ผู้จัดการรายวัน 360 - “นายกฯบาห์เรน” เสด็จฯวางพวงมาลา ด้าน “กษัตริย์กัมพูชา” ถวายราชสักการะที่สถานทูตไทย “แจ็ค หม่า” ลงนามถวายอาลัย พร้อมยกย่อง “บุคคลที่น่านับถือที่สุดในโลก” นายกฯเผย “กษัตริย์จิกมี” ยกเป็นองค์ธรรมราชา “พระองค์โสมฯ” รับสั่งให้มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ตั้งจุดบริการอาหาร เช่นเดียวกับมูลนิธิมิราเคิลฯที่ร่วมกับ ทบ.ให้บริการรถนอน
วานนี้ (18 ต.ค.) เมื่อเวลา 13.55 น.เจ้าชายคอลิฟะห์ บิน ซัลมาน อัล คอลิฟะห์ นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรบาห์เรน เสด็จไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง ทรงวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จากนั้น เสด็จไปทรงพระอักษรถวายความอาลัย พร้อมทั้งทรงลงพระนาม ณ สำนักพระราชวัง หน้าพระที่นั่งอัมรินทรวินิจฉัย
** “กษัตริย์กัมพูชา” ถวายราชสักการะ
วันเดียวกัน เมื่อเวลา 10.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) พระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหมุนี พระมหากษัตริย์แห่งกัมพูชา เสด็จพระราชดำเนินไปยังสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ พร้อมสมเด็จพระมหาวีรกษัตริยาณี นโรดม มุนีนาถ สีหนุ พระวรราชมารดา เพื่อทรงวางพวงมาลาและถวายราชสักการะแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในการนี้ นายณัฏฐวุฒิ โพธิสาโร เอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ข้าราชการสถานเอกอัครราชทูตและคู่สมรสเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ หลังเสร็จสิ้นพิธีการ ทั้ง 2 พระองค์ทรงพระดำเนินไปยังห้องรับรองและมีพระราชกระแสรับสั่งทรงแสดงความเสียพระราชหฤทัยต่อการเสด็จสวรรคตของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช กับเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ
** ผู้นำอินโดฯมาไทยถวายอาลัย
รองประธานาธิบดียูซุฟ คัลลาแห่งอินโดนีเซีย กล่าวภายหลังลงนามถวายอาลัยที่สถานเอกอัครราชทูตไทย และแสดงความเสียใจผ่าน นายภาสกร ศิริยะพันธุ์ เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงจาการ์ตา เมื่อวันที่ 17 ต.ค.ว่า ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด หรือ โจโกวี จะเดินทางมาประเทศไทย เพื่อแสดงความเสียใจต่อการสวรรคตของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช แด่พระบรมวงศ์ศานุวงศ์ ต่อรัฐบาลไทยและประชาชนชาวไทยด้วยตนเองในสัปดาห์นี้
** “แจ็ค หม่า” ร่วมถวายความอาลัย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 16 ต.ค. นายแจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้งและประธานบริหารกลุ่มบริษัท อาลีบาบา ได้ลงนามถวายอาลัยและถวายราชสักการะแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่สถานกงสุลใหญ่ ณ นครเซี่ยงไฮ้ ทั้งนี้ เฟซบุ๊กกระทรวงการต่างประเทศไทย ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอความยาว 1.25 นาที โดยนักธุรกิจมหาเศรษฐีของจีนได้กล่าวถึงในหลวงรัชกาลที่ 9 ของปวงชนชาวไทยตอนหนึ่งว่า “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็นบุคคลที่น่านับถือที่สุดในโลก พระองค์ทรงเป็นที่รักและเคารพของพวกเราทุกคน ซึ่งรวมถึงผมด้วย ตลอด 10 ปีที่ผ่านมาที่ผมมีโอกาสเดินทางไปยังประเทศไทยมากกว่าสิบครั้ง ทุกครั้งที่ไปประเทศไทย