การประชุมสมัชชาสหประชาชาติเพื่อสดุดีและถวายพระเกียรติผลงานของพ่อหลวงรัชกาลที่ 9 ของปวงชนชาวไทยสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นวาระพิเศษ โดยเป็นงานสำคัญซึ่งจัดทำไม่บ่อยนัก ทุกวันนี้ยังไม่มีใครชี้แจงว่างานแบบนี้ยูเอ็นได้เคยจัดให้บุคคลสำคัญท่านใดบ้างหรือไม่
ถัดจากวันสวรรคต ที่ประชุมสมาชิกของสหประชาชาติได้จัดทำพิธียืนไว้อาลัยเป็นเวลา 1 นาที จากนั้นได้มีการลดธงยูเอ็นลงครึ่งเสา เก็บธงชาติของสมาชิกออกจากเสาหน้าสำนักงานองค์การ ก่อนวาระสำคัญยิ่งซึ่งตัวแทนกลุ่มประเทศในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลกได้ผลัดกันออกมากล่าวสดุดีและกล่าวไว้อาลัยพระองค์ท่าน โดยใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง
นึกไม่ออกจริงๆ ว่าบุคคลใดในโลกเคยได้รับการกล่าวไว้อาลัยในระดับนี้ในยูเอ็น! ที่ผ่านมา เราเพียงได้เคยเห็นการยืนไว้อาลัย 1 นาที ซึ่งเป็นธรรมเนียมปฏิบัติสากลโดยทั่วไป การจัดวาระพิเศษโดยที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาตินับว่าอยู่เหนือความคาดหมาย
องค์กรนี้แหละที่ได้เทิดพระเกียรติของพระองค์ท่านหลายวาระแล้วเช่นกัน
คำพูดของตัวแทนแต่ละกลุ่มประเทศในภูมิภาคต่างๆ ของโลกในการสดุดีพระองค์ท่านมิได้เกินเลย ด้วยเหตุผลของเวลาอันจำกัด ทั้งได้ใจความสำคัญ ท่าทีของทุกคนเป็นการพูดที่ออกจากใจมีเนื้อหาสาระ ไม่ใช่เพียงมายืนอ่านข้อความให้เป็นพิธีเท่านั้น
แต่เป็นการยอมรับระดับสากลโดยประชาคมโลกอย่างแท้จริง!
ในถ้อยคำสดุดีทั้งมวล ตัวแทนของสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ นางซาแมนธา พาวเวอร์ ได้มีคำไว้อาลัยซึ่งบรรยายความได้ลึกซึ้งนานกว่าตัวแทนจากกลุ่มประเทศอื่นๆ มีประเด็นความใกล้ชิดผูกพันระหว่างพระองค์ท่านกับประเทศสหรัฐฯ ซึ่งเป็นแผ่นดินเกิด
นางพาวเวอร์ ยังมีความผูกพันในฐานะอดีตอาจารย์พิเศษของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดโดยที่จตุรัสองค์กษัตริย์ภูมิพลอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยนั่นเอง เป็นจุดสำคัญซึ่งคนไทยที่ไปรัฐแมสซาชูเซตต์ต้องการไปเยือนเพื่อเป็นที่ระลึกว่าพระองค์ได้เป็นส่วนหนึ่งของเมือง
ประเด็นสำคัญที่ต้องการชี้ให้เห็นคือพระองค์ท่านได้รับการยกย่องอย่างมากโดยประเทศต่างๆ ทั่วโลก ว่าได้เป็นต้นแบบของบูรพกษัตริย์ซึ่งได้ทรงทุ่มเทพระวรกายในการทรงงานเพื่อช่วยเหลือความเป็นอยู่พสกนิกรของพระองค์ท่านในโครงการต่างๆ ทั่วประเทศ
คำกล่าวสดุดีพระเกียรติของพระองค์ท่าน โดยตัวแทนกลุ่มประเทศสมาชิกเป็นที่รับรู้กันทั่วโลกได้ตอกย้ำอีกครั้งถึงผลงานในความเป็นเอกบุรุษของพระองค์ตลอดวาระการครองราชย์ 70 ปี เป็นแสงสว่างส่องทางให้ประชาชนคนไทยทุกคนได้มีแนวทางชีวิตเป็นสุข
