การเสด็จสู่สวรรคาลัยของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชนับเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของคนไทยทั้งชาติในรอบเกือบศตวรรษ ได้สร้างความโศกาอาดูรอย่างมากมายต่อผู้เคารพเทิดทูนสำนึกบุญคุณของพระองค์ท่านที่ได้ทรงกระทำไว้ต่อบรรดาอาณาประชาราษฎร์
นับเป็น 1 วาระยากที่จะยอมรับได้ ในตลอดช่วงชีวิตของคนไทยส่วนใหญ่
แม้ทุกคนตระหนักดีว่า วาระแห่งความเศร้าต้องเกิดขึ้นก็ตาม
ยากยิ่งนักที่ใครจะสามารถประเมินผลกระทบโดยรวมได้ ผลงานของพระองค์ตลอดระยะเวลา 70 ปีของการครองราชย์ทำให้ประเทศไทยดำรงความเป็นปึกแผ่นมั่นคง เป็นที่ประจักษ์ต่อคนดี
การที่พระองค์ได้รับการเทิดทูนยกย่องว่าเป็น “เทวราชา” ไม่ได้เป็นการพูดเกินเลยแต่อย่างใด มิใช่แต่เพียงว่าพระองค์ทรงเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในสายตาคนไทยทั่วไปเท่านั้น บรรดา “ผู้ยิ่งใหญ่” ในโลกปัจจุบันยังน้อมคารวะ ยอมรับโดยทั่วกันว่าพระองค์ท่านทรงยิ่งใหญ่แท้จริง
การยอมรับว่าพระองค์ท่านเป็น “King of Kings” หรือ “ราชันย์แห่งราชันย์” จึงมิใช่คำกล่าวอันเกินเลย ถ้อยคำสดุดีจากบรรดากษัตริย์ ผู้นำประเทศมหาอำนาจทั่วโลกย่อมเป็นที่ประจักษ์ชัด
มิใช่พระองค์ผู้ครองราชย์ยาวนานถึง 70 ปีเท่านั้น ยังเป็นพระมหากษัตริย์นักพัฒนาแทบทุกด้าน ทรงตรากตรำทรงงานหนัก ทุ่มเทพระวรกายเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนอย่างแท้จริง
เป็นต้นแบบของกษัตริย์ผู้ครองแผ่นดินโดยธรรม ครบถ้วนทั้งทศพิธราชธรรม
จะใช้ถ้อยคำบรรยายความรู้สึกสูญเสียเท่าไหร่ ใช้เวลานานเท่าใด ก็ไม่เพียงพอ พระองค์ท่านได้ทรงอยู่กับพวกเรานานแสนนาน ดุจเป็นสัญลักษณ์อมตะแห่งแผ่นดินไทย
การจากไปชั่วนิรันดร์ของพระองค์ จึงไม่มีอะไรชดเชย ทดแทนได้
ด้วยเหตุแห่งความยิ่งใหญ่ของพระองค์ท่าน ผมเชื่อมั่นว่าจากนี้ไปแผ่นดินสยาม หรือประเทศไทย จะไม่เหมือนเดิม เริ่มต้นจากสภาพหัวใจแทบสลายของคนไทย
จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในด้านโครงสร้างพื้นฐานความคิด ทัศนคติ มุมมอง ความยึดมั่นศรัทธา จิตสำนึกที่มั่นคง ยึดเหนี่ยวเกี่ยวโยงกับศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งประเทศ ทุกชีวิตที่อาศัยบนแผ่นดินนี้ รวมทั้งต่างชาติซึ่งได้เข้ามาพึ่งพาพระบรมโพธิสมภารในราชอาณาจักรไทย
เป็นสภาวะที่ทุกคนต้องพร้อมรับ ไม่ว่าจะเป็นการแปรผันไปในทิศทางใดก็ตาม
