ถามไถ่กันอยู่พอดีว่า นายทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดีหลบไปอยู่ที่ไหน เพราะเงียบหายไปพักใหญ่ ล่าสุดตกเป็นข่าว ถูกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่นครลอสแองเจลิส ในสหรัฐฯ ตามไล่ล่าจนต้องเผ่นหนีฝุ่นตลบ
แม้เวลาจะผ่านพ้นมาหลายปี แต่ความผิดที่นายทักษิณก่อไว้ ยังไม่ลบล้างจากความทรงจำของคนไทยที่รักชาติ จึงต้องตามราวีอดีตผู้นำที่ติด 1 ใน 5 ของผู้นำเลวที่สุดในโลก ตามการจัดอันดับของหนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์อย่างไม่เลิกรา
ไม่ว่า “ทักษิณ” โผล่ที่ไหนในโลก ถ้าพื้นที่นั้นมีคนไทยที่รักชาติอยู่ คนไทยที่รักชาติจะลุกขึ้นต่อต้านทันที ไม่ยอมให้อยู่เป็นสุข
และเพราะรู้ตัวดีว่า โผล่ไปที่ไหนจะมีแต่เสียงโห่ไล่ ช่วงหลังๆ “ทักษิณ” จึงหลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง ไม่เข้าไปในเขตที่มีคนไทยรักชาติ หรือถ้าจำเป็นต้องไป จะย่องไปเงียบๆ หรือไปอย่างหลบๆ ซ่อนๆ
การนัดพบปะพูดคุยกับคนเสื้อแดงประมาณ 100 คนที่นครลอสแองเจลิส เมื่อบ่ายวันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา ทีมคนเสื้อแดงที่ประสานงานได้พยายามแล้ว โดยปกปิดหมายเดินทางของ “ทักษิณ” สร้างข่าวเท็จในสถานที่จัดการพบปะ เพื่อเบี่ยงเบนทำให้กลุ่มพันธมิตรฯ เกิดความสับสน
แต่ถึงจะหลบซ่อน ถึงจะปล่อยข่าวลวงอย่างไร กลุ่มพันธมิตรฯ ก็ตามแกะรอยจนพบ และระดมพลอย่างพร้อมเพียง ดักรอประณาม “ทักษิณ” จนต้องหลบฉาก
การพบปะกับคนเสื้อแดงที่สหรัฐฯ ครั้งล่าสุด “ทักษิณ” พูดอะไรบ้าง ไม่มีสาระที่จะกล่าวถึง เพราะรู้กันอยู่ว่า “ทักษิณ” ต้องพูดเอาดีใส่ตัว ความชั่วโยนให้คนอื่น ต้องโจมตีให้ร้ายแผ่นดินเกิดตัวเอง ต้องใส่ร้ายป้ายสีกระบวนการยุติธรรม เพื่อสร้างความชอบธรรมให้ตัวเอง
ไม่มีใครใส่ใจเนื้อหาที่ “ทักษิณ” พูดกล่อมคนเสื้อแดง รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาก็ไม่ให้ราคา และไม่ตอบโต้ใดๆ จะมีแต่สื่อลูกสมุนท่านั้นที่นำคำพูดของ “ทักษิณ” มาขยายผล
คนที่มีสติ คนคิดเป็น คนที่มีเหตุผล ไม่หลงงมงาย ไม่มีใครฟัง “ทักษิณ” แล้ว แถมยังตามไล่ตะเพิดอีกต่างหาก
การตาม “ราวี” นักโทษหนีคดีที่นครลอสแองเจลิส เป็นการตอกย้ำว่า กลุ่มพันธมิตรฯ และกลุ่มคนไทยที่รักชาติในสหรัฐฯ ยังดำรงจุดยืนที่เหนียวแน่นในการต่อต้าน “ทักษิณ” หลังจากเคยออกมาชุมนุมเพื่อให้กำลังใจพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเดินทางไปร่วมประชุมสหประชาชาติที่สหรัฐฯ และถูกรังควานโดยกลุ่มคนเสื้อแดง
กลุ่มพันธมิตรฯ และคนไทยที่รักชาติ ไม่ว่าจะอยู่ในจุดไหนของโลก แต่มีจุดยืนเดียวกัน โดยไม่ยอมอโหสิกรรมให้ “ทักษิณ” ตราบใดที่ “ทักษิณ” ยังไม่สำนึกผิด
