นราธิวาส - ตร.นราธิวาส เข้าปิดล้อมจับกุมผู้ต้องหาค้ามนุษย์ 2 ราย พร้อมชาวต่างด้าวมุสลิมพม่าอีก 7 คน ก่อนที่จะขึ้นเรือข้ามฟากส่งไปมาเลเซีย
วานนี้ (19 ส.ค.) ที่กองกำกับการตำรวจน้ำ จ.นราธิวาส พ.ต.ต.นัฐพงศ์ ตาแก้ว สารวัตรตำรวจน้ำ จ.นราธิวาส ร.ต.อ.ภูวดล วิริยนรากูล สาววัตรท่องเที่ยวนราธิวาส ได้นำผู้ต้องหาในเครือข่ายค้ามนุษย์นำมาสอบสวนที่กองกับการตำรวจน้ำ จ.นราธิวาส จำนวน 9 ราย โดยแยกเป็นคนไทยเป็นคนนำพา 2 คน และอีก 7 คน เป็นบุคคลต่างด้าวชาวมุสลิมพม่า คือ 1.นาย ยาซาร์ อายุ 31 ปี 2.นายอามาน อายุ 17 ปี 3.นายจูไนท์ อายุ 20 ปี 4.นายซัสตาส อายุ 30 ปี 5.นายแฟรุส คาน อายุ 19 ปี 6.นางราเนีย อายุ 32 ปี และ 7.นางเซจีดา อายุ 17 ปี
ส่วนผู้ที่ตกเป็นผู้ต้องหาเป็นผู้นำพา ทราบเป็นคนในพื้นที่ ต.กายูคละ อ.แว้ง จ.นราธิวาส ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่ขอเปิดเผยรายชื่อ เพื่อนำสอบสวนขยายผลกลุ่มขบวนการ โดยจากตรวจสอบผู้ต้องหา ที่เป็นบุคคลต่างด้าวทั้ง 7 คน พบตามแขนทุกคนมีการเขียนอักษรภาษาอังกฤษตัวย่อ เช่น อักษร PD และ PDS ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของคนที่จะถูกส่งไปยังประเทศมาเลเซีย ตรวจค้นภายในตัวพบเพียงกระเป๋า และซื้อผ้า และไม่พบหลักฐานเอกสารใดๆ
พ.ต.ต.นัฐพงศ์ ตาแก้ว สารวัตรตำรวจน้ำนราธิวาส กล่าวถึงการจับกุมในครั้งนี้ว่า ได้รับแจ้งจากสายข่าวในพื้นว่าจะมีขบวนการค้ามนุษย์นำคนสัญชาติพม่าเข้ามาในพื้นที่บริเวณชายแดน จ.นราธิวาส จึงได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบ และเจ้าหน้าที่สายสืบ สภ.แว้ง จำนวน 20 นาย เจาะหาข่าว และตามประกบกลุ่มเป้าหมายบริเวณคลองบ้านขุด ม.1 ต.บางขุด อ.แว้ง จ.นราธิวาส
ต่อมา ได้มี นาย ย. (ผู้นำพา) ได้ขี่รถจักรยายนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก สีแดง ทะเบียน 1 กค 3612 นราธิวาส ขี่มาลำพังเพื่อดูลาดเลา และสังเกตการณ์ เมื่อเห็นปลอดเจ้าหน้าที่จึงได้นำโทรศัพท์มือถือโทร.หาเพื่อนผู้ต้องหา (ผู้นำพาอีกคน) ชื่อ นาย ป. เพียงครู่เดียวได้มีรถยนต์กระบะ 4 ประตู ยี่ห้ออีซูซู สีดำ ทะเบียน กค 2346 นราธิวาส ขับเข้ามาอย่างรวดเร็ว โดยมีชาวมุสลิมพม่า จำนวน 7 ราย อยู่ในกระบะหลังมาจอดรอเรือข้ามฟากเพื่อจะส่งไปยังประเทศมาเลเซียทางช่องทางเถื่อน ขณะที่เจ้าหน้าที่ที่ซุ่มอยู่ได้แสดงตัว พร้อมปิดล้อมจับกุมได้ทั้งหมด ก่อนจะนำตัวมาสอบสวนที่กองกำกับการตำรวจน้ำนราธิวาส
สอบสวนทราบว่า กลุ่มที่ถูกจับกุม 7 คน เป็นชาวมุสลิมพม่า แต่ในเบื้องต้นไม่ใช่ชาวโรฮีนจา โดยผู้ต้องหาได้ให้การว่า ได้เดินทางมาจากประเทศพม่า โดยได้จ่ายค่าหัวรายละ 2 หมื่นบาท ให้แก่ นายเอ (นามสมมติ) ซึ่งเป็นชาวพม่าอยู่ในประเทศไทย โดย นายเอ ได้นำพวกตนมาขึ้นรถไฟขบวนรถเร็วที่ต้นทาง จ.ราชบุรี เมื่อช่วงเช้าวันที่ 18 ส.ค.59 ส่วนปลายทางคือ พื้นที่สถานีในเจาะไอร้อง และสุไหงปาดี และเมื่อถึงปลายทาง จ.นราธิวาส ได้มีผู้ต้องหา 2 คน ซึ่งเป็นคนนำพามารับตัว และนำตัวซ่อนไว้ที่บ้านหลังหนึ่งของเครือข่ายค้ามนุษย์ ที่บ้านกายูคละ อ.แว้ง จ.นราธิวาส ก่อนจะนำพวกตนทั้งหมดไปส่งที่บริเวณคลองข้ามฟากเพื่อข้ามไปยังประเทศมาเลเซีย ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมดังกล่าว
ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหาตาม พ.ร.บ.มาตรา 63 นำพาบุคคลต่างด้าวมาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย และตั้งข้อหาผู้ต้องหาคนไทย 2 คน เป็นผู้ต้องหาร่วมกันค้ามนุษย์ โดยแสวงหาผลประโยชน์
