"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มั่นใจว่าพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศ เทิดทูนและจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และต้องการแสดงความอาลัยต่อพระองค์ท่าน ด้วยการแต่งชุดดำ ขาว อย่างไรก็ตาม ท่านนายกฯ เข้าใจดีว่าช่วงเวลานี้เสื้อขาว ดำ เป็นที่ต้องการมาก อาจจะขาดตลาดทำให้หลายท่านอาจไม่สามารถสวมเสื้อขาว ดำ ได้ทุกวันตามที่ใจมุ่งมั่นปรารถนา รวมทั้งพี่น้องประชาชนบางส่วน อาจอยู่ในภาวะลำบากขัดสนที่จะจัดหาเสื้อผ้าชุดใหม่"
"ท่านนายกฯ อยากขอให้พี่น้องประชาชนเข้าใจซึ่งกันและกัน เห็นอกเห็นใจกัน ถึงปัจจัยและข้อจำกัดของแต่ละบุคคล อย่าตีความเกินเลย กลายเป็นความไม่เข้าใจ หรือกลายเป็นเรื่องใหญ่โดยไม่จำเป็น เวลานี้ควรเป็นเวลาแห่งความรัก ความสามัคคี และการดูแลให้สังคมมีความสงบสุข"
"สำหรับพี่น้องประชาชนที่ไม่สามารถจัดหาเสื้อผ้าชุดสีดำ หรือสีขาว สำหรับสวมใส่ได้ทุกวัน ท่านสามารถแสดงสัญลักษณ์ของความอาลัยด้วย การติดริบบิ้น หรือโบสีดำ บนหน้าอกเสื้อ หรือที่แขนเสื้อบริเวณต้นแขนได้เช่นกัน เพราะสิ่งสำคัญเหนืออื่นใด คือ การคิดดี ทำความดี ดำรงตนตามแนวพระราชปณิธานและคำสอนของพระองค์ ซึ่งถือเป็นการแสดงความอาลัย และจงรักภักดีต่อพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศอย่างดีที่สุด"
คำแถลงของ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่อ้างถึงคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่แสดงความเข้าใจพี่น้องประชาชนคนไทยที่มีความจำเป็น ไม่อาจใส่ชุดดำ หรือชุดขาว หรือไม่อาจใส่ได้ทุกวัน เนื่องจากมีเหตุผลและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน
คำพูดดังกล่าวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่สะท้อนผ่านทางโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นับว่าเป็นเรื่องเหมาะสมอย่างยิ่งในช่วงเวลานี้ ก่อนที่จะกลายเป็นปัญหาที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น
แน่นอนว่า เวลานี้คนไทยทุกคนกำลังอยู่ในห้วงอารมณ์เศร้าโศก ไม่ว่ายากดีมีจน เชื่อว่าย่อมอยู่ในอารมณ์เดียวกัน แต่อย่างที่บอกด้วยฐานะความเป็นอยู่ของแต่ละคน แต่ละครอบครัวไม่เหมือนกัน มีฐานะต่างกัน แต่นั่นไม่ใช่ข้อจำกัดในการถวายความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช "พ่อ" ที่ลูกๆ ทุกคนเคารพเทิดทูนสูงสุด
ด้วยสภาพจิตใจของคนไทยที่เศร้าโศกจนไม่อาจพรรณาได้ เนื่องจากสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ที่ทรงงานหนักเพื่อพสกนิกรของพระองค์โดยไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยตลอดพระชนม์ชีพ ดังจะเห็นได้จากการเสด็จเยี่ยมเยียน ดูแลทุกข์สุขของราษฎรในถิ่นทุรกันดาร และมีโครงการพระราชดำริ กว่าสามพันโครงการ ซึ่งพสกนิกรของพระองค์ต่างสำนึกไม่เคยลืมเลือน
นับจากที่พระองค์เสด็จขึ้นครองราชย์ที่ประกาศเป็นปฐมบรมราชโองการว่า "เราจะปกครองแผ่นดินโดยธรรม" ทำให้แผ่นดินผืนนี้มีความร่มเย็นเป็นสุข และเจริญรุ่งเรื่อง มาจนถึงทุกวันนี้