ด้วยเหตุนี้ ความโดดเด่น ทรงเกียรติภูมิสูงส่งของพระองค์ท่าน จึงมีกฎหมายพิเศษ มาตรา 112 เพื่อปกป้องคุ้มครองสถาบันกษัตริย์ทุกยุคสมัยจากการประสงค์ร้ายโดยกลุ่มคนไทย “ไม่เอาเจ้า” และคนไทยแปลงสัญชาติอื่นๆ ในต่างประเทศซึ่งได้มีพฤติกรรมเลวทรามต่ำช้า มีเจตนาอาฆาตมาดร้ายรุนแรงต่อพระองค์ท่านมาโดยตลอด
กฎหมายมาตรา 112 ได้เป็นเป้าหมายของการโจมตีโดยคนไทยไม่เอาเจ้า และกลุ่มฝรั่งมังค่าชาวต่างชาติ โดยอ้างสิทธิเสรีภาพภายใต้ระบอบประชาธิปไตย ไม่คำนึงถึงความสำคัญที่ประมุขและผู้นำของทุกประเทศย่อมได้รับความคุ้มครองโดยกฎหมายพิเศษ
ทำไมประเทศไทยต้องมีมาตรา 112 ถ้าจิตสำนึกการรับรู้ไม่มืดบอด วิญญูชนย่อมตระหนักถึงความเป็นจริงในถ้อยคำสดุดีในที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ คุณงามความดีของพระองค์ท่านเป็นที่ยกย่องของคนทั้งโลก โดยเฉพาะในกลุ่มราชวงศ์และผู้นำรัฐบาล
วาระพิเศษของสมัชชาสหประชาชาติ จึงสะท้อนให้เห็นความจำเป็นของประเทศไทยซึ่งต้องมีกฎหมายพิเศษเพื่อปกป้องสถาบันกษัตริย์ ราชวงศ์ในประเทศอื่นๆ มิได้เผชิญพฤติกรรมเลวทราม ถ้อยคำจาบจ้วงหยาบช้า เป็นขบวนการการมุ่งร้ายหมายขวัญอย่างนี้
บุคคลธรรมดายังได้รับความคุ้มครองโดยกฎหมายเกี่ยวกับการหมิ่นประมาท! กลุ่มประเทศตะวันตก องค์กรสากลต่างๆ และประเทศสหรัฐฯ ซึ่งได้วิพากษ์วิจารณ์กฎหมายมาตรา 112 ควรรู้ซึ้งถึงเหตุผลและความจำเป็นผ่านคำสดุดีของนางซาแมนธา พาวเวอร์
ราชวงศ์กษัตริย์ในประเทศอื่นๆ เช่นในอังกฤษ เพียงถูกติดตามถ่ายภาพโดยกลุ่มช่างภาพปาปารัสซี่ การนำเอกสารมาเปิดเผย เป็นเพียงบางช่วงเวลา ระดับของการเสื่อมเกียรติไม่ได้เป็นการคุกคามเหมือนการใส่ร้ายอย่างหยาบคาย บิดเบือนด้วยข้อมูลเท็จ
มีกลุ่มคนไทยชั่วร้าย และคนไทยแปลงสัญชาติในต่างประเทศที่พยายามขยายแผนและพฤติกรรม “ไม่เอาสถาบันกษัตริย์” โดยไร้จิตสำนึก ทำเป็นขบวนการ มีทุนสนับสนุนยาวนานหลายสิบปีผ่านสื่อต่างๆ นับวันจะขยายกิจกรรมจาบจ้วง หมิ่นหยามอย่างรุนแรง
ที่ผ่านมา รัฐบาลยังมิได้พยายามอย่างจริงจังในการจัดการปัญหาการกล่าวร้ายผ่านสื่อโซเชียลและสื่อทางเลือก กลุ่มสัตว์นรกมาเกิดได้ใช้สถานที่ถิ่นอยู่ในต่างประเทศทำร้ายสถาบันกษัตริย์ โดยรัฐบาลประเทศเหล่านั้นอ้างสิทธิเสรีภาพ การไร้สภาพกฎหมายบังคับ
ถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลไทยต้องทุ่มเททรัพยากรเพื่อจัดการกลุ่มคนไทยชั่วร้าย อย่าปล่อยให้ลอยนวล คนไทยโดยทั่วไปน่าจะเป็นคนมีจิตใจดีงามที่สุดในโลก แต่คนไทยกลุ่มหนึ่งก็ชั่วร้าย ต่ำช้าเลวทรามที่สุดในโลกเช่นเดียวกัน ยังอยู่ดีกินดี มุ่งทำร้ายแผ่นดินเกิด!
