ฝนถล่มหนักหลายพื้นที่ทั่วประเทศส่งผลให้น้ำและโคลนไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในเขตเทศบาลเมืองหนองปรือ อำเภอบางละมุง เสียหายหลายสิบหลัง ขณะที่ลำปางถูกน้ำป่าทะลักเข้าท่วมหลายหมู่บ้านได้รับความเสียหายอย่างหนัก พื้นที่เกษตรกว่า 1,000 ไร่ระเนระนาด ด้าน "กรมชลฯ" เผยสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเริ่มคลี่คลายปริมาณน้ำเหนือ-แม่น้ำสะแกกรังมีแนวโน้มลดลงส่งผลน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาลดต่อเนื่อง
วานนี้ (12 ต.ค.) กรมอุตุนิยมวิทยา ได้พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ตั้งแต่เวลา 17.00 น.วานนี้ถึงเวลา 17.00 วันนี้ (13 ต.ค.) ว่า บริเวณภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง และด้านตะวันตกของภาคเหนือจะมีฝนเพิ่มขึ้น จึงขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมในระยะนี้ไว้ด้วย ส่วนบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีปริมาณฝนน้อย สำหรับกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีฝนมากกว่าเมื่อวานและมีฝนตกหนักบางแห่ง
ด้านสถานการณ์น้ำท่วมหลายพื้นที่ยังคงได้รับผลกระทบอย่างหนักโดยเฉพาะที่ จ.ชลบุรี เมื่อช่วงเช้าวานนี้ได้เกิดพายุฝนตกลงมาอย่างหนักต่อเนื่องในพื้นที่เมืองพัทยา อ.บางละมุง นานกว่า 3 ชั่วโมงส่งผลให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขังฉับพลันหลายจุด สร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านและประชาชนโดยทั่วไป โดยเฉพาะบริเวณซอยเขาน้อย ซอยเขาตาโล ซอยสยามคันทรีคัพ ช่วงบริเวณถนนหมู่บ้านอารียะหนองปรือ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งพบว่ามีปริมาณน้ำท่วมขังสูงกว่า 30 ซม.ทำให้การจราจรเป็นไปด้วยความยากลำบาก รถขนาดเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้
นอกจากนี้ ปริมาณน้ำจำนวนมากได้ไหลบ่าเข้าพื้นที่ชุมชนและเกิดปัญหาดินถล่มทะลุกำแพงกันดินของโครงการก่อสร้างห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ใกล้เคียงหมู่บ้านภัทรา หนองไม้แก่น ม.7 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง เป็นแนวยาวกว่า 20 เมตร ทำให้มวลน้ำและดินโคลนจำนวนมากไหลบ่าเข้าท่วมบ้านพักอาศัยในโครงการจนได้รับความเสียหายจำนวนหลายสิบหลัง ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่กองบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองหนองปรือ ได้นำรถน้ำพร้อมเจ้าหน้าที่ทำการฉีดล้างทำความสะอาดบ้านเรือนและถนนภายในหมู่บ้านแล้ว
ส่วนที่ จ.ลำปาง หลังจากน้ำป่าจากห้วยแม่ตา ไหลหลากเข้าทะลักท่วมพื้นที่บ้านนาไหม้ ต เมืองมาย อ.แจ้ห่ม โดยน้ำป่าได้ไหลหลากเข้าไปท่วมนาข้าวของชาวบ้านราบเป็นหน้ากลอง ล้มระเนระนาด ได้รับความเสียหายกว่า 1,000 ไร่ โดยระดับน้ำป่าช่วงไหลหลากทะลักน้ำท่วมสูงกว่า 3 เมตรไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านได้รับความเสียหายไม่ต่ำกว่า 20 หลัง
มีรายงานด้วยว่าถนนเข้าไปสุสานบ้านนาไหม้ ช่วงคอสะพานถนน ขาดและในจุดอื่นๆ เสียหายไปประมาณรวมแล้ว 3 สะพาน และบริเวณถนนไปไปบ้านจากบ้านนาไหม้-ไปบ้านนาส้านมีดินสไลด์ปิดทับเส้นทาง ซึ่งรถยังไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ ส่วนบริเวณริมถนนมีร่องรอยผนังตลิ่งแตกร้าวกว่า 300 เมตร ส่วนที่โรงเรียนบ้านนาไหม้ น้ำป่าพัดทำรั้วโรงเรียนเสียหายไปอีก 2 จุด หลังจากช่วงบ่ายฝนได้หยุดตกและแดดเริ่มออกทำให้ทุกส่วนระดมกำลังออกสำรวจพื้นที่ความเสียหายและช่วยเหลือประชาชน