ระยะเวลา 1 ปี หรือจะยาวนานเท่าไหร่ของการไว้ทุกข์ย่อมไม่เพียงพอ ประชาชนผู้สำนึกในพระคุณอันยิ่งใหญ่ไม่มีวันลืมพระองค์ ย่อมมีเช่นกันที่ประชาชนกาฝากส่วนหนึ่งไม่รู้สำนึก
เพียงแค่การ “ทำใจยอมรับสภาพความจริงของชีวิต” ดังเช่นทุกวันนี้ก็ยังยาก พระองค์จะทรงสถิตอยู่
ในใจของคนไทยทุกคนตราบจนสิ้นลมหายใจเช่นกัน เวลาที่เหลือของทุกคนย่อมหวนระลึกถึงพระองค์ทุกเวลา ร้องไห้ หลั่งน้ำตามากเท่าไหร่ นานเท่าไหร่ ก็ยังไม่รู้สึกว่าเพียงพอ
เวลา 1 ปี เป็นการไว้ทุกข์อย่างเป็นทางการ แต่สำหรับคนไทยนั้นทุกข์แห่งการสูญเสียพระองค์ท่านย่อมไม่มีวันสิ้นสุด แม้พระองค์ได้เสด็จสู่สวรรคาลัย การที่จะทำให้พระองค์ท่านสุขสถิตในสวรรค์ มีหนทางเดียวคือให้ทุกคนประพฤติตนเป็นคนดีของแผ่นดิน สมกับที่ท่านได้พร่ำสอน
จากนี้ไป ความไม่แน่นอนด้านการเมืองเลือกตั้งอาจไม่สำคัญ ตราบใดที่สภาพการเมืองยังไร้สัญญาณชัดเจน 1 ปีของการไว้ทุกข์ และเวลาสำหรับพิธีกรรมต่างๆ จึงไม่เหมาะสำหรับบรรยากาศของการหาเสียง ชิงดีชิงเด่น แก่งแย่งกันเพื่อกุมอำนาจรัฐดังสภาพเดิม ดูอย่างไรก็ไม่ดีไปได้
ไม่ใช่จุดหักเหของการเปลี่ยนแปลงเพื่อก้าวไปสู่สภาวะที่ดีกว่าสำหรับคนไทยแน่นอน วิญญูชนคนไทยย่อมไม่อยากเห็นบรรยากาศการเมืองน้ำเน่า เต็มไปด้วยการทุจริตฉ้อฉลเช่นเดิมอีก
จะหวังให้เปลี่ยนเร็ว คงยาก ผลประโยชน์จากการเมืองดูแล้วเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับนักลงทุนการเมืองเพื่อชิงอำนาจนำไปสู่การถอนทุน สร้างกำไร เสริมขยายฐานอำนาจเพื่อกอบโกยความมั่งคั่งจากแผ่นดิน คนเหล่านี้ไม่สำนึกในคำสอนของพระองค์ท่าน และยังไร้จิตสำนึกคุณแผ่นดิน
คุณท่านผู้นำรัฐบาลย่อมตระหนักถึงภารกิจอันหนักหนาสาหัส ยังต้องยึดมั่นในคำปฏิญาณทั้งน้ำตาต่อพระองค์ท่านว่า พร้อมจะเสียสละทุ่มเททุกอย่างทำงานเพื่อตอบสนองคุณแผ่นดิน
นั่นขึ้นอยู่กับคุณท่านผู้นำว่าจะกล้าปรับโครงสร้างหลักของประเทศเพื่ออนาคตที่ดีกว่าเพียงใด ถ้าจะทำในระดับที่ผ่านมาถือว่ายังไม่เพียงพอ คำมั่นและเจตนาดีของคุณท่านน่าจะเป็นพลังกระตุ้นให้คนไทยร่วมมือร่วมใจกันช่วยเหลือ แต่ต้องพิสูจน์ให้เห็นความตั้งใจ มือสะอาด ไร้การทุจริต
ต้องกำจัดระบบอุปถัมภ์ การเอื้ออำนวยประโยชน์ต่อความเป็นเพื่อนพ้องน้องพี่
ด้านเศรษฐกิจยิ่งเป็นภารกิจหนักสำหรับคุณท่าน ต้องมุ่งเน้นระบบเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อสืบสานปณิธาณของพระองค์ท่าน นี่เป็นมรดกของแผ่นดินซึ่งจะเป็นรากฐานความมั่นคงแท้จริง
