xs
xsm
sm
md
lg

ประยุทธ์ เพิ่มพลังเดินสายต่างประเทศ-ยืดอกถกยูเอ็น !!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

**ถ้าพิจารณาจากอาการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่กำลังเดินสายไปร่วมประชุมซัมมิตระดับโลกอยู่ในเวลานี้ เชื่อว่าคงอยู่ในอาการ"หัวใจพองโต" ปลื้มอกปลื้มใจเป็นยิ่งนัก แม้ว่าจะเก็บอาการไว้ภายใน แต่ถ้าลองจับความรู้สึกไม่ว่าใครมันก็ยิ้มกริ่มกันอยู่แล้ว
เมื่อสำรวจคิวเดินสายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ก่อนหน้านี้ได้รับเชิญจากจีน มหาอำนาจยักษ์ใหญ่เอเซียที่เป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศเศรษฐกิจชั้นนำของโลก 20 ประเทศ หรือ จี 20 โดยพล.อ.ประยุทธ์ ได้รับเชิญในฐานะผู้นำประเทศที่เป็นประธานกลุ่ม จี 77 ได้มีโอกาสเข้าไปกล่าวสุนทรพจน์ ตอกย้ำวิสัยทัศน์ในเรื่องปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อใช้เป็นทางออกสำหรับประเทศกำลังพัฒนา และเรียกร้องให้ประเทศที่เจริญแล้วอย่าทอดทิ้งประเทศที่อ่อนแอเอาไว้ข้างหลัง แต่ให้ช่วยกันประคับประคองเพื่อเดินไปด้วยกัน โดยเฉพาะการเรียกร้องไม่ให้ทอดทิ้งภาคการเกษตร
แม้ว่างานนี้จะได้ยินเสียงกระแนะกระแหนออกมาจากฝั่งลูกน้องของ ทักษิณ ชินวัตร อย่าง สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในทำนองว่า ไทยน่าจะได้รับโอกาสถกทวิภาคีกับผู้นำหลายชาติ มากกว่าแค่ถกทวิภาคีกับผู้นำจีนเพียงชาติเดียว ก็ว่ากันไป แต่อย่างน้อยการได้จับเข่าคุยกับประธานาธิบดี สีจิ้นผิง ของจีน มันก็ย่อมสร้างความเข้าใจ และกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันก็ยังเพิ่มพลังการต่อรองกับมหาอำนาจอีกฝั่งหนึ่งได้พอสมควร เนื่องจากไทยในยุคคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้ยึดหลักความสัมพพันธ์แบบสมดุล ระหว่างมหาอำนาจสามฝ่าย คือ จีน สหรัฐอเมริกา และรัสเซีย
ถัดมาในสัปดาห์นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็เดินทางต่อยังกรุงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เพื่อเข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศอาเซียน ครั้งที่ 28 และต่อเนื่องครั้งที่ 29 รวมไปถึงการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการประชุมแบบนี้ถือว่าเป็นวาระพิเศษ เนื่องจากมีระดับผู้นำยักษ์ใหญ่ ซึ่งเคยเจอกันมาแล้วที่จีน และย้ายมาประชุมสุดยอดอาเซียนที่ลาวแบบต่อเนื่องกัน
แต่ที่น่าจับตาอีกวาระหนึ่งก็คือ กำหนดการเดินทางไปร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญครั้ง 71 ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีกำหนดเดินทางไปประชุมในวันที่ 18-24 กันยายนนี้
ที่น่าสนใจก็คือ การเดินทางไปครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ไปในฐานะผู้นำกลุ่มประเทศจี 77 ที่ไทยเป็นประธานอยู่ในเวลานี้ ซึ่งอย่างที่บอกในตอนต้นแล้วว่า เขาคงจะไปขยายความตอกย้ำในเรื่องหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศกำลังพัฒนาทั้งหลาย ที่สหประชาชาติให้การยอมรับ
แน่นอนว่า หากเปรียบเทียบกับการเดินทางไปในครั้งก่อน ปีก่อน กับปีนี้ พิจารณากันตามรูปการณ์แล้วถือว่าน่าจะต่างกันลิบลับ โดยเฉพาะสถานะของผู้นำที่มาจากการรัฐประหาร แต่ในช่วงสองปีกว่าที่ผ่านมา หากไม่ปฏิเสธความจริงก็ต้องรับว่าสถานะของไทยเริ่มกลับมามีความโดดเด่นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่วนหนึ่งเป็นช่วงที่ประเทศมหาอำนาจกำลังแข่งขันกันหาพันธมิตร หาพวก ในเกมความขัดแย้งในภูมิภาค ประกอบกับที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญทำให้ไทยได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษ อีกทั้งที่ผ่านมาในยุคคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ยังให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์กับนานาชาติ ทำตัวเป็นผู้ใหญ่ ไม่ฟูมฟาย ใครจะไม่คบกับเรา ก็ไม่เป็นไร แต่เราจะเป็นมิตร ไม่เป็นศัตรูกับใคร
ส่วนสถานการณ์ภายในประเทศ แม้ว่าตามรูปแบบแล้วจะเป็นเผด็จการ มีการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวด ดูแล้วเหมือนกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน มีการปิดกั้นเสรีภาพ แต่ในความเป็นจริงแล้วกลับไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับสุจริตชน คนส่วนใหญ่แทบทั้งหมดไม่ได้เดือดร้อน ตรงกันข้ามกับพวก"กังฉิน" กลุ่มการเมืองบางกลุ่มเท่านั้นที่เคยป่วนเมืองพยายามดิ้นรนเพื่อกลับมาฟื้นอำนาจอีกครั้งเท่านั้นโดยอ้างเหตุผลเรื่องสิทธิมนุษยชน เสรีภาพบังหน้าเท่านั้น แต่เมื่อคนส่วนใหญ่ไม่เล่นด้วย คนพวกนี้ก็ไม่มีพลังและฝ่อลงไปเรื่อยๆ
ขณะเดียวกัน เมื่อพิจารณากันถึงสถานการณ์โดยรวมภายในประเทศ จนถึงนาทีนี้ ถือว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ยังคุมเกมได้อย่างเบ็ดเสร็จมั่นคง และหลังจากโชว์พาวเวอร์ทำให้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ผ่านประชามติด้วยเสียงท่วมท้น มันก็ยิ่งสร้างความมั่นใจให้เขามากขึ้นเรื่อยๆ และอาจมองข้ามช็อตไปไกลแล้วก็ได้
ดังนั้นอย่าได้แปลกใจที่ในเวทีต่างประเทศจะเริ่มเห็นการกล่าวสุนทรพจน์ การแสดงวิสัยทัศน์แบบมั่นใจมากขึ้นกว่าเดิม แน่นอนว่าต้องจับตาการเดินทางไปร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยสามัญประจำปีนี้ต้องน่าสนใจ โดยเฉพาะเป็นปีที่ไทยเป็นประธานกลุ่มประเทศ จี 77 ที่ต้องถือโอกาสโชว์ให้เต็มที่ ซึ่งที่ผ่านมาไทยให้ความสำคัญเป็นพิเศษ
**แน่นอนว่าจากเส้นทางการเดินสายเข้าร่วมประชุมและได้รับเชิญในรายการใหญ่ที่ผ่านมาต่อเนื่องมาถึงวาระการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติปีนี้ ต้องทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มั่นใจมากกว่าเดิม อย่างน้อยก็คงลดคำเยาะเย้ยถากถางจากฝ่ายตรงข้ามจนแทบพูดไม่ออกกันเลยทีเดียว !!
กำลังโหลดความคิดเห็น