ASTVผู้จัดการรายวัน-“วัชรพล” ยังไม่ทราบข้อมูล "ตั้ง อาชีวะ” ผู้ต้องหาคดีหมิ่นเบื้องสูงเสียชีวิตที่กัมพูชาจริงหรือไม่ ขอตรวจสอบก่อน ขณะที่โลกโซเซียลแชร์กันว่อน บุคคลอ้างตัวเป็นทหารระบุถูกยิงสมองไหลจริง แต่ยังไม่ขอเปิดเผยข้อมูล รอคำสั่งนายก่อน ตำรวจแถลงข่าวขยายผลยึดอาวุธสงคราม แถมเจอคลังแสงกลางกรุงที่ชิดลมอีกบาน คุมตัว "ไอ้ตุ้ย" มือยิงเอ็ม 79 ใส่มวลชน กปปส. ที่ ถ.สวรรคโลกไปทำแผน
วานนี้ (16 ก.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า นายเอกภพ เหลือรา หรือตั้ง อาชีวะ ผู้ต้องหาคดีหมิ่นเบื้องสูง และอยู่ระหว่างหลบหนีคดีถูกยิงเสียชีวิตที่ประเทศกัมพูชา ว่า ตนยังไม่ได้รับทราบข้อมูลตรงนี้ จึงขอให้ตำรวจได้มีการตรวจสอบให้แน่ชัดก่อน เพราะเท่าที่ทราบ นายเอกภพไม่ได้อยู่ในประเทศไทยแล้ว และกำลังให้ตำรวจสืบสวนหาตัว เพราะนายเอกภพถูกออกหมายจับในคดีหมิ่นเบื้องสูง เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ก็มีข่าวว่า นายเอกภพหลบหนีไปอยู่ที่ประเทศกัมพูชา แต่ก็ต้องขอให้ทางตำรวจได้สืบสวนต่อไป
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีนายตั้ง อาชีวะ ได้ถูกยิงเสียชีวิตแล้วที่ประเทศกัมพูชาว่า ตนทราบเรื่องจากผู้สื่อข่าวแล้ว แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ โดยเบื้องต้นได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ในเครือข่ายสังคมออนไลน์ มีผู้แชร์ข้อมูลกันอย่างแพร่หลาย กรณีตั้ง อาชีวะ อาทิ ผู้ใช้เฟซบุ๊กคนหนึ่ง (ขอสงวนชื่อ) ได้โพสต์ข้อความว่า ลือลั่น สนั่น! กองทัพ สายในรายงานมาว่า ตั้ง อาชีวะ หรือนายเอกภพ เหลือรา หนุ่มนักโทษคดีหมิ่นเบื้องสูง ถูกเก็บแล้ว จริงไม่จริงอย่างไร แชร์กันให้กระหน่ำไปเลยครับ ดูปฏิกิริยาของมันภายในหนึ่งอาทิตย์ ถ้ามันไม่ออกคลิปหรือเคลื่อนไหวอะไร ขอฟันธงว่าโดนเก็บสมองไหลไปแล้วแน่นอน ถึงว่าผมถึงไม่ค่อยได้ข่าวคราวของมันเลย สะใจมากคนที่เก็บมัน สมควรตายแล้วครับ สะใจ!!!!