ทำอย่างไรให้คนไทยมีชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม ที่ยากไร้ขอให้มีโอกาสลืมตาอ้าปากได้ ที่ยังชักหน้าไม่ถึงหลังขอให้อยู่ในสภาพไม่ดิ้นรนจนเลือดตาแทบกระเด็น ให้มีพออยู่พอกิน
โดยเฉพาะภาคเกษตรชนบทซึ่งถูกเอารัดเอาเปรียบโดยระบบเศรษฐกิจทุนสามานย์ ถูกบีบคั้นสูญเสียกรรมสิทธิ์ที่ดิน สิ้นหวังจนแทบสิ้นโอกาสดำรงสภาพความเป็นคนบนแผ่นดินเกิด
ในภาคสังคม คุณท่านย่อมเห็นปัญหาความเหลื่อมล้ำด้านสิทธิและโอกาส ระบบอุปถัมภ์สร้างความไม่ทัดเทียมทุกด้าน ถ้าไม่แก้ไข จะมีคนส่วนหนึ่งประกาศว่าสังคมปัจจุบันไม่เป็นที่พวกตนต้องจำยอมรับสภาพอีกต่อไป นั่นหมายความว่าคนในสังคมระดับอื่นๆ จะอยู่ได้ยากเช่นกัน
พระองค์ท่านทรงได้เป็นฐานของความมั่นคง จิตยึดมั่นความปรองดอง วาระจากนี้ไปจึงเป็นความท้าทายสำหรับคนไทยทั้งแผ่นดิน ว่าจะอยู่ด้วยจิตวิญญาณของความเป็นไทยหรือไม่
ความเป็นไทยที่ไม่จำเป็นต้องมีการตีความ ความรู้สึกนี้เป็นจิตวิญญาณแห่ง “ไทย”
“ไทย” คำเดียวสั้นๆ ถ้าไม่ใช่เป็นคนไทยจริง ย่อมไม่ซึมฝังลึก เข้าใจได้ง่าย แต่พรรณนาอธิบายนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้จบ บ่อยครั้งจึงได้มีเสียงถามว่า “เป็นคนไทยหรือเปล่า”
เป็นคนไทยแต่ตัว มีบัตรประชาชน แต่ไร้จิตวิญญาณสำนึกความเป็นไทย ตอบไม่ได้แน่!
นับเป็น 1 วาระยากที่จะยอมรับได้ ในตลอดช่วงชีวิตของคนไทยส่วนใหญ่
แม้ทุกคนตระหนักดีว่า วาระแห่งความเศร้าต้องเกิดขึ้นก็ตาม
ยากยิ่งนักที่ใครจะสามารถประเมินผลกระทบโดยรวมได้ ผลงานของพระองค์ตลอดระยะเวลา 70 ปีของการครองราชย์ทำให้ประเทศไทยดำรงความเป็นปึกแผ่นมั่นคง เป็นที่ประจักษ์ต่อคนดี
การที่พระองค์ได้รับการเทิดทูนยกย่องว่าเป็น “เทวราชา” ไม่ได้เป็นการพูดเกินเลยแต่อย่างใด มิใช่แต่เพียงว่าพระองค์ทรงเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในสายตาคนไทยทั่วไปเท่านั้น บรรดา “ผู้ยิ่งใหญ่” ในโลกปัจจุบันยังน้อมคารวะ ยอมรับโดยทั่วกันว่าพระองค์ท่านทรงยิ่งใหญ่แท้จริง
การยอมรับว่าพระองค์ท่านเป็น “King of Kings” หรือ “ราชันย์แห่งราชันย์” จึงมิใช่คำกล่าวอันเกินเลย ถ้อยคำสดุดีจากบรรดากษัตริย์ ผู้นำประเทศมหาอำนาจทั่วโลกย่อมเป็นที่ประจักษ์ชัด
มิใช่พระองค์ผู้ครองราชย์ยาวนานถึง 70 ปีเท่านั้น ยังเป็นพระมหากษัตริย์นักพัฒนาแทบทุกด้าน ทรงตรากตรำทรงงานหนัก ทุ่มเทพระวรกายเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนอย่างแท้จริง
