เพชรบุรี - น้ำท่วมเมืองเพชรยังไม่คลี่คลาย เขตอำเภอเมือง บนถนนมีน้ำท่วมขัง 70% เพชรเกษมน้ำหลากท่วมสูง 30-40 ซม.ยาว 800 เมตร รถเคลื่อนตัวช้า โดยเฉพาะริมฝั่งแม่น้ำเพชรบุรี กำแพงพังทำให้น้ำไหลบ่าท่วมหลายจุด ท่วมขังสูงสุดถึง 1 เมตร
วานนี้ (3 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมใน จ.เพชรบุรี ว่า ยังไม่คลี่คลาย ขณะนี้ทั้งเมืองเพชรบุรี เต็มไปด้วยน้ำ รวมถึงบน ถ.เพชรเกษม บริเวณตั้งแต่โรงพยาบาลเพชรรัชต์ ไปถึงทางยกระดับทางหลวง-บ้านลาด ยังคงมีน้ำท่วมสูงโดยรถเล็กสามารถใช้เส้นทางเลนขวาได้เพียงเลนเดียว ทำให้การจราจรค่อนข้างติดขัด แต่สามารถเคลื่อนตัวไปได้ช้าๆ โดยวันนี้ระดับน้ำเพิ่มสูงมากขึ้น และคาดว่าในช่วงบ่ายน้ำได้ขึ้นสูงเพิ่มขึ้นอีก
** เดือดร้อนแล้วไม่ต่ำ 5 พันครัวเรือน
ทั้งนี้ในเขต อ.เมืองเพชรบุรี ริมตลิ่งริมแม่น้ำเพชรบุรี บริเวณ ต.คลองกระแชง และ ต.ท่าราบ มีกำแพงพังลงมา ทำให้มวลน้ำจำนวนมากไหลบ่าเข้าท่วมถนนหลายสาย เช่น ถ.ราชดำเนิน ถ.บริพัตร และ ถ.บันไดอิฐ ซึ่งเป็นถนนสายเส้นหลักสำหรับใช้รถสัญจรในเมืองเพชร มีน้ำท่วมขังสูงประมาณ 1 เมตร บางจุดน้ำได้ทะลักเข้าไปภายในบ้านของประชาชน และร้านค้าตลอดทั้งสองฝั่งทาง มีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 5,000 หลังคาเรือน ขณะเดียวกัน ตามสถานที่ราชการ และโรงเรียนเด็กเล็กในเขตเทศบาลเมืองเพชรบุรี ได้ประกาศหยุดเรียนทั้งหมด เนื่องจากปริมาณเพิ่มสูงมากขึ้นรถเล็กไม่สามารถใช้เส้นทางดังกล่าวได้
ส่วน อ.บ้านแหลม มีพื้นที่น้ำท่วมเพิ่มขึ้นเป็น 5 ตำบล 26 หมู่บ้าน ประชาชนเดือดร้อน 2,000 กว่าหลังคาเรือน อ.บ้านลาด ระดับน้ำสูงขึ้น 3 นิ้ว สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ แต่มีน้ำหลากจาก ต.บ้านหม้ เริ่มไหลเข้า อ.บ้านลาด เพราะเขื่อนของเทศบาลบ้านลาดมีน้ำกัดเซาะ หากระดับน้ำสูงขึ้นถึง 6 นิ้ว น้ำก็จะท่วมใน อ.บ้านลาดแน่นอน ขณะที่น้ำจากแม่น้ำเพชรได้ล้นเอ่อข้าม ถ.เพชรเกษม ช่วงแยกบันไดอิฐ ถึงแยก อ.บ้านลาด ระดับน้ำสูง 30-40 ซม.ระยะทาง 800 เมตร ทำให้การจราจรติดขัด เคลื่อนตัวได้อย่างช้าๆ