นอกจากนี้ ยังระบุอีกว่า “ผมต้องขอชี้แจงก่อนนะครับ ไอ้ตั้ง อาชีวะมันตายจริง ๆ นะครับ แต่คำสั่งก็คือคำสั่ง ผมมีภาพสภาพศพทุกอย่าง แต่จะไม่เปิดเผยภาพใดๆ จนกว่านายท่านจะสั่งลงมา และที่นายท่านไม่ออกสื่อกรณีของตั้งอาชีวะ เพราะมันจะคุมสื่อไม่ได้ ถ้ามันรู้ถึงหูครอบครัวเขา เขาก็ต้องเศร้าที่คนในครอบครัวเขาตาย ถึงตั้งมันจะเป็นคนเลวก็เหอะ แต่ญาติเขาก็ต้องเสียใจเป็นธรรมดาเหมือนที่เราๆ สูญเสียญาติ ผมสามารถนำข้อมูลมาชี้แจงให้หลายๆ ท่านได้เพียงเท่านี้ เพราะนายสั่งไว้ มีคนส่งข้อความมาหาผมว่า โกหก ผมบอกเลยว่าคุณจะคิดยังไงผมไม่สน เพราะผม คือ ทหาร คำสั่งคือคำสั่ง นอกคำสั่งก็ทรยศนาย หวังว่าทุกท่านคงเข้าใจนะครับ”
***ขยายผลยึดอาวุธสงครามได้จำนวนมาก
ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.อ.สมยศ พร้อมพล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รรท.ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.วิรุฬ เอี่ยมไพจิตร รอง ผบช.ภ.1 และพ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. ร่วมกันแถลงการตรวจยึดอาวุธปืนเอ็ม 16 เอ1 จำนวน 1 กระบอก ปืนไรเฟิล 1 กระบอก เครื่องยิงลูกระเบิดชนิดเอ็ม 79 จำนวน 1 กระบอก ลูกระเบิดชนิดเอ็ม 79 ขนาด 40 มม.จำนวน 25 ลูก กระสุนปืนขนาด 5.56 มม.ใช้กับปืนเอ็ม 16 จำนวน 70 นัด ลูกระเบิดชนิดขว้าง วี 40 จำนวน 2 ลูก ลูกระเบิดชนิดขว้างเอ็ม 26 จำนวน 1 ลูก ลูกระเบิดชนิดขว้างเอ็มเค 2 จำนวน 2 ลูก แมกกาซีนปืนเอชเค จำนวน 1 อัน โดยสามารถตรวจยึดได้ที่บริเวณพงหญ้าข้างถนน ปากทางเข้าหมู่บ้านพฤกษา บี ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา
พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบสวนขยายนายชัชวาล ปราบบำรุง หนึ่งในผู้ต้องหาคดียิงอาวุธปืนเอ็ม 79 ใส่หน้าห้างบิ๊กซี สาขาราชดำริ กทม. จนเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตให้การว่าได้นำอาวุธที่ใช้ในการก่อเหตุไปซุกซ่อนไว้ที่บริเวณพงหญ้าดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามไปตรวจค้นและสามารถยึดอาวุธดังกล่าวไว้ได้ ซึ่งอาวุธทั้งหมดมีสภาพพร้อมใช้งาน โดยทางเจ้าหน้าที่เชื่อว่าอาวุธดังกล่าวน่าจะมีบุคคลอีกหลายกลุ่มที่นำไปใช้หมุนเวียนในการก่อเหตุ และคาดว่าจะสามารถจับกุมตัวได้ในเร็ววันนี้อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เชื่ออาวุธดังกล่าวจะต้องมีผู้จัดหามาให้ เพื่อนำไปใช้ในการก่อเหตุ ซึ่งจะต้องทำการสืบสวนขยายผลอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนนำตัวผู้ที่อยู่เบื้องหลังมาดำเนินคดี โดยหากผลของการสืบสวน ยังมีข้อมูลและหลักฐานที่ไม่ชัดเจนหรือชี้ไปไม่ถึงตัวผู้กระทำความผิด ทางเจ้าหน้าที่จะไม่พูดถึง เนื่องจากเกรงจะเสียรูปคดี อย่างไรก็ตาม จะต้องนำอาวุธดังกล่าวไปตรวจพิสูจน์ จึงจะทราบได้ว่า เคยนำไปใช้ก่อเหตุที่ไหนบ้าง
***พบอีกซุกซ่อนคลังแสงกลางกรุง
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.อ.สมยศ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ไชยา คงทรัพย์ ผกก.สน.ลุมพินี พ.ต.ท.ดวงโชติ สุวรรณจรัส รอง ผกก.สส.สน.ลุมพินี พ.ต.ท.ธเนศ มีทอง สว.สส.สน.ลุมพินี พ.ต.ต.กฤษดา มานะวงศ์สกุล สว.สส.สน.ลุมพินี และเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ลุมพินี ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาซุกซ่อนอาวุธสงครามและเครื่องยุทธภัณฑ์ทางทหารหลายรายการ คือ นายสัชญา สถิรพงษะสุทธิ หรือขวัญ อายุ 39 ปี ได้ที่ห้องพักเลขที่ 9/527 คอนโดมิเนียม ดิแอดเดรสชิดลม อาคารบี ถ.เพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม.