สำหรับในพื้นที่ อ.วังเหนือ นายไพรัช ผมไผ ปลัดอำเภอวังเหนือ และนายเอกกฤต จิตตางกูร หัวหน้าสำนักงาน ปภ.ลำปาง สาขาวังเหนือ พร้อมเจ้าหน้าที่ อบต.ทุ่งฮั้วได้เร่งเข้าช่วยเหลือชาวบ้านที่บ้านแม่ทรายเงิน หมู่ 2 ต.ทุ่งฮั้ว หลังจากเกิดน้ำป่าไหลลงมาตามลำห้วยแม่ทรายเงินไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านที่อาศัยอยู่ที่ลุ่มต่ำใกล้ลำห้วย ได้รับความเสียหายโดยมีระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตรทำให้ชาวบ้านที่เก็บข้าวของโดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าไปไว้บนที่สูงไม่ทัน ถูกกระแสน้ำพัดและน้ำเข้าท่วมได้รับความเสียหาย
นอกจากนี้กระแสน้ำป่ายังพัดท่วมบนผิวถนนสายวังเหนือไปน้ำตกวังแก้วเป็นระยะทางกว่า 500 เมตร โดยมีระดับน้ำสูงตั้งแต่ 20-30 ซม.ซึ่งน้ำป่าดังกล่าวยังเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนที่อยู่ใกล้ลำห้วยได้รับผลกระทบกว่า 80 หลังคาเรือน พร้อมกับสิ่งสาธารณูปโภค พืชผลการเกษตรนาข้าวไร่ข้าวจมน้ำไปอีกจำนวนหนึ่งอีกด้วย
ขณะที่บ้านปู่จ้อย หมู่ 7 ต.บ้านแลง อ.เมืองลำปาง ทหาร มทบ.32 ค่ายสุรศักดิ์มนตรีกว่า 30 นายก็ได้เข้าช่วยเหลือชาวบ้านหลังถูกน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมมาตามลำห้วยแม่มายเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนสูงกว่า 3 เมตรและน้ำยังไหลท่วมพื้นที่ทางการเกษตรของประชาชนในหมู่บ้านได้รับความเสียหายหลายร้อยไร่ สัตว์เลี้ยงเช่นไก่ เป็ด ถูกกระแสน้ำพัดหายไปจำนวนมาก โดยหลังน้ำลดระดับลงทหารได้เร่งช่วยชาวบ้านทำความสะอาดบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหายดังกล่าว
ส่วนที่ จ.แพร่ ได้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่โดยเฉพาะที่ อ.เมืองแพร่ จนเกิดน้ำป่าไหลหลากจากลำห้วยแม่แคมและลำน้ำสาขาพัดเอาเศษดิน เศษหินและต้นไม้ ปิดทับทางหลวงหมายเลข 1024 ทำให้ประชาชนในบ้านนาแคม หมู่ที่ 6 ต.สวนเขื่อน ไม่สามารถเดินทางเข้าออกหมู่บ้านได้ และน้ำป่ายังได้พัดพาโคลนเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร พื้นที่การเกษตรและบ่อสาหร่ายน้ำจืดซึ่งเป็นสินค้าขึ้นชื่อของบ้านนาคูหา หมู่ที่ 5 ได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ ยังมีรายงานข่าวด้วยว่า ได้เกิดน้ำจากลำน้ำในพื้นที่เอ่อล้นเข้าท่วมไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่ หมู่ที่ 1 และหมู่ที่ 2 ต.แดนชุมพล อ.สอง และหมู่ที่ 14 ต.บ้านเวียง อ.ร้องกวาง อีกด้วย
ขณะที่นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ได้สั่งการให้ทางอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่เข้าช่วยเหลือราษฎรในเบื้องต้น เช่น ขนย้ายข้าวของขึ้นที่สูง และสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจและรายงานความเสียหายหลังเหตุการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ
ทางด้านนายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ รวมกัน 15,550 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 63 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำใช้การได้ 8,854 ล้านลูกบาศก์เมตร สำหรับแม่น้ำเจ้าพระยา