** ผู้ว่าฯถกเครียดหาทางช่วย ปชช.
โดยตลอดทั้งวัน นางฉัตรพร ราษฎร์ดุษดี ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ได้ประชุมหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาอุทกภัยของ จ.เพชรบุรี เพื่อรับทราบสถานการณ์ ปัญหา อุปสรรค และการดำเนินการแก้ไขปัญหา ได้กำชับให้ทุกฝ่ายเน้นในด้านการช่วยเหลือประชาชนเป็นหลัก
สำหรับเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ถือว่าหนักที่สุดจากที่เคยเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใน อ.เมืองเพชรบุรี ที่ผ่านมา โดยสาเหตุหลักเกิดจากกรณีที่มีฝนตกหนักลงมาต่อเนื่องในพื้นที่ จ.เพชรบุรี ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค.59 เป็นเวลากว่า 5 วัน ทำให้น้ำในเขื่อนแม่ประจันต์ เขื่อนห้วยผาก มีปริมาณมากเกินกว่าจะกักเก็บ และได้ล้นประตูกั้นน้ำออกมาลงคลองระบายน้ำ โดยปริมาณน้ำดังกล่าวได้มารวมที่เขื่อนเพชร เป็นมวลน้ำก้อนใหญ่ ทำให้โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพชรบุรี (เขื่อนเพชร) ต้องเปิดระบายน้ำอยู่ที่ 228 ลบ.ม.ต่อวินาที ส่งผลให้เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งแม่น้ำเพชรบุรี และทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ทรัพย์สินได้รับความเสียหาย สร้างความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก
** คาดอีก 3 คืนสภาวะปกติ
นายสันต์ จรเจริญ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเพชรบุรี แจ้งว่า สถานการณ์น้ำในแม่น้ำเพชรบุรี ปริมาณน้ำเหนือเขื่อนเพชรลดลง 4 เซนติเมตร ระบายน้ำในอัตรา 228 ลบ.ม.ต่อ วินาที ขณะนี้ได้หรี่บานประตูระบายน้ำที่เขื่อนห้วยแม่ประจันต์ลง การระบายน้ำลงคลองส่งน้ำที่กะว่าจะระบายเต็มที่คือ 50 ลบ.ม.ต่อวินาทีนั้น ได้เจรจากับเกษตรกรแล้ว สามารถทำได้เพียง 40 ลบ.ม.ต่อวินาที ในขณะที่บางสายยังให้ระบายได้เท่าเดิม อย่างไรก็ดี หากไม่มีฝนตกลงมาอีก คาดว่าภายในคืนนี้ (3 พ.ย.) น้ำจะเริ่มลดระดับลง คาดว่าว่าน่าจะใช้เวลาประมาณ 3 วัน จึงจะต่ำกว่าระดับท่วม ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับว่าน้ำทะเลจะหนุนหรือไม่ สำหรับถุงยังชีพจังหวัดเพชรบุรีได้รับการสนับสนุนจากสภากาชาดไทย มูลนิธิราชประชาสมาศัย และจากที่ต่างๆ จะได้ทำการแพก และทยอยแจกให้.
วานนี้ (3 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมใน จ.เพชรบุรี ว่า ยังไม่คลี่คลาย ขณะนี้ทั้งเมืองเพชรบุรี เต็มไปด้วยน้ำ รวมถึงบน ถ.เพชรเกษม บริเวณตั้งแต่โรงพยาบาลเพชรรัชต์ ไปถึงทางยกระดับทางหลวง-บ้านลาด ยังคงมีน้ำท่วมสูงโดยรถเล็กสามารถใช้เส้นทางเลนขวาได้เพียงเลนเดียว ทำให้การจราจรค่อนข้างติดขัด แต่สามารถเคลื่อนตัวไปได้ช้าๆ โดยวันนี้ระดับน้ำเพิ่มสูงมากขึ้น และคาดว่าในช่วงบ่ายน้ำได้ขึ้นสูงเพิ่มขึ้นอีก
** เดือดร้อนแล้วไม่ต่ำ 5 พันครัวเรือน
ทั้งนี้ในเขต อ.เมืองเพชรบุรี ริมตลิ่งริมแม่น้ำเพชรบุรี บริเวณ ต.คลองกระแชง และ ต.ท่าราบ มีกำแพงพังลงมา ทำให้มวลน้ำจำนวนมากไหลบ่าเข้าท่วมถนนหลายสาย เช่น ถ.ราชดำเนิน ถ.บริพัตร และ ถ.บันไดอิฐ ซึ่งเป็นถนนสายเส้นหลักสำหรับใช้รถสัญจรในเมืองเพชร มีน้ำท่วมขังสูงประมาณ 1 เมตร บางจุดน้ำได้ทะลักเข้าไปภายในบ้านของประชาชน และร้านค้าตลอดทั้งสองฝั่งทาง มีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 5,000 หลังคาเรือน ขณะเดียวกัน ตามสถานที่ราชการ และโรงเรียนเด็กเล็กในเขตเทศบาลเมืองเพชรบุรี ได้ประกาศหยุดเรียนทั้งหมด เนื่องจากปริมาณเพิ่มสูงมากขึ้นรถเล็กไม่สามารถใช้เส้นทางดังกล่าวได้