รัฐบาลไทยต้องส่งคำถามอย่างจริงจังถึงบรรดาผู้นำ และประชาชนของประเทศที่เป็นแหล่งพักพิงสำหรับสัตว์นรกในร่างคนไทยว่า “พวกท่านยังยินดีเต็มใจเลี้ยงดู อนุเคราะห์พวกกากเดนคน ซึ่งได้มุ่งร้ายต่อบุคคลที่สหประชาชาติสดุดีสูงส่งเช่นนั้นหรือ”
ถามย้ำอีก “ประเทศของท่านได้รับรู้ความดีของพระองค์ท่าน เหตุไฉนท่านยังเห็นความสัมพันธ์กับประเทศไทยด้อยค่ากว่าการที่ท่านอุ้มชูคนไทยชั่วร้ายเลวทรามเหล่านั้น”
ถัดจากวันสวรรคต ที่ประชุมสมาชิกของสหประชาชาติได้จัดทำพิธียืนไว้อาลัยเป็นเวลา 1 นาที จากนั้นได้มีการลดธงยูเอ็นลงครึ่งเสา เก็บธงชาติของสมาชิกออกจากเสาหน้าสำนักงานองค์การ ก่อนวาระสำคัญยิ่งซึ่งตัวแทนกลุ่มประเทศในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลกได้ผลัดกันออกมากล่าวสดุดีและกล่าวไว้อาลัยพระองค์ท่าน โดยใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง
นึกไม่ออกจริงๆ ว่าบุคคลใดในโลกเคยได้รับการกล่าวไว้อาลัยในระดับนี้ในยูเอ็น! ที่ผ่านมา เราเพียงได้เคยเห็นการยืนไว้อาลัย 1 นาที ซึ่งเป็นธรรมเนียมปฏิบัติสากลโดยทั่วไป การจัดวาระพิเศษโดยที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาตินับว่าอยู่เหนือความคาดหมาย
องค์กรนี้แหละที่ได้เทิดพระเกียรติของพระองค์ท่านหลายวาระแล้วเช่นกัน
คำพูดของตัวแทนแต่ละกลุ่มประเทศในภูมิภาคต่างๆ ของโลกในการสดุดีพระองค์ท่านมิได้เกินเลย ด้วยเหตุผลของเวลาอันจำกัด ทั้งได้ใจความสำคัญ ท่าทีของทุกคนเป็นการพูดที่ออกจากใจมีเนื้อหาสาระ ไม่ใช่เพียงมายืนอ่านข้อความให้เป็นพิธีเท่านั้น
แต่เป็นการยอมรับระดับสากลโดยประชาคมโลกอย่างแท้จริง!
ในถ้อยคำสดุดีทั้งมวล ตัวแทนของสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ นางซาแมนธา พาวเวอร์ ได้มีคำไว้อาลัยซึ่งบรรยายความได้ลึกซึ้งนานกว่าตัวแทนจากกลุ่มประเทศอื่นๆ มีประเด็นความใกล้ชิดผูกพันระหว่างพระองค์ท่านกับประเทศสหรัฐฯ ซึ่งเป็นแผ่นดินเกิด
นางพาวเวอร์ ยังมีความผูกพันในฐานะอดีตอาจารย์พิเศษของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดโดยที่จตุรัสองค์กษัตริย์ภูมิพลอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยนั่นเอง เป็นจุดสำคัญซึ่งคนไทยที่ไปรัฐแมสซาชูเซตต์ต้องการไปเยือนเพื่อเป็นที่ระลึกว่าพระองค์ได้เป็นส่วนหนึ่งของเมือง
ประเด็นสำคัญที่ต้องการชี้ให้เห็นคือพระองค์ท่านได้รับการยกย่องอย่างมากโดยประเทศต่างๆ ทั่วโลก ว่าได้เป็นต้นแบบของบูรพกษัตริย์ซึ่งได้ทรงทุ่มเทพระวรกายในการทรงงานเพื่อช่วยเหลือความเป็นอยู่พสกนิกรของพระองค์ท่านในโครงการต่างๆ ทั่วประเทศ
คำกล่าวสดุดีพระเกียรติของพระองค์ท่าน โดยตัวแทนกลุ่มประเทศสมาชิกเป็นที่รับรู้กันทั่วโลกได้ตอกย้ำอีกครั้งถึงผลงานในความเป็นเอกบุรุษของพระองค์ตลอดวาระการครองราชย์ 70 ปี เป็นแสงสว่างส่องทางให้ประชาชนคนไทยทุกคนได้มีแนวทางชีวิตเป็นสุข