ล่าสุด วานนี้ (12 ต.ค.) มีปริมาณน้ำไหลผ่านที่สถานี C.2 อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ 2,202 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ปริมาณน้ำมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงควบคุมปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในเกณฑ์ 2,297 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อให้มีพื้นที่รองรับปริมาณน้ำตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าจะมีฝนตกในช่วงวันที่ 14-17 ตุลาคมนี้ ทำให้พื้นที่ด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำนอกคันกันน้ำยังคงได้รับผลกระทบ คือ อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท อำเภออินทร์บุรี อำเภอเมือง อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี อำเภอไชโย อำเภอป่าโมก คลองโผงเผง จังหวัดอ่างทอง และคลองบางบาล ตลาดเสนา อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และมีระดับน้ำทรงตัว
ส่วนเขื่อนพระรามหก ปัจจุบันมีการระบายน้ำ 700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ปริมาณน้ำที่สถานี C.29A ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีปริมาณน้ำไหลผ่านประมาณ 2,366 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่ยังอยู่ในระดับต่ำกว่าตลิ่งและไม่ส่งผลกระทบให้เกิดน้ำล้นคันกั้นน้ำได้
นายทองเปลว กล่าวถึงกรณีน้ำเจ้าพระยาเข้าท่วมพื้นที่ริมตลิ่ง ชุมชนวัดสะตือ ตำบลท่าหลวง อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ว่า กรมชลประทานได้แจ้งข่าวให้ชุมชนพื้นที่ต่าง ๆ ได้รับทราบก่อนเกิดภาวะน้ำท่วมแล้ว ซึ่งประชาชนชุมชนวัดสะตือทราบดี เนื่องจากจะเกิดน้ำท่วมเช่นนี้ทุกปีจนถือเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตของคนชุมชนวัดสะตืออยู่แล้ว
*** "บิ๊กเจี๊ยบ"เชื่อกทม.น้ำไม่ท่วม
พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมว่า ขณะนี้เราประกาศภัยพิบัติอยู่ 16 จังหวัด ในภาคเหนือ 7 จังหวัด ปริมาณน้ำเริ่มหลากลงมาในพื้นที่ตอนกลาง กรมชลประทานก็ผันน้ำออกด้านซ้ายขวา คือ สุพรรณบุรี สระบุรี ทำให้ปริมาณน้ำลดลงไป ส่วนที่ผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ชัยนาท ก็อยู่ประมาณ 2,200 -2,300 มิลลิเมตร อยู่ในเกณฑ์ที่ควบคุมได้ ลงมาส่วนของเขื่อนพระราม 6 อยู่ที่ประมาณ 700 มิลลิเมตร แต่ในส่วนนี้ยังมีพื้นที่การเกษตรที่ถูกน้ำท่วมอยู่ ทางเจ้าหน้าที่ ก็เร่งรัดกันเข้าไปช่วยดำเนินการให้เป็นรูปธรรม มหาดไทยเองก็พยายามใช้พื้นที่ที่เก็บเกี่ยวแล้วเป็นพื้นที่รองรับน้ำ ซึ่งตรงนั้นน่าจะลดความเดือดร้อนของประชาชนไประดับหนึ่ง
ในส่วนของกองทัพ ก็ร่วมกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประสานกันทำแผนการใช้กำลัง ทหารไปช่วยในการขนย้ายของ เคลื่อนย้ายกระสอบทราย เรือ ยานพานะ ที่ไปช่วยดำเนินการ ปัจจุบันถือว่าเป็นการบูรณาการร่วมกัน ในส่วนกรุงเทพมหานคร ทหารเองก็เข้าไปร่วมในส่วนของกองทัพภาคที่ 1 และกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ มีการประสานรายละเอียดกับทางจังหวัดโดยตลอด ในภาพรวมถ้าเราระบายน้ำที่ลงมาจากข้างบนที่อยู่ระหว่างเขื่อนชัยนาทกับปทุมธานีออกไปในพื้นที่เก็บเกี่ยวแล้ว ปริมาณน้ำก็จะลดลง และถ้าฝนไม่ตกลงมามากก็ไม่มีปัญหาอะไร ส่วนภาวะทะเลหนุนในสัปดาห์หน้า ยังไม่ทราบว่าจะมากน้อยแค่ไหน ส่วนการทำงานในขณะนี้มีการบูรณาการทุกภาคส่วนทั้ง ปภ.และกทม. รวมถึงทหารที่รับผิดชอบพื้นที่ ตนสั่งการไปว่าหน่วยใดที่มีปัญหากำลังพลไม่เพียงพอ ก็ร้องขอมาเพิ่มได้