โดยของกลางประกอบด้วย อาวุธปืน M16 บรรจุแมกกาซีนเปล่า จำนวน 1 กระบอก, อาวุธปืน M16 ดัดแปลง ติดตั้งลำกล้องเก็บเสียง บรรจุแมกกาซีนและมีลูกกระสุนขนาด 5.56 จำนวน 27 นัด, อาวุธปืนเล็กยาวขนาด 7.62 มม.ดัดแปลงบรรจุแมกกาซีนและมีลูกกระสุนขนาด 7.62 จำนวน 20 นัด, อาวุธปืนยาว Ruger ขนาด .22 บรรจุแมกกาซีนและมีลูกกระสุนขนาด .22 จำนวน 25 นัด, ลำกล้องปืน Reminton 260 จำนวน 1 ชุด, อาวุธปืน Smith & Wesson .357 Magnum บรรจุแมกกาซีนและมีลูกกระสุนขนาด .357 จำนวน 6 นัด, อาวุธปืน Smith & Wesson .22 Long Rifel บรรจุแมกกาซีนและกระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 8 นัด, อาวุธปืนสั้น Bul-M5 บรรจุแมกกาซีนและมีกระสุนปืนขนาด .38 Super จำนวน 16 นัด, แมกกาซีนสำรอง บรรจุลูกกระสุนขนาด .38 Super จำนวน 15 นัด, ลูกกระสุนปืน M-79 จำนวน 19 นัด, กระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 8 นัด และปลอกกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 2 นัด, กระสุนปืนขนาด.357 จำนวน 6 นัด และปลอกกระสุนปืนขนาด .357 จำนวน 21 นัด, ลูกกระสุนขนาด 5.56 จำนวน 2,329 นัด, ลูกกระสุนขนาด 7.62 จำนวน 568 นัด, ลูกกระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 433 นัด, ลูกกระสุนปืน .38 Super จำนวน 59 นัด, ลูกกระสุนปืนขนาด .357 Magnum จำนวน 12 นัด, แมกกาซีนบรรจุกระสุนขนาด 5.56 จำนวน 3 แมกฯ, แมกกาซีนภายในบรรจุลูกกระสุนขนาด 5.56 จำนวน 2 ซอง, แมกกาซีน ภายในบรรจุลูกกระสุนขนาด 7.62 จำนวน 2 ซอง, แมกกาซีน ภายในบรรจุลูกกระสุน .38 Super, แมกกาซีน ภายในบรรจุลูกกระสุนขนาด 7.62, อุปกรณ์บรรจุกระสุนลูกโม่จำนวน 2 อัน, กล้องส่องเวลากลางคืน จำนวน1 ชุด, เสื้อกันกระสุนสีดำ 1 ตัว และหมวกกันกระสุนสีดำ 1 ใบ
พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้ติดตามจับกุมคนร้ายจนกระทั่งคนร้ายได้ติดต่อมายังสายของตำรวจ เพื่อทำการค้าอาวุธสงครามดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวางแผนการจับกุมตัวคนร้าย ซึ่งคืนที่ผ่านมา สน.ลุมพินี สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาพร้อมอาวุธสงครามจำนวนมาก
จากการสืบสวนคาดว่าจะต้องใช้พยานหลักฐานต่างๆ ที่มี ไม่ว่าจะเป็นพยานบุคคล พยานหลักฐานกล้องซีซีทีวีในอพาร์ตเมนต์ ทางเจ้าหน้าที่จะต้องรวบรวมข้อมูลส่งไปยังกองพิสูจน์หลักฐาน เพื่อทราบว่าอาวุธที่จับกุมได้เคยใช้หรือเคยนำไปก่อเหตุหรือไม่ เบื้องต้นผู้ต้องหาไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ จะถือว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคล เจ้าหน้าที่ตำรวจมีหน้าที่รวบรวมหลักฐานที่ปรากฏ และจะต้องดำเนินคดีตามกฎหมายต่อผู้ต้องหา และขอชี้แจงว่าก่อนหน้านี้ที่มีการชุมนุม อุปกรณ์ต่างๆ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) สูญหายไปมาก หากมีการจับกุมผู้ต้องหาหรืออาวุธสงครามได้ จะหาข้อมูลว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการเกิดเหตุต่างๆ ที่ผ่านมาได้หรือไม่
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาต มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้มีและใช้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย มียุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีเหตุเร่งตามสมควรแก่พฤติการณ์ ต่อสู้ขัดขวางพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่
***นำมือยิงเอ็ม79ใส่กปปส.ทำแผน
พ.ต.ท.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ รอง ผกก.สส.สน.ดุสิต พร้อมด้วยพ.ต.ท.อัครชัย แช่มช้อย พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ หัวหน้างานสอบสวน สน.ดุสิต และเจ้าหน้าที่กองพิสูจ์หลักฐาน ร่วมกันควบคุมตัวนายณรงศักดิ์ พลายอร่าม หรือตุ้ย อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงระเบิดเอ็ม 79 เพื่อไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณถนนสวรรคโลกก่อนถึงแยกเสาวนีย์ ใกล้สถานีรถไฟสวนจิตรลด แขวงสวนจิตรลดา เขตดุสิต กทม.
