เจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่า ลากจูงซากเรือมรณถึงท่าอู่เรือศรีเจริญเพื่อให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบหาสาเหตุเรือล่มได้แล้ว พร้อมตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จริง คาดรู้ผลใน 10 วัน ด้านตำรวจแจ้งข้อหาคนขับเรือเพิ่มอีก 1 ข้อหา "ใช้ยานพาหนะ ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย" รวมเป็น 5 ข้อหา
วานนี้ (21 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบเหตุเรือโดยสารล่มที่บริเวณหน้าวัดสนามไชย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวมทั้งหมด 28 ราย บาดเจ็บจำนวนมากเหตุเกิดเมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมาว่า หลังจากกรมเจ้าท่า ได้ทำการกู้ซากเรือที่ล่มขึ้นมาได้แล้วเมื่อช่วงเย็นวันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา และได้ทำการเคลื่อนย้ายซากเรือโดยตั้งเป้าจะนำเรือไปอุด และยาเรือที่อู่เรือศรีเจริญ ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งตั้งใกล้กับวัดพนัญเชิงวรวิหาร อยู่ห่างจากที่เกิดเหตุ 500 เมตรตั้งแต่เมื่อช่วงค่ำวันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา แต่ปรากฎว่าเรือไม่สามารถลากจูงไปถึงได้ เนื่องจากกระแสน้ำไหลแรง ทำให้ต้องหยุดเรือเพื่ออุด และยารอยรั้วเรือที่บริเวณฝังตรงข้ามหน้าวัดนักบุญยอแซพ
โดยตลอดทั้งคืนวันที่ 20 ก.ย.เจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังทำการอุด และยารอยรั่วของเรือจนกระทั่งเช้าจึงแล้วเสร็จ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการสูบน้ำที่อยู่ในเรือออกก่อนทำการเคลื่อนย้ายเรือดังกล่าวไปยังอู่ศรีเจริญ โดยใช้เวลาลากจูกประมาณ 30 นาทีจึงนำเรือลำดังกล่าวมาถึงอู่เรือศรีเจริญ
ต่อมาเวลา 12.00 น. เจ้าหน้าที่ได้นำเรือขึ้นคาน โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จึงสามารถนำเรือขึ้นคานเรือได้สำเร็จ โดยต่อไปจะเป็นการตรวจสอบความเสียหายรวมถึงทรัพย์สินที่ยังอยู่ในเรือ โดยทางเจ้าหน้าที่ได้มีการประสานงานกับทางมัสยิด ให้จัดส่งผู้แทนมัสยิดเข้ามาตรวจดูทรัพย์สินร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่า
นายวิทยยา ยาม่วง ผอ.สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 2 กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว คาดว่าอีกประมาณ 10 วันคงจะได้บทสรุปทั้งหมดของเหตุการณ์โศกนาฏกรรมใหญ่ในเหตุการณ์นี้
ต่อมาช่วงบ่ายเจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่าเรือภูมิภาคที่ 2 พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ได้เดินทางมายังที่อู่เรือศรีเจริญ ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อเตรียมเข้าตรวจสอบหาสาเหตุที่ทำให้เกิดเรือล่ม โดยมี พ.ต.อ.ธนศักดิ์ ปานแย้ม รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ. เอกราช อุ่นเจริญ ผกก.สอบสวน ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยเบื้องต้นได้ทำการเปิดแผลบริเวณท้องเรือด้านขวา ทำการวัดระยะควากว้าง ความยาว และบาดแผลที่เริ่มทำให้น้ำไหลเข้าเรือตามคำให้การของผู้ประสบภัยที่อยู่ในเรือ
พ.ต.อ.ธนศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้เราได้แจ้งข้อกล่าวหานายวิรัตน์ ชัยศิริกุล อายุ 67 ปี คนขับเรือ 1.กระทำการประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 2.ขับเรือโดยประมาทเป็นเหตุให้ ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส 3.ขับเรือโดยบรรทุกผู้โดยสารมากกว่าที่ได้รับอนุญาต และ 4. ใบอนุญาตขับเรือหมดอายุ ส่งศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ฝากขังเรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในส่วนของนายสุนทร พันธุ์เสือทอง เจ้าของเรือได้ทำการสอบปากคำแล้วอยู่ระหว่างสอบสวนเจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่าเพิ่มเติมเพื่อดำเนินคดีกับเจ้าของเรือว่าทราบหรือไม่ ว่ามีการกระทำความผิด ว่ามีการนำเรือไปกระทำความผิด เพื่อแจ้งหาร่วมกันกับคนขับเรือ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติมคนขับเรืออีก 1 ข้อหา คือ ใช้ยานพาหนะ ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย อีก 1 ข้อหา รวมเป็น 5 ข้อหาแล้ว