แน่นอนว่าพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ล้นพ้นหาที่สุดมิได้ ดังนั้นเมื่อสิ้น"พ่อหลวง" ก็เหมือนชีวิตของลูกๆ ทั้งหลายขาดหลักชัย อ้างว้าง หลายคนจึงยังทำใจไม่ได้ ดังที่ปรากฏให้เห็นตามภาพข่าวที่แพร่กระจายตามสื่อต่างๆ
อย่างไรก็ดี ด้วยสภาพความเป็นจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าพสกนิกรของพระองค์ก็ย่อมมีฐานะที่แตกต่างกัน บางคนมีฐานะดี บางคนพออยู่พอกิน ขณะที่บางคนมีความขัดสน แต่ความรักความภักดีที่มีต่อ"พ่อหลวง"พระองค์นี้ ไม่ได้แตกต่างกันเลย เชื่อเหลือเกินว่าสำหรับบางคนการหาซื้อเสื้อสีดำตัวใหม่ตัวละหนึ่งร้อยกว่าบาทขึ้นไปเป็นเรื่องที่หนักหนาสาหัส มีความลำบากไม่น้อย ก็น่าจะเข้าใจพวกเขาบ้างเหมือนกัน
ด้วยสภาพความจำเป็นที่แตกต่างกันดังกล่าวกำลังจะทำให้จะเกิดปัญหาขึ้นมาหรือไม่ เกิดการวิจารณ์ ตำหนิคนไทยบางคนเพียงแค่ว่าพวกเขาไม่ได้ใส่เสื้อดำ เสื้อขาว ถึงขั้นชี้หน้าด่าทอ ว่าไม่จงรักภักดี ไม่รักพระองค์ท่าน บางครั้งเกิดการโต้เถียงจนเกิดความวุ่นวายกันเหมือนกัน ยิ่งในโลกโซเชียลฯ ที่มีการแชร์ภาพให้เห็นบางคนที่ไม่สวมเสื้อสีดำ ก็ตำหนิอย่างรุนแรง ซึ่งมองอีกมุมหนึ่งมันก็น่าเป็นห่วงเหมือนกัน เพราะนั่นเท่ากับว่า "การไม่สวมเสื้อสีดำกำลังจะเป็นปัญหาของชาติ" หรือไม่
ยังดีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เข้าใจถึงความจำเป็นดังกล่าว จึงได้กล่าวแสดงความเข้าใจที่เขามีความจำเป็น มีความขัดสน จนไม่อาจใส่เสื้อสีดำ หรือซื้อเสื้อตัวใหม่ได้ เพราะลำพังดำเนินชีวิตประจำวันก็ยากเย็นแสนเข็ญแล้ว แต่เชื่อเถอะว่าพวกเขาไม่ว่าจะยากดีมีจนอย่างไร ก็ย่อมเป็นพสกนิกรของพระองค์ เป็นลูกของพ่อเหมือนกัน ดังนั้นอย่าแบ่งแยก อย่างด่วนสรุป อย่าทำร้ายจิตใจพวกเขามากไปกว่านี้เลย อย่าทำให้ปัญหาเสื้อดำเป็นปัญหาแบ่งแยกกันเลย !!
"ท่านนายกฯ อยากขอให้พี่น้องประชาชนเข้าใจซึ่งกันและกัน เห็นอกเห็นใจกัน ถึงปัจจัยและข้อจำกัดของแต่ละบุคคล อย่าตีความเกินเลย กลายเป็นความไม่เข้าใจ หรือกลายเป็นเรื่องใหญ่โดยไม่จำเป็น เวลานี้ควรเป็นเวลาแห่งความรัก ความสามัคคี และการดูแลให้สังคมมีความสงบสุข"
"สำหรับพี่น้องประชาชนที่ไม่สามารถจัดหาเสื้อผ้าชุดสีดำ หรือสีขาว สำหรับสวมใส่ได้ทุกวัน ท่านสามารถแสดงสัญลักษณ์ของความอาลัยด้วย การติดริบบิ้น หรือโบสีดำ บนหน้าอกเสื้อ หรือที่แขนเสื้อบริเวณต้นแขนได้เช่นกัน เพราะสิ่งสำคัญเหนืออื่นใด คือ การคิดดี ทำความดี ดำรงตนตามแนวพระราชปณิธานและคำสอนของพระองค์ ซึ่งถือเป็นการแสดงความอาลัย และจงรักภักดีต่อพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศอย่างดีที่สุด"
คำแถลงของ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่อ้างถึงคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่แสดงความเข้าใจพี่น้องประชาชนคนไทยที่มีความจำเป็น ไม่อาจใส่ชุดดำ หรือชุดขาว หรือไม่อาจใส่ได้ทุกวัน เนื่องจากมีเหตุผลและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน
คำพูดดังกล่าวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่สะท้อนผ่านทางโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นับว่าเป็นเรื่องเหมาะสมอย่างยิ่งในช่วงเวลานี้ ก่อนที่จะกลายเป็นปัญหาที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น
แน่นอนว่า เวลานี้คนไทยทุกคนกำลังอยู่ในห้วงอารมณ์เศร้าโศก ไม่ว่ายากดีมีจน เชื่อว่าย่อมอยู่ในอารมณ์เดียวกัน แต่อย่างที่บอกด้วยฐานะความเป็นอยู่ของแต่ละคน แต่ละครอบครัวไม่เหมือนกัน มีฐานะต่างกัน แต่นั่นไม่ใช่ข้อจำกัดในการถวายความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช "พ่อ" ที่ลูกๆ ทุกคนเคารพเทิดทูนสูงสุด
ด้วยสภาพจิตใจของคนไทยที่เศร้าโศกจนไม่อาจพรรณาได้ เนื่องจากสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ที่ทรงงานหนักเพื่อพสกนิกรของพระองค์โดยไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยตลอดพระชนม์ชีพ ดังจะเห็นได้จากการเสด็จเยี่ยมเยียน ดูแลทุกข์สุขของราษฎรในถิ่นทุรกันดาร และมีโครงการพระราชดำริ กว่าสามพันโครงการ ซึ่งพสกนิกรของพระองค์ต่างสำนึกไม่เคยลืมเลือน
นับจากที่พระองค์เสด็จขึ้นครองราชย์ที่ประกาศเป็นปฐมบรมราชโองการว่า "เราจะปกครองแผ่นดินโดยธรรม" ทำให้แผ่นดินผืนนี้มีความร่มเย็นเป็นสุข และเจริญรุ่งเรื่อง มาจนถึงทุกวันนี้
แน่นอนว่าพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ล้นพ้นหาที่สุดมิได้ ดังนั้นเมื่อสิ้น"พ่อหลวง" ก็เหมือนชีวิตของลูกๆ ทั้งหลายขาดหลักชัย อ้างว้าง หลายคนจึงยังทำใจไม่ได้ ดังที่ปรากฏให้เห็นตามภาพข่าวที่แพร่กระจายตามสื่อต่างๆ
อย่างไรก็ดี ด้วยสภาพความเป็นจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าพสกนิกรของพระองค์ก็ย่อมมีฐานะที่แตกต่างกัน บางคนมีฐานะดี บางคนพออยู่พอกิน ขณะที่บางคนมีความขัดสน แต่ความรักความภักดีที่มีต่อ"พ่อหลวง"พระองค์นี้ ไม่ได้แตกต่างกันเลย เชื่อเหลือเกินว่าสำหรับบางคนการหาซื้อเสื้อสีดำตัวใหม่ตัวละหนึ่งร้อยกว่าบาทขึ้นไปเป็นเรื่องที่หนักหนาสาหัส มีความลำบากไม่น้อย ก็น่าจะเข้าใจพวกเขาบ้างเหมือนกัน
ด้วยสภาพความจำเป็นที่แตกต่างกันดังกล่าวกำลังจะทำให้จะเกิดปัญหาขึ้นมาหรือไม่ เกิดการวิจารณ์ ตำหนิคนไทยบางคนเพียงแค่ว่าพวกเขาไม่ได้ใส่เสื้อดำ เสื้อขาว ถึงขั้นชี้หน้าด่าทอ ว่าไม่จงรักภักดี ไม่รักพระองค์ท่าน บางครั้งเกิดการโต้เถียงจนเกิดความวุ่นวายกันเหมือนกัน ยิ่งในโลกโซเชียลฯ ที่มีการแชร์ภาพให้เห็นบางคนที่ไม่สวมเสื้อสีดำ ก็ตำหนิอย่างรุนแรง ซึ่งมองอีกมุมหนึ่งมันก็น่าเป็นห่วงเหมือนกัน เพราะนั่นเท่ากับว่า "การไม่สวมเสื้อสีดำกำลังจะเป็นปัญหาของชาติ" หรือไม่
ยังดีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เข้าใจถึงความจำเป็นดังกล่าว จึงได้กล่าวแสดงความเข้าใจที่เขามีความจำเป็น มีความขัดสน จนไม่อาจใส่เสื้อสีดำ หรือซื้อเสื้อตัวใหม่ได้ เพราะลำพังดำเนินชีวิตประจำวันก็ยากเย็นแสนเข็ญแล้ว แต่เชื่อเถอะว่าพวกเขาไม่ว่าจะยากดีมีจนอย่างไร ก็ย่อมเป็นพสกนิกรของพระองค์ เป็นลูกของพ่อเหมือนกัน ดังนั้นอย่าแบ่งแยก อย่างด่วนสรุป อย่าทำร้ายจิตใจพวกเขามากไปกว่านี้เลย อย่าทำให้ปัญหาเสื้อดำเป็นปัญหาแบ่งแยกกันเลย !!