ผมพบเห็นว่าประชาชนทั้งรักและเทิดทูนพระองค์ เพราะเราทราบดีว่าพระองค์ทรงประกอบพระราชกรณียกิจต่างๆ มากมายเพื่อประเทศไทย เพื่อชาวเอเชีย และชาวโลก เพื่อสร้างสันติภาพ และทำให้ผู้คนทุกศาสนาประพฤติและปฏิบัติดีตามความเชื่อและคำสอนของแต่ละศาสนา”
** เผย “กษัตริย์จิกมี” สดุดี “ธรรมราชา”
ทางด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครมง) ตอนนหนึ่งว่า ได้หารือกับ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และหน่วยงานด้านศาสนา ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงทำงานด้านศาสนาไว้มาก เปรียบเสมือนพระโพธิสัตว์ เหมือนในพระราชนิพนธ์เรื่องพระมหาชนก ที่ทำให้บ้านเมืองเกิดความสงบเรียบร้อย และต้องขอขอบคุณชาวต่างชาติทั้งทูตานุทูตและเจ้าหน้าที่ด้านการต่างประเทศ ที่แสดงความอาลัยเข้ามาเป็นจำนวนมาก ขณะที่ชาวไทยอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ๆต่างประเทศก็ออกมาแสดงความอาลัย แสดงให้โลกเห็นว่าคนไทยนับถือเคารพสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างไรบ้าง
“สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้รับสั่งว่าขอให้คนไทยได้รำลึกถึงสิ่งต่างๆของสถาบัน และพวกเราต้องช่วยกันทำงาน เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา พระมหากษัตริย์แห่งภูฏาน ได้เดินทางมา แล้วเขียนคำไว้อาลัย แปลได้ความหมายว่า การสวรรคตนั้นเปรียบเสมือนการเข้าสู่นิพพาน มุ่งไปสู่การเป็นธรรมราชา ซึ่งเป็นหลักการของภูฏาน" นายกฯ กล่าว
** พสกนิกรต่อแถวถวายความอาลัย
ผู้สื่อรายงานบรรยากาศที่บริเวณด้านหน้าประตูวิเศษไชยศรี พระบรมมหาราชวัง ตั้งแต่ช่วงเช้าได้มีประชาชน ซึ่งเดินทางมาจากทั้งใน กทม.และต่างจังหวัดทั่วทุกสารทิศ หลายคนเดินทางมาค้างคืนตั้งแต่ค่ำของวันที่ 17 ต.ค. เพื่อรอเข้าคิวเข้าถวายสักการะเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ และลงนามสมุดหลวงถวายความอาลัยพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมราชวัง ซึ่งเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าถวายสักการะได้ ตั้งแต่เวลา 08.30-16.00 น. ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ โดยในวันนี้ สำนักพระราชวัง ไดเปิดบริการประชาชนได้เข้าสักการะถวายความอาลัยเร็วขึ้น ในเวลา 08.05 น. เนื่องจากมีประชาชนเดินทางมารอเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ตลอดในช่วงเช้า คลื่นมหาชนผู้จงรัก เริ่มทยอยเข้ามาปักหลัก เพื่อต่อแถวเข้าทางประตูวิเศษไชยศรีอย่างต่อเนื่อง
นายสุพัฒน์ สุพรรณสมพร อายุ 64 ปี ชาวสุพรรณบุรี อาชีพ พนักงานบริษัทเอกชน เดินทางมาจากบ้านย่านบางโพ กทม. ตั้งแต่เวลา 06.00 น. เผยว่า เดินทางมาที่บริเวณพระบรมมหาราชวังทุกวัน เพื่อดูผู้คนดูบรรยากาศ โดยนำเอาภาพพระราชกรณียกิจพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ที่ตัวเองเก็บสะสมไว้ร่วม 30 ปีแล้วเอามาเรียงต่อกันจนมีความยาวราว 54 กม. โดยตัดทอนให้เหลือแค่ 30-40 เมตร ติดตัวมาเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนได้ร่วมถ่ายภาพกับในหลวง และตั้งใจว่าในปี 2560 อยากมอบให้กับคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล นำไปจัดแสดงหารายได้สร้างอาคารทางการแพทย์เพื่อช่วยเหลือประชาชน ถวายพ่อหลวงของแผ่นดินต่อไป แทนที่จะเก็บสะสมไว้อย่างเดียว ไม่ได้สร้างประโยชน์อะไร
