม่ดีกว่านี้มีอีกเยอะ น็อตพลาดตรงทำในที่แจ้ง รวมถึงเป็นคนของประชาชน เอาเป็นบทเรียนนะพี่ สู้ๆ เดี๋ยวมันก็ผ่านไป อย่าตัดสินคนจากคลิปหนึ่งนาทีกว่าๆ ที่เผยเฉพาะด้านไม่ดีของเค้า แล้วก็ตัดสินว่าคนนั้นเลวๆๆๆๆ ใครไม่เคยใช้อารมณ์ตัดสินปัญหาบ้าง ลองมองกลับไปที่ตัวเองด้วย
นอกจากนี้ ยังได้โพสต์อีกว่า “คนเลวก็คือคนเลว เข้าข้างคนเลว = เลวเหมือนกัน คิดต่าง = ผิด เหยียบแล้วต้องเหยียบให้จม เหยียบต่อไปให้ไม่มีที่จะยืน เหยียบวนไปค่ะ .. เข้าใจแล้วค่ะ”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ “น็อต อัครณัฐ อริยฤทธิวิกุล” นักแสดง ดีเจ และพิธีกรดังรายการ “เวคคลับ” เจ้าของวาทะเด็ด “กราบรถกู” ถูกแฉคลิปเป็นหนุ่มขับรถมินิคูเปอร์สีเหลือง ทำร้ายร่างกายคู่กรณี คือ นายกิตติศักดิ์ สิงโต หรือบอย ซึ่งขี่รถจักรยานยนต์ โดยลากคอคู่กรณีและต่อยหมัดใส่ใบหน้า จนอีกฝ่ายถึงกับดั้งหัก ขณะที่ผู้เสียหายแจ้งความกลับข้อหาทำร้ายร่างกาย และในส่วนพิธีกรดัง ก็ยังแจ้งความกลับอีกฝ่ายด้วยในข้อหาขับรถประมาท บอกตนต่อยป้องกันตัว เพราะคู่กรณีมีท่าทีต่อสู้ จนเกิดกระแสดรามาในโลกออนไลน์และสื่อต่างๆ
ล่าสุด ต้นสังกัดไม่นิ่งนอนใจกับเรื่องดังกล่าว ได้ออกประกาศขอยกเลิกสัญญาและปลดอีกฝ่ายออกจากทุกรายการ เพราะไม่มีนโยบายสนับสนุนนักแสดงให้มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม
“จากเหตุการณ์การเผยแพร่คลิปพฤติกรรมอันไม่เหมาะสมของ น็อต อัครณัฐ ผ่านทางโซเชียลมีเดียเมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 พฤศจิกายน ที่ผ่านมานั้น บริษัท จีเอ็มเอ็มทีวี จำกัด ในฐานะต้นสังกัดรู้สึกเสียใจกับการกระทำดังกล่าวเป็นอย่างยิ่ง และเห็นถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากฐานะการเป็นพิธีกร และนักแสดง ซึ่งควรเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเยาวชน บริษัทไม่ได้นิ่งนอนใจกับกรณีที่เกิดขึ้น โดยได้พิจารณาถึงบทลงโทษ เพื่อจะได้ไม่เป็นแบบอย่างที่ไม่ดีแก่เยาวชนและสังคม ตามนโยบายของบริษัทที่ไม่สนับสนุนพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม โดยมีข้อสรุปว่า บริษัทได้ยกเลิกสัญญาการเป็นพิธีกร และนักแสดง ในสังกัดของบริษัทและขอยุติการทำงานทุกประเภทของ น็อต อัครณัฐ โดยมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป"บริษัท จีเอ็มเอ็มทีวี จำกัด ระบุไว้ในแถลงการณ์
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในส่วนของร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดัง ซึ่งมีชื่อเจ้าตัวเป็นหุ้นส่วนด้วยและถูกวิพากษ์วิจารณ์สนั่น ก็ออกมาโพสต์ข้อความระบุว่า กำลังพิจารณาถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม โดยจะแจ้งรายละเอียดให้ทราบในภายหลัง
