ผู้จัดการรายวัน 360 - สมเด็จพระบรมฯพร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ ทรงบำเพ็ญพระราชกุศล “ปัณรสมวาร” ทรงวางพวงมาลาจาก “ราชินี” ที่หน้าพระโกศพระบรมศพ “รัฐสภา - ทำเนียบฯ” น้อมใจจัดพิธีบำเพ็ญพระราชกุศล กองงานฯพระบรมฯเผยเพิ่มอาหาร-ผลไม้รับมหาชน 29 ต.ค. “ทูตวีระชัย” ระบุที่ประชุมสมัชชา UN ประชุมถวายพระเกียรติแด่ “ในหลวง ร.9” คืนนี้ ให้ผู้แทนประเทศต่างๆขึ้นกล่าวสดุดี พร้อมยิงสดผ่าน webcast ของสหประชาชาติ
วานนี้ (27 ต.ค.) เวลา 17.15 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ถึงพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ บำเพ็ญพระราชกุศลปัณรสมวาร (15 วัน) พระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยมีพระบรมวงศานุวงศ์ คณะองคมนตรี คณะรัฐมนตรี คณะตุลาการ คณะสมาชิกสภานิติบัญญัติ และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เฝ้าละอองธุลีพระบาทรับเสด็จฯ
การนี้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร ทรงวางพวงมาลาของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพวงมาลาส่วนพระองค์ ที่หน้าพระโกศพระบรมศพ แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยและเครื่องราชสักการะ กราบถวายบังคมพระบรมศพ ชาวพนักงานประโคมมโหระทึก สังข์ แตรฝรั่ง แตรงอน ปี่ กลองชนะ ปี่พาทย์ ทหารกองเกียรติยศพระบรมศพถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธรูปที่หน้าพระแท่นมหาเศวตฉัตร พระสงฆ์ 30 รูป สวดพระพุทธมนต์ จบ ถวายอนุโมทนา เจ้าพนักงานนิมนต์สมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ถวายพระธรรมเทศนาและสวดธรรมคาถาขึ้นนั่งยังอาสนะ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทรงธรรม สมเด็จพระราชาคณะ ถวายศีล
ต่อมา สมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ถวายพระธรรมเทศนา และพระ 4 รูป สวดธรรมคาถา
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมบูชากัณฑ์เทศน์ และทรงทอดผ้าไตร พระสงฆ์สดับปกรณ์ ถวายอนุโมทนา ทรงกราบพระพุทธรูปประจำพระชนมวารที่หน้าพระแท่นเศวตฉัตร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงกราบถวายบังคมพระบรมศพ ทรงถวายความเคารพพระราชอาสน์
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงจุดธูปเทียนเครื่องบูชากระบะมุกที่หน้าเตียงพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม จากนั้นเสด็จพระราชดำเนินกลับ
อนึ่ง ในการพระราชพิธีในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลปัณรสมวารพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช นั้น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สำนักราชเลขาธิการจัดพิมพ์หนังสือ "การประดิษฐานพระบรมโกศ" หนังสือ "พระเจ้าอยู่หัวแห่งประเทศไทยทรงครองราชย์ครบหมื่นวัน" (ทศพิธราชธรรม ภาษาไทย-อังกฤษ-ฝรั่งเศส) และภาพพระโกศพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ขนาดโปสการ์ด พระราชทานแก่ผู้เข้าร่วมพระราชพิธี เพื่อเป็นอนุสรณ์วิทยาทานด้วย
ขณะที่ในช่วงเช้า เวลา 06.53 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ ให้ ม.ร.ว.จักรรถ จิตรพงศ์ เป็นผู้แทนพระองค์ บำเพ็ญพระราชกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ ซึ่งดำเนินมาเป็นวันที่ 14 และถวายสำรับภัตตาหารเช้าแด่พระพิธีธรรม
ต่อมาเวลา 11.00 น. พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เสด็จฯเป็นประธานถวายภัตตาหารเพลแด่พระพิธีธรรม
จากนั้นในเวลา 15.00 น. ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ
** พสกนิกรหลั่งไหลแสดงความอาลัย
เมื่อเวลา 07.20 น. สำนักพระราชวัง ได้เปิดให้ประชาชนเข้าสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ และลงนามสมุดหลวงแสดงความอาลัย บริเวณศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง โดย ผศ.ดร.จันทร์จิรา วงษ์ขมทอง อธิการบดีมหาวิทยาลัยคริสเตียน จ.นครปฐม นำคณะผู้บริหาร บุคลากรและนักศึกษาชั้นปีที่ 1-4 จำนวนกว่า 500 คน เดินทางจากจังหวัดนครปฐมตั้งแต่ 04.00 น. เข้ามาสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์เป็นกลุ่มแรก
ผศ.ดร.จันทร์จิรา กล่าวว่า วันนี้เรามากันทั้งมหาวิทยาลัยเพื่อมารำลึกและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน มหาวิทยาลัยได้เดินตามรอยเบื้องพระยุคลบาท น้อมนำคำสอนในพระราชดำริเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ตั้งแต่ พ.ศ.2539 โดยให้มีการเรียนการสอนเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงในหลักสูตร การบริหารจัดการในมหาวิทยาลัย โครงการและกิจกรรมต่างๆ ทั้งนี้เพราะพระองค์ท่านทรงเป็นต้นแบบในการดำรงชีวิตที่พระองค์ทรงทำให้เห็นจากความพอเพียงและความมีคุณธรรม นอกจากนี้ได้น้อมนำคำสอนของพระองค์ในการช่วยเหลือสังคม เรามีคณะพยาบาลศาสตร์ คณะกายวิภาคศาสตร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ นักศึกษาของเราได้ออกพื้นที่ไปส่งเสริมดูแลสุขภาพอนามัย วิจัยสิ่งแวดล้อม ในสังคมชุมชนโดยรอบ จากนี้ไปคณะผู้บริหารและเหล่านักศึกษาจะไม่เพียงทำดีเฉพาะช่วงที่พวกเรากำลังโศกเศร้า แต่เราจะทำความดีตลอดไป เพราะพระองค์จะทรงอยู่กับพวกเราตลอดไป อีกทั้งหากเรามีความเคารพ มีน้ำใจ รู้รักสามัคคีต่อกัน ประเทศชาติก็จะยิ่งเจริญขึ้น
น.ส.นภัสนันท์ วงศ์ประภาศรี นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะสหวิทยาการ สาขาการบัญชี มหาวิทยาลัยคริสเตียน เผยว่า เพราะท่านเป็นในหลวงของคนไทย ไม่มีใครในแผ่นดินจะไม่เสียใจ รู้สึกสะเทือนใจมาก พระองค์ท่านทรงทำประโยชน์หลายอย่างไว้ให้พวกเรา อีกทั้งทรงเป็นแบบอย่างให้เรานำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ เช่น ความประหยัด ที่พระองค์ทรงใช้ยาสีฟันบีบจนหมดหลอด หรือการใช้กระดาษอย่างคุ้มค่า ขณะที่ในเรื่องวิชาชีพด้วยเรียนด้านการบัญชีเราต้องมีความซื่อสัตย์ ทำบัญชีตามความเป็นจริง และพึ่งพาตัวเองให้มากที่สุด
นางมาลี ตะวัน และนางศิริวรรณ ธรรมศรี ประชาชนชาวมุสลิมจากจังหวัดพังงา เดินทางมาโดยรถทัวร์ ก่อนมารอสักการะพระบรมศพตั้งแต่ 06.30 น. เผยว่า อยากใช้เวลาตรงนี้ได้อยู่ใกล้ชิดพระองค์ท่านให้มากที่สุด พระองค์เหนื่อยเพื่อพวกเรามาตลอดชีวิต จึงตั้งใจมาแสดงความอาลัยเป็นครั้งสุดท้าย แต่อย่างไรท่านก็ยังอยู่ในใจของพวกเราเสมอ ตอนแรกก่อนจะมายังไม่แน่ใจว่าใส่ชุดมุสลิมมสสักการะพระบรมศพขึ้นไปยังศาลาสหทัยได้ แต่ด้วยพระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ไม่ทรงแบ่งแยกชั้นวรรณะ และศาสนา พระองค์ทรงมีพระเมตตาช่วยเหลือประชาทั่วทุกสารทิศ แม้ไม่เคยเฝ้าฯ รับเสด็จ แต่รับรู้ได้ถึงความรักที่ทรงมีต่อพวกเรา โดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง ปลูกพืชผัก ผลไม้ที่กินได้ มีเหลือก็แจกจ่ายให้เพื่อนบ้าน ที่สำคัญเราจะรักษาแหล่งท่องเที่ยว แผ่นดินของไทย ทรัพย์สมบัติของเราให้สืบทอดต่อไปยังลูกหลานไม่ตกไปเป็นของคนต่างชาติ
เมื่อเวลา16.00 น.สำนักพระราชวังปิดการลงนามแสดงความอาลัย ณ ศาลาสหทัยสมาคมประจำวันที่ 27 ต.ค. มียอดผู้ลงนาม 36,445 คน และยอดเงินทูลเกล้าถวายฯเพื่อบำเพ็ญพระราชกุศล 1,282,210 บาท รวมจนถึงวันที่ 27 ต.ค. จำนวน 9,934,259.25 บาท
** รัฐสภาจัดพิธีบำเพ็ญพระราชกุศล
ที่รัฐสภา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ร่วมกับสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) และคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) จัดพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลปัณรสมวาร น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเป็นพระราชกุศล พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และพิธีกล่าวถวายอาลัย