วานนี้ (21 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบเหตุเรือโดยสารล่มที่บริเวณหน้าวัดสนามไชย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวมทั้งหมด 28 ราย บาดเจ็บจำนวนมากเหตุเกิดเมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมาว่า หลังจากกรมเจ้าท่า ได้ทำการกู้ซากเรือที่ล่มขึ้นมาได้แล้วเมื่อช่วงเย็นวันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา และได้ทำการเคลื่อนย้ายซากเรือโดยตั้งเป้าจะนำเรือไปอุด และยาเรือที่อู่เรือศรีเจริญ ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งตั้งใกล้กับวัดพนัญเชิงวรวิหาร อยู่ห่างจากที่เกิดเหตุ 500 เมตรตั้งแต่เมื่อช่วงค่ำวันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา แต่ปรากฎว่าเรือไม่สามารถลากจูงไปถึงได้ เนื่องจากกระแสน้ำไหลแรง ทำให้ต้องหยุดเรือเพื่ออุด และยารอยรั้วเรือที่บริเวณฝังตรงข้ามหน้าวัดนักบุญยอแซพ
โดยตลอดทั้งคืนวันที่ 20 ก.ย.เจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังทำการอุด และยารอยรั่วของเรือจนกระทั่งเช้าจึงแล้วเสร็จ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการสูบน้ำที่อยู่ในเรือออกก่อนทำการเคลื่อนย้ายเรือดังกล่าวไปยังอู่ศรีเจริญ โดยใช้เวลาลากจูกประมาณ 30 นาทีจึงนำเรือลำดังกล่าวมาถึงอู่เรือศรีเจริญ
ต่อมาเวลา 12.00 น. เจ้าหน้าที่ได้นำเรือขึ้นคาน โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จึงสามารถนำเรือขึ้นคานเรือได้สำเร็จ โดยต่อไปจะเป็นการตรวจสอบความเสียหายรวมถึงทรัพย์สินที่ยังอยู่ในเรือ โดยทางเจ้าหน้าที่ได้มีการประสานงานกับทางมัสยิด ให้จัดส่งผู้แทนมัสยิดเข้ามาตรวจดูทรัพย์สินร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่า
นายวิทยยา ยาม่วง ผอ.สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 2 กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว คาดว่าอีกประมาณ 10 วันคงจะได้บทสรุปทั้งหมดของเหตุการณ์โศกนาฏกรรมใหญ่ในเหตุการณ์นี้
ต่อมาช่วงบ่ายเจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่าเรือภูมิภาคที่ 2 พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ได้เดินทางมายังที่อู่เรือศรีเจริญ ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อเตรียมเข้าตรวจสอบหาสาเหตุที่ทำให้เกิดเรือล่ม โดยมี พ.ต.อ.ธนศักดิ์ ปานแย้ม รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ. เอกราช อุ่นเจริญ ผกก.สอบสวน ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยเบื้องต้นได้ทำการเปิดแผลบริเวณท้องเรือด้านขวา ทำการวัดระยะควากว้าง ความยาว และบาดแผลที่เริ่มทำให้น้ำไหลเข้าเรือตามคำให้การของผู้ประสบภัยที่อยู่ในเรือ
พ.ต.อ.ธนศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้เราได้แจ้งข้อกล่าวหานายวิรัตน์ ชัยศิริกุล อายุ 67 ปี คนขับเรือ 1.กระทำการประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 2.ขับเรือโดยประมาทเป็นเหตุให้ ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส 3.ขับเรือโดยบรรทุกผู้โดยสารมากกว่าที่ได้รับอนุญาต และ 4. ใบอนุญาตขับเรือหมดอายุ ส่งศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ฝากขังเรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในส่วนของนายสุนทร พันธุ์เสือทอง เจ้าของเรือได้ทำการสอบปากคำแล้วอยู่ระหว่างสอบสวนเจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่าเพิ่มเติมเพื่อดำเนินคดีกับเจ้าของเรือว่าทราบหรือไม่ ว่ามีการกระทำความผิด ว่ามีการนำเรือไปกระทำความผิด เพื่อแจ้งหาร่วมกันกับคนขับเรือ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติมคนขับเรืออีก 1 ข้อหา คือ ใช้ยานพาหนะ ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย อีก 1 ข้อหา รวมเป็น 5 ข้อหาแล้ว