สำหรับความเคลื่อนไหวของน็อต ที่มีกำหนดการจะเปิดแถลงข่าวในช่วงบ่ายวานนี้ (7 พ.ย.) นั้น ฝ่ายประชาสัมพันธ์จีเอ็มเอ็ม ทีวี ได้แจ้งในช่วงเช้าก่อนที่จะมีแถลงการณ์ยกเลิกสัญญาในเวลาต่อมาว่า ขอยกเลิกแถลงข่าวกับสื่อมวลชน เพราะเมื่อคืน (วันที่ 6พ.ย.) น็อตได้พูดกับนักข่าวที่อยู่โรงพักไปหมดแล้ว และกลัวว่าจะเสียรูปคดี
นอกจากนี้ สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ซึ่งน็อตเป็นพิธีกรอยู่ คือ รายการ Thailand Science Challenge รวมถึงการแสดงละครโทรทัศน์อยู่อีก 1 เรื่อง คือ ก๊วนสืบหลังเลิกเรียน ก็มีประกาศออกมาว่าจะระงับการออกอากาศผลงานทั้งหมดของน็อต อัครณัฐ เนื่องจากพิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นการกระทำที่เป็นแบบอย่างที่ไม่เหมาะสมแก่เด็กและเยาวชน โดยมีผลตั้งแต่วันนี้ (7พ.ย.) เป็นต้นไป
ทางด้านความเคลื่อนไหวของสังคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกันอย่างกว้างขวาง
โดยที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.ทรงพล วัธนะชัย ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 (ผบก.น.6) ในฐานะรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ได้กำชับ ตำรวจสน.ยานนาวา ให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย ให้ความเป็นธรรมตามพยานหลักฐานที่ปรากฎ และพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ยังได้สั่งการตรงมาที่ตนให้เร่งรัดการดำเนินการตามกฎหมายอย่างเป็นธรรม เพราะเป็นเรื่องที่สังคมให้ความสนใจ เพราะ ผบ.ตร. เห็นคลิปแล้ว รับไม่ได้ เห็นว่าเป็นคดีจราจรปกติ อุบัติเหตุบนท้องถนนเล็กน้อย แต่กลับปรากฏการทำร้ายร่างกายกันตามที่เห็น ดูเป็นการใช้อารมณ์และไม่มีสิทธิทำขนาดนั้น จึงสั่งกำชับให้ดำเนินการโดยเร็วตามกฎหมาย
ส่วนการดำเนินคดี พนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา แจ้งว่า ดำเนินคดีเป็น 2 ส่วน คือ 1.การเฉี่ยวชน ซึ่งจะดำเนินคดีตามพ.ร.บ.จราจรทางบก และ2.การทำร้ายร่างกาย เป็นความผิดอาญา ซึ่งต้องดูว่าเข้าข่ายบาดเจ็บสาหัสหรือไม่ แต่ถ้าไม่ถึงขั้นสาหัส ก็เป็นเพียงการทำร้ายร่างกาย
ด้านนายวิกรม กรมดิษฐ์ นักธุรกิจ นักเขียน ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหาร บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชัน ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก Vikrom Kromadit วิกรม กรมดิษฐ์ ถึงกรณีดังกล่าว ว่า ตนไม่เห็นด้วยกับการกระทำของนายอัครณัฐ ที่จบการศึกษาระดับสูงจากสถาบันชั้นนำ และทำอาชีพด้านสื่อสารมวลชน
“ผมไม่เห็นด้วยกับการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนที่ใครๆ ก็ไม่อยากให้มี แต่กลับกลายมาเป็นการทำร้ายร่างกายคนที่เขาไม่แสดงการขัดแย้งอะไรเลย ไม่รู้ว่าคุณคนนี้แกใหญ่โตมาจากไหนถึงแสดงความป่าเถื่อนต่อหน้าสาธารณชนได้ถึงขนาดนี้ หากเป็นคนไร้การศึกษาก็อาจพอเข้าใจได้ แต่ได้ข่าวว่าจบถึงจุฬาฯ และมีอาชีพเกี่ยวกับสื่อสารมวลชน แถมยังได้รับรางวัลบุคคลดีเด่นอีก ทำให้ผมรู้สึกเป็นห่วงสังคมไทยเราจริงๆ ว่า ความเห็นแก่ตัวแล้วมักจะทำความเดือดร้อนรุนแรงกับคนที่อ่อนแอกว่าถือเป็นเรื่องที่สังคมหรือองค์กรที่ว่าจ้างคนจำพวกนี้ ไม่ควรปกป้องพฤติกรรมป่าเถื่อนที่โลกปัจจุบันรับไม่ได้ สังคมไทยต้องรักษาความยุติธรรมและสงบสุขด้วยกัน ไม่ควรมีที่ยืนให้กับคนเถื่อนเหล่านี้ครับ” นายวิกรม ระบุ