** “พระองค์โสมฯ” ห่วงสุขภาพประชาชน
วันเดียวกัน พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า โสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ในฐานะทรงเป็นองค์นายกกิติมศักดิ์ตลอดชีพมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย มีพระดำริให้มูลนิธิฯ ตั้งจุดบริการน้ำและอาหารเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่เดินทางมาถวายสักการะเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ และลงนามสมุดหลวง เพื่อถวายความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง โดยมี นางสายสม วงศาสุลักษณ์ กรรมการมูลนิธิฯ เป็นผู้แทนมาดูแลประชาชน
นางสายสม เปิดเผยว่า ทางมูลนิธิฯนำรถมาให้บริการตั้งแต่เมื่อวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยจุดบริการตั้งอยู่ตรงข้ามประตูวิเศษไชยศรี ด้านข้างบริเวณที่ให้ประชาชนตั้งแถว เมนูที่นำมาแจกคือข้าวเหนียวไก่เนื้อนุ่ม ซึ่งเป็นหนึ่งในเมนูที่ทรงเลือกหากลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย เนื่องจากเป็นเมนูที่ทานง่าย เก็บได้นาน และอร่อย เพราะเป็นสูตรหมักไก่ที่พระองค์ประทานให้ โดยปรุงสดๆ ทั้งทอดและหุงข้าวเหนียวที่นี่ เพื่อให้ได้ไก่ทอดที่ถูกหลักอนามัย สำหรับในวันนี้เตรียมข้าวเหนียวมา 200 กิโลกรัม ไก่ 500 กิโลกรัม เพื่อทำแจกในช่วงเช้า 11.00น.-13.00น. จำนวน 2,000 ห่อ และช่วงมื้อเย็นเริ่มตั้งแต่ 15.00 น เป็นต้นไป และแจกจนกว่าของจะหมด
“เมื่อช่วงกลางวันวันนี้ พระองค์โสมได้ให้พระสหาย โทร.มาบอกว่า ทรงได้เห็นภาพประชาชนที่มาเข้าแถวเป็นจำนวนมากแล้ว กำชับให้หน่วยนำอาหารออกมาแจกจ่ายในแถวให้ถึงมือ เพราะทรงเป็นห่วงสุขภาพประชาชน บางคนเป็นลม แต่ทุกคนยังมุ่งมั่นมาถวายสักการะด้วยความจงรักภักดี ในวันพรุ่งนี้ทางมูลนิธิฯจะทำเมนูข้าวเหนียวไก่ทอดอีก เพราะมีรสชาติที่อร่อยถูกปาก” นางสายสม ระบุ
** มูลนิธิมิราเคิลฯบริการรถนอน
ขณะที่ มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ได้ร่วมกับทางกองทัพบก จัดรถบรรทุกบริการที่พักแก่ประชาชนฟรีที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด เพื่อมาแสดงความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดย ดร.มนัส โนนุช กรรมการและผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ เปิดเผยว่า มูลนิธิฯได้ร่วมกับทางกองทัพบก นำเอารถบรรทุกบริการที่พักมาบริการให้กับประชาชน ซึ่งในเบื้องต้นจัดบริการให้ 1 คัน สามารถนอนได้ 10 คน ซึ่งวันนี้เป็นวันที่เปิดให้บริการประชาชนที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดได้พักอาศัยเป็นเวลา 1 คืนเป็นวันแรก ภายในรถจะมี หมอน ผ้าห่ม ผ้าขนหนู น้ำดื่ม และพัดลม ให้บริการ ทั้งนี้ผู้ที่สนใจสามารถมาลงทะเบียนได้ที่ท้องสนามหลวง บริเวณประตูทางเข้าตรงข้ามศาลฎีกา
** โฆษกรัฐวอนใช้บริการรถสาธารณะ
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขานุการศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์ (ศตส.) กล่าวถึงผลการประชุมรอบเช้าว่า ได้ทบทวนแนวทางการอำนวยความสะดวกประชาชนด้านต่างๆ โดยตั้งศูนย์อำนวยการร่วม กทม.และ คสช.เพิ่ขึ้นหลายจุด อีกทั้งยังได้รับความเมตตาจากคณะสงฆ์วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร จัดสถานที่ภายในวัดให้จอดรถ และให้ประชาชนได้พักผ่อน พร้อมจัดอาหารและห้องน้ำให้บริการด้วย