"เรื่องน้ำท่วมเป็นความเดือดร้อน แต่มองในแง่ดีคือปริมาณน้ำในเขื่อนมากขึ้น เรื่องของภัยแล้วในปีหน้าก็คลายความกังวลไปได้ ถ้าน้ำในเขื่อนภูมิพล เขือนสิริกิตต์ แควน้อย น้ำเกินแปดพันเราจะสบาย ในความวิกฤติ ก็ยังมีอะไรดี " พล.อ.เฉลิมชัย กล่าว
วานนี้ (12 ต.ค.) กรมอุตุนิยมวิทยา ได้พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ตั้งแต่เวลา 17.00 น.วานนี้ถึงเวลา 17.00 วันนี้ (13 ต.ค.) ว่า บริเวณภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง และด้านตะวันตกของภาคเหนือจะมีฝนเพิ่มขึ้น จึงขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมในระยะนี้ไว้ด้วย ส่วนบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีปริมาณฝนน้อย สำหรับกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีฝนมากกว่าเมื่อวานและมีฝนตกหนักบางแห่ง
ด้านสถานการณ์น้ำท่วมหลายพื้นที่ยังคงได้รับผลกระทบอย่างหนักโดยเฉพาะที่ จ.ชลบุรี เมื่อช่วงเช้าวานนี้ได้เกิดพายุฝนตกลงมาอย่างหนักต่อเนื่องในพื้นที่เมืองพัทยา อ.บางละมุง นานกว่า 3 ชั่วโมงส่งผลให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขังฉับพลันหลายจุด สร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านและประชาชนโดยทั่วไป โดยเฉพาะบริเวณซอยเขาน้อย ซอยเขาตาโล ซอยสยามคันทรีคัพ ช่วงบริเวณถนนหมู่บ้านอารียะหนองปรือ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งพบว่ามีปริมาณน้ำท่วมขังสูงกว่า 30 ซม.ทำให้การจราจรเป็นไปด้วยความยากลำบาก รถขนาดเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้
นอกจากนี้ ปริมาณน้ำจำนวนมากได้ไหลบ่าเข้าพื้นที่ชุมชนและเกิดปัญหาดินถล่มทะลุกำแพงกันดินของโครงการก่อสร้างห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ใกล้เคียงหมู่บ้านภัทรา หนองไม้แก่น ม.7 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง เป็นแนวยาวกว่า 20 เมตร ทำให้มวลน้ำและดินโคลนจำนวนมากไหลบ่าเข้าท่วมบ้านพักอาศัยในโครงการจนได้รับความเสียหายจำนวนหลายสิบหลัง ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่กองบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองหนองปรือ ได้นำรถน้ำพร้อมเจ้าหน้าที่ทำการฉีดล้างทำความสะอาดบ้านเรือนและถนนภายในหมู่บ้านแล้ว
ส่วนที่ จ.ลำปาง หลังจากน้ำป่าจากห้วยแม่ตา ไหลหลากเข้าทะลักท่วมพื้นที่บ้านนาไหม้ ต เมืองมาย อ.แจ้ห่ม โดยน้ำป่าได้ไหลหลากเข้าไปท่วมนาข้าวของชาวบ้านราบเป็นหน้ากลอง ล้มระเนระนาด ได้รับความเสียหายกว่า 1,000 ไร่ โดยระดับน้ำป่าช่วงไหลหลากทะลักน้ำท่วมสูงกว่า 3 เมตรไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านได้รับความเสียหายไม่ต่ำกว่า 20 หลัง
มีรายงานด้วยว่าถนนเข้าไปสุสานบ้านนาไหม้ ช่วงคอสะพานถนน ขาดและในจุดอื่นๆ เสียหายไปประมาณรวมแล้ว 3 สะพาน และบริเวณถนนไปไปบ้านจากบ้านนาไหม้-ไปบ้านนาส้านมีดินสไลด์ปิดทับเส้นทาง ซึ่งรถยังไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ ส่วนบริเวณริมถนนมีร่องรอยผนังตลิ่งแตกร้าวกว่า 300 เมตร ส่วนที่โรงเรียนบ้านนาไหม้ น้ำป่าพัดทำรั้วโรงเรียนเสียหายไปอีก 2 จุด หลังจากช่วงบ่ายฝนได้หยุดตกและแดดเริ่มออกทำให้ทุกส่วนระดมกำลังออกสำรวจพื้นที่ความเสียหายและช่วยเหลือประชาชน