เป็นต้นแบบของกษัตริย์ผู้ครองแผ่นดินโดยธรรม ครบถ้วนทั้งทศพิธราชธรรม
จะใช้ถ้อยคำบรรยายความรู้สึกสูญเสียเท่าไหร่ ใช้เวลานานเท่าใด ก็ไม่เพียงพอ พระองค์ท่านได้ทรงอยู่กับพวกเรานานแสนนาน ดุจเป็นสัญลักษณ์อมตะแห่งแผ่นดินไทย
การจากไปชั่วนิรันดร์ของพระองค์ จึงไม่มีอะไรชดเชย ทดแทนได้
ด้วยเหตุแห่งความยิ่งใหญ่ของพระองค์ท่าน ผมเชื่อมั่นว่าจากนี้ไปแผ่นดินสยาม หรือประเทศไทย จะไม่เหมือนเดิม เริ่มต้นจากสภาพหัวใจแทบสลายของคนไทย
จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในด้านโครงสร้างพื้นฐานความคิด ทัศนคติ มุมมอง ความยึดมั่นศรัทธา จิตสำนึกที่มั่นคง ยึดเหนี่ยวเกี่ยวโยงกับศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งประเทศ ทุกชีวิตที่อาศัยบนแผ่นดินนี้ รวมทั้งต่างชาติซึ่งได้เข้ามาพึ่งพาพระบรมโพธิสมภารในราชอาณาจักรไทย
เป็นสภาวะที่ทุกคนต้องพร้อมรับ ไม่ว่าจะเป็นการแปรผันไปในทิศทางใดก็ตาม
ระยะเวลา 1 ปี หรือจะยาวนานเท่าไหร่ของการไว้ทุกข์ย่อมไม่เพียงพอ ประชาชนผู้สำนึกในพระคุณอันยิ่งใหญ่ไม่มีวันลืมพระองค์ ย่อมมีเช่นกันที่ประชาชนกาฝากส่วนหนึ่งไม่รู้สำนึก
เพียงแค่การ “ทำใจยอมรับสภาพความจริงของชีวิต” ดังเช่นทุกวันนี้ก็ยังยาก พระองค์จะทรงสถิตอยู่
ในใจของคนไทยทุกคนตราบจนสิ้นลมหายใจเช่นกัน เวลาที่เหลือของทุกคนย่อมหวนระลึกถึงพระองค์ทุกเวลา ร้องไห้ หลั่งน้ำตามากเท่าไหร่ นานเท่าไหร่ ก็ยังไม่รู้สึกว่าเพียงพอ
เวลา 1 ปี เป็นการไว้ทุกข์อย่างเป็นทางการ แต่สำหรับคนไทยนั้นทุกข์แห่งการสูญเสียพระองค์ท่านย่อมไม่มีวันสิ้นสุด แม้พระองค์ได้เสด็จสู่สวรรคาลัย การที่จะทำให้พระองค์ท่านสุขสถิตในสวรรค์ มีหนทางเดียวคือให้ทุกคนประพฤติตนเป็นคนดีของแผ่นดิน สมกับที่ท่านได้พร่ำสอน
จากนี้ไป ความไม่แน่นอนด้านการเมืองเลือกตั้งอาจไม่สำคัญ ตราบใดที่สภาพการเมืองยังไร้สัญญาณชัดเจน 1 ปีของการไว้ทุกข์ และเวลาสำหรับพิธีกรรมต่างๆ จึงไม่เหมาะสำหรับบรรยากาศของการหาเสียง ชิงดีชิงเด่น แก่งแย่งกันเพื่อกุมอำนาจรัฐดังสภาพเดิม ดูอย่างไรก็ไม่ดีไปได้
ไม่ใช่จุดหักเหของการเปลี่ยนแปลงเพื่อก้าวไปสู่สภาวะที่ดีกว่าสำหรับคนไทยแน่นอน วิญญูชนคนไทยย่อมไม่อยากเห็นบรรยากาศการเมืองน้ำเน่า เต็มไปด้วยการทุจริตฉ้อฉลเช่นเดิมอีก
