xs
xsm
sm
md
lg

รับสั่งพิมพ์พระอภิธรรมแจกผู้ร่วมพระราชพีธี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน 360 - สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จบำเพ็ญพระราชกุศลสัตตมวารพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมทรงโปรดเกล้าฯ ให้สำนักราชเลขาธิการจัดพิมพ์หนังสือพระอภิธรรม ภาษาบาลีและคำแปลเป็นภาษาไทย พระราชทานแก่ผู้เข้าร่วมพระราชพิธี เพื่อเป็นอนุสรณ์วิทยาทาน "พล.อ.ประยุทธ์" ลงพื้นที่ตรวจความเรียบร้อยบริเวณท้องสนามหลวง ท่ามกลางพสกนิกรที่ร่วมลงนามถวายความอาลัยต่อเนื่องที่ศาลาสหทัยมาคม

วานนี้ (19 ต.ค.) เวลา 17.32 น.สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิตถึงพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง บำเพ็ญพระราชกุศลสัตตมวารพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยมีสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยาบรมราชกุมารี พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ คณะองคมนตรี คณะรัฐมนตรี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ และผู้มาเฝ้าละอองธุลีพระบาท เฝ้าฯ รับเสด็จ

จากนั้น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงวางพวงมาลาของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และวางพวงมาลาส่วนพระองค์ แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยและเครื่องราชสักการะ กราบถวายบังคมพระบรมศพ ชาวพนักงานประโคมมโหระทึก สังข์ แตรฝรั่ง แตรงอน ปี่ กลองชนะ ปี่พาทย์ ทหารกองเกียรติยศพระบรมศพถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธรูปที่หน้าพระแท่นมหาเศวตฉัตร พระสงฆ์ 30 รูป สวดพระพุทธมนต์ จบ ถวายอนุโมทนา สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ วัดปากน้ำ แสดงพระธรรมเทศนา และสวดธรรมคาถา

ต่อมา สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทรงธรรม สมเด็จพระราชาคณะ ถวายศีลและถวายพระธรรมเทศนา จบ พระ 4 รูปสวดธรรมคาถา แล้วทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมบูชากัณฑ์เทศน์ และทรงทอดผ้าไตร พระสงฆ์ทั้งนั้นสดัปกรณ์ ถวายอนุโมทนา เสด็จพระราชดำเนินไปทรงจุดธูปเทียนที่เตียงพระสวดพระอภิธรรม เสด็จพระราชดำเนินกลับ

อนึ่ง ในการพระราชพิธีในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสัตตมวารพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สำนักราชเลขาธิการจัดพิมพ์หนังสือพระอภิธรรม ภาษาบาลีและคำแปลเป็นภาษาไทย พระราชทานแก่ผู้เข้าร่วมพระราชพิธี เพื่อเป็นอนุสรณ์วิทยาทาน

ขณะที่เมื่อช่วงเช้าเวลา 07.05 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายภัตตาหารเช้าแด่พระพิธีธรรม ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย หน้าพระบรมพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิอดุลยเดช ทรงกราบ ทรงจุดธูปเทียนบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนวารเป็นพระพุทธรูปประทับยืนแบบสมภังค์ แสดงปางห้ามญาติหรืออภัยมุทราด้วยพระหัตถ์ขวาเพียงข้างเดียวภายใต้นพปฏลมหาเศวตฉัตร

จากนั้นประเคนสำรับภัตตาหารแด่พระภิษุสงฆ์ 8 รูปจากวัดสุทัศเทพวรารามวรมหาวิหาร และวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร สำหรับพระภิกษุสงฆ์ทั้ง 8 รูปได้สวดพระอภิธรรมตั้งแต่ค่ำเวลา 18.00 น.ถึง 07.00 น.ของวันถัดมา

เวลา 11.00 น. ม.ร.ว.สมโภช ชุมพล เป็นประธานบำเพ็ญพระกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และเป็นประธานถวายภัตตาหารเพลแด่พระพิธีธรรมจากวัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร และวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ที่สวดพระอภิธรรมพระบรมศพ