ส่วนเฟซบุ๊กของนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองผู้อำนวยการสำนักงานกิจการและโครงการในพระดำริพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา สำนักงานอัยการสูงสุด โพสต์ข้อความเตือนสติโดยยกกรณีน๊อต เวคคลับ ว่า “ความยุติธรรม ไม่สามารถตัดสินกันได้ที่กลางถนน เกิดเหตุกระทบกระทั่งควรขอโทษกันไว้ก่อน เพื่อยุติความรุนแรงในสังคม อยากได้ความยุติธรรมต้องไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ ไม่ใช่ตัดสินกันที่กลางถนน ถ้าใช้ความรุนแรงตัดสินกันที่กลางถนน คงจบที่ฝ่ายหนึ่งไปห้องฉุกเฉิน อีกฝ่ายไปห้องขังล่ะครับ ข้อหาทำร้ายร่างกาย ยอมความกันไม่ได้นะครับ แถมความผิดต่อเสรีภาพอีก”
ด้านเพจดัง CSI LA ได้ออกมาขุดประวัติทนายดัง โดยเผยข้อมูลการจดทะเบียนร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดัง ระบุว่า ร้านดังกล่าวมีชื่อหนุ่มน็อต กับ “น.ส.อรัชพร ทินะพงศ์” เป็นคณะกรรมการ ซึ่งนามสกุลเดียวกัน คาดทนายส่วนตัวเป็นว่าที่พ่อตา
“ที่เเท้ทนายของน็อต กราบรถกู ก็คือว่าที่พ่อตา และหุ้นส่วนร้านอาหารนี่เอง ถ้าออกมารับผิดตั้งแต่แรก สังคมยังให้อภัย แต่ยิ่งแถทำให้คนเกลียดทั้งทนายและนายน็อตเอง ส่วนธุรกิจร้านอาหารไม่รู้ว่าจะไปรอดไหม เพราะโดนชาวโซเชียลถล่มหนักมากๆ”
ขณะที่นายอำนาจ หมัดสดาย ประธานคณะกรรมการสมัชชานักจัดรายการข่าววิทยุโทรทัศน์หนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย(สว.นท) กล่าวว่า คณะกรรมการฯ ได้มีมติเรียกคืนรางวัลคนไทยตัวอย่างประจำปี 2559 จากน็อต เนื่องจากแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมและเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีต่อสังคมไทย
วันเดียวกันนี้ นักแสดงสาวช่อง 3 “พาย พิมพ์พัชร วัชรเสวี” ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กป้องพิธีกรฉาว โดยระบุว่า ได้รู้จักด้านอื่นๆ ด้านดีๆ ของ น็อต อัครณัฐ คนยอมรับผิดแล้ว อย่าเหยียบกันให้จมดิน คนทำไม่ดีกว่านี้มีอีกเยอะ น็อตพลาดตรงทำในที่แจ้ง รวมถึงเป็นคนของประชาชน เอาเป็นบทเรียนนะพี่ สู้ๆ เดี๋ยวมันก็ผ่านไป อย่าตัดสินคนจากคลิปหนึ่งนาทีกว่าๆ ที่เผยเฉพาะด้านไม่ดีของเค้า แล้วก็ตัดสินว่าคนนั้นเลวๆๆๆๆ ใครไม่เคยใช้อารมณ์ตัดสินปัญหาบ้าง ลองมองกลับไปที่ตัวเองด้วย
นอกจากนี้ ยังได้โพสต์อีกว่า “คนเลวก็คือคนเลว เข้าข้างคนเลว = เลวเหมือนกัน คิดต่าง = ผิด เหยียบแล้วต้องเหยียบให้จม เหยียบต่อไปให้ไม่มีที่จะยืน เหยียบวนไปค่ะ .. เข้าใจแล้วค่ะ”