วานนี้ (2 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.เพชรบุรี ตั้งแต่วันที่ 31 ต.ค.จนวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมาว่า สถานการณ์ยังอยู่ในขั้นวิกฤต เนื่องจากมีการเร่งระบายน้ำจากอ่างแม่ประจันต์ อ.หนองหญ้าปล้อง ลงสู่แม่น้ำเพชรบุรี ผ่านเขื่อนเพชร ทำให้ทางเขื่อนเพชรต้องเร่งระบายน้ำลงแม่น้ำเพชรบุรีเป็นการด่วน ส่งผลให้พื้นที่ท้ายเขื่อนเพชร ตั้งแต่ อ.ท่ายาง อ.บ้านลาด อ.เมืองเพชรบุรี และ อ.บ้านแหลมได้รับผลกระทบจากน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมถนนสายหลักเกือบทุกสายในเขตเทศบาลเมืองเพชรบุรี
โดยเฉพาะถนนเพชรเกษมทั้งขาขึ้น กทม.และลองใต้ในระดับสูง จนรถเล็กไม่สามารถวิ่งผ่านได้ และเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนจนได้รับความเดือดร้อนกันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ อ.เมืองเพชรบุรี และ อ.บ้านแหลม ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนกันอย่างหนัก
รายงานข่าวแจ้งว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมดังกล่าวทำให้ทุกโรงเรียนในตัวเมืองเพชรบุรี ปกติจะต้องเปิดเรียนตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมาต้องประกาศหยุดเรียนไปจนถึงวันที่ 7 พ.ย.59 ขณะที่บางโรงเรียนประกาศปิดการเรียนการสอนโดยยังไม่มีกำหนดเปิดเรียน เนื่องจากสถานการณ์น้ำยังไม่คลี่คลาย
ขณะที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเพชรบุรี ได้รายงานสถานการณ์พื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมว่า ในเขต อ.เมืองเพชรบุรี ที่ถูกน้ำท่วมมีทั้งหมด 6 ตำบล ประกอบด้วย ต.บ้านกุ่ม หมู่ 1-13 บ้านเรือนราษฎรประมาณ 150 ครัวเรือน, ต.บ้านหม้อ หมู่ 1-4 บ้านเรือนราษฎร ประมาณ 1,500 ครัวเรือน น้ำท่วมขังถนนเพชรเกษมขาล่องใต้ ช่วงโรงพิมพ์เพชรภูมิ-แยกทางไปบ้านลาดยาวกว่า 500 เมตร สูง 30 เซนติเมตร, ต.หนองโสน หมู่ 1, 2, 5 และ 7 บ้านเรือนราษฎรประมาณ 100 ครัวเรือน, ต.ต้นมะม่วง หมู่ 1,3 และ 6 บ้านเรือนราษฎรประมาณ 130 ครัวเรือน และ ต.ธงชัย หมู่ 2 บ้านเรือนราษฎรประมาณ 80 ครัวเรือน, 6.เทศบาลเมืองเพชรบุรี ถ.ดำเนินเกษม, มาตยาวงศ์, เพชรพลี, บริพัตร, คีรีรัถยา, ราชวิถี และสี่แยกโรงเรียนอรุณประดิษฐ์ มีน้ำท่วมขังระดับฟุตปาธ
ส่วนที่ อ.บ้านแหลม พบ 3 ตำบลที่ถูกน้ำท่วม ประกอบด้วย ต.บางครก หมู่ 1-4, 6, 7, 10, 12 บ้านเรือนราษฎรประมาณ 150 ครัวเรือน, ต.ท่าแร้ง 1-3 และ 6, 7 บ้านเรือนราษฎรประมาณ 150 ครัวเรือน และ ต.ท่าแร้งออก หมู่ 1-4
นายสันต์ จรเจริญ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานจังหวัดเพชรบุรี เปิดเผยว่า ปัจจุบันชลประทานได้ระบายน้ำจากอ่างแม่ประจันต์ ลงสู่แม่น้ำเพชรบุรี ผ่านเขื่อนเพชร ในอัตราประมาณ 210 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หลังเกิดฝนตกต่อเนื่อง ส่งผลให้น้ำล้นตลิ่งแม่น้ำเพชรบุรี เข้าท่วมพื้นที่ 2 อำเภอ ประกอบด้วย อ.บ้านแหลม และ อ.เมืองบางส่วน ทั้งนี้ จากการสำรวจข้อมูลคาดว่า 1- 2 วันนี้จะไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มเติมซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดี โดย ชลประทานจังหวัดเพชรบุรี มีแนวโน้มจะลดการระบายน้ำลง แต่หากกรณีที่มีฝนตกลงมาก็จะพยายามคงเกณฑ์การระบายไว้ให้อยู่ในระดับดังกล่าว
ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา ได้พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าตั้งแต่เวลา 12.00 น.วานนี้ถึงเวลา 12.00 น.วันนี้ (3พ.ย.) ว่า ภาคใต้ยังคงมีฝนตกชุกกับมีฝนตกหนักบางแห่ง ในบริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากได้ในระยะนี้ สำหรับประเทศไทยตอนบนมีฝนลดน้อยลง กับมีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลมีฝนลดน้อยลง
โดยเฉพาะถนนเพชรเกษมทั้งขาขึ้น กทม.และลองใต้ในระดับสูง จนรถเล็กไม่สามารถวิ่งผ่านได้ และเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนจนได้รับความเดือดร้อนกันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ อ.เมืองเพชรบุรี และ อ.บ้านแหลม ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนกันอย่างหนัก
รายงานข่าวแจ้งว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมดังกล่าวทำให้ทุกโรงเรียนในตัวเมืองเพชรบุรี ปกติจะต้องเปิดเรียนตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมาต้องประกาศหยุดเรียนไปจนถึงวันที่ 7 พ.ย.59 ขณะที่บางโรงเรียนประกาศปิดการเรียนการสอนโดยยังไม่มีกำหนดเปิดเรียน เนื่องจากสถานการณ์น้ำยังไม่คลี่คลาย
ขณะที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเพชรบุรี ได้รายงานสถานการณ์พื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมว่า ในเขต อ.เมืองเพชรบุรี ที่ถูกน้ำท่วมมีทั้งหมด 6 ตำบล ประกอบด้วย ต.บ้านกุ่ม หมู่ 1-13 บ้านเรือนราษฎรประมาณ 150 ครัวเรือน, ต.บ้านหม้อ หมู่ 1-4 บ้านเรือนราษฎร ประมาณ 1,500 ครัวเรือน น้ำท่วมขังถนนเพชรเกษมขาล่องใต้ ช่วงโรงพิมพ์เพชรภูมิ-แยกทางไปบ้านลาดยาวกว่า 500 เมตร สูง 30 เซนติเมตร, ต.หนองโสน หมู่ 1, 2, 5 และ 7 บ้านเรือนราษฎรประมาณ 100 ครัวเรือน, ต.ต้นมะม่วง หมู่ 1,3 และ 6 บ้านเรือนราษฎรประมาณ 130 ครัวเรือน และ ต.ธงชัย หมู่ 2 บ้านเรือนราษฎรประมาณ 80 ครัวเรือน, 6.เทศบาลเมืองเพชรบุรี ถ.ดำเนินเกษม, มาตยาวงศ์, เพชรพลี, บริพัตร, คีรีรัถยา, ราชวิถี และสี่แยกโรงเรียนอรุณประดิษฐ์ มีน้ำท่วมขังระดับฟุตปาธ
ส่วนที่ อ.บ้านแหลม พบ 3 ตำบลที่ถูกน้ำท่วม ประกอบด้วย ต.บางครก หมู่ 1-4, 6, 7, 10, 12 บ้านเรือนราษฎรประมาณ 150 ครัวเรือน, ต.ท่าแร้ง 1-3 และ 6, 7 บ้านเรือนราษฎรประมาณ 150 ครัวเรือน และ ต.ท่าแร้งออก หมู่ 1-4
นายสันต์ จรเจริญ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานจังหวัดเพชรบุรี เปิดเผยว่า ปัจจุบันชลประทานได้ระบายน้ำจากอ่างแม่ประจันต์ ลงสู่แม่น้ำเพชรบุรี ผ่านเขื่อนเพชร ในอัตราประมาณ 210 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หลังเกิดฝนตกต่อเนื่อง ส่งผลให้น้ำล้นตลิ่งแม่น้ำเพชรบุรี เข้าท่วมพื้นที่ 2 อำเภอ ประกอบด้วย อ.บ้านแหลม และ อ.เมืองบางส่วน ทั้งนี้ จากการสำรวจข้อมูลคาดว่า 1- 2 วันนี้จะไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มเติมซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดี โดย ชลประทานจังหวัดเพชรบุรี มีแนวโน้มจะลดการระบายน้ำลง แต่หากกรณีที่มีฝนตกลงมาก็จะพยายามคงเกณฑ์การระบายไว้ให้อยู่ในระดับดังกล่าว
ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา ได้พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าตั้งแต่เวลา 12.00 น.วานนี้ถึงเวลา 12.00 น.วันนี้ (3พ.ย.) ว่า ภาคใต้ยังคงมีฝนตกชุกกับมีฝนตกหนักบางแห่ง ในบริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากได้ในระยะนี้ สำหรับประเทศไทยตอนบนมีฝนลดน้อยลง กับมีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลมีฝนลดน้อยลง