ถ้าไม่หยุดฟุ้งซ่าน ไม่หยุดคิดจะกลับมากุมอำนาจ ไม่หยุดทำร้ายประเทศไทย ไม่เลิกปลุกปั่นสร้างความแตกแยกในหมู่คนไทย “ทักษิณ” จะถูกจองเวรต่อไป
จะโผล่ไปเล่าเรื่องโกหกที่ไหน คนไทยที่รักชาติจะตามไปเปิดโปงพฤติกรรมที่นั่น ถ้า “ทักษิณ” ไม่ยอมหยุด คนไทยที่รักชาติ และรู้ทันเล่ห์ “ทักษิณ” จะไม่หยุดไล่ล่า “ทักษิณ” เหมือนกัน
วีรกรรมของกลุ่มพันธมิตรฯ ในสหรัฐฯ สมควรได้รับการยกย่อง สมควรที่จะต้องร่วมกันส่งกำลังใจและขอบคุณ เพราะได้ทำหน้าที่พลเมืองดีอย่างครบถ้วน
พบเจอคนที่ทำลายประเทศที่ไหน ร่วมกันเป็นเจ้าภาพ “จองกฐิน” นายทักษิณ จนทำให้โลกใบนี้มีพื้นที่แคบลงทุกทีสำหรับการเคลื่อนไหวของ “ทักษิณ”
เรื่องผีๆ ที่ “ทักษิณ” หยิบยกมาพูดให้คนเสื้อแดงในสหรัฐฯ ฟังนั้น ไม่มีอะไรซับซ้อนมากไปกว่าเรื่องของ “สัมภเวสี” ที่ต้องร่อนเร่พเนจรไร้ที่สิงสถิต เพราะบาปกรรมที่ก่อไว้
และสิ่งที่ก่อกรรมทำเข็ญไว้กับประเทศไทย ทำให้วันนี้ “ทักษิณ” กลายเป็นผีจรจัด ไม่มีแผ่นดินอยู่ ไม่รู้ว่ากลายเป็นคนสัญชาติไหนไปแล้ว
ถ้ายังไม่สำนึกผิด ถ้าไม่กลับตัวกลับใจเป็นคนดี “ทักษิณ” ไม่มีวันได้อยู่อย่างสงบ เพราะจะถูกตาม “จองเวร” ไปตลอดชาติ
สหรัฐฯ แทบเป็นพื้นที่ต้องห้ามของ “ทักษิณ” ไปแล้ว เพราะโผล่หน้าไปสร้างความวุ่นวายเมื่อใด กลุ่มพันธมิตรฯ จะลุกฮือออกมาขับไล่ทุกครั้งเมื่อนั้น
เพียงแต่ “ทักษิณ” ไม่รู้จักเข็ดกับการถูกไล่ล่าเท่านั้น
แม้เวลาจะผ่านพ้นมาหลายปี แต่ความผิดที่นายทักษิณก่อไว้ ยังไม่ลบล้างจากความทรงจำของคนไทยที่รักชาติ จึงต้องตามราวีอดีตผู้นำที่ติด 1 ใน 5 ของผู้นำเลวที่สุดในโลก ตามการจัดอันดับของหนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์อย่างไม่เลิกรา
ไม่ว่า “ทักษิณ” โผล่ที่ไหนในโลก ถ้าพื้นที่นั้นมีคนไทยที่รักชาติอยู่ คนไทยที่รักชาติจะลุกขึ้นต่อต้านทันที ไม่ยอมให้อยู่เป็นสุข
และเพราะรู้ตัวดีว่า โผล่ไปที่ไหนจะมีแต่เสียงโห่ไล่ ช่วงหลังๆ “ทักษิณ” จึงหลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง ไม่เข้าไปในเขตที่มีคนไทยรักชาติ หรือถ้าจำเป็นต้องไป จะย่องไปเงียบๆ หรือไปอย่างหลบๆ ซ่อนๆ
การนัดพบปะพูดคุยกับคนเสื้อแดงประมาณ 100 คนที่นครลอสแองเจลิส เมื่อบ่ายวันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา ทีมคนเสื้อแดงที่ประสานงานได้พยายามแล้ว โดยปกปิดหมายเดินทางของ “ทักษิณ” สร้างข่าวเท็จในสถานที่จัดการพบปะ เพื่อเบี่ยงเบนทำให้กลุ่มพันธมิตรฯ เกิดความสับสน
แต่ถึงจะหลบซ่อน ถึงจะปล่อยข่าวลวงอย่างไร กลุ่มพันธมิตรฯ ก็ตามแกะรอยจนพบ และระดมพลอย่างพร้อมเพียง ดักรอประณาม “ทักษิณ” จนต้องหลบฉาก
