รัฐบาลเตรียมความพร้อมรองรับประชาชนที่จะเดินทางมาเคารพพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปริมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ช่วงวันหยุดยาวปิยะมหาราช จัดที่จอดรถ 4 จุดรอบกรุง ก่อนจัดรถเมล์รับส่ง ด้านบก.จร.ออกประกาศจัดการจราจร สำนักพระราชวังจัดพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลสัตตมวาร 19 ต.ค.นี้ พร้อมเตือนอย่าหลงเชื่อแอบอ้างร่วมเป็นเจ้าภาพการสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.30 น. วานนี้ (17ต.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธณะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขานุการศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์ (ศตส.) ได้เป็นประธานการประชุม ศตส. เพื่อเตรียมความพร้อมการจัดการจราจร เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่จะเดินทางมาเคารพพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่พระบรมมหาราชวัง หลังมีแนวโน้มปริมาณรถยนต์ และประชาชนเดินทางมามากขึ้น
นายสุวพันธุ์กล่าวว่า รัฐบาลได้สั่งการให้ขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) อำนวยความสะดวกจัดรถเมล์บริการฟรี มายังโรงแรมรัตนโกสินทร์ และสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเก่า และจัดจุดจอดรถส่วนบุคคลไว้ให้ อาทิ ลานจอดรถใต้สะพานพระราม 8 สนามม้านางเลิ้ง ถนนกำแพงเพชร 5 และถนนกำแพงเพชร 6 ส่วนประชาชนในต่างจังหวัดที่ประสงค์เดินทางเข้ากรุงเทพฯ จัดที่จอดรถให้ใน 4 มุมเมือง โดยภาคใต้ จัดจุดจอดรถให้ที่พุทธมณฑลสาย 4 ตะวันตก ที่เซ็นทรัลเวสต์เกต บางใหญ่ ภาคเหนือ ที่เมืองทองธานี ตะวันออก ที่แยกบางนาบริเวณจุดก่อสร้างบางกอกมอล์ล โดยขสมก.จัดรถบริการมายังพื้นที่ชั้นในให้
สำหรับประชาชนในต่างจังหวัดที่ไม่สะดวกเดินทางมา ให้มหาเถรสมาคม (มส.) ขอให้แต่ละวัดในต่างจังหวัดประกอบพิธีทางศาสนาเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล และให้กระทรวงมหาดไทย สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดให้มีการจัดพิธีแสดงความอาลัยในแต่ละพื้นที่ด้วย
ส่วนผู้มีจิตอาสานำอาหาร เครื่องดื่ม มาให้บริการประชาชนที่ร่วมงาน จะประสานให้มีจุดรับที่เหมาะสม เพื่อลดปัญหาการจราจรติดขัด โดยให้ติดต่อสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี หมายเลข 1111 นำของบริจาคมามอบให้ รวมถึงติดต่อกระทรวง ทบวง กรม ที่อยู่ใกล้ให้รับไว้ ส่วนผู้ที่ทำโรงทานและนำรถมาจอดแจกอาหารที่สนามหลวง ให้ประสานนำอาหารและเครื่องดื่มมาไว้ที่ศูนย์อำนวยการใหญ่ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่ประจำอยู่ที่สนามหลวง และให้ทั้ง 2 ศูนย์ หารือจัดหาพื้นที่เพื่อติดตั้งเต็นท์เพิ่ม
นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า สัปดาห์หน้าที่จะเป็นช่วงวันหยุดยาว ตรงกับวันปิยะมหาราช คาดว่าประชาชนจะเดินทางมาแสดงความอาลัยเป็นจำนวนมากกว่าปกติ จากเดิมที่ประชาชนหมุนเวียนมาแสดงความอาลัยกว่า 2 แสนคนต่อวันอยู่แล้ว จึงมอบหมายให้ทุกฝ่ายไปทำแผนรองรับในการจัดการจราจร
