“ประยุทธ์” เปิดทำเนียบต้อนรับทูตนิวซีแลนด์ในโอกาสรับตำแหน่ง แจงสถานการณ์ไทยมุ่งปฏิรูปวางรากฐานมั่นคงยั่งยืนตามโรดแมปและยุทธศาสตร์ชาติ เห็นพ้องหนุนความร่วมมือ ศก. เจรจา FTA รวมถึงการศึกษา วิจัย ท่องเที่ยว พร้อมแนะนำด้านนิติวิทยาศาสตร์ในพื้นที่ จชต. ชมไทยแก้ค้ามนุษย์ดีขึ้น นายกฯ ย้ำรักษาผลประโยชน์สองชาติ
วันนี้ (25 ส.ค.) เวลา 13.30 น. นายเบนจามิน คิง (H.E. Mr. Benjamin King) เอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดย พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปการหารือดังนี้ นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีที่ได้พบและยินดีที่เอกอัครราชทูตฯ ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย โดยเชื่อมั่นว่าเอกอัครราชทูตฯ จะช่วยส่งเสริมและผลักดันความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ด้านเอกอัครราชทูตฯ แสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ทั้งสองฝ่ายมีความยินดีที่ปีนี้เป็นปีครบรอบ 60 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-นิวซีแลนด์ และเชื่อว่าความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นและยาวนานของทั้งสองฝ่ายจะนำไปสู่ความร่วมมือต่างๆ อีกมากมาย
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรียังได้ชี้แจงถึงสถานการณ์การเมืองไทย โดยกล่าวว่าขณะนี้ไทยอยู่ระหว่างการปฏิรูปประเทศในทุกๆ ด้าน โดยขอให้มั่นใจว่าประเทศไทยจะเดินหน้าตาม Roadmap ที่ได้วางไว้ ทั้งนี้รัฐบาลได้จัดให้มีการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและให้ประชาชนได้มีโอกาสแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ จึงกำหนดให้มีขั้นตอนการออกเสียงประชามติไว้ใน Roadmap และการมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นต่อร่างรัฐธรรมนูญและการออกเสียงประชามติเป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญสำหรับการวางรากฐานของสังคมที่เป็นประชาธิปไตย ซึ่งเสียงของประชาชนเป็นองค์ประกอบสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ ทั้งนี้ รัฐบาลยืนยันความมุ่งมั่นและตั้งใจที่จะปฏิรูปประเทศและวางรากฐานที่มั่นคงและยั่งยืนในทุกด้าน โดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง เพื่อให้ประเทศไทยสามารถดำเนินการตาม Roadmap ซึ่งมุ่งสู่ความเป็นประชาธิปไตย ที่ยั่งยืนและสอดคล้องกับเป้าหมายระยะยาวในการพัฒนาประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะส่งเสริมความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการค้า การลงทุน ตลอดจนการเจรจา FTA ระหว่างไทยและนิวซีแลนด์ ซึ่งปัจจุบันไทยได้รับความยอมรับและเชื่อมั่นจากนานาชาติในการเข้ามาลงทุนด้านต่างๆ นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องพัฒนาและขยายความสัมพันธ์ทางด้านการศึกษา การวิจัยและพัฒนา และการท่องเที่ยว โดยเห็นพ้องว่าจะเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวระหว่างกันให้มากขึ้นเพื่อกระชับความสัมพันธ์ให้ครอบคลุมในทุกมิติ
สำหรับสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนใต้ เอกอัครราชทูตฯ กล่าวว่า นิวซีแลนด์ยินดีและพร้อมที่จะให้ความร่วมมือและคำแนะนำทางด้านนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งนิวซีแลนด์มีความเชี่ยวชาญในด้านนี้ ด้านนายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณและขอให้หน่วยงานทั้งสองฝ่ายที่เกี่ยวข้องดำเนินการในต่อไป นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตฯ ยังกล่าวชื่นชมประเทศไทยถึงความพยายามในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ซึ่งมีพัฒนาการที่ดีขึ้นตามลำดับ
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีแสดงความเชื่อมั่นที่จะรักษาผลประโยชน์ของไทยและนิวซีแลนด์ ตลอดจนทุกประเทศที่เข้ามาอยู่ในประเทศไทยอย่างดีที่สุด พร้อมกล่าวว่าในเร็วๆ นี้จะเดินทางเข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำ G20 ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 4-5 กันยายน 2559 และเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 28 และการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 29 ระหว่างวันที่ 6-8 กันยายน 2559 ณ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เพื่อแสดงวิสัยทัศน์และบทบาทของไทยในเวทีนานาชาติ