ผู้จัดการายวัน 360 - "ศรีวราห์" สั่งขยายผลกรณีทางการสหรัฐฯจับคนไทยร่วมกับชาวอเมริกันค้ามนุษย์ เชื่อไม่กระทบกับการจัดอันดับความน่าเชื่อเกี่ยวกับการค้ามนุษย์อีก กต.โวผล 2 ประเทศทลายแก๊งค้ากามที่สหรัฐฯ
วานนี้ (6 ต.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพรามณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงกรณีที่ทางการสหรัฐอเมริกาจับกุมคนไทย 12 คน และชาวอเมริกัน 5 คน ในข้อหาค้ามนุษย์ ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างให้กองการต่างประเทศและตำรวจสันติบาล ตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่า ขบวนการดังกล่าวมีความเชื่อมโยงหรือเกี่ยวข้องกับคนไทยที่อยู่ภายในประเทศอีกหรือไม่ แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการจับกุมของเจ้าหน้าที่สหรัฐอเมริกาครั้งนี้ ไม่กระทบกับการจัดอันดับความน่าเชื่อเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ของไทย เพราะเป็นเหตุที่เกิดขึ้นในต่างประเทศเช่นเดียวกับคดีอื่นๆ ที่ไทยสามารถจับกุมผู้ต้องหาต่างชาติได้เช่นกัน
“ขณะนี้ตำรวจปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (ปคม.) ได้รับการติดต่ออย่างไม่เป็นทางการในเรื่องนี้แล้ว และได้เริ่มจัดตั้งชุดตรวจสอบข้อมูลประวัติและคดีย้อนหลังของผู้ที่ถูกจับกุมตัวได้” พล.ต.อ.ศรีวราห์ ระบุ
พล.ต.อ.ศรีวราห์ เปิดเผยด้วยว่า สำหรับผู้ที่ถูกจับกุมตัวได้มีอาทิ นางสุมาลี อินทรทอง อายุ 55 ปี ที่เป็นหัวหน้าเครือข่ายเดียวกัน ถูกจับกุมได้ที่ประเทศเบลเยี่ยม เมื่อวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งจะต้องตรวจสอบดูว่าเคยมีประวัติก่อคดีใดในประเทศไทยมาก่อนหรือไม่ ระหว่างรอการประสานคดีนี้อย่างเป็นทางการจากสหรัฐอเมริกาว่า ต้องการให้ทางการไทยตรวจสอบหรือดำเนินการในส่วนใดบ้าง โดยกระบวนการทั้งหมดจะต้องดำเนินการผ่านกระทรวงการต่างประเทศ ส่วนหากผลการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหารายใดมีการกระทำผิดเกิดขึ้นในไทยก่อนไปสหรัฐอเมริกา ก็จะต้องมีการประสานให้สหรัฐอเมริกาดำเนินคดีเพิ่ม
"เนื่องจากคดีดังกล่าว เป็นความผิดที่เกิดขึ้นนอกราชอาณาจักรไทย จึงต้องให้ทางการสหรัฐอเมริกาดำเนินคดีกับผู้ต้องหาให้แล้วเสร็จก่อน จากนั้นจึงจะเป็นขั้นตอนพิจารณาว่าจะขอให้มีการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน นำกลับมารับโทษในไทยต่อไปหรือไม่ ซึ่งทั้งหมดต้องพิจารณาจากรายละเอียดจากทางการสหรัฐอมเริกาที่จะประสานงานอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง" รอง ผบ.ตร.กล่าว
** กต.ชูผลงานสถานทูตชิคาโก
อีกด้าน นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศ ในฐานะโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ทางการไทยได้รับทราบถึงข้อกล่าวหาของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯต่อผู้ต้องหาทั้ง 17 รายที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ในสหรัฐฯตามที่ปรากฎเป็นข่าว ทั้งนี้สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ นครชิคาโก