การพบปะกับคนเสื้อแดงที่สหรัฐฯ ครั้งล่าสุด “ทักษิณ” พูดอะไรบ้าง ไม่มีสาระที่จะกล่าวถึง เพราะรู้กันอยู่ว่า “ทักษิณ” ต้องพูดเอาดีใส่ตัว ความชั่วโยนให้คนอื่น ต้องโจมตีให้ร้ายแผ่นดินเกิดตัวเอง ต้องใส่ร้ายป้ายสีกระบวนการยุติธรรม เพื่อสร้างความชอบธรรมให้ตัวเอง
ไม่มีใครใส่ใจเนื้อหาที่ “ทักษิณ” พูดกล่อมคนเสื้อแดง รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาก็ไม่ให้ราคา และไม่ตอบโต้ใดๆ จะมีแต่สื่อลูกสมุนท่านั้นที่นำคำพูดของ “ทักษิณ” มาขยายผล
คนที่มีสติ คนคิดเป็น คนที่มีเหตุผล ไม่หลงงมงาย ไม่มีใครฟัง “ทักษิณ” แล้ว แถมยังตามไล่ตะเพิดอีกต่างหาก
การตาม “ราวี” นักโทษหนีคดีที่นครลอสแองเจลิส เป็นการตอกย้ำว่า กลุ่มพันธมิตรฯ และกลุ่มคนไทยที่รักชาติในสหรัฐฯ ยังดำรงจุดยืนที่เหนียวแน่นในการต่อต้าน “ทักษิณ” หลังจากเคยออกมาชุมนุมเพื่อให้กำลังใจพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเดินทางไปร่วมประชุมสหประชาชาติที่สหรัฐฯ และถูกรังควานโดยกลุ่มคนเสื้อแดง
กลุ่มพันธมิตรฯ และคนไทยที่รักชาติ ไม่ว่าจะอยู่ในจุดไหนของโลก แต่มีจุดยืนเดียวกัน โดยไม่ยอมอโหสิกรรมให้ “ทักษิณ” ตราบใดที่ “ทักษิณ” ยังไม่สำนึกผิด
ถ้าไม่หยุดฟุ้งซ่าน ไม่หยุดคิดจะกลับมากุมอำนาจ ไม่หยุดทำร้ายประเทศไทย ไม่เลิกปลุกปั่นสร้างความแตกแยกในหมู่คนไทย “ทักษิณ” จะถูกจองเวรต่อไป
จะโผล่ไปเล่าเรื่องโกหกที่ไหน คนไทยที่รักชาติจะตามไปเปิดโปงพฤติกรรมที่นั่น ถ้า “ทักษิณ” ไม่ยอมหยุด คนไทยที่รักชาติ และรู้ทันเล่ห์ “ทักษิณ” จะไม่หยุดไล่ล่า “ทักษิณ” เหมือนกัน
วีรกรรมของกลุ่มพันธมิตรฯ ในสหรัฐฯ สมควรได้รับการยกย่อง สมควรที่จะต้องร่วมกันส่งกำลังใจและขอบคุณ เพราะได้ทำหน้าที่พลเมืองดีอย่างครบถ้วน
พบเจอคนที่ทำลายประเทศที่ไหน ร่วมกันเป็นเจ้าภาพ “จองกฐิน” นายทักษิณ จนทำให้โลกใบนี้มีพื้นที่แคบลงทุกทีสำหรับการเคลื่อนไหวของ “ทักษิณ”
เรื่องผีๆ ที่ “ทักษิณ” หยิบยกมาพูดให้คนเสื้อแดงในสหรัฐฯ ฟังนั้น ไม่มีอะไรซับซ้อนมากไปกว่าเรื่องของ “สัมภเวสี” ที่ต้องร่อนเร่พเนจรไร้ที่สิงสถิต เพราะบาปกรรมที่ก่อไว้
และสิ่งที่ก่อกรรมทำเข็ญไว้กับประเทศไทย ทำให้วันนี้ “ทักษิณ” กลายเป็นผีจรจัด ไม่มีแผ่นดินอยู่ ไม่รู้ว่ากลายเป็นคนสัญชาติไหนไปแล้ว
ถ้ายังไม่สำนึกผิด ถ้าไม่กลับตัวกลับใจเป็นคนดี “ทักษิณ” ไม่มีวันได้อยู่อย่างสงบ เพราะจะถูกตาม “จองเวร” ไปตลอดชาติ
สหรัฐฯ แทบเป็นพื้นที่ต้องห้ามของ “ทักษิณ” ไปแล้ว เพราะโผล่หน้าไปสร้างความวุ่นวายเมื่อใด กลุ่มพันธมิตรฯ จะลุกฮือออกมาขับไล่ทุกครั้งเมื่อนั้น
เพียงแต่ “ทักษิณ” ไม่รู้จักเข็ดกับการถูกไล่ล่าเท่านั้น