ศูนย์ข่าวภาคใต้ - ศาลอนุมัติหมายจับ "ซูกีมัน กูบารู" มือวางระเบิดป่วนใต้ 7 จังหวัดเพิ่ม “ศรีวราห์” บุกสอบปากคำผู้ต้องหาลอบวางระเบิดตรัง “บิ๊กตู่” ออกคำสั่งม.44 ตั้ง ครม.ส่วนหน้า
เมื่อเวลา 10.00 น.วานนี้ (15 ก.ย.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีก่อเหตุระเบิดและวางเพลิงในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ พร้อมด้วยคณะพนักงานสืบสวน เดินทางไปยังศาลมณฑลทหารบกที่ 45 ค่ายวิภาวดีรังสิต จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาในคดีร่วมกันวางเพลิงร้านเสื้อผ้าของ นายภาคินัย บุญยืน ผู้เสียหายที่ตลาดนัดบางเนียง ม.5 ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 ส.ค.59 เวลาประมาณ 19.30 น.เนื่องจากพื้นที่ จ.พังงาอยู่ในเขตความรับผิดชอบของศาลมณฑลทหารบกที่ 45 โดยศาลใช้เวลาประมาณ 20 นาทีในการพิจารณาอนุมัติให้ออกหมายจับนายซูกีมัน กูบารู อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38/1 ม.8 ต.ปะลุรู อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ในความผิดฐาน "ร่วมกันกันมีวัตถุระเบิดที่ใช้เฉพาะแต่การสงครามซึ่งนายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย ร่วมกันพยายามวางเพลิง เผาทรัพย์สินผู้อื่นและเป็นอั้งยี่"
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า การขออนุมัติขอหมายจับในวันนี้เป็นระดับปฏิบัติการ โดยนำพยานหลักฐานพยานบุคคลเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดตั้งแต่ผู้ต้องหาเริ่มปฏิบัติการก่อเหตุในพื้นที่ในการขออนุมัติหมายจับจากศาล ซึ่งบุคคลดังกล่าวมีประวัติเคยก่อเหตุในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และมีเชื่อมโยงการก่อเหตุในพื้นที่กระบี่ พังงา หากการสอบสวนขยายผลพบผู้ใดเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง และมีหลักฐานที่ชัดเจนก็จะเตรียมออกหมายจับเพิ่ม และพร้อมยืนยันว่าคดีในพื้นที่กระบี่ ภูเก็ต และสุราษฎร์ธานี มีความคืบหน้าไปมาก
จากนั้น คณะรอง ผบ.ตร.ได้เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ไปยังพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม นายอับดุลกอเดร์ สาแล๊ะ ผู้ต้องหาร่วมกันมีวัตถุระเบิดและกระทำให้เกิดระเบิด วางเพลิงเผาทรัพย์ห้างลีมาร์ทซุปเปอร์ค้าส่ง อ.เมือง จ.ตรัง ซึ่งถูกควบคุมตัวไว้ที่เรือนจำจังหวัดทุ่งสง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช โดยการสอบปากคำนายอับดุลกอเดร์ ได้มีการเน้นการสอบสวนในประเด็นความเชื่อมโยงถึงเครือข่าย การติดต่อสื่อสาร รวมทั้งความเชื่อมโยงกับนายลาหริ สาและ แกนนำอาร์เคเค ที่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมในจังหวัดยะลา จนนำไปสู่การยึดอาวุธปืนเอชเค 5 กระบอกในท้องที่จังหวัดยะลา เนื่องจากพบว่ามีความเชื่อมโยงทางเครือญาติกับนายอับดุลกอร์เดร์
** ออกคำสั่งม.44 ตั้ง ครม.ส่วนหน้า
วันเดียวกัน เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 57/2559 เรื่อง การปรับปรุงการบริหารเพื่อแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีสาระสำคัญให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.) ปฎิบัติหน้าที่และมีอำนาจในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (คปต.) ที่ตั้งตามที่ คสช.ได้มีประกาศฉบับที่ 98/2557 เป็นฝ่ายบูรณาการ และให้อำนาจนายกฯโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิและมีประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นผู้แทนพิเศษของรัฐบาลเป็นกรรมการ คปต.มีหน้าที่ประสานงานระหว่าง ครม.และราชการส่วนกลางกับหน่วยงานในพื้นที่ ประสานงานกับรัฐมนตรีที่นายกฯมอบหมายให้กำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในเขตตรวจราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ และให้รายงานปัญหาอุปสรรค แนวทางแก้ปัญหาต่อนายกฯเป็นระยะๆ โดยผู้แทนพิเศษของรัฐบาลเป็นกรรมการ คปต.ได้รับค่าตอบแทนและสิทธิประโยชน์ ให้มีสำนักงาน คปต.ส่วนหน้าตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้.