โดย นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช.กล่าวช่วงหนึ่งว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ ที่ทรงงานหนักเพื่อคนไทยทั้งประเทศ จากนี้ไปจะตั้งปณิธาน รู้รักสามัคคี น้อมนำพระราชดำรัสมาใช้ในชีวิตและการทำงาน เพื่อประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นสำคัญ
จากนั้น สมาชิก สนช. , สปท. , กรธ. , ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ประจำสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ได้ยืนสงบนิ่งถวายอาลัยเป็นเวลา 89 วินาที พร้อมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี จากนั้นได้ทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 89 รูป ถวายเป็นพระราชกุศล
** "ปนัดดา" นำ ขรก.ทำบุญตักบาตร
ขณะที่ทำเนียบรัฐบาล ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายจิรชัย มูลทองโร่ย ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรักษาราชการแทนอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ นำข้าราชการในสังกัดภายในทำเนียบรัฐบาล ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์จำนวน 10 รูป จากวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร เนื่องในการบำเพ็ญพระราชกุศลปัณรสมวาร (15 วัน) พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
พร้อมกันนี้ ม.ล.ปนัดดา ได้นำข้าราชการร่วมกล่าวปฏิญาณตนเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ว่าจะเป็นข้าราชการที่ดี ซื่อสัตย์สุจริต มุ่งมั่นแน่วแน่แก้ไขปัญหาของชาติและประชาชน สร้างสรรค์คุณประโยชน์แก่แผ่นดิน พร้อมส่งเสริมข้าราชการและประชาชนให้น้อมนำคำสอน พระบรมราโชวาท หลักการทรงงาน และหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาเป็นหลักในการดำรงตน และจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความตั้งใจมั่น เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุข พัฒนาบ้านเมืองตามบทบาทหน้าที่ ด้วยความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
จากนั้น ม.ล.ปนัดดา ได้นำข้าราชการร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และยืนแสดงความอาลัยต่อเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ที่บริเวณด้านหน้าตึกสำนักงานปลัดนายกรัฐมนตรี
*** พระบรมฯพระราชทานอาหาร-ผลไม้
วันเดียวกัน ที่เต็นท์หน่วยทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร ซึ่งตั้งอยู่บริเวณท้องสนามหลวงฝั่งทิศใต้ ฝั่งตรงข้ามประตูมณีนพรัตน์ พระบรมมหาราชวัง สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมุฎราชกุมาร ได้พระราชทานอาหาร ผลไม้ ขนมหวาน น้ำดื่ม โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ข้าราชบริพารในกองงานส่วนพระองค์ และหน่วยทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ นำมาแจกจ่ายประชาชน ที่เดินทางมาลงนามถวายความอาลัย และสักการะเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ บนศาลาสหทัยสมาคม สำหรับเมนูอาหารพระราชทานแจกจ่ายประชาชน 27 ต.ค. ประกอบด้วย มื้อเช้า โจ๊กหมูสับตับหมู และนมหนองโพ มื้อกลางวัน ข้าวมันไก่ และเย็นตาโฟวัดแขก น้ำดื่ม และน้ำสมุนไพร ขณะที่ช่วงบ่ายมีของว่าง ได้แก่ ขนมไทย เค้กกล้วยหอม แซนวิช และน้ำสมุนไพร ส่วนมื้อเย็น ข้าวผัดเผ็ดหมูป่า ข้าวไก่ทอด หมูทอดกระเทียม และน้ำดื่ม
