วานนี้ (29 ก.ย.) นางอรรชกา สีบุญเรือง รมว.อุตสาหกรรม เป็นประธานในพิธีแถลงผลความสำเร็จ โครงการสุดยอดเอสเอ็มอีจังหวัด (SME Provincial Champions) พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “แนวทางการส่งเสริม SMEs ในการก้าวสู่ Thailand 4.0” ช่วงหนึ่งว่า โครงการสุดยอด SMEs จังหวัด เป็นโครงการที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ซึ่งเป็นการบูรณาการการทำงานระหว่างภาครัฐและเอกชน ในการพัฒนา SMEs ทุกระดับ ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ โดยมีต้นทุนที่ลดลง แต่รายได้เพิ่มขึ้น ยุทธศาสตร์ SMEs 4.0 เป็นโครงการที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ ไทยแลนด์ 4.0 ที่มีการพัฒนาผลผลิตทางการเกษตร ด้วยการเสริมนวัตกรรม การวิจัย และความคิดเชิงสร้างสรรค์ เพื่อ ให้ผู้ประกอบการ SMEs มีความเข้มแข็ง และเป็นกำลังสำคัญ ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
ด้าน นางสาลินี วังตาล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า โครงการนี้เป็นการดำเนินการร่วมกันระหว่าง สสว. กับภาคีภาครัฐและเอกชน ในปี 2559 ได้คัดเลือกผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการรวม 222 กิจการ จาก 77 จังหวัดทั่วประเทศ โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่เพิ่งเริ่มดำเนินธุรกิจ (Start up) กลุ่มที่มีศักยภาพในการตลาด (Rising Star) และกลุ่มที่อยู่ในช่วงฟื้นตัว (Turn Around) ทั้งหมดได้รับการฝึกอบรมพัฒนาองค์ความรู้ กลยุทธ์องค์กร และให้คำปรึกษาแนะนำโดยทีมผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านแบบเชิงลึก เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความสอดคล้องกับตลาด หลังเข้าร่วมโครงการแล้วผลการประเมินด้านรายได้และผลิตภาพที่เพิ่มขึ้นต่อปี ปรากฏว่ากลุ่ม Start Up มีรายได้และผลิตภาพเพิ่มขึ้นสูงสุด ร้อยละ 30.57 ต่อปี รองลงมาเป็น กลุ่ม Rising Star มีรายได้และผลิตภาพเพิ่มขึ้น ร้อยละ 25.04 ต่อปี และกลุ่ม Turn Around สามารถมีรายได้และผลิตภาพเพิ่มขึ้น ร้อยละ 15.61 ต่อปี ทั้งนี้ในภาพรวมของโครงการสามารถเพิ่มรายได้และผลิตภาพ ร้อยละ 21.06 ต่อปี สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาทางด้านมูลค่าทางเศรษฐกิจ พบว่า ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการมีรายได้รวม 22,047.17 ล้านบาท และเมื่อผ่านกระบวนการพัฒนาภายใต้โครงการสุดยอดเอสเอ็มอีจังหวัด ทำให้ผู้ประกอบการมีรายได้เพิ่มขึ้น 4,642.43 ล้านบาท.
ด้าน นางสาลินี วังตาล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า โครงการนี้เป็นการดำเนินการร่วมกันระหว่าง สสว. กับภาคีภาครัฐและเอกชน ในปี 2559 ได้คัดเลือกผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการรวม 222 กิจการ จาก 77 จังหวัดทั่วประเทศ โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่เพิ่งเริ่มดำเนินธุรกิจ (Start up) กลุ่มที่มีศักยภาพในการตลาด (Rising Star) และกลุ่มที่อยู่ในช่วงฟื้นตัว (Turn Around) ทั้งหมดได้รับการฝึกอบรมพัฒนาองค์ความรู้ กลยุทธ์องค์กร และให้คำปรึกษาแนะนำโดยทีมผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านแบบเชิงลึก เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความสอดคล้องกับตลาด หลังเข้าร่วมโครงการแล้วผลการประเมินด้านรายได้และผลิตภาพที่เพิ่มขึ้นต่อปี ปรากฏว่ากลุ่ม Start Up มีรายได้และผลิตภาพเพิ่มขึ้นสูงสุด ร้อยละ 30.57 ต่อปี รองลงมาเป็น กลุ่ม Rising Star มีรายได้และผลิตภาพเพิ่มขึ้น ร้อยละ 25.04 ต่อปี และกลุ่ม Turn Around สามารถมีรายได้และผลิตภาพเพิ่มขึ้น ร้อยละ 15.61 ต่อปี ทั้งนี้ในภาพรวมของโครงการสามารถเพิ่มรายได้และผลิตภาพ ร้อยละ 21.06 ต่อปี สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาทางด้านมูลค่าทางเศรษฐกิจ พบว่า ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการมีรายได้รวม 22,047.17 ล้านบาท และเมื่อผ่านกระบวนการพัฒนาภายใต้โครงการสุดยอดเอสเอ็มอีจังหวัด ทำให้ผู้ประกอบการมีรายได้เพิ่มขึ้น 4,642.43 ล้านบาท.