เนื่องจากนายณรงศักดิ์ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนก่อเหตุยิงเอ็ม 79 ใส่บริเวณดังกล่าว เมื่อประมาณวันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้รถแท็กซี่ ยี่ห้อโตโยต้า โคโรลล่า สีเขียว-เหลือง หมายเลขทะเบียน ทส-836 กทม. กรุงเทพมหานคร และรถเก๋งยี่ห้อ โตโยต้าคัมรี่ สีขาว หมายเลขทะเบียน ณฮ-838 กทม.ที่กำลังจอดติดไฟแดงอยู่บนถนนสวรรคโลกจนได้รับเสียหาย โดยในวันเกิดเหตุนายณรงค์ศักดิ์ ขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าคลิก สีฟ้า ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มาตามถนนกำแพงเพชร 5 เลียบทางรถไฟ โดยในอาวุธปืนใส่ถุงเต้นท์แล้วแขวนไว้ตรงตะขอเกี่ยวหน้ารถ เมื่อผ่านขับแยกอุภัยเจษฎุทิศ มาถึงบริเวณด้านหลังโรงพยาบาลรามาธิบดี ก็จอดรถแล้วหยิบเครื่องยิงขึ้นมาก่อเหตุทันที โดยตั้งใจจะให้กระสุนไปตกใส่กลุ่มผู้ชุมนุมที่กำลังเดินขบวนผ่านบริเวณแยกเสาวนีย์ แต่พลาดไปตกลงบริเวณถนนสวรรคโลกจนทำให้รถเสียหายไป 2 คัน จากนั้นก็รีบขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีย้อนกลับไปทางเดิม
วานนี้ (16 ก.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า นายเอกภพ เหลือรา หรือตั้ง อาชีวะ ผู้ต้องหาคดีหมิ่นเบื้องสูง และอยู่ระหว่างหลบหนีคดีถูกยิงเสียชีวิตที่ประเทศกัมพูชา ว่า ตนยังไม่ได้รับทราบข้อมูลตรงนี้ จึงขอให้ตำรวจได้มีการตรวจสอบให้แน่ชัดก่อน เพราะเท่าที่ทราบ นายเอกภพไม่ได้อยู่ในประเทศไทยแล้ว และกำลังให้ตำรวจสืบสวนหาตัว เพราะนายเอกภพถูกออกหมายจับในคดีหมิ่นเบื้องสูง เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ก็มีข่าวว่า นายเอกภพหลบหนีไปอยู่ที่ประเทศกัมพูชา แต่ก็ต้องขอให้ทางตำรวจได้สืบสวนต่อไป
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีนายตั้ง อาชีวะ ได้ถูกยิงเสียชีวิตแล้วที่ประเทศกัมพูชาว่า ตนทราบเรื่องจากผู้สื่อข่าวแล้ว แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ โดยเบื้องต้นได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ในเครือข่ายสังคมออนไลน์ มีผู้แชร์ข้อมูลกันอย่างแพร่หลาย กรณีตั้ง อาชีวะ อาทิ ผู้ใช้เฟซบุ๊กคนหนึ่ง (ขอสงวนชื่อ) ได้โพสต์ข้อความว่า ลือลั่น สนั่น! กองทัพ สายในรายงานมาว่า ตั้ง อาชีวะ หรือนายเอกภพ เหลือรา หนุ่มนักโทษคดีหมิ่นเบื้องสูง ถูกเก็บแล้ว จริงไม่จริงอย่างไร แชร์กันให้กระหน่ำไปเลยครับ ดูปฏิกิริยาของมันภายในหนึ่งอาทิตย์ ถ้ามันไม่ออกคลิปหรือเคลื่อนไหวอะไร ขอฟันธงว่าโดนเก็บสมองไหลไปแล้วแน่นอน ถึงว่าผมถึงไม่ค่อยได้ข่าวคราวของมันเลย สะใจมากคนที่เก็บมัน สมควรตายแล้วครับ สะใจ!!!!