ได้มีการประสานงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของสหรัฐฯเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ที่เป็นเหยื่อของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตามข่าวที่ปรากฏขบวนการค้ามนุษย์ดังกล่าวได้มีการประสานงานข้ามแดนระหว่างบุคคลสัญชาติไทยและสหรัฐฯ กรณีที่เกิดขึ้นเป็นตัวอย่างที่เน้นย้ำให้เห็นถึงความจำเป็นที่ทั้ง 2 ชาติจะต้องมีความพยายามร่วมกันในการนำตัวผู้กระทำความผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งไทยพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับสหรัฐฯอย่างเต็มที่
นายเสขกล่าวอีกว่า รัฐบาลไทยได้ประกาศนโยบายไม่อดทนต่อกระบวนการค้ามนุษย์ โดยระหว่างปี 2557 ถึง 2558 ที่ผ่านมาได้มีการเพิ่มงบประมาณเพื่อดำเนินการป้องกันและปราบปรามมากขึ้นถึง 69% ขณะที่มีกรณีความผิดที่ถูกสอบสวนเพิ่มขึ้น 13% นอกจากนี้ยังมีการปฏิรูปกฎหมายเพื่อเปิดทางให้เจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการกับผู้กระทำผิดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังมีการเริ่มดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อช่วยป้องกันผู้ที่อาจตกเป็นเหยื่อ ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศก็ได้ดำเนินมาตรการเพื่อสร้างความตระหนักรู้ให้สังคมเกี่ยวกับความอันตรายของขบวนการค้ามนุษย์ที่มีเป้าหมายเป็นสตรีสัญชาติไทยอย่างต่อเนื่อง
“รัฐบาลไทยมีความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับหลายประเทศในความพยายามที่จะจัดการกับปัญหาการค้ามนุษย์ ซึ่งรวมถึงหน่วยงานของสหรัฐ โดยไทยการดำเนินการที่จริงจังของไทยต่อกรณีดังกล่าวได้สะท้อนให้เห็นจากการที่สหรัฐได้ยกระดับการจัดอันดับไทยในสถานการณ์การค้ามนุษย์ของไทยจากเทียร์ 3 ขึ้นเป็นเทียร์ 2 ในปีนี้” นายเสข กล่าว.
วานนี้ (6 ต.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพรามณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงกรณีที่ทางการสหรัฐอเมริกาจับกุมคนไทย 12 คน และชาวอเมริกัน 5 คน ในข้อหาค้ามนุษย์ ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างให้กองการต่างประเทศและตำรวจสันติบาล ตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่า ขบวนการดังกล่าวมีความเชื่อมโยงหรือเกี่ยวข้องกับคนไทยที่อยู่ภายในประเทศอีกหรือไม่ แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการจับกุมของเจ้าหน้าที่สหรัฐอเมริกาครั้งนี้ ไม่กระทบกับการจัดอันดับความน่าเชื่อเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ของไทย เพราะเป็นเหตุที่เกิดขึ้นในต่างประเทศเช่นเดียวกับคดีอื่นๆ ที่ไทยสามารถจับกุมผู้ต้องหาต่างชาติได้เช่นกัน
“ขณะนี้ตำรวจปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (ปคม.) ได้รับการติดต่ออย่างไม่เป็นทางการในเรื่องนี้แล้ว และได้เริ่มจัดตั้งชุดตรวจสอบข้อมูลประวัติและคดีย้อนหลังของผู้ที่ถูกจับกุมตัวได้” พล.ต.อ.ศรีวราห์ ระบุ