อีกด้านหนึ่งที่ฝั่งตรงข้ามพระบรมมหาราชวัง บริเวณถนนหน้าพระธาตุ ประชาชนเริ่มเดินทางมาปักหลักนั่งรอ การเปิดให้เข้าร่วมลงนามถวายความอาลัย ตั้งแต่ 05.00 น. ทางกทม.นำเต็นท์สีขาว มาตั้งตลอดแนวถนน ตั้งแต่หน้ากรมศิลปากร ไปจรดแยกตัดถนนพระจันทร์ เพื่ออำนวยความสะดวกผู้ที่เดินทางมาได้ไว้กันแดด กันฝน ทั้งยังสามารถนั่งรวมตัวกันในเต็นท์ แทนการยืนเข้าแถวตากแดดเป็นเวลานานนับชั่วโมง

ทั้งนี้ เมื่อเวลา 08.09 น. สำนักพระราชวัง เปิดให้ประชาชน เข้าลงนามถวายความอาลัย บนศาลาสหทัยสมาคม ต่อเนื่องเป็นวันที่หก บรรยากาศตลอดทั้งวัน ยังคงมีเสียงสะอื้นไห้พร้อมคราบน้ำตาของความโศรกเศร้า พสกนิกรหลายคน นำพระบรมฉายาลักษณ์ ในพระอิริยาบถต่างๆ มาถือไว้แนบอก แล้วหลั่งน้ำตาจรดปากกาลงชื่อในสมุดลงนาม ก่อนอธิษฐานจิตถึงองค์พ่อหลวงร 9 ที่เสด็จไปสถิตอยู่บนสรวงสวรรคาลัย

**นายกฯตรวจความเรียบร้อยที่สนามหลวง

เมื่อเวลา 13.00 น. วานนี้(19 ต.ค.) ที่กองอำนวยการร่วมกรุงเทพมหานคร สนามหลวง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมารับฟังรายงานสรุป และติดตามสถานการณ์ในภาพรวม และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. และ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. เข้าร่วมประชุม โดยนายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำการดูแลประชาชนอย่างดี โดยเฉพาะ เด็ก คนชรา และผู้พิการ รวมทั้งเรื่องการแก้ปัญหาคนหาย กำชับเจ้าหน้าที่ให้พยายามดูแลข้อร้องเรียนต่างๆ เพราะประเทศไทยมีปัญหาหลากหลาย ทั้งการศึกษา ความไม่เท่าเทียม และเรื่องของรายได้ ประเทศไทยมีผู้มีรายได้น้อยจำนวนมาก ขณะเดียวกันชาวไทยมุ่งแต่อยากได้เสรีภาพ ดังนั้นต้องจัดระเบียบ ดูแลความเดือนร้อน และทุกข์สุขประชาชน ขอให้เจ้าหน้าที่ทุกคนช่วยกันอย่างเต็มที่

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวภายหลังร่วมประชุมว่า ทุกอย่างเรียบร้อยดี มีการประสานงานเป็นที่น่าพอใจ และขอบคุณเจ้าหน้าที่และประชาชนทุกคน

** ทูตสหรัฐฯลงนามแสดงความอาลัย

เมื่อเวลา 11.00 น.วานนี้ ที่รัฐสภา นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ให้การรับรอง นายกลิน ที. เดวีส์ (H.E MR Glyn T Davies)เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ใหม่ ในโอกาสนี้ยังได้ร่วมลงนามแสดงความอาลัย พร้อมทั้งกล่าวแสดงความเสียใจต่อการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดย นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล อดีตปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และสมาชิก สนช. และเปิดเผยว่า เอกอัครราชทูตฯ ได้นำสารแสดงความเสียใจของผู้นำสหรัฐฯ และประชาชนของสหรัฐฯ มายังรัฐบาล และประชาชนไทย ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหรัฐฯ มีมาอย่างยาวนาน ซึ่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้ผ่านประธานาธิบดีสหรัฐฯ มาถึง 12 คน โดยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้ทรงกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมรัฐสภาสหรัฐฯด้วย พระองค์เป็นที่ชื่นชอบของประชาชนสหรัฐฯ ทั้งนี้ในอีก 2 ปีข้างหน้า สหรัฐฯ จะมีการจัดงานความสัมพันธ์ไทยและสหรัฐฯขึ้น โดยจะมีการนำเอกสารสำคัญเกี่ยวกับพระกรณียกิจ ตั้งแต่รัชกาลที่ 2 จนถึงสมัยของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมาแสดงด้วย