เมื่อเวลา 10.00 น.วานนี้ (15 ก.ย.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีก่อเหตุระเบิดและวางเพลิงในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ พร้อมด้วยคณะพนักงานสืบสวน เดินทางไปยังศาลมณฑลทหารบกที่ 45 ค่ายวิภาวดีรังสิต จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาในคดีร่วมกันวางเพลิงร้านเสื้อผ้าของ นายภาคินัย บุญยืน ผู้เสียหายที่ตลาดนัดบางเนียง ม.5 ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 ส.ค.59 เวลาประมาณ 19.30 น.เนื่องจากพื้นที่ จ.พังงาอยู่ในเขตความรับผิดชอบของศาลมณฑลทหารบกที่ 45 โดยศาลใช้เวลาประมาณ 20 นาทีในการพิจารณาอนุมัติให้ออกหมายจับนายซูกีมัน กูบารู อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38/1 ม.8 ต.ปะลุรู อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ในความผิดฐาน "ร่วมกันกันมีวัตถุระเบิดที่ใช้เฉพาะแต่การสงครามซึ่งนายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย ร่วมกันพยายามวางเพลิง เผาทรัพย์สินผู้อื่นและเป็นอั้งยี่"
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า การขออนุมัติขอหมายจับในวันนี้เป็นระดับปฏิบัติการ โดยนำพยานหลักฐานพยานบุคคลเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดตั้งแต่ผู้ต้องหาเริ่มปฏิบัติการก่อเหตุในพื้นที่ในการขออนุมัติหมายจับจากศาล ซึ่งบุคคลดังกล่าวมีประวัติเคยก่อเหตุในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และมีเชื่อมโยงการก่อเหตุในพื้นที่กระบี่ พังงา หากการสอบสวนขยายผลพบผู้ใดเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง และมีหลักฐานที่ชัดเจนก็จะเตรียมออกหมายจับเพิ่ม และพร้อมยืนยันว่าคดีในพื้นที่กระบี่ ภูเก็ต และสุราษฎร์ธานี มีความคืบหน้าไปมาก
จากนั้น คณะรอง ผบ.ตร.ได้เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ไปยังพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม นายอับดุลกอเดร์ สาแล๊ะ ผู้ต้องหาร่วมกันมีวัตถุระเบิดและกระทำให้เกิดระเบิด วางเพลิงเผาทรัพย์ห้างลีมาร์ทซุปเปอร์ค้าส่ง อ.เมือง จ.ตรัง ซึ่งถูกควบคุมตัวไว้ที่เรือนจำจังหวัดทุ่งสง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช โดยการสอบปากคำนายอับดุลกอเดร์ ได้มีการเน้นการสอบสวนในประเด็นความเชื่อมโยงถึงเครือข่าย การติดต่อสื่อสาร รวมทั้งความเชื่อมโยงกับนายลาหริ สาและ แกนนำอาร์เคเค ที่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมในจังหวัดยะลา จนนำไปสู่การยึดอาวุธปืนเอชเค 5 กระบอกในท้องที่จังหวัดยะลา เนื่องจากพบว่ามีความเชื่อมโยงทางเครือญาติกับนายอับดุลกอร์เดร์
** ออกคำสั่งม.44 ตั้ง ครม.ส่วนหน้า
วันเดียวกัน เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 57/2559 เรื่อง การปรับปรุงการบริหารเพื่อแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีสาระสำคัญให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.) ปฎิบัติหน้าที่และมีอำนาจในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (คปต.) ที่ตั้งตามที่ คสช.ได้มีประกาศฉบับที่ 98/2557 เป็นฝ่ายบูรณาการ และให้อำนาจนายกฯโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิและมีประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นผู้แทนพิเศษของรัฐบาลเป็นกรรมการ คปต.มีหน้าที่ประสานงานระหว่าง ครม.และราชการส่วนกลางกับหน่วยงานในพื้นที่ ประสานงานกับรัฐมนตรีที่นายกฯมอบหมายให้กำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในเขตตรวจราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ และให้รายงานปัญหาอุปสรรค แนวทางแก้ปัญหาต่อนายกฯเป็นระยะๆ โดยผู้แทนพิเศษของรัฐบาลเป็นกรรมการ คปต.ได้รับค่าตอบแทนและสิทธิประโยชน์ ให้มีสำนักงาน คปต.ส่วนหน้าตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้.