สำหรับในพื้นที่ อ.วังเหนือ นายไพรัช ผมไผ ปลัดอำเภอวังเหนือ และนายเอกกฤต จิตตางกูร หัวหน้าสำนักงาน ปภ.ลำปาง สาขาวังเหนือ พร้อมเจ้าหน้าที่ อบต.ทุ่งฮั้วได้เร่งเข้าช่วยเหลือชาวบ้านที่บ้านแม่ทรายเงิน หมู่ 2 ต.ทุ่งฮั้ว หลังจากเกิดน้ำป่าไหลลงมาตามลำห้วยแม่ทรายเงินไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านที่อาศัยอยู่ที่ลุ่มต่ำใกล้ลำห้วย ได้รับความเสียหายโดยมีระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตรทำให้ชาวบ้านที่เก็บข้าวของโดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าไปไว้บนที่สูงไม่ทัน ถูกกระแสน้ำพัดและน้ำเข้าท่วมได้รับความเสียหาย
นอกจากนี้กระแสน้ำป่ายังพัดท่วมบนผิวถนนสายวังเหนือไปน้ำตกวังแก้วเป็นระยะทางกว่า 500 เมตร โดยมีระดับน้ำสูงตั้งแต่ 20-30 ซม.ซึ่งน้ำป่าดังกล่าวยังเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนที่อยู่ใกล้ลำห้วยได้รับผลกระทบกว่า 80 หลังคาเรือน พร้อมกับสิ่งสาธารณูปโภค พืชผลการเกษตรนาข้าวไร่ข้าวจมน้ำไปอีกจำนวนหนึ่งอีกด้วย
ขณะที่บ้านปู่จ้อย หมู่ 7 ต.บ้านแลง อ.เมืองลำปาง ทหาร มทบ.32 ค่ายสุรศักดิ์มนตรีกว่า 30 นายก็ได้เข้าช่วยเหลือชาวบ้านหลังถูกน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมมาตามลำห้วยแม่มายเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนสูงกว่า 3 เมตรและน้ำยังไหลท่วมพื้นที่ทางการเกษตรของประชาชนในหมู่บ้านได้รับความเสียหายหลายร้อยไร่ สัตว์เลี้ยงเช่นไก่ เป็ด ถูกกระแสน้ำพัดหายไปจำนวนมาก โดยหลังน้ำลดระดับลงทหารได้เร่งช่วยชาวบ้านทำความสะอาดบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหายดังกล่าว
ส่วนที่ จ.แพร่ ได้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่โดยเฉพาะที่ อ.เมืองแพร่ จนเกิดน้ำป่าไหลหลากจากลำห้วยแม่แคมและลำน้ำสาขาพัดเอาเศษดิน เศษหินและต้นไม้ ปิดทับทางหลวงหมายเลข 1024 ทำให้ประชาชนในบ้านนาแคม หมู่ที่ 6 ต.สวนเขื่อน ไม่สามารถเดินทางเข้าออกหมู่บ้านได้ และน้ำป่ายังได้พัดพาโคลนเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร พื้นที่การเกษตรและบ่อสาหร่ายน้ำจืดซึ่งเป็นสินค้าขึ้นชื่อของบ้านนาคูหา หมู่ที่ 5 ได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ ยังมีรายงานข่าวด้วยว่า ได้เกิดน้ำจากลำน้ำในพื้นที่เอ่อล้นเข้าท่วมไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่ หมู่ที่ 1 และหมู่ที่ 2 ต.แดนชุมพล อ.สอง และหมู่ที่ 14 ต.บ้านเวียง อ.ร้องกวาง อีกด้วย
ขณะที่นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ได้สั่งการให้ทางอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่เข้าช่วยเหลือราษฎรในเบื้องต้น เช่น ขนย้ายข้าวของขึ้นที่สูง และสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจและรายงานความเสียหายหลังเหตุการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ
ทางด้านนายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ รวมกัน 15,550 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 63 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำใช้การได้ 8,854 ล้านลูกบาศก์เมตร สำหรับแม่น้ำเจ้าพระยา