นอกจากนี้ ยังระบุอีกว่า “ผมต้องขอชี้แจงก่อนนะครับ ไอ้ตั้ง อาชีวะมันตายจริง ๆ นะครับ แต่คำสั่งก็คือคำสั่ง ผมมีภาพสภาพศพทุกอย่าง แต่จะไม่เปิดเผยภาพใดๆ จนกว่านายท่านจะสั่งลงมา และที่นายท่านไม่ออกสื่อกรณีของตั้งอาชีวะ เพราะมันจะคุมสื่อไม่ได้ ถ้ามันรู้ถึงหูครอบครัวเขา เขาก็ต้องเศร้าที่คนในครอบครัวเขาตาย ถึงตั้งมันจะเป็นคนเลวก็เหอะ แต่ญาติเขาก็ต้องเสียใจเป็นธรรมดาเหมือนที่เราๆ สูญเสียญาติ ผมสามารถนำข้อมูลมาชี้แจงให้หลายๆ ท่านได้เพียงเท่านี้ เพราะนายสั่งไว้ มีคนส่งข้อความมาหาผมว่า โกหก ผมบอกเลยว่าคุณจะคิดยังไงผมไม่สน เพราะผม คือ ทหาร คำสั่งคือคำสั่ง นอกคำสั่งก็ทรยศนาย หวังว่าทุกท่านคงเข้าใจนะครับ”
***ขยายผลยึดอาวุธสงครามได้จำนวนมาก
ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.อ.สมยศ พร้อมพล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รรท.ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.วิรุฬ เอี่ยมไพจิตร รอง ผบช.ภ.1 และพ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. ร่วมกันแถลงการตรวจยึดอาวุธปืนเอ็ม 16 เอ1 จำนวน 1 กระบอก ปืนไรเฟิล 1 กระบอก เครื่องยิงลูกระเบิดชนิดเอ็ม 79 จำนวน 1 กระบอก ลูกระเบิดชนิดเอ็ม 79 ขนาด 40 มม.จำนวน 25 ลูก กระสุนปืนขนาด 5.56 มม.ใช้กับปืนเอ็ม 16 จำนวน 70 นัด ลูกระเบิดชนิดขว้าง วี 40 จำนวน 2 ลูก ลูกระเบิดชนิดขว้างเอ็ม 26 จำนวน 1 ลูก ลูกระเบิดชนิดขว้างเอ็มเค 2 จำนวน 2 ลูก แมกกาซีนปืนเอชเค จำนวน 1 อัน โดยสามารถตรวจยึดได้ที่บริเวณพงหญ้าข้างถนน ปากทางเข้าหมู่บ้านพฤกษา บี ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา
พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบสวนขยายนายชัชวาล ปราบบำรุง หนึ่งในผู้ต้องหาคดียิงอาวุธปืนเอ็ม 79 ใส่หน้าห้างบิ๊กซี สาขาราชดำริ กทม. จนเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตให้การว่าได้นำอาวุธที่ใช้ในการก่อเหตุไปซุกซ่อนไว้ที่บริเวณพงหญ้าดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามไปตรวจค้นและสามารถยึดอาวุธดังกล่าวไว้ได้ ซึ่งอาวุธทั้งหมดมีสภาพพร้อมใช้งาน โดยทางเจ้าหน้าที่เชื่อว่าอาวุธดังกล่าวน่าจะมีบุคคลอีกหลายกลุ่มที่นำไปใช้หมุนเวียนในการก่อเหตุ และคาดว่าจะสามารถจับกุมตัวได้ในเร็ววันนี้อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เชื่ออาวุธดังกล่าวจะต้องมีผู้จัดหามาให้ เพื่อนำไปใช้ในการก่อเหตุ ซึ่งจะต้องทำการสืบสวนขยายผลอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนนำตัวผู้ที่อยู่เบื้องหลังมาดำเนินคดี โดยหากผลของการสืบสวน ยังมีข้อมูลและหลักฐานที่ไม่ชัดเจนหรือชี้ไปไม่ถึงตัวผู้กระทำความผิด ทางเจ้าหน้าที่จะไม่พูดถึง เนื่องจากเกรงจะเสียรูปคดี อย่างไรก็ตาม จะต้องนำอาวุธดังกล่าวไปตรวจพิสูจน์ จึงจะทราบได้ว่า เคยนำไปใช้ก่อเหตุที่ไหนบ้าง
***พบอีกซุกซ่อนคลังแสงกลางกรุง
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.อ.สมยศ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ไชยา คงทรัพย์ ผกก.สน.ลุมพินี พ.ต.ท.ดวงโชติ สุวรรณจรัส รอง ผกก.สส.สน.ลุมพินี พ.ต.ท.ธเนศ มีทอง สว.สส.สน.ลุมพินี พ.ต.ต.กฤษดา มานะวงศ์สกุล สว.สส.สน.ลุมพินี และเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ลุมพินี ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาซุกซ่อนอาวุธสงครามและเครื่องยุทธภัณฑ์ทางทหารหลายรายการ คือ นายสัชญา สถิรพงษะสุทธิ หรือขวัญ อายุ 39 ปี ได้ที่ห้องพักเลขที่ 9/527 คอนโดมิเนียม ดิแอดเดรสชิดลม อาคารบี ถ.เพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม.
โดยของกลางประกอบด้วย อาวุธปืน M16 บรรจุแมกกาซีนเปล่า จำนวน 1 กระบอก, อาวุธปืน M16 ดัดแปลง ติดตั้งลำกล้องเก็บเสียง บรรจุแมกกาซีนและมีลูกกระสุนขนาด 5.56 จำนวน 27 นัด, อาวุธปืนเล็กยาวขนาด 7.62 มม.ดัดแปลงบรรจุแมกกาซีนและมีลูกกระสุนขนาด 7.62 จำนวน 20 นัด, อาวุธปืนยาว Ruger ขนาด .22 บรรจุแมกกาซีนและมีลูกกระสุนขนาด .22 จำนวน 25 นัด, ลำกล้องปืน Reminton 260 จำนวน 1 ชุด, อาวุธปืน Smith & Wesson .357 Magnum บรรจุแมกกาซีนและมีลูกกระสุนขนาด .357 จำนวน 6 นัด, อาวุธปืน Smith & Wesson .22 Long Rifel บรรจุแมกกาซีนและกระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 8 นัด, อาวุธปืนสั้น Bul-M5 บรรจุแมกกาซีนและมีกระสุนปืนขนาด .38 Super จำนวน 16 นัด, แมกกาซีนสำรอง บรรจุลูกกระสุนขนาด .38 Super จำนวน 15 นัด, ลูกกระสุนปืน M-79 จำนวน 19 นัด, กระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 8 นัด และปลอกกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 2 นัด, กระสุนปืนขนาด.357 จำนวน 6 นัด และปลอกกระสุนปืนขนาด .357 จำนวน 21 นัด, ลูกกระสุนขนาด 5.56 จำนวน 2,329 นัด, ลูกกระสุนขนาด 7.62 จำนวน 568 นัด, ลูกกระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 433 นัด, ลูกกระสุนปืน .38 Super จำนวน 59 นัด, ลูกกระสุนปืนขนาด .357 Magnum จำนวน 12 นัด, แมกกาซีนบรรจุกระสุนขนาด 5.56 จำนวน 3 แมกฯ, แมกกาซีนภายในบรรจุลูกกระสุนขนาด 5.56 จำนวน 2 ซอง, แมกกาซีน ภายในบรรจุลูกกระสุนขนาด 7.62 จำนวน 2 ซอง, แมกกาซีน ภายในบรรจุลูกกระสุน .38 Super, แมกกาซีน ภายในบรรจุลูกกระสุนขนาด 7.62, อุปกรณ์บรรจุกระสุนลูกโม่จำนวน 2 อัน, กล้องส่องเวลากลางคืน จำนวน1 ชุด, เสื้อกันกระสุนสีดำ 1 ตัว และหมวกกันกระสุนสีดำ 1 ใบ
พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้ติดตามจับกุมคนร้ายจนกระทั่งคนร้ายได้ติดต่อมายังสายของตำรวจ เพื่อทำการค้าอาวุธสงครามดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวางแผนการจับกุมตัวคนร้าย ซึ่งคืนที่ผ่านมา สน.ลุมพินี สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาพร้อมอาวุธสงครามจำนวนมาก