ส่วนที่มีการส่งภาพแผนที่ในโซเชียลมีเดียว่าจะมีพายุ 2 ลูก คือ สาริกาและไห่หม่า เข้าไทยนั้น กรมอุตินิยมวิทยา ยืนยันว่า ไม่ใช่ภาพของจริง และไม่มีผลกระทบไทย เพียงแต่จะมีฝนตกตามฤดูกาล ตั้งแต่วันที่ 19 ต.ค. และวันที่ 22 ต.ค.เท่านั้น ดังนั้น ขออย่าทำให้สังคมสับสน
นายสุวพันธุ์ ยังกล่าวถึงเรื่องความมั่นคงว่า ยังคงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ไม่ปรากฏสิ่งบอกเหตุ หรือความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ ขอให้ทุกฝ่ายสบายใจ การฉวยโอกาสอะไรก็แล้วแต่ ไม่ควรทำ แต่อาจมีบางฝ่าย บางกลุ่มที่ยังทำเรื่องไม่เหมาะสม อาทิ จ.ภูเก็ต จ.พังงา จ.สุราษฎร์ธานี โดยแต่ละจังหวัดได้แก้ไขปัญหาแล้ว ว่าตามเหตุผลและกฎหมาย ส่วนการเผยแพร่ภาพและข้อความที่ไม่เหมาะสมในต่างประเทศ พบมี 6 ราย แต่ไม่ขอระบุชื่อ เป็นรายเดิมๆ ซึ่งการดำเนินการกับคนเหล่านี้ค่อนข้างยาก เพราะอยู่ต่างประเทศ
วันเดียวกันนี้ กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) ได้ออกประกาศประชาสัมพันธ์ "การจัดการจราจร เพื่อรองรับประชาชนที่เดินทางเข้ามาถวายสักการะพระบรมศพ และถวายบังคมพระบรมศพ" กรณีปิดการจราจร การเดินรถทางเดียว และการห้ามจอดรถ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
การปิดการจราจร มีถนนที่ปิดการจราจรจำนวน 8 สาย ได้แก่ ถนนราชดำเนินใน จากแยกผ่านพิภพ ถึงแยกป้อมเผด็จ , ถนนสนามไชย จากแยกป้อมเผด็จ ถึงวงเวียน รด. , ถนนหน้าพระลาน จากแยกป้อมเผด็จ ถึงแยกท่าช้าง , ถนนหน้าพระธาตุ จากสามเหลี่ยมประตูวิเศษไชยศรี ถึงแยกถนนพระจันทร์ตัดถนนหน้าพระธาตุ , ถนนหลักเมือง , ถนนหับเผย , ถนนกัลยาณไมตรี ถึงสะพานช้างโรงสี , ซอยสราญรมย์
การเดินรถทางเดียว 3 สาย ได้แก่ ถนนพระจันทร์ จากแยกถนนพระจันทร์ตัดถนนหน้าพระธาตุ ถึงแยกท่าพระจันทร์ , ถนนมหาราช จากแยกท่าพระจันทร์ ถึงแยกถนนมหาราชตัดถนนท้ายวัง และถนนท้ายวัง จากแยกถนนมหาราชตัดถนนท้ายวัง ถึงวงเวียน รด.
การห้ามจอดรถ 18 สาย ได้แก่ ถนนราชดำเนินใน-ถนนสนามไชยตลอดสาย , ถนนหลักเมือง-ถนนกัลยาณไมตรี , ซอยสราญรมย์ - ถนนเจริญกรุงตัดถนนสนามไชย ถึงแยกสะพานมอญ , ถนนพระพิพิธ - ซอยเศรษฐการ , ถนนเชตุพน - ถนนท้ายวัง , ถนนมหาราช ข้างมหาราชวัง - ถนนมหาราช ข้างวัดมหาธาตุ , ถนนพระจันทร์ - ซอยพระยาเพชร , ถนนหน้าพระลาน - ถนนหน้าพระธาตุ , ถนนราชินี ตลอดสาย - ถนนพระอาทิตย์ (เส้นทางกลับ)
สำหรับบรรยากาศวันที่ 4 ของพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ศาลาสหทัยสมาคม พระบรมมหาราชวัง เหล่าพสกนิกร ปวงชนชาวไทยผู้ภักดีต่อองค์พ่อหลวงรัชกาลที่ 9 ทุกหมู่เหล่า ยังคงแห่แหนกันเดินทางมาต่อคิวรอเข้าร่วมลงนามแสดงความไว้อาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชกันอย่างคับคั่ง โดยสำนักพระราชวัง เปิดศาลาสหทัยสมาคม ตั้งแต่เวลา 08.30-16.00 น.