ส่วน อ.บ้านแหลม มีพื้นที่น้ำท่วมเพิ่มขึ้นเป็น 5 ตำบล 26 หมู่บ้าน ประชาชนเดือดร้อน 2,000 กว่าหลังคาเรือน อ.บ้านลาด ระดับน้ำสูงขึ้น 3 นิ้ว สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ แต่มีน้ำหลากจาก ต.บ้านหม้ เริ่มไหลเข้า อ.บ้านลาด เพราะเขื่อนของเทศบาลบ้านลาดมีน้ำกัดเซาะ หากระดับน้ำสูงขึ้นถึง 6 นิ้ว น้ำก็จะท่วมใน อ.บ้านลาดแน่นอน ขณะที่น้ำจากแม่น้ำเพชรได้ล้นเอ่อข้าม ถ.เพชรเกษม ช่วงแยกบันไดอิฐ ถึงแยก อ.บ้านลาด ระดับน้ำสูง 30-40 ซม.ระยะทาง 800 เมตร ทำให้การจราจรติดขัด เคลื่อนตัวได้อย่างช้าๆ
** ผู้ว่าฯถกเครียดหาทางช่วย ปชช.
โดยตลอดทั้งวัน นางฉัตรพร ราษฎร์ดุษดี ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ได้ประชุมหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาอุทกภัยของ จ.เพชรบุรี เพื่อรับทราบสถานการณ์ ปัญหา อุปสรรค และการดำเนินการแก้ไขปัญหา ได้กำชับให้ทุกฝ่ายเน้นในด้านการช่วยเหลือประชาชนเป็นหลัก
สำหรับเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ถือว่าหนักที่สุดจากที่เคยเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใน อ.เมืองเพชรบุรี ที่ผ่านมา โดยสาเหตุหลักเกิดจากกรณีที่มีฝนตกหนักลงมาต่อเนื่องในพื้นที่ จ.เพชรบุรี ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค.59 เป็นเวลากว่า 5 วัน ทำให้น้ำในเขื่อนแม่ประจันต์ เขื่อนห้วยผาก มีปริมาณมากเกินกว่าจะกักเก็บ และได้ล้นประตูกั้นน้ำออกมาลงคลองระบายน้ำ โดยปริมาณน้ำดังกล่าวได้มารวมที่เขื่อนเพชร เป็นมวลน้ำก้อนใหญ่ ทำให้โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพชรบุรี (เขื่อนเพชร) ต้องเปิดระบายน้ำอยู่ที่ 228 ลบ.ม.ต่อวินาที ส่งผลให้เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งแม่น้ำเพชรบุรี และทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ทรัพย์สินได้รับความเสียหาย สร้างความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก
** คาดอีก 3 คืนสภาวะปกติ
นายสันต์ จรเจริญ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเพชรบุรี แจ้งว่า สถานการณ์น้ำในแม่น้ำเพชรบุรี ปริมาณน้ำเหนือเขื่อนเพชรลดลง 4 เซนติเมตร ระบายน้ำในอัตรา 228 ลบ.ม.ต่อ วินาที ขณะนี้ได้หรี่บานประตูระบายน้ำที่เขื่อนห้วยแม่ประจันต์ลง การระบายน้ำลงคลองส่งน้ำที่กะว่าจะระบายเต็มที่คือ 50 ลบ.ม.ต่อวินาทีนั้น ได้เจรจากับเกษตรกรแล้ว สามารถทำได้เพียง 40 ลบ.ม.ต่อวินาที ในขณะที่บางสายยังให้ระบายได้เท่าเดิม อย่างไรก็ดี หากไม่มีฝนตกลงมาอีก คาดว่าภายในคืนนี้ (3 พ.ย.) น้ำจะเริ่มลดระดับลง คาดว่าว่าน่าจะใช้เวลาประมาณ 3 วัน จึงจะต่ำกว่าระดับท่วม ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับว่าน้ำทะเลจะหนุนหรือไม่ สำหรับถุงยังชีพจังหวัดเพชรบุรีได้รับการสนับสนุนจากสภากาชาดไทย มูลนิธิราชประชาสมาศัย และจากที่ต่างๆ จะได้ทำการแพก และทยอยแจกให้.