ด้วยเหตุนี้ ความโดดเด่น ทรงเกียรติภูมิสูงส่งของพระองค์ท่าน จึงมีกฎหมายพิเศษ มาตรา 112 เพื่อปกป้องคุ้มครองสถาบันกษัตริย์ทุกยุคสมัยจากการประสงค์ร้ายโดยกลุ่มคนไทย “ไม่เอาเจ้า” และคนไทยแปลงสัญชาติอื่นๆ ในต่างประเทศซึ่งได้มีพฤติกรรมเลวทรามต่ำช้า มีเจตนาอาฆาตมาดร้ายรุนแรงต่อพระองค์ท่านมาโดยตลอด
กฎหมายมาตรา 112 ได้เป็นเป้าหมายของการโจมตีโดยคนไทยไม่เอาเจ้า และกลุ่มฝรั่งมังค่าชาวต่างชาติ โดยอ้างสิทธิเสรีภาพภายใต้ระบอบประชาธิปไตย ไม่คำนึงถึงความสำคัญที่ประมุขและผู้นำของทุกประเทศย่อมได้รับความคุ้มครองโดยกฎหมายพิเศษ
ทำไมประเทศไทยต้องมีมาตรา 112 ถ้าจิตสำนึกการรับรู้ไม่มืดบอด วิญญูชนย่อมตระหนักถึงความเป็นจริงในถ้อยคำสดุดีในที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ คุณงามความดีของพระองค์ท่านเป็นที่ยกย่องของคนทั้งโลก โดยเฉพาะในกลุ่มราชวงศ์และผู้นำรัฐบาล
วาระพิเศษของสมัชชาสหประชาชาติ จึงสะท้อนให้เห็นความจำเป็นของประเทศไทยซึ่งต้องมีกฎหมายพิเศษเพื่อปกป้องสถาบันกษัตริย์ ราชวงศ์ในประเทศอื่นๆ มิได้เผชิญพฤติกรรมเลวทราม ถ้อยคำจาบจ้วงหยาบช้า เป็นขบวนการการมุ่งร้ายหมายขวัญอย่างนี้
บุคคลธรรมดายังได้รับความคุ้มครองโดยกฎหมายเกี่ยวกับการหมิ่นประมาท! กลุ่มประเทศตะวันตก องค์กรสากลต่างๆ และประเทศสหรัฐฯ ซึ่งได้วิพากษ์วิจารณ์กฎหมายมาตรา 112 ควรรู้ซึ้งถึงเหตุผลและความจำเป็นผ่านคำสดุดีของนางซาแมนธา พาวเวอร์
ราชวงศ์กษัตริย์ในประเทศอื่นๆ เช่นในอังกฤษ เพียงถูกติดตามถ่ายภาพโดยกลุ่มช่างภาพปาปารัสซี่ การนำเอกสารมาเปิดเผย เป็นเพียงบางช่วงเวลา ระดับของการเสื่อมเกียรติไม่ได้เป็นการคุกคามเหมือนการใส่ร้ายอย่างหยาบคาย บิดเบือนด้วยข้อมูลเท็จ
มีกลุ่มคนไทยชั่วร้าย และคนไทยแปลงสัญชาติในต่างประเทศที่พยายามขยายแผนและพฤติกรรม “ไม่เอาสถาบันกษัตริย์” โดยไร้จิตสำนึก ทำเป็นขบวนการ มีทุนสนับสนุนยาวนานหลายสิบปีผ่านสื่อต่างๆ นับวันจะขยายกิจกรรมจาบจ้วง หมิ่นหยามอย่างรุนแรง
ที่ผ่านมา รัฐบาลยังมิได้พยายามอย่างจริงจังในการจัดการปัญหาการกล่าวร้ายผ่านสื่อโซเชียลและสื่อทางเลือก กลุ่มสัตว์นรกมาเกิดได้ใช้สถานที่ถิ่นอยู่ในต่างประเทศทำร้ายสถาบันกษัตริย์ โดยรัฐบาลประเทศเหล่านั้นอ้างสิทธิเสรีภาพ การไร้สภาพกฎหมายบังคับ
ถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลไทยต้องทุ่มเททรัพยากรเพื่อจัดการกลุ่มคนไทยชั่วร้าย อย่าปล่อยให้ลอยนวล คนไทยโดยทั่วไปน่าจะเป็นคนมีจิตใจดีงามที่สุดในโลก แต่คนไทยกลุ่มหนึ่งก็ชั่วร้าย ต่ำช้าเลวทรามที่สุดในโลกเช่นเดียวกัน ยังอยู่ดีกินดี มุ่งทำร้ายแผ่นดินเกิด!
รัฐบาลไทยต้องส่งคำถามอย่างจริงจังถึงบรรดาผู้นำ และประชาชนของประเทศที่เป็นแหล่งพักพิงสำหรับสัตว์นรกในร่างคนไทยว่า “พวกท่านยังยินดีเต็มใจเลี้ยงดู อนุเคราะห์พวกกากเดนคน ซึ่งได้มุ่งร้ายต่อบุคคลที่สหประชาชาติสดุดีสูงส่งเช่นนั้นหรือ”
ถามย้ำอีก “ประเทศของท่านได้รับรู้ความดีของพระองค์ท่าน เหตุไฉนท่านยังเห็นความสัมพันธ์กับประเทศไทยด้อยค่ากว่าการที่ท่านอุ้มชูคนไทยชั่วร้ายเลวทรามเหล่านั้น”