จะหวังให้เปลี่ยนเร็ว คงยาก ผลประโยชน์จากการเมืองดูแล้วเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับนักลงทุนการเมืองเพื่อชิงอำนาจนำไปสู่การถอนทุน สร้างกำไร เสริมขยายฐานอำนาจเพื่อกอบโกยความมั่งคั่งจากแผ่นดิน คนเหล่านี้ไม่สำนึกในคำสอนของพระองค์ท่าน และยังไร้จิตสำนึกคุณแผ่นดิน
คุณท่านผู้นำรัฐบาลย่อมตระหนักถึงภารกิจอันหนักหนาสาหัส ยังต้องยึดมั่นในคำปฏิญาณทั้งน้ำตาต่อพระองค์ท่านว่า พร้อมจะเสียสละทุ่มเททุกอย่างทำงานเพื่อตอบสนองคุณแผ่นดิน
นั่นขึ้นอยู่กับคุณท่านผู้นำว่าจะกล้าปรับโครงสร้างหลักของประเทศเพื่ออนาคตที่ดีกว่าเพียงใด ถ้าจะทำในระดับที่ผ่านมาถือว่ายังไม่เพียงพอ คำมั่นและเจตนาดีของคุณท่านน่าจะเป็นพลังกระตุ้นให้คนไทยร่วมมือร่วมใจกันช่วยเหลือ แต่ต้องพิสูจน์ให้เห็นความตั้งใจ มือสะอาด ไร้การทุจริต
ต้องกำจัดระบบอุปถัมภ์ การเอื้ออำนวยประโยชน์ต่อความเป็นเพื่อนพ้องน้องพี่
ด้านเศรษฐกิจยิ่งเป็นภารกิจหนักสำหรับคุณท่าน ต้องมุ่งเน้นระบบเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อสืบสานปณิธาณของพระองค์ท่าน นี่เป็นมรดกของแผ่นดินซึ่งจะเป็นรากฐานความมั่นคงแท้จริง
ทำอย่างไรให้คนไทยมีชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม ที่ยากไร้ขอให้มีโอกาสลืมตาอ้าปากได้ ที่ยังชักหน้าไม่ถึงหลังขอให้อยู่ในสภาพไม่ดิ้นรนจนเลือดตาแทบกระเด็น ให้มีพออยู่พอกิน
โดยเฉพาะภาคเกษตรชนบทซึ่งถูกเอารัดเอาเปรียบโดยระบบเศรษฐกิจทุนสามานย์ ถูกบีบคั้นสูญเสียกรรมสิทธิ์ที่ดิน สิ้นหวังจนแทบสิ้นโอกาสดำรงสภาพความเป็นคนบนแผ่นดินเกิด
ในภาคสังคม คุณท่านย่อมเห็นปัญหาความเหลื่อมล้ำด้านสิทธิและโอกาส ระบบอุปถัมภ์สร้างความไม่ทัดเทียมทุกด้าน ถ้าไม่แก้ไข จะมีคนส่วนหนึ่งประกาศว่าสังคมปัจจุบันไม่เป็นที่พวกตนต้องจำยอมรับสภาพอีกต่อไป นั่นหมายความว่าคนในสังคมระดับอื่นๆ จะอยู่ได้ยากเช่นกัน
พระองค์ท่านทรงได้เป็นฐานของความมั่นคง จิตยึดมั่นความปรองดอง วาระจากนี้ไปจึงเป็นความท้าทายสำหรับคนไทยทั้งแผ่นดิน ว่าจะอยู่ด้วยจิตวิญญาณของความเป็นไทยหรือไม่
ความเป็นไทยที่ไม่จำเป็นต้องมีการตีความ ความรู้สึกนี้เป็นจิตวิญญาณแห่ง “ไทย”
“ไทย” คำเดียวสั้นๆ ถ้าไม่ใช่เป็นคนไทยจริง ย่อมไม่ซึมฝังลึก เข้าใจได้ง่าย แต่พรรณนาอธิบายนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้จบ บ่อยครั้งจึงได้มีเสียงถามว่า “เป็นคนไทยหรือเปล่า”
เป็นคนไทยแต่ตัว มีบัตรประชาชน แต่ไร้จิตวิญญาณสำนึกความเป็นไทย ตอบไม่ได้แน่!