เจ้าหน้าที่ในกองงานฯ เปิดเผยว่า ในวันที่ 29 ต.ค. ซึ่งเป็นวันเปิดให้ประชาชนเข้าสักการะพระบรมศพ ที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง เป็นวันแรก คาดว่าจะมีประชาชนเป็นจำนวนมาก จึงได้เพิ่มปริมาณอาหารให้มากขึ้น เพื่อให้เพียงพอกับประชาชน โดยเพิ่มในส่วนของอาหารมื้อกลางวัน และมื้อเย็น รอบละ 5-6 พันชุด ส่วนน้ำดื่มไม่น่าเป็นห่วง เนื่องจากได้เตรียมไว้อย่างเพียงพอ
เจ้าหน้าที่ในกองงานฯกล่าวด้วยว่า สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร ทรงมีรับสั่งว่า ประชาชนเหมือนแขกของพระองค์ ให้ดูแลประชาชนอย่างดี เต็มที่ทกุอย่าง นอกจากนี้ ยังทรงมีรับสั่งให้เจ้าหน้าที่ในกองงานฯ แยกขยะให้เป็นระเบียบ พยายามใช้บรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายง่าย ซึ่งปกติทางกองงานฯ ได้มีการรณรงค์ให้มีการใช้บรรจุภัณฑ์จากชานอ้อยอยู่แล้ว
นอกจากนี้ ยังมีหน่วยแพทย์ให้การดูแล และรักษาสุขภาพประชาชนเช่นเดิม แต่อาจจะเพิ่มจำนวนแพทย์ให้มากขึ้น สำหรับเมนูอาหารในวันที่ 28 ต.ค. มื้อเช้า ข้าวเหนียวหมูปิ้งและขนม ส่วนมื้อเที่ยง ข้าวเป็นพะโล้ ก๋วยเตี๋ยวหมี่ปลา และมื้อเย็น ผัดไทศิริวรรณ และผัดไทลาดพร้าว ทั้งนี้เมนูที่นำบริการให้กับประชาชนยังได้คำนึงถึงพสกนิกรที่เป็นชาวมุสลิมด้วย อีกทั้งเมนูอาหารพระราชทานและเวลาการแจกอาหารนั้นจะมีการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม
** “วีรชัย” เผย UN ประชุมสดุดีในหลวง 28 ต.ค.
ทางด้าน นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า ในวันที่ 28 ต.ค. เวลา 10.00 น. ตามเวลาสหรัฐฯ หรือเวลา 21.00 น. ตามเวลาในไทย ที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติจะมีการประชุมเพื่อสดุดีและถวายพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยจะเปิดให้ผู้แทนประเทศต่างๆ ผลัดกันขึ้นกล่าวสดุดี
“การจัดประชุมเช่นนี้ถือเป็นโอกาสพิเศษที่มีขึ้นไม่บ่อยนัก” นายวีรชัย ระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการประชุมพิเศษเพื่อถวายสดุดีดังกล่าวจะใช้เวลาราว 15 นาที โดยประธานสมัชชาสหประชาชาติจะเริ่มกล่าวสดุดีเป็นคนแรก ตามด้วยประธานของภูมิภาคต่างๆ 5 ภูมิภาค และ น.ส.ซาแมนธา พาวเวอร์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติ โดยนายวีรชัยจะเป็นผู้กล่าวถวายสดุดีเป็นคนสุดท้าย ทั้งนี่จะมีการถ่ายทอดสดการประชุมดังกล่าวให้รับชมผ่าน webcast ของสหประชาชาติด้วย
*** รบ.หวังทุกภาคส่วนร่วมสร้างพระเมรุมาศ
พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการเตรียมการดำเนินงานเกี่ยวกับพระราชพิธีพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรม ว่า ทุกอย่างจะดำเนินการตามขั้นตอน การจัดสร้างพระเมรุมาศและสิ่งก่อสร้างประกอบ ต้องใช้เวลามาก คาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการไม่ถึง 1 ปี โดยจะให้ทุกภาคส่วนรวมทั้งประชาชนมีส่วนร่วม ส่วนราชรถ ราชยาน ที่ใช้ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพนั้น ต้องมีการปรับปรุงเพื่อความเหมาะสม แม้ขณะนี้ยังอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานและเมื่อใช้เสร็จแล้ว จะเก็บเข้าพิพิธภัณฑ์ และการที่จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมพระบรมมหาราชวัง ได้ตามปกติในวันที่ 1 พ.ย.นั้น เชื่อว่าจะไม่กระทบต่อพระราชพิธี เพราะมีการเผยแพร่ทำความเข้าใจแก่นักท่องเที่ยวแล้ว ว่าควรทำอย่างไรทั้งการแต่งกายและเรื่องอื่นๆ ตามสถานที่ต่างๆ เช่น สนามบินและโรงแรม ก็มีการแจงโบสีดำแก่นักท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้จำนวนนักท่องเที่ยวไม่ได้ลดลง ถือว่าดีขึ้นกว่า ปี 58 รัฐบาลพยายามสื่อสารเพื่อสร้างความเข้าใจแก่นักท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง และมีการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวตามรอยพ่อให้ต่างชาติได้รับทราบ ซึ่งได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี.