จากการสืบสวนคาดว่าจะต้องใช้พยานหลักฐานต่างๆ ที่มี ไม่ว่าจะเป็นพยานบุคคล พยานหลักฐานกล้องซีซีทีวีในอพาร์ตเมนต์ ทางเจ้าหน้าที่จะต้องรวบรวมข้อมูลส่งไปยังกองพิสูจน์หลักฐาน เพื่อทราบว่าอาวุธที่จับกุมได้เคยใช้หรือเคยนำไปก่อเหตุหรือไม่ เบื้องต้นผู้ต้องหาไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ จะถือว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคล เจ้าหน้าที่ตำรวจมีหน้าที่รวบรวมหลักฐานที่ปรากฏ และจะต้องดำเนินคดีตามกฎหมายต่อผู้ต้องหา และขอชี้แจงว่าก่อนหน้านี้ที่มีการชุมนุม อุปกรณ์ต่างๆ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) สูญหายไปมาก หากมีการจับกุมผู้ต้องหาหรืออาวุธสงครามได้ จะหาข้อมูลว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการเกิดเหตุต่างๆ ที่ผ่านมาได้หรือไม่
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาต มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้มีและใช้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย มียุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีเหตุเร่งตามสมควรแก่พฤติการณ์ ต่อสู้ขัดขวางพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่
***นำมือยิงเอ็ม79ใส่กปปส.ทำแผน
พ.ต.ท.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ รอง ผกก.สส.สน.ดุสิต พร้อมด้วยพ.ต.ท.อัครชัย แช่มช้อย พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ หัวหน้างานสอบสวน สน.ดุสิต และเจ้าหน้าที่กองพิสูจ์หลักฐาน ร่วมกันควบคุมตัวนายณรงศักดิ์ พลายอร่าม หรือตุ้ย อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงระเบิดเอ็ม 79 เพื่อไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณถนนสวรรคโลกก่อนถึงแยกเสาวนีย์ ใกล้สถานีรถไฟสวนจิตรลด แขวงสวนจิตรลดา เขตดุสิต กทม.
เนื่องจากนายณรงศักดิ์ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนก่อเหตุยิงเอ็ม 79 ใส่บริเวณดังกล่าว เมื่อประมาณวันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้รถแท็กซี่ ยี่ห้อโตโยต้า โคโรลล่า สีเขียว-เหลือง หมายเลขทะเบียน ทส-836 กทม. กรุงเทพมหานคร และรถเก๋งยี่ห้อ โตโยต้าคัมรี่ สีขาว หมายเลขทะเบียน ณฮ-838 กทม.ที่กำลังจอดติดไฟแดงอยู่บนถนนสวรรคโลกจนได้รับเสียหาย โดยในวันเกิดเหตุนายณรงค์ศักดิ์ ขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าคลิก สีฟ้า ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มาตามถนนกำแพงเพชร 5 เลียบทางรถไฟ โดยในอาวุธปืนใส่ถุงเต้นท์แล้วแขวนไว้ตรงตะขอเกี่ยวหน้ารถ เมื่อผ่านขับแยกอุภัยเจษฎุทิศ มาถึงบริเวณด้านหลังโรงพยาบาลรามาธิบดี ก็จอดรถแล้วหยิบเครื่องยิงขึ้นมาก่อเหตุทันที โดยตั้งใจจะให้กระสุนไปตกใส่กลุ่มผู้ชุมนุมที่กำลังเดินขบวนผ่านบริเวณแยกเสาวนีย์ แต่พลาดไปตกลงบริเวณถนนสวรรคโลกจนทำให้รถเสียหายไป 2 คัน จากนั้นก็รีบขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีย้อนกลับไปทางเดิม