ต้อนรับการมาเยือนของมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 21 ซึ่งกำลังจะเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้า หลายคนคงเตรียมลิสรายชื่อ-เก็บตังกันไปละลายทรัพย์ที่งานอยู่แน่ๆ ระหว่างที่รองานที่จะมาถึง FEELGOOD ขอออเดิร์ฟเรียกน้ำย่อยกันก่อน ด้วยการเสิร์ฟร้านขายหนังสือจากทั่วโลกที่ต้องยกนิ้วให้กับไอเดียที่สร้างสรรค์สุดๆ และการตกแต่งร้านที่ดึงดูดใจคนรักการอ่านให้ต้องแวะเวียนเข้าไป ราวกับว่าถูกมนต์สะกดยังไงอย่างงั้น . .
Librairie Avant-Garde : เมืองหนานจิง ประเทศจีน
ลบลืมภาพร้านหนังสือที่อยู่ในห้องสี่เหลี่ยมมีหนังสือวางเรียงรายธรรมดาๆ ไปได้เลย เพราะร้าน “Librairie Avant-Garde” แห่งนี้ได้เปลี่ยนความรู้สึกนักอ่านทั้งหลาย ด้วยการทำร้านหนังสือในที่จอดรถเอาซะเลย ซึ่งสถานที่แห่งนี้ครั้งหนึ่งเคยเป็นหลุมหลบภัยมาก่อน จึงเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญในเชิงประวัติศาสตร์แห่งหนึ่งของหนานจิง
นอกจากจะเป็นสถานที่ที่มีเรื่องราวมาอยู่ก่อนแล้ว ที่นี่หลังจากที่เปลี่ยนโฉมมาเป็นร้านหนังสือ ยังได้รับการยกย่องจาก CNN และ National Geographic อีกด้วยว่าเป็นร้านหนังสือที่สวยที่สุดในประเทศจีน และเป็นแห่งเดียวในแถบเอเชียที่ติด 1 ใน 10 อันดับร้านหนังสือที่สวยแจ่มของโลก
Word on the Water : กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
นี่คือร้านหนังสือร้านเดียวในลอนดอนที่ลอยอยู่เหนือน้ำ! บอกก่อนเลยว่าเป็นร้านหนังสือที่ถือเป็นซิกเนเจอร์ในกรุงลอนดอนสุดๆ “Word on the Water” ได้รวบรวมหนังสือมือสองมาไว้บนเรือดัตช์ที่ล่องอยู่ในคลอง โดยมีการเปลี่ยนจุดจอดทุกๆ สองสัปดาห์ เช่น ในเขต Camden Lock, Angel, Hackney และ Paddington นอกจากความโดดเด่นของตัวเรือที่ดึงดูดสายตาหนอนหนังสือให้แวะเวียนไปเยี่ยมชมแล้ว ที่นี่ยังเป็นแหล่งรวมหนังสือบริจาค และยังมีการจัดแสดงดนตรีเล็กๆ สร้างบรรยากาศให้นักท่องเที่ยวบริเวณนั้นอีกด้วยล่ะ
Barter Books : เมืองอาร์นวิค ประเทศอังกฤษ
ถ้าพูดถึงร้านหนังสือที่มีความเก่าแก่และความขลัง คงต้องยกให้กับ “Barter Books” จากประเทศอังกฤษนี่ซะแล้ว กับซิกเนเจอร์ที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้สำหรับโปสเตอร์สุดจะโด่งดัง “Keep Calm & Carry On” ในความหมายว่า “ใจเย็นๆ และก้าวต่อไป” ถือเป็นประโยคเด็ดที่ถูกทำออกมารูปแบบโปสเตอร์เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เชียวนะ!
ซึ่งโปสเตอร์อันโด่งดังจู่ๆ ได้สูญหายไประหว่างนั้น แต่กลับมาโผล่ขึ้นในร้านหนังสือ “Barter Books” เอาซะดื้อๆ นั่นเป็นเพราะว่าสจวร์ต (เจ้าของร้านหนังสือ) เกิดไปเจอโปสเตอร์ “Keep Calm & Carry On” ในกล่องเก็บของเก่าที่เต็มไปด้วยฝุ่นเขรอะรวมกับกองหนังสือที่ประมูลมาได้ เขาจึงนำไปใส่กรอบติดไว้ในร้าน (บางส่วนขายไปแล้ว) จนกลายเป็นสมบัติล้ำค่าที่ทำให้นักชอบของเก่าและหนอนหนังสือแห่กันมาแวะเวียนที่ร้านกันอย่างหนาแน่นเลยทีเดียว
Libreria El Pendulo : เม็กซิโกซิตี้ ประเทศเม็กซิโก
อีกหนึ่งร้านหนังสือที่บอกเลยว่ารักษ์โลกสุดๆ เห็นได้จากการยกต้นไม้ ใบหญ้ามาตกแต่งทั่วทุกมุมร้าน “Libreria El Pendulo” คือร้านหนังสือที่สร้างความสดชื่นให้นักอ่านได้ดีจริงๆ ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็สบายหูสบายตาไปซะหมด นอกจากนี้ยังมีร้านกาแฟและของหวานให้ได้นั่งทานกันอย่างสบายท้อง และถ้าหากร้านหนังสือร้านไหนอยากนำไอเดียการตกแต่งภายในที่ให้ความรู้สึกกลมกลืมกับธรรมชาตินี้ไปใช้ในการแต่งร้านก็ไม่ว่ากัน
BooksActually : ประเทศสิงคโปร์
ในทวีปเอเชียของเราก็มีร้านหนังสือเก๋ๆ ไม่แพ้ฝั่งยุโรปและอเมริกาเขาเหมือนกันนะ สำหรับ “BooksActually” ร้านหนังสืออิสระในประเทศสิงคโปร์ จุดเด่นคือเป็นร้านหนังสือเล็กๆ ที่อบอุ่นหนักมาก ซึ่งเจ้าของคือนักสะสมหนังสือตัวยง “Kenny Leck” ผู้มีความหลงใหลในการอ่านหนังสือ เขาตัดสินใจเปิดร้านหนังสือตามความฝันของตัวเอง รวมถึงตกแต่งร้านหนังสือด้วยบรรยากาศชวนอบอุ่นใจ สีส้มเหลืองละมุนสายตาพาให้นักอ่านทั้งหลายอยากเข้ามาซุกตัวลงกอดหนังสือด้วยความอบอุ่น
Brattle Bookshop : เมืองบอสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา
อีกหนึ่งร้านหนังสือที่ดูแล้วฮิปสเตอร์สุดๆ เพราะเป็นร้านหนังสือที่มีตัวร้านแยกออกเป็น 2 ส่วนด้วยกัน คือส่วนที่อยู่ในร้านแบบปิด และส่วนที่แยกออกเป็นโซนเอาท์ดอร์ “Brattle Bookshop” ที่นี่ได้กลายเป็นร้านหนังสือมือสองที่มีความเก่าแก่และใหญ่ที่สุดในประเทศไปแล้ว โดย 2 ชั้นแรกจะเป็นหนังสือมือสองทั่วไป ส่วนชั้นที่ 3 จะเป็นหนังสือหายากและหนังสือโบราณ ส่วนโซนเอาท์ดอร์จะเป็นหนังสือลดราคาวางเรียงรายดึงดูดให้น่าเข้าไปเสียตังสุดๆ
Source : http://www.lifehack.org/