วานนี้ (27 ต.ค.) เวลา 17.15 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ถึงพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ บำเพ็ญพระราชกุศลปัณรสมวาร (15 วัน) พระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยมีพระบรมวงศานุวงศ์ คณะองคมนตรี คณะรัฐมนตรี คณะตุลาการ คณะสมาชิกสภานิติบัญญัติ และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เฝ้าละอองธุลีพระบาทรับเสด็จฯ
การนี้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร ทรงวางพวงมาลาของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพวงมาลาส่วนพระองค์ ที่หน้าพระโกศพระบรมศพ แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยและเครื่องราชสักการะ กราบถวายบังคมพระบรมศพ ชาวพนักงานประโคมมโหระทึก สังข์ แตรฝรั่ง แตรงอน ปี่ กลองชนะ ปี่พาทย์ ทหารกองเกียรติยศพระบรมศพถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธรูปที่หน้าพระแท่นมหาเศวตฉัตร พระสงฆ์ 30 รูป สวดพระพุทธมนต์ จบ ถวายอนุโมทนา เจ้าพนักงานนิมนต์สมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ถวายพระธรรมเทศนาและสวดธรรมคาถาขึ้นนั่งยังอาสนะ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทรงธรรม สมเด็จพระราชาคณะ ถวายศีล
ต่อมา สมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ถวายพระธรรมเทศนา และพระ 4 รูป สวดธรรมคาถา
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมบูชากัณฑ์เทศน์ และทรงทอดผ้าไตร พระสงฆ์สดับปกรณ์ ถวายอนุโมทนา ทรงกราบพระพุทธรูปประจำพระชนมวารที่หน้าพระแท่นเศวตฉัตร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงกราบถวายบังคมพระบรมศพ ทรงถวายความเคารพพระราชอาสน์
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงจุดธูปเทียนเครื่องบูชากระบะมุกที่หน้าเตียงพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม จากนั้นเสด็จพระราชดำเนินกลับ
อนึ่ง ในการพระราชพิธีในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลปัณรสมวารพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช นั้น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สำนักราชเลขาธิการจัดพิมพ์หนังสือ "การประดิษฐานพระบรมโกศ" หนังสือ "พระเจ้าอยู่หัวแห่งประเทศไทยทรงครองราชย์ครบหมื่นวัน" (ทศพิธราชธรรม ภาษาไทย-อังกฤษ-ฝรั่งเศส) และภาพพระโกศพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ขนาดโปสการ์ด พระราชทานแก่ผู้เข้าร่วมพระราชพิธี เพื่อเป็นอนุสรณ์วิทยาทานด้วย
ขณะที่ในช่วงเช้า เวลา 06.53 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ ให้ ม.ร.ว.จักรรถ จิตรพงศ์ เป็นผู้แทนพระองค์ บำเพ็ญพระราชกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ ซึ่งดำเนินมาเป็นวันที่ 14 และถวายสำรับภัตตาหารเช้าแด่พระพิธีธรรม
ต่อมาเวลา 11.00 น. พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เสด็จฯเป็นประธานถวายภัตตาหารเพลแด่พระพิธีธรรม
จากนั้นในเวลา 15.00 น. ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ
** พสกนิกรหลั่งไหลแสดงความอาลัย
เมื่อเวลา 07.20 น. สำนักพระราชวัง ได้เปิดให้ประชาชนเข้าสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ และลงนามสมุดหลวงแสดงความอาลัย บริเวณศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง โดย ผศ.ดร.จันทร์จิรา วงษ์ขมทอง อธิการบดีมหาวิทยาลัยคริสเตียน จ.นครปฐม นำคณะผู้บริหาร บุคลากรและนักศึกษาชั้นปีที่ 1-4 จำนวนกว่า 500 คน เดินทางจากจังหวัดนครปฐมตั้งแต่ 04.00 น. เข้ามาสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์เป็นกลุ่มแรก