ด้าน พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติม ที่ประชุม ศตส.ได้เปิดจุดรองรับประชาชนรอบท้องสนามหลวง 15 จุด คือ 1.ท้องสนามหลวง 2.มหาวิทยาลัยศิลปากร 3.มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ 4.ท่าราชวรดิษฐ์ 5.กรมการรักษาดินแดน 6.โรงละครแห่งชาติ กรมศิลปากร 7.วัดพระเชตุพนฯ 8.วัดมหาธาตุวรวิหาร 9.กระทรวงกลาโหมบริเวณด้านนอก 10.สำนักงานสลากกินแบ่ง(เดิม) 11.โรงเรียนสตรีวิทยา 12.โลหะปราสาท วัดราชนัดดา 13.สวนสราญรมย์ 14.สนามม้านางเลิ้ง และ 15.บริเวณสถานที่ตั้งศาลฎีกา (เดิม) รวมถึงมีบริการน้ำ ผ้าเย็น ร่ม พัดลม จอมอนิเตอร์ เพื่อให้ประชาชนพักรอก่อนเข้าไปยังพระบรมมหาราชวัง และได้มอบหมายกรุงเทพมหานคร (กทม.) กองทัพ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และกระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เตรียมเต็นท์จำนวน 10 เต็นท์ เพื่อรองรับประชาชนด้วย พล.ท.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมได้กำชับการบริการรถ ขสมก.ที่ต้องไม่ขาดระยะและต้องปลอดภัย เดิมมีการจัดจุดรองรับรถยนต์ของประชาชนไว้ 4 มุมเมือง ที่สามารถรองรับรถได้ 11,000 คัน ขณะนี้เพิ่มจุดจอดรถอีก 2 ที่ คือ เซ็นทรัลศาลายาและเซ็นทรัลพระราม 2 ซึ่งสามารถจอดรถได้เพิ่มขึ้นอีกที่ละ 1,000 คัน ทั้งนี้ ขสมก.จะมีบริการรับส่งจากจุดจอดรถแต่ละมุมเมืองมายังท้องสนามหลวงเริ่มตั้งแต่เวลา 06.00-00.00 น. โดยขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนให้ใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ พยายามไม่นำรถส่วนตัวเข้าไปในบริเวณดังกล่าว รวมทั้งขอความร่วมมือผู้มีจิตอาสาที่ขนน้ำและอาหารไปให้บริการประชาชนที่ท้องสนามหลวง ไม่จอดรถแช่ โดยใช้เวลานาน เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรแออัด
** ศธ.ตั้งโรงครัวบริการอาหารฟรี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณหน้ากระทรวงศึกษาธิการ (ศธ) ฝั่งถนนราชดำเนินนอก จัดกิจกรรม "ศธ.รวมพลัง ร่วมใจ น้อมถวายเป็นพระราชกุศล แด่...พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช" โดย สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จัดบริการย้อมผ้าดำ/ทำริบบิ้น/ซ่อมแซมผ้าฟรี ให้แก่ประชาชน เป็นวันที่ 2 โดย พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า จากการให้บริการโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายมา 2 วัน มีประชาชนให้ความสนใจเข้าใช้บริการอย่างต่อเนื่อง มีการนำผ้ามาย้อมเป็นสีดำจำนวนมาก ทำให้เกิดปัญหาต้องเข้าคิวรอนาน ทำให้ไม่ได้รับความสะดวกเพียงพอ ซึ่งทางกระทรวงจะปรับปรุงแก้ไขอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ ตนมีความกังวลว่า สีย้อมผ้าที่มีจะเพียงพอต่อความต้องการของประชาชนที่จะเปิดให้บริการทั่วประเทศหรือไม่ และตั้งแต่วันที่ 19 ต.ค.เป็นต้นไป จะมีการย้ายจุดบริการประชาชนจากบริเวณหน้ากระทรวงไปอยู่ที่ริมคลองผดุงกรุงเกษมข้างกระทรวงเพื่อให้การบริการประชาชนเป็นไปด้วยความสะดวกยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ย้ำในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ทุกกระทรวงดูแลอำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่มาแสดงความอาลัยอย่างเต็มที่ และได้ฝากขอบคุณข้าราชการทุกคนที่มาช่วยกันทำงาน.