**ตุลาการศาลรธน.แสดงความอาลัย

นายนุรักษ์ มาประณีต ประธานศาลรัฐธรรมนูญได้นำคณะตุลาการ เจ้าหน้าที่ และพนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ร่วมพิธีน้อมเกล้าน้อมกระหม่อม แสดงความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมน้อมจิตถวายความอำลัย พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย เป็นเวลา 9 นาที และลงนามถวายความอาลัย โดย นายนุรักษ์ กล่าวคำถวายอาลัย รำลึกในพระมหากรุณาธิคุณว่า ปวงข้าพระพุทธเจ้าขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ หาที่สุดมิได้ เมื่อรับทราบประกาศสำนักพระราชวัง ฉบับลงวันที่ 13 ต.ค.59 ความว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จสวรรคต ณ โรงพยาบาลศิริราช ยังความวิปโยคโทมนัสอย่างยิ่งใหญ่ แก่ปวงข้าพระพุทธเจ้าและพสกนิกรชาวไทย ปวงข้าพระพุทธเจ้า ที่ล้วนเกิดและเติมโตมาในรัชสมัยแห่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ ได้สำนักตระหนักเสมอมาในพระราชจริยาวัตรที่ทรงพระราชอุตสาหะบำเพ็ญโดยตลอด ต่อเนื่องนับแต่เถลิงถวัลยราชสมบัติ ว่าการทั้งหลายทั้งปวงนั้น ก็เพื่อความสุขสมบูรณ์ของอาณาประชาราษฎร์ และประเทศชาติเป็นที่ตั้ง ราชอาณาจักรไทยดำรงความสวัสดีสืบมา ก็ด้วยพระบุญญาธิการบาร มีเป็นเอนกอนันต์ ด้วยทรงยึดมั่นในทศพิธราชธรรมแห่งบรมกษัตริยาธิราช ตามขัตติยะราชประเพณีอยู่เป็นนิจ สถิตอยู่ในธรรมจริยาสัมมาปฎิบัติเป็นอาจิณ พระราชกรณียกิจน้อยใหญ่จึงบรรลุศุภผล พระมหากรุณาธิคุณปกเปล้าปกกระหม่อมสุดจะพรรณนานี้ จึงครองน้ำใจของคนไทยทั้งชาติให้มีใจผูกพันสนิทแนบแน่นด้วยความจงรักภักดีอย่างมิรู้คลาย

** "พรเพชร"นำขรก.ทำบุญตักบาตร

ส่วนที่รัฐสภา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้จัดให้มีพิธีตักบาตรพระสงฆ์ 89 รูป น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในโอกาสสัตตมวาร (7 วันแห่งการเสด็จสวรรคต) โดยมีสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) พร้อมด้วยข้าราชการจากสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ เข้าร่วม

ในการนี้ ได้จัดให้มีพิธีสงฆ์ และถวายภัตตาหารเช้า ณ สโมสรรัฐสภา โดย พล.ต.อ.พิชิต ควรเดชะคุปต์ ประธานคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เป็นประธานในพิธี เวลา 07.19 น. ณ บริเวณห้องโถง ชั้น 1 อาคารรัฐสภา 2 โดยนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. เป็นประธานในพิธีถวายความอาลัย พร้อมนำ ตั้งจิตสงบนิ่งเป็นเวลา 9 นาที จากนั้น ได้ร่วมกับข้าราชการ และสื่อมวลชน ตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระภิกษุสงฆ์ จำนวน 89 รูป ณ บริเวณด้านหน้าอาคารรัฐสภา 2


**"ม.ล.ปนัดดา"นำขรก.สำนักปลัดฯ ตักบาตร

เมื่อเวลา 07.15 น.วานนี้ ที่บริเวณด้านหน้าสำนักงาน สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตรและพิธีบำเพ็ญกุศลเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลครบกำหนดสัตตมวาร (7 วัน) พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยตักบาตรพระภิกษุสงฆ์จำนวน 10 รูป จากวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร โดยมี นายจิรชัย มูลทองโร่ย ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นางพัชราภรณ์ อินทรียงค์ รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ในสังกัดสำนักปลัดสำนักนายกฯ และสื่อมวลชนเข้าร่วมในพิธี

โดยม.ล.ปนัดดา ได้กล่าวถวายความอาลัยต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จากนั้นได้ลงนามแสดงความอาลัย พร้อมนำข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ยืนไว้อาลัยต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และถ่ายภาพหมู่ร่วมกัน

***'ศิริราช'ขอเก็บห้องประทับเป็นพิพิธภัณฑ์

ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล จะจัดสวดพระอภิธรรมถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชในทุกวัน ตั้งแต่วันที่ 22 ต.ค. เป็นต้นไป ในเวลา 15.00-16.00 น. ยกเว้นวันเสาร์และอาทิตย์ ซึ่งประชาชนสามารถเข้าร่วมพิธีได้

สำหรับห้องประทับขณะรักษาอาการพระประชวร ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า ศิริราชตั้งใจจะเก็บรักษาห้องประทับไว้เพื่อจัดเป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์ แต่คงต้องปรึกษาหารือและขออนุญาตจากทางสำนักพระราชวังก่อน นอกจากนี้ ยังตั้งใจที่จะสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชด้วย แต่ต้องประสานสำนักพระราชวังเพื่อขออนุญาตเช่นกัน

** เปิดภาพเก่าในหลวง ร.9 ให้ดาวน์โหลดฟรี

นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า ตนได้มอบหมาย ให้สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาตินำภาพเก่าหายากของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่จัดเก็บอยู่ในคลังภาพกว่า 30,000 ภาพ มาเผยแพร่ให้ประชาชนและภาคส่วนต่างๆ นำไปเก็บไว้เป็นที่ระลึก หรือ ให้สื่อมวลชนนำไปใช้ในการเผยแพร่ผ่านสื่อต่างๆ โดยภาพที่จัดเก็บในคลังภาพมีตั้งแต่เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชยังทรงพระเยาว์ ตลอดจนภาพขณะทรงประกอบพระราชกรณียกิจนานัปประการทั่วประเทศ โดยสำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติได้จัดทำรายละเอียดของภาพ สแกนภาพลงในเว็บไซต์ เปิดให้ดาวน์โหลดผ่านทางเว็บไซต์ ของสำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ www.nat.go.th หรือ www.finearts.go.th นอกจากนี้ยังได้จัดรวบรวมภาพลงแผ่นซีดีเพื่อมอบให้กับสื่อมวลชน ทั้งสถานีโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ และสื่อต่างๆ เพื่อนำไปจัดทำสารคดีเผยแพร่พระราชกรณียกิจและพระมหากรุณาธิคุณไปสู่ประชาชนทั้งในและต่างประเทศ

นายขจร มุกมีค่า รองอธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า การเผยแพร่ภาพลงบนเว็บไซต์ของสำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ ขณะนี้ได้นำภาพต่างๆ มาเผยแพร่บนเว็บไซต์แล้วจำนวน 1,400 ภาพ โดยสำนักหอจดหมายเหตุจะดำเนินการเพิ่มภาพวันละ 200 ภาพ จนครบจำนวน 30,000 ภาพ อย่างไรก็ตาม ขอย้ำว่าการเผยแพร่ดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อเป็นการเผยแพร่พระราชประวัติ และพระราชกรณียกิจให้เป็นที่แพร่หลายทั้งในและต่างประเทศ ทั้งนี้ การนำภาพดังกล่าวไปใช้จะต้องไม่มีการนำไปดัดแปลงใดๆ ทั้งสิ้น โดยให้คงลายน้ำของสำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติก่อนเผยแพร่ ถ้าหากจะนำไปใช้ในเชิงธุรกิจการค้า จะต้องขออนุญาตสำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติก่อนจะนำไปใช้ หากนำไปใช้โดยไม่ขออนุญาต ถือว่าผิดพระราชบัญญัติจดหมายเหตุแห่งชาติ พ.ศ.2556
กำลังโหลดความคิดเห็น