ผศ.ดร.จันทร์จิรา กล่าวว่า วันนี้เรามากันทั้งมหาวิทยาลัยเพื่อมารำลึกและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน มหาวิทยาลัยได้เดินตามรอยเบื้องพระยุคลบาท น้อมนำคำสอนในพระราชดำริเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ตั้งแต่ พ.ศ.2539 โดยให้มีการเรียนการสอนเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงในหลักสูตร การบริหารจัดการในมหาวิทยาลัย โครงการและกิจกรรมต่างๆ ทั้งนี้เพราะพระองค์ท่านทรงเป็นต้นแบบในการดำรงชีวิตที่พระองค์ทรงทำให้เห็นจากความพอเพียงและความมีคุณธรรม นอกจากนี้ได้น้อมนำคำสอนของพระองค์ในการช่วยเหลือสังคม เรามีคณะพยาบาลศาสตร์ คณะกายวิภาคศาสตร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ นักศึกษาของเราได้ออกพื้นที่ไปส่งเสริมดูแลสุขภาพอนามัย วิจัยสิ่งแวดล้อม ในสังคมชุมชนโดยรอบ จากนี้ไปคณะผู้บริหารและเหล่านักศึกษาจะไม่เพียงทำดีเฉพาะช่วงที่พวกเรากำลังโศกเศร้า แต่เราจะทำความดีตลอดไป เพราะพระองค์จะทรงอยู่กับพวกเราตลอดไป อีกทั้งหากเรามีความเคารพ มีน้ำใจ รู้รักสามัคคีต่อกัน ประเทศชาติก็จะยิ่งเจริญขึ้น
น.ส.นภัสนันท์ วงศ์ประภาศรี นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะสหวิทยาการ สาขาการบัญชี มหาวิทยาลัยคริสเตียน เผยว่า เพราะท่านเป็นในหลวงของคนไทย ไม่มีใครในแผ่นดินจะไม่เสียใจ รู้สึกสะเทือนใจมาก พระองค์ท่านทรงทำประโยชน์หลายอย่างไว้ให้พวกเรา อีกทั้งทรงเป็นแบบอย่างให้เรานำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ เช่น ความประหยัด ที่พระองค์ทรงใช้ยาสีฟันบีบจนหมดหลอด หรือการใช้กระดาษอย่างคุ้มค่า ขณะที่ในเรื่องวิชาชีพด้วยเรียนด้านการบัญชีเราต้องมีความซื่อสัตย์ ทำบัญชีตามความเป็นจริง และพึ่งพาตัวเองให้มากที่สุด
นางมาลี ตะวัน และนางศิริวรรณ ธรรมศรี ประชาชนชาวมุสลิมจากจังหวัดพังงา เดินทางมาโดยรถทัวร์ ก่อนมารอสักการะพระบรมศพตั้งแต่ 06.30 น. เผยว่า อยากใช้เวลาตรงนี้ได้อยู่ใกล้ชิดพระองค์ท่านให้มากที่สุด พระองค์เหนื่อยเพื่อพวกเรามาตลอดชีวิต จึงตั้งใจมาแสดงความอาลัยเป็นครั้งสุดท้าย แต่อย่างไรท่านก็ยังอยู่ในใจของพวกเราเสมอ ตอนแรกก่อนจะมายังไม่แน่ใจว่าใส่ชุดมุสลิมมสสักการะพระบรมศพขึ้นไปยังศาลาสหทัยได้ แต่ด้วยพระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ไม่ทรงแบ่งแยกชั้นวรรณะ และศาสนา พระองค์ทรงมีพระเมตตาช่วยเหลือประชาทั่วทุกสารทิศ แม้ไม่เคยเฝ้าฯ รับเสด็จ แต่รับรู้ได้ถึงความรักที่ทรงมีต่อพวกเรา โดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง ปลูกพืชผัก ผลไม้ที่กินได้ มีเหลือก็แจกจ่ายให้เพื่อนบ้าน ที่สำคัญเราจะรักษาแหล่งท่องเที่ยว แผ่นดินของไทย ทรัพย์สมบัติของเราให้สืบทอดต่อไปยังลูกหลานไม่ตกไปเป็นของคนต่างชาติ
เมื่อเวลา16.00 น.สำนักพระราชวังปิดการลงนามแสดงความอาลัย ณ ศาลาสหทัยสมาคมประจำวันที่ 27 ต.ค. มียอดผู้ลงนาม 36,445 คน และยอดเงินทูลเกล้าถวายฯเพื่อบำเพ็ญพระราชกุศล 1,282,210 บาท รวมจนถึงวันที่ 27 ต.ค. จำนวน 9,934,259.25 บาท
** รัฐสภาจัดพิธีบำเพ็ญพระราชกุศล
ที่รัฐสภา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ร่วมกับสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) และคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) จัดพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลปัณรสมวาร น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเป็นพระราชกุศล พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และพิธีกล่าวถวายอาลัย