นอกจากนี้ ที่ศาลาว่าการพระราชวัง ในพระบรมมหาราชวัง ตลอดทั้งวัน มีคณะทูตานุทูตจากประเทศต่างๆ เดินทางมาลงนามแสดงความไว้อาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อาทิ ประเทศสโลวัก เคนยา สหราชอาณาจักร โรมาเนีย มอลตา อิตาลี มองโกเลีย ฮังการี เกาหลีเหนือ ยูเครน เป็นต้น
สำนักพระราชวัง แจ้งว่า ในวันพุธที่ 19 ต.ค. เวลา 17.00 น. จะมีพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสัตตมวาร (7วัน) ถวายแด่พระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง โดยพระสงฆ์ 30 รูป สวดพระพุทธมนต์ จบแล้ว มีพระธรรมเทศนากัณฑ์ 1 พระ 4 รูปสวดพระธรรมคาถา ผู้เข้าร่วมพระราชพิธีแต่งกายเครื่องแบบเต็มยศ ไว้ทุกข์ สายสะพายมหาจักรี หรือ สายสะพายมงกุฎไทย และในวันพฤหัสบดี ที่ 20 ต.ค. เวลา 10.30 น. พระสงฆ์ 30 รูปสวดถวายพรพระ รับพระราชทานฉัน มีพระธรรมเทศนากัณฑ์ 1 พระ 4 รูปสวดพระธรรมคาถา ประเคนผ้าไตร พระ 89 รูป เท่าพระชนมพรรษา ผู้เข้าร่วมพระราชพิธีแต่งกายเครื่องแบบครึ่งยศ ไว้ทุกข์
สำหรับพระราชพิธีสัตตมวาร เป็นการทำบุญอุทิศถวายแด่พระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในวาระครบรอบวันสวรรคต ครบ 7วัน เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทิตา น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์ข้อมูลข่าวสารงานพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้แจ้งเตือนประชาชนว่า อย่าหลงเชื่อข้อความในสังคมออนไลน์กรณีแอบอ้างร่วมเป็นเจ้าภาพการสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ หลังจากที่สังคมออนไลน์ได้มีการเชิญชวนว่า "ท่านใดจะจองเป็นเจ้าภาพ ในพระบรมมหาราชวังอีก 50 วัน ต่อจากนี้เริ่มจองได้ เบอร์ประสานขอเป็นเจ้าภาพ 02 2243273 ฝ่ายสารบัญ สำนักพระราชวัง ค่าใช้จ่ายคืนละ 20,000 บาท
ทั้งนี้ จากการประสานงานไปยังเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังในเรื่องนี้ ได้รับการชี้แจงว่า ข้อความดังกล่าวไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด และอาจเป็นช่องทางมิจฉาชีพแอบอ้างหาประโยชน์ หากหน่วยงานใดมีข้อสงสัย สามารถสอบถามได้ที่สำนักพระราชวัง หมายเลขโทรศัพท์ 02 2243270 และ 02 2243273 ซึ่งทางสำนักพระราชวัง จะประกาศพระราชทานพระราชานุญาตฯ ภายหลังจากการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศล ครบ 50 วัน และควรรอประกกาศอย่างเป็นทางการจากทางสำนักพระราชวังอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.30 น. วานนี้ (17ต.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธณะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขานุการศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์ (ศตส.) ได้เป็นประธานการประชุม ศตส. เพื่อเตรียมความพร้อมการจัดการจราจร เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่จะเดินทางมาเคารพพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่พระบรมมหาราชวัง หลังมีแนวโน้มปริมาณรถยนต์ และประชาชนเดินทางมามากขึ้น
นายสุวพันธุ์กล่าวว่า รัฐบาลได้สั่งการให้ขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) อำนวยความสะดวกจัดรถเมล์บริการฟรี มายังโรงแรมรัตนโกสินทร์ และสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเก่า และจัดจุดจอดรถส่วนบุคคลไว้ให้ อาทิ ลานจอดรถใต้สะพานพระราม 8 สนามม้านางเลิ้ง ถนนกำแพงเพชร 5 และถนนกำแพงเพชร 6 ส่วนประชาชนในต่างจังหวัดที่ประสงค์เดินทางเข้ากรุงเทพฯ จัดที่จอดรถให้ใน 4 มุมเมือง โดยภาคใต้ จัดจุดจอดรถให้ที่พุทธมณฑลสาย 4 ตะวันตก ที่เซ็นทรัลเวสต์เกต บางใหญ่ ภาคเหนือ ที่เมืองทองธานี ตะวันออก ที่แยกบางนาบริเวณจุดก่อสร้างบางกอกมอล์ล โดยขสมก.จัดรถบริการมายังพื้นที่ชั้นในให้
สำหรับประชาชนในต่างจังหวัดที่ไม่สะดวกเดินทางมา ให้มหาเถรสมาคม (มส.) ขอให้แต่ละวัดในต่างจังหวัดประกอบพิธีทางศาสนาเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล และให้กระทรวงมหาดไทย สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดให้มีการจัดพิธีแสดงความอาลัยในแต่ละพื้นที่ด้วย
ส่วนผู้มีจิตอาสานำอาหาร เครื่องดื่ม มาให้บริการประชาชนที่ร่วมงาน จะประสานให้มีจุดรับที่เหมาะสม เพื่อลดปัญหาการจราจรติดขัด โดยให้ติดต่อสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี หมายเลข 1111 นำของบริจาคมามอบให้ รวมถึงติดต่อกระทรวง ทบวง กรม ที่อยู่ใกล้ให้รับไว้ ส่วนผู้ที่ทำโรงทานและนำรถมาจอดแจกอาหารที่สนามหลวง ให้ประสานนำอาหารและเครื่องดื่มมาไว้ที่ศูนย์อำนวยการใหญ่ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่ประจำอยู่ที่สนามหลวง และให้ทั้ง 2 ศูนย์ หารือจัดหาพื้นที่เพื่อติดตั้งเต็นท์เพิ่ม
นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า สัปดาห์หน้าที่จะเป็นช่วงวันหยุดยาว ตรงกับวันปิยะมหาราช คาดว่าประชาชนจะเดินทางมาแสดงความอาลัยเป็นจำนวนมากกว่าปกติ จากเดิมที่ประชาชนหมุนเวียนมาแสดงความอาลัยกว่า 2 แสนคนต่อวันอยู่แล้ว จึงมอบหมายให้ทุกฝ่ายไปทำแผนรองรับในการจัดการจราจร
ส่วนที่มีการส่งภาพแผนที่ในโซเชียลมีเดียว่าจะมีพายุ 2 ลูก คือ สาริกาและไห่หม่า เข้าไทยนั้น กรมอุตินิยมวิทยา ยืนยันว่า ไม่ใช่ภาพของจริง และไม่มีผลกระทบไทย เพียงแต่จะมีฝนตกตามฤดูกาล ตั้งแต่วันที่ 19 ต.ค. และวันที่ 22 ต.ค.เท่านั้น ดังนั้น ขออย่าทำให้สังคมสับสน
นายสุวพันธุ์ ยังกล่าวถึงเรื่องความมั่นคงว่า ยังคงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ไม่ปรากฏสิ่งบอกเหตุ หรือความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ ขอให้ทุกฝ่ายสบายใจ การฉวยโอกาสอะไรก็แล้วแต่ ไม่ควรทำ แต่อาจมีบางฝ่าย บางกลุ่มที่ยังทำเรื่องไม่เหมาะสม อาทิ จ.ภูเก็ต จ.พังงา จ.สุราษฎร์ธานี โดยแต่ละจังหวัดได้แก้ไขปัญหาแล้ว ว่าตามเหตุผลและกฎหมาย ส่วนการเผยแพร่ภาพและข้อความที่ไม่เหมาะสมในต่างประเทศ พบมี 6 ราย แต่ไม่ขอระบุชื่อ เป็นรายเดิมๆ ซึ่งการดำเนินการกับคนเหล่านี้ค่อนข้างยาก เพราะอยู่ต่างประเทศ
วันเดียวกันนี้ กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) ได้ออกประกาศประชาสัมพันธ์ "การจัดการจราจร เพื่อรองรับประชาชนที่เดินทางเข้ามาถวายสักการะพระบรมศพ และถวายบังคมพระบรมศพ" กรณีปิดการจราจร การเดินรถทางเดียว และการห้ามจอดรถ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
การปิดการจราจร มีถนนที่ปิดการจราจรจำนวน 8 สาย ได้แก่ ถนนราชดำเนินใน จากแยกผ่านพิภพ ถึงแยกป้อมเผด็จ , ถนนสนามไชย จากแยกป้อมเผด็จ ถึงวงเวียน รด. , ถนนหน้าพระลาน จากแยกป้อมเผด็จ ถึงแยกท่าช้าง , ถนนหน้าพระธาตุ จากสามเหลี่ยมประตูวิเศษไชยศรี ถึงแยกถนนพระจันทร์ตัดถนนหน้าพระธาตุ , ถนนหลักเมือง , ถนนหับเผย , ถนนกัลยาณไมตรี ถึงสะพานช้างโรงสี , ซอยสราญรมย์
การเดินรถทางเดียว 3 สาย ได้แก่ ถนนพระจันทร์ จากแยกถนนพระจันทร์ตัดถนนหน้าพระธาตุ ถึงแยกท่าพระจันทร์ , ถนนมหาราช จากแยกท่าพระจันทร์ ถึงแยกถนนมหาราชตัดถนนท้ายวัง และถนนท้ายวัง จากแยกถนนมหาราชตัดถนนท้ายวัง ถึงวงเวียน รด.
การห้ามจอดรถ 18 สาย ได้แก่ ถนนราชดำเนินใน-ถนนสนามไชยตลอดสาย , ถนนหลักเมือง-ถนนกัลยาณไมตรี , ซอยสราญรมย์ - ถนนเจริญกรุงตัดถนนสนามไชย ถึงแยกสะพานมอญ , ถนนพระพิพิธ - ซอยเศรษฐการ , ถนนเชตุพน - ถนนท้ายวัง , ถนนมหาราช ข้างมหาราชวัง - ถนนมหาราช ข้างวัดมหาธาตุ , ถนนพระจันทร์ - ซอยพระยาเพชร , ถนนหน้าพระลาน - ถนนหน้าพระธาตุ , ถนนราชินี ตลอดสาย - ถนนพระอาทิตย์ (เส้นทางกลับ)
สำหรับบรรยากาศวันที่ 4 ของพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ศาลาสหทัยสมาคม พระบรมมหาราชวัง เหล่าพสกนิกร ปวงชนชาวไทยผู้ภักดีต่อองค์พ่อหลวงรัชกาลที่ 9 ทุกหมู่เหล่า ยังคงแห่แหนกันเดินทางมาต่อคิวรอเข้าร่วมลงนามแสดงความไว้อาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชกันอย่างคับคั่ง โดยสำนักพระราชวัง เปิดศาลาสหทัยสมาคม ตั้งแต่เวลา 08.30-16.00 น.
นอกจากนี้ ที่ศาลาว่าการพระราชวัง ในพระบรมมหาราชวัง ตลอดทั้งวัน มีคณะทูตานุทูตจากประเทศต่างๆ เดินทางมาลงนามแสดงความไว้อาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อาทิ ประเทศสโลวัก เคนยา สหราชอาณาจักร โรมาเนีย มอลตา อิตาลี มองโกเลีย ฮังการี เกาหลีเหนือ ยูเครน เป็นต้น
สำนักพระราชวัง แจ้งว่า ในวันพุธที่ 19 ต.ค. เวลา 17.00 น. จะมีพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสัตตมวาร (7วัน) ถวายแด่พระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง โดยพระสงฆ์ 30 รูป สวดพระพุทธมนต์ จบแล้ว มีพระธรรมเทศนากัณฑ์ 1 พระ 4 รูปสวดพระธรรมคาถา ผู้เข้าร่วมพระราชพิธีแต่งกายเครื่องแบบเต็มยศ ไว้ทุกข์ สายสะพายมหาจักรี หรือ สายสะพายมงกุฎไทย และในวันพฤหัสบดี ที่ 20 ต.ค. เวลา 10.30 น. พระสงฆ์ 30 รูปสวดถวายพรพระ รับพระราชทานฉัน มีพระธรรมเทศนากัณฑ์ 1 พระ 4 รูปสวดพระธรรมคาถา ประเคนผ้าไตร พระ 89 รูป เท่าพระชนมพรรษา ผู้เข้าร่วมพระราชพิธีแต่งกายเครื่องแบบครึ่งยศ ไว้ทุกข์
สำหรับพระราชพิธีสัตตมวาร เป็นการทำบุญอุทิศถวายแด่พระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในวาระครบรอบวันสวรรคต ครบ 7วัน เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทิตา น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์ข้อมูลข่าวสารงานพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้แจ้งเตือนประชาชนว่า อย่าหลงเชื่อข้อความในสังคมออนไลน์กรณีแอบอ้างร่วมเป็นเจ้าภาพการสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ หลังจากที่สังคมออนไลน์ได้มีการเชิญชวนว่า "ท่านใดจะจองเป็นเจ้าภาพ ในพระบรมมหาราชวังอีก 50 วัน ต่อจากนี้เริ่มจองได้ เบอร์ประสานขอเป็นเจ้าภาพ 02 2243273 ฝ่ายสารบัญ สำนักพระราชวัง ค่าใช้จ่ายคืนละ 20,000 บาท
ทั้งนี้ จากการประสานงานไปยังเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังในเรื่องนี้ ได้รับการชี้แจงว่า ข้อความดังกล่าวไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด และอาจเป็นช่องทางมิจฉาชีพแอบอ้างหาประโยชน์ หากหน่วยงานใดมีข้อสงสัย สามารถสอบถามได้ที่สำนักพระราชวัง หมายเลขโทรศัพท์ 02 2243270 และ 02 2243273 ซึ่งทางสำนักพระราชวัง จะประกาศพระราชทานพระราชานุญาตฯ ภายหลังจากการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศล ครบ 50 วัน และควรรอประกกาศอย่างเป็นทางการจากทางสำนักพระราชวังอีกครั้ง