ล่าสุด วานนี้ (12 ต.ค.) มีปริมาณน้ำไหลผ่านที่สถานี C.2 อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ 2,202 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ปริมาณน้ำมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงควบคุมปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในเกณฑ์ 2,297 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อให้มีพื้นที่รองรับปริมาณน้ำตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าจะมีฝนตกในช่วงวันที่ 14-17 ตุลาคมนี้ ทำให้พื้นที่ด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำนอกคันกันน้ำยังคงได้รับผลกระทบ คือ อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท อำเภออินทร์บุรี อำเภอเมือง อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี อำเภอไชโย อำเภอป่าโมก คลองโผงเผง จังหวัดอ่างทอง และคลองบางบาล ตลาดเสนา อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และมีระดับน้ำทรงตัว
ส่วนเขื่อนพระรามหก ปัจจุบันมีการระบายน้ำ 700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ปริมาณน้ำที่สถานี C.29A ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีปริมาณน้ำไหลผ่านประมาณ 2,366 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่ยังอยู่ในระดับต่ำกว่าตลิ่งและไม่ส่งผลกระทบให้เกิดน้ำล้นคันกั้นน้ำได้
นายทองเปลว กล่าวถึงกรณีน้ำเจ้าพระยาเข้าท่วมพื้นที่ริมตลิ่ง ชุมชนวัดสะตือ ตำบลท่าหลวง อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ว่า กรมชลประทานได้แจ้งข่าวให้ชุมชนพื้นที่ต่าง ๆ ได้รับทราบก่อนเกิดภาวะน้ำท่วมแล้ว ซึ่งประชาชนชุมชนวัดสะตือทราบดี เนื่องจากจะเกิดน้ำท่วมเช่นนี้ทุกปีจนถือเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตของคนชุมชนวัดสะตืออยู่แล้ว
*** "บิ๊กเจี๊ยบ"เชื่อกทม.น้ำไม่ท่วม
พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมว่า ขณะนี้เราประกาศภัยพิบัติอยู่ 16 จังหวัด ในภาคเหนือ 7 จังหวัด ปริมาณน้ำเริ่มหลากลงมาในพื้นที่ตอนกลาง กรมชลประทานก็ผันน้ำออกด้านซ้ายขวา คือ สุพรรณบุรี สระบุรี ทำให้ปริมาณน้ำลดลงไป ส่วนที่ผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ชัยนาท ก็อยู่ประมาณ 2,200 -2,300 มิลลิเมตร อยู่ในเกณฑ์ที่ควบคุมได้ ลงมาส่วนของเขื่อนพระราม 6 อยู่ที่ประมาณ 700 มิลลิเมตร แต่ในส่วนนี้ยังมีพื้นที่การเกษตรที่ถูกน้ำท่วมอยู่ ทางเจ้าหน้าที่ ก็เร่งรัดกันเข้าไปช่วยดำเนินการให้เป็นรูปธรรม มหาดไทยเองก็พยายามใช้พื้นที่ที่เก็บเกี่ยวแล้วเป็นพื้นที่รองรับน้ำ ซึ่งตรงนั้นน่าจะลดความเดือดร้อนของประชาชนไประดับหนึ่ง
ในส่วนของกองทัพ ก็ร่วมกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประสานกันทำแผนการใช้กำลัง ทหารไปช่วยในการขนย้ายของ เคลื่อนย้ายกระสอบทราย เรือ ยานพานะ ที่ไปช่วยดำเนินการ ปัจจุบันถือว่าเป็นการบูรณาการร่วมกัน ในส่วนกรุงเทพมหานคร ทหารเองก็เข้าไปร่วมในส่วนของกองทัพภาคที่ 1 และกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ มีการประสานรายละเอียดกับทางจังหวัดโดยตลอด ในภาพรวมถ้าเราระบายน้ำที่ลงมาจากข้างบนที่อยู่ระหว่างเขื่อนชัยนาทกับปทุมธานีออกไปในพื้นที่เก็บเกี่ยวแล้ว ปริมาณน้ำก็จะลดลง และถ้าฝนไม่ตกลงมามากก็ไม่มีปัญหาอะไร ส่วนภาวะทะเลหนุนในสัปดาห์หน้า ยังไม่ทราบว่าจะมากน้อยแค่ไหน ส่วนการทำงานในขณะนี้มีการบูรณาการทุกภาคส่วนทั้ง ปภ.และกทม. รวมถึงทหารที่รับผิดชอบพื้นที่ ตนสั่งการไปว่าหน่วยใดที่มีปัญหากำลังพลไม่เพียงพอ ก็ร้องขอมาเพิ่มได้
"เรื่องน้ำท่วมเป็นความเดือดร้อน แต่มองในแง่ดีคือปริมาณน้ำในเขื่อนมากขึ้น เรื่องของภัยแล้วในปีหน้าก็คลายความกังวลไปได้ ถ้าน้ำในเขื่อนภูมิพล เขือนสิริกิตต์ แควน้อย น้ำเกินแปดพันเราจะสบาย ในความวิกฤติ ก็ยังมีอะไรดี " พล.อ.เฉลิมชัย กล่าว