โดย นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช.กล่าวช่วงหนึ่งว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ ที่ทรงงานหนักเพื่อคนไทยทั้งประเทศ จากนี้ไปจะตั้งปณิธาน รู้รักสามัคคี น้อมนำพระราชดำรัสมาใช้ในชีวิตและการทำงาน เพื่อประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นสำคัญ
จากนั้น สมาชิก สนช. , สปท. , กรธ. , ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ประจำสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ได้ยืนสงบนิ่งถวายอาลัยเป็นเวลา 89 วินาที พร้อมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี จากนั้นได้ทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 89 รูป ถวายเป็นพระราชกุศล
** "ปนัดดา" นำ ขรก.ทำบุญตักบาตร
ขณะที่ทำเนียบรัฐบาล ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายจิรชัย มูลทองโร่ย ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรักษาราชการแทนอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ นำข้าราชการในสังกัดภายในทำเนียบรัฐบาล ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์จำนวน 10 รูป จากวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร เนื่องในการบำเพ็ญพระราชกุศลปัณรสมวาร (15 วัน) พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
พร้อมกันนี้ ม.ล.ปนัดดา ได้นำข้าราชการร่วมกล่าวปฏิญาณตนเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ว่าจะเป็นข้าราชการที่ดี ซื่อสัตย์สุจริต มุ่งมั่นแน่วแน่แก้ไขปัญหาของชาติและประชาชน สร้างสรรค์คุณประโยชน์แก่แผ่นดิน พร้อมส่งเสริมข้าราชการและประชาชนให้น้อมนำคำสอน พระบรมราโชวาท หลักการทรงงาน และหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาเป็นหลักในการดำรงตน และจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความตั้งใจมั่น เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุข พัฒนาบ้านเมืองตามบทบาทหน้าที่ ด้วยความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
จากนั้น ม.ล.ปนัดดา ได้นำข้าราชการร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และยืนแสดงความอาลัยต่อเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ที่บริเวณด้านหน้าตึกสำนักงานปลัดนายกรัฐมนตรี
*** พระบรมฯพระราชทานอาหาร-ผลไม้
วันเดียวกัน ที่เต็นท์หน่วยทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร ซึ่งตั้งอยู่บริเวณท้องสนามหลวงฝั่งทิศใต้ ฝั่งตรงข้ามประตูมณีนพรัตน์ พระบรมมหาราชวัง สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมุฎราชกุมาร ได้พระราชทานอาหาร ผลไม้ ขนมหวาน น้ำดื่ม โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ข้าราชบริพารในกองงานส่วนพระองค์ และหน่วยทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ นำมาแจกจ่ายประชาชน ที่เดินทางมาลงนามถวายความอาลัย และสักการะเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ บนศาลาสหทัยสมาคม สำหรับเมนูอาหารพระราชทานแจกจ่ายประชาชน 27 ต.ค. ประกอบด้วย มื้อเช้า โจ๊กหมูสับตับหมู และนมหนองโพ มื้อกลางวัน ข้าวมันไก่ และเย็นตาโฟวัดแขก น้ำดื่ม และน้ำสมุนไพร ขณะที่ช่วงบ่ายมีของว่าง ได้แก่ ขนมไทย เค้กกล้วยหอม แซนวิช และน้ำสมุนไพร ส่วนมื้อเย็น ข้าวผัดเผ็ดหมูป่า ข้าวไก่ทอด หมูทอดกระเทียม และน้ำดื่ม
เจ้าหน้าที่ในกองงานฯ เปิดเผยว่า ในวันที่ 29 ต.ค. ซึ่งเป็นวันเปิดให้ประชาชนเข้าสักการะพระบรมศพ ที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง เป็นวันแรก คาดว่าจะมีประชาชนเป็นจำนวนมาก จึงได้เพิ่มปริมาณอาหารให้มากขึ้น เพื่อให้เพียงพอกับประชาชน โดยเพิ่มในส่วนของอาหารมื้อกลางวัน และมื้อเย็น รอบละ 5-6 พันชุด ส่วนน้ำดื่มไม่น่าเป็นห่วง เนื่องจากได้เตรียมไว้อย่างเพียงพอ