พล.ต.อ.ศรีวราห์ เปิดเผยด้วยว่า สำหรับผู้ที่ถูกจับกุมตัวได้มีอาทิ นางสุมาลี อินทรทอง อายุ 55 ปี ที่เป็นหัวหน้าเครือข่ายเดียวกัน ถูกจับกุมได้ที่ประเทศเบลเยี่ยม เมื่อวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งจะต้องตรวจสอบดูว่าเคยมีประวัติก่อคดีใดในประเทศไทยมาก่อนหรือไม่ ระหว่างรอการประสานคดีนี้อย่างเป็นทางการจากสหรัฐอเมริกาว่า ต้องการให้ทางการไทยตรวจสอบหรือดำเนินการในส่วนใดบ้าง โดยกระบวนการทั้งหมดจะต้องดำเนินการผ่านกระทรวงการต่างประเทศ ส่วนหากผลการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหารายใดมีการกระทำผิดเกิดขึ้นในไทยก่อนไปสหรัฐอเมริกา ก็จะต้องมีการประสานให้สหรัฐอเมริกาดำเนินคดีเพิ่ม
"เนื่องจากคดีดังกล่าว เป็นความผิดที่เกิดขึ้นนอกราชอาณาจักรไทย จึงต้องให้ทางการสหรัฐอเมริกาดำเนินคดีกับผู้ต้องหาให้แล้วเสร็จก่อน จากนั้นจึงจะเป็นขั้นตอนพิจารณาว่าจะขอให้มีการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน นำกลับมารับโทษในไทยต่อไปหรือไม่ ซึ่งทั้งหมดต้องพิจารณาจากรายละเอียดจากทางการสหรัฐอมเริกาที่จะประสานงานอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง" รอง ผบ.ตร.กล่าว
** กต.ชูผลงานสถานทูตชิคาโก
อีกด้าน นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศ ในฐานะโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ทางการไทยได้รับทราบถึงข้อกล่าวหาของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯต่อผู้ต้องหาทั้ง 17 รายที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ในสหรัฐฯตามที่ปรากฎเป็นข่าว ทั้งนี้สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ นครชิคาโก ได้มีการประสานงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของสหรัฐฯเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ที่เป็นเหยื่อของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตามข่าวที่ปรากฏขบวนการค้ามนุษย์ดังกล่าวได้มีการประสานงานข้ามแดนระหว่างบุคคลสัญชาติไทยและสหรัฐฯ กรณีที่เกิดขึ้นเป็นตัวอย่างที่เน้นย้ำให้เห็นถึงความจำเป็นที่ทั้ง 2 ชาติจะต้องมีความพยายามร่วมกันในการนำตัวผู้กระทำความผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งไทยพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับสหรัฐฯอย่างเต็มที่
นายเสขกล่าวอีกว่า รัฐบาลไทยได้ประกาศนโยบายไม่อดทนต่อกระบวนการค้ามนุษย์ โดยระหว่างปี 2557 ถึง 2558 ที่ผ่านมาได้มีการเพิ่มงบประมาณเพื่อดำเนินการป้องกันและปราบปรามมากขึ้นถึง 69% ขณะที่มีกรณีความผิดที่ถูกสอบสวนเพิ่มขึ้น 13% นอกจากนี้ยังมีการปฏิรูปกฎหมายเพื่อเปิดทางให้เจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการกับผู้กระทำผิดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังมีการเริ่มดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อช่วยป้องกันผู้ที่อาจตกเป็นเหยื่อ ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศก็ได้ดำเนินมาตรการเพื่อสร้างความตระหนักรู้ให้สังคมเกี่ยวกับความอันตรายของขบวนการค้ามนุษย์ที่มีเป้าหมายเป็นสตรีสัญชาติไทยอย่างต่อเนื่อง
“รัฐบาลไทยมีความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับหลายประเทศในความพยายามที่จะจัดการกับปัญหาการค้ามนุษย์ ซึ่งรวมถึงหน่วยงานของสหรัฐ โดยไทยการดำเนินการที่จริงจังของไทยต่อกรณีดังกล่าวได้สะท้อนให้เห็นจากการที่สหรัฐได้ยกระดับการจัดอันดับไทยในสถานการณ์การค้ามนุษย์ของไทยจากเทียร์ 3 ขึ้นเป็นเทียร์ 2 ในปีนี้” นายเสข กล่าว.