วานนี้ (18 ต.ค.) เมื่อเวลา 13.55 น.เจ้าชายคอลิฟะห์ บิน ซัลมาน อัล คอลิฟะห์ นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรบาห์เรน เสด็จไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง ทรงวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จากนั้น เสด็จไปทรงพระอักษรถวายความอาลัย พร้อมทั้งทรงลงพระนาม ณ สำนักพระราชวัง หน้าพระที่นั่งอัมรินทรวินิจฉัย
** “กษัตริย์กัมพูชา” ถวายราชสักการะ
วันเดียวกัน เมื่อเวลา 10.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) พระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหมุนี พระมหากษัตริย์แห่งกัมพูชา เสด็จพระราชดำเนินไปยังสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ พร้อมสมเด็จพระมหาวีรกษัตริยาณี นโรดม มุนีนาถ สีหนุ พระวรราชมารดา เพื่อทรงวางพวงมาลาและถวายราชสักการะแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในการนี้ นายณัฏฐวุฒิ โพธิสาโร เอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ข้าราชการสถานเอกอัครราชทูตและคู่สมรสเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ หลังเสร็จสิ้นพิธีการ ทั้ง 2 พระองค์ทรงพระดำเนินไปยังห้องรับรองและมีพระราชกระแสรับสั่งทรงแสดงความเสียพระราชหฤทัยต่อการเสด็จสวรรคตของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช กับเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ
** ผู้นำอินโดฯมาไทยถวายอาลัย
รองประธานาธิบดียูซุฟ คัลลาแห่งอินโดนีเซีย กล่าวภายหลังลงนามถวายอาลัยที่สถานเอกอัครราชทูตไทย และแสดงความเสียใจผ่าน นายภาสกร ศิริยะพันธุ์ เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงจาการ์ตา เมื่อวันที่ 17 ต.ค.ว่า ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด หรือ โจโกวี จะเดินทางมาประเทศไทย เพื่อแสดงความเสียใจต่อการสวรรคตของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช แด่พระบรมวงศ์ศานุวงศ์ ต่อรัฐบาลไทยและประชาชนชาวไทยด้วยตนเองในสัปดาห์นี้
** “แจ็ค หม่า” ร่วมถวายความอาลัย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 16 ต.ค. นายแจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้งและประธานบริหารกลุ่มบริษัท อาลีบาบา ได้ลงนามถวายอาลัยและถวายราชสักการะแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่สถานกงสุลใหญ่ ณ นครเซี่ยงไฮ้ ทั้งนี้ เฟซบุ๊กกระทรวงการต่างประเทศไทย ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอความยาว 1.25 นาที โดยนักธุรกิจมหาเศรษฐีของจีนได้กล่าวถึงในหลวงรัชกาลที่ 9 ของปวงชนชาวไทยตอนหนึ่งว่า “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็นบุคคลที่น่านับถือที่สุดในโลก พระองค์ทรงเป็นที่รักและเคารพของพวกเราทุกคน ซึ่งรวมถึงผมด้วย ตลอด 10 ปีที่ผ่านมาที่ผมมีโอกาสเดินทางไปยังประเทศไทยมากกว่าสิบครั้ง ทุกครั้งที่ไปประเทศไทย ผมพบเห็นว่าประชาชนทั้งรักและเทิดทูนพระองค์ เพราะเราทราบดีว่าพระองค์ทรงประกอบพระราชกรณียกิจต่างๆ มากมายเพื่อประเทศไทย เพื่อชาวเอเชีย และชาวโลก เพื่อสร้างสันติภาพ และทำให้ผู้คนทุกศาสนาประพฤติและปฏิบัติดีตามความเชื่อและคำสอนของแต่ละศาสนา”
** เผย “กษัตริย์จิกมี” สดุดี “ธรรมราชา”
ทางด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครมง) ตอนนหนึ่งว่า ได้หารือกับ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และหน่วยงานด้านศาสนา ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงทำงานด้านศาสนาไว้มาก เปรียบเสมือนพระโพธิสัตว์ เหมือนในพระราชนิพนธ์เรื่องพระมหาชนก ที่ทำให้บ้านเมืองเกิดความสงบเรียบร้อย และต้องขอขอบคุณชาวต่างชาติทั้งทูตานุทูตและเจ้าหน้าที่ด้านการต่างประเทศ ที่แสดงความอาลัยเข้ามาเป็นจำนวนมาก ขณะที่ชาวไทยอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ๆต่างประเทศก็ออกมาแสดงความอาลัย แสดงให้โลกเห็นว่าคนไทยนับถือเคารพสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างไรบ้าง
“สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้รับสั่งว่าขอให้คนไทยได้รำลึกถึงสิ่งต่างๆของสถาบัน และพวกเราต้องช่วยกันทำงาน เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา พระมหากษัตริย์แห่งภูฏาน ได้เดินทางมา แล้วเขียนคำไว้อาลัย แปลได้ความหมายว่า การสวรรคตนั้นเปรียบเสมือนการเข้าสู่นิพพาน มุ่งไปสู่การเป็นธรรมราชา ซึ่งเป็นหลักการของภูฏาน" นายกฯ กล่าว
** พสกนิกรต่อแถวถวายความอาลัย
ผู้สื่อรายงานบรรยากาศที่บริเวณด้านหน้าประตูวิเศษไชยศรี พระบรมมหาราชวัง ตั้งแต่ช่วงเช้าได้มีประชาชน ซึ่งเดินทางมาจากทั้งใน กทม.และต่างจังหวัดทั่วทุกสารทิศ หลายคนเดินทางมาค้างคืนตั้งแต่ค่ำของวันที่ 17 ต.ค. เพื่อรอเข้าคิวเข้าถวายสักการะเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ และลงนามสมุดหลวงถวายความอาลัยพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมราชวัง ซึ่งเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าถวายสักการะได้ ตั้งแต่เวลา 08.30-16.00 น. ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ โดยในวันนี้ สำนักพระราชวัง ไดเปิดบริการประชาชนได้เข้าสักการะถวายความอาลัยเร็วขึ้น ในเวลา 08.05 น. เนื่องจากมีประชาชนเดินทางมารอเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ตลอดในช่วงเช้า คลื่นมหาชนผู้จงรัก เริ่มทยอยเข้ามาปักหลัก เพื่อต่อแถวเข้าทางประตูวิเศษไชยศรีอย่างต่อเนื่อง
นายสุพัฒน์ สุพรรณสมพร อายุ 64 ปี ชาวสุพรรณบุรี อาชีพ พนักงานบริษัทเอกชน เดินทางมาจากบ้านย่านบางโพ กทม. ตั้งแต่เวลา 06.00 น. เผยว่า เดินทางมาที่บริเวณพระบรมมหาราชวังทุกวัน เพื่อดูผู้คนดูบรรยากาศ โดยนำเอาภาพพระราชกรณียกิจพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ที่ตัวเองเก็บสะสมไว้ร่วม 30 ปีแล้วเอามาเรียงต่อกันจนมีความยาวราว 54 กม. โดยตัดทอนให้เหลือแค่ 30-40 เมตร ติดตัวมาเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนได้ร่วมถ่ายภาพกับในหลวง และตั้งใจว่าในปี 2560 อยากมอบให้กับคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล นำไปจัดแสดงหารายได้สร้างอาคารทางการแพทย์เพื่อช่วยเหลือประชาชน ถวายพ่อหลวงของแผ่นดินต่อไป แทนที่จะเก็บสะสมไว้อย่างเดียว ไม่ได้สร้างประโยชน์อะไร
** “พระองค์โสมฯ” ห่วงสุขภาพประชาชน
วันเดียวกัน พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า โสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ในฐานะทรงเป็นองค์นายกกิติมศักดิ์ตลอดชีพมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย มีพระดำริให้มูลนิธิฯ ตั้งจุดบริการน้ำและอาหารเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่เดินทางมาถวายสักการะเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ และลงนามสมุดหลวง เพื่อถวายความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง โดยมี นางสายสม วงศาสุลักษณ์ กรรมการมูลนิธิฯ เป็นผู้แทนมาดูแลประชาชน
นางสายสม เปิดเผยว่า ทางมูลนิธิฯนำรถมาให้บริการตั้งแต่เมื่อวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยจุดบริการตั้งอยู่ตรงข้ามประตูวิเศษไชยศรี ด้านข้างบริเวณที่ให้ประชาชนตั้งแถว เมนูที่นำมาแจกคือข้าวเหนียวไก่เนื้อนุ่ม ซึ่งเป็นหนึ่งในเมนูที่ทรงเลือกหากลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย เนื่องจากเป็นเมนูที่ทานง่าย เก็บได้นาน และอร่อย เพราะเป็นสูตรหมักไก่ที่พระองค์ประทานให้ โดยปรุงสดๆ ทั้งทอดและหุงข้าวเหนียวที่นี่ เพื่อให้ได้ไก่ทอดที่ถูกหลักอนามัย สำหรับในวันนี้เตรียมข้าวเหนียวมา 200 กิโลกรัม ไก่ 500 กิโลกรัม เพื่อทำแจกในช่วงเช้า 11.00น.-13.00น. จำนวน 2,000 ห่อ และช่วงมื้อเย็นเริ่มตั้งแต่ 15.00 น เป็นต้นไป และแจกจนกว่าของจะหมด
“เมื่อช่วงกลางวันวันนี้ พระองค์โสมได้ให้พระสหาย โทร.มาบอกว่า ทรงได้เห็นภาพประชาชนที่มาเข้าแถวเป็นจำนวนมากแล้ว กำชับให้หน่วยนำอาหารออกมาแจกจ่ายในแถวให้ถึงมือ เพราะทรงเป็นห่วงสุขภาพประชาชน บางคนเป็นลม แต่ทุกคนยังมุ่งมั่นมาถวายสักการะด้วยความจงรักภักดี ในวันพรุ่งนี้ทางมูลนิธิฯจะทำเมนูข้าวเหนียวไก่ทอดอีก เพราะมีรสชาติที่อร่อยถูกปาก” นางสายสม ระบุ
** มูลนิธิมิราเคิลฯบริการรถนอน
ขณะที่ มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ได้ร่วมกับทางกองทัพบก จัดรถบรรทุกบริการที่พักแก่ประชาชนฟรีที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด เพื่อมาแสดงความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดย ดร.มนัส โนนุช กรรมการและผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ เปิดเผยว่า มูลนิธิฯได้ร่วมกับทางกองทัพบก นำเอารถบรรทุกบริการที่พักมาบริการให้กับประชาชน ซึ่งในเบื้องต้นจัดบริการให้ 1 คัน สามารถนอนได้ 10 คน ซึ่งวันนี้เป็นวันที่เปิดให้บริการประชาชนที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดได้พักอาศัยเป็นเวลา 1 คืนเป็นวันแรก ภายในรถจะมี หมอน ผ้าห่ม ผ้าขนหนู น้ำดื่ม และพัดลม ให้บริการ ทั้งนี้ผู้ที่สนใจสามารถมาลงทะเบียนได้ที่ท้องสนามหลวง บริเวณประตูทางเข้าตรงข้ามศาลฎีกา
** โฆษกรัฐวอนใช้บริการรถสาธารณะ
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขานุการศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์ (ศตส.) กล่าวถึงผลการประชุมรอบเช้าว่า ได้ทบทวนแนวทางการอำนวยความสะดวกประชาชนด้านต่างๆ โดยตั้งศูนย์อำนวยการร่วม กทม.และ คสช.เพิ่ขึ้นหลายจุด อีกทั้งยังได้รับความเมตตาจากคณะสงฆ์วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร จัดสถานที่ภายในวัดให้จอดรถ และให้ประชาชนได้พักผ่อน พร้อมจัดอาหารและห้องน้ำให้บริการด้วย
ด้าน พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติม ที่ประชุม ศตส.ได้เปิดจุดรองรับประชาชนรอบท้องสนามหลวง 15 จุด คือ 1.ท้องสนามหลวง 2.มหาวิทยาลัยศิลปากร 3.มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ 4.ท่าราชวรดิษฐ์ 5.กรมการรักษาดินแดน 6.โรงละครแห่งชาติ กรมศิลปากร 7.วัดพระเชตุพนฯ 8.วัดมหาธาตุวรวิหาร 9.กระทรวงกลาโหมบริเวณด้านนอก 10.สำนักงานสลากกินแบ่ง(เดิม) 11.โรงเรียนสตรีวิทยา 12.โลหะปราสาท วัดราชนัดดา 13.สวนสราญรมย์ 14.สนามม้านางเลิ้ง และ 15.บริเวณสถานที่ตั้งศาลฎีกา (เดิม) รวมถึงมีบริการน้ำ ผ้าเย็น ร่ม พัดลม จอมอนิเตอร์ เพื่อให้ประชาชนพักรอก่อนเข้าไปยังพระบรมมหาราชวัง และได้มอบหมายกรุงเทพมหานคร (กทม.) กองทัพ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และกระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เตรียมเต็นท์จำนวน 10 เต็นท์ เพื่อรองรับประชาชนด้วย พล.ท.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมได้กำชับการบริการรถ ขสมก.ที่ต้องไม่ขาดระยะและต้องปลอดภัย เดิมมีการจัดจุดรองรับรถยนต์ของประชาชนไว้ 4 มุมเมือง ที่สามารถรองรับรถได้ 11,000 คัน ขณะนี้เพิ่มจุดจอดรถอีก 2 ที่ คือ เซ็นทรัลศาลายาและเซ็นทรัลพระราม 2 ซึ่งสามารถจอดรถได้เพิ่มขึ้นอีกที่ละ 1,000 คัน ทั้งนี้ ขสมก.จะมีบริการรับส่งจากจุดจอดรถแต่ละมุมเมืองมายังท้องสนามหลวงเริ่มตั้งแต่เวลา 06.00-00.00 น. โดยขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนให้ใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ พยายามไม่นำรถส่วนตัวเข้าไปในบริเวณดังกล่าว รวมทั้งขอความร่วมมือผู้มีจิตอาสาที่ขนน้ำและอาหารไปให้บริการประชาชนที่ท้องสนามหลวง ไม่จอดรถแช่ โดยใช้เวลานาน เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรแออัด
** ศธ.ตั้งโรงครัวบริการอาหารฟรี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณหน้ากระทรวงศึกษาธิการ (ศธ) ฝั่งถนนราชดำเนินนอก จัดกิจกรรม "ศธ.รวมพลัง ร่วมใจ น้อมถวายเป็นพระราชกุศล แด่...พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช" โดย สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จัดบริการย้อมผ้าดำ/ทำริบบิ้น/ซ่อมแซมผ้าฟรี ให้แก่ประชาชน เป็นวันที่ 2 โดย พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า จากการให้บริการโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายมา 2 วัน มีประชาชนให้ความสนใจเข้าใช้บริการอย่างต่อเนื่อง มีการนำผ้ามาย้อมเป็นสีดำจำนวนมาก ทำให้เกิดปัญหาต้องเข้าคิวรอนาน ทำให้ไม่ได้รับความสะดวกเพียงพอ ซึ่งทางกระทรวงจะปรับปรุงแก้ไขอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ ตนมีความกังวลว่า สีย้อมผ้าที่มีจะเพียงพอต่อความต้องการของประชาชนที่จะเปิดให้บริการทั่วประเทศหรือไม่ และตั้งแต่วันที่ 19 ต.ค.เป็นต้นไป จะมีการย้ายจุดบริการประชาชนจากบริเวณหน้ากระทรวงไปอยู่ที่ริมคลองผดุงกรุงเกษมข้างกระทรวงเพื่อให้การบริการประชาชนเป็นไปด้วยความสะดวกยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ย้ำในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ทุกกระทรวงดูแลอำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่มาแสดงความอาลัยอย่างเต็มที่ และได้ฝากขอบคุณข้าราชการทุกคนที่มาช่วยกันทำงาน.