เจ้าหน้าที่ในกองงานฯกล่าวด้วยว่า สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร ทรงมีรับสั่งว่า ประชาชนเหมือนแขกของพระองค์ ให้ดูแลประชาชนอย่างดี เต็มที่ทกุอย่าง นอกจากนี้ ยังทรงมีรับสั่งให้เจ้าหน้าที่ในกองงานฯ แยกขยะให้เป็นระเบียบ พยายามใช้บรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายง่าย ซึ่งปกติทางกองงานฯ ได้มีการรณรงค์ให้มีการใช้บรรจุภัณฑ์จากชานอ้อยอยู่แล้ว
นอกจากนี้ ยังมีหน่วยแพทย์ให้การดูแล และรักษาสุขภาพประชาชนเช่นเดิม แต่อาจจะเพิ่มจำนวนแพทย์ให้มากขึ้น สำหรับเมนูอาหารในวันที่ 28 ต.ค. มื้อเช้า ข้าวเหนียวหมูปิ้งและขนม ส่วนมื้อเที่ยง ข้าวเป็นพะโล้ ก๋วยเตี๋ยวหมี่ปลา และมื้อเย็น ผัดไทศิริวรรณ และผัดไทลาดพร้าว ทั้งนี้เมนูที่นำบริการให้กับประชาชนยังได้คำนึงถึงพสกนิกรที่เป็นชาวมุสลิมด้วย อีกทั้งเมนูอาหารพระราชทานและเวลาการแจกอาหารนั้นจะมีการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม
** “วีรชัย” เผย UN ประชุมสดุดีในหลวง 28 ต.ค.
ทางด้าน นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า ในวันที่ 28 ต.ค. เวลา 10.00 น. ตามเวลาสหรัฐฯ หรือเวลา 21.00 น. ตามเวลาในไทย ที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติจะมีการประชุมเพื่อสดุดีและถวายพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยจะเปิดให้ผู้แทนประเทศต่างๆ ผลัดกันขึ้นกล่าวสดุดี
“การจัดประชุมเช่นนี้ถือเป็นโอกาสพิเศษที่มีขึ้นไม่บ่อยนัก” นายวีรชัย ระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการประชุมพิเศษเพื่อถวายสดุดีดังกล่าวจะใช้เวลาราว 15 นาที โดยประธานสมัชชาสหประชาชาติจะเริ่มกล่าวสดุดีเป็นคนแรก ตามด้วยประธานของภูมิภาคต่างๆ 5 ภูมิภาค และ น.ส.ซาแมนธา พาวเวอร์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติ โดยนายวีรชัยจะเป็นผู้กล่าวถวายสดุดีเป็นคนสุดท้าย ทั้งนี่จะมีการถ่ายทอดสดการประชุมดังกล่าวให้รับชมผ่าน webcast ของสหประชาชาติด้วย
*** รบ.หวังทุกภาคส่วนร่วมสร้างพระเมรุมาศ
พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการเตรียมการดำเนินงานเกี่ยวกับพระราชพิธีพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรม ว่า ทุกอย่างจะดำเนินการตามขั้นตอน การจัดสร้างพระเมรุมาศและสิ่งก่อสร้างประกอบ ต้องใช้เวลามาก คาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการไม่ถึง 1 ปี โดยจะให้ทุกภาคส่วนรวมทั้งประชาชนมีส่วนร่วม ส่วนราชรถ ราชยาน ที่ใช้ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพนั้น ต้องมีการปรับปรุงเพื่อความเหมาะสม แม้ขณะนี้ยังอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานและเมื่อใช้เสร็จแล้ว จะเก็บเข้าพิพิธภัณฑ์ และการที่จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมพระบรมมหาราชวัง ได้ตามปกติในวันที่ 1 พ.ย.นั้น เชื่อว่าจะไม่กระทบต่อพระราชพิธี เพราะมีการเผยแพร่ทำความเข้าใจแก่นักท่องเที่ยวแล้ว ว่าควรทำอย่างไรทั้งการแต่งกายและเรื่องอื่นๆ ตามสถานที่ต่างๆ เช่น สนามบินและโรงแรม ก็มีการแจงโบสีดำแก่นักท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้จำนวนนักท่องเที่ยวไม่ได้ลดลง ถือว่าดีขึ้นกว่า ปี 58 รัฐบาลพยายามสื่อสารเพื่อสร้างความเข้าใจแก่นักท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง และมีการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวตามรอยพ่อให้ต่างชาติได้รับทราบ ซึ่งได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี.