ผู้ว่าฯ สตง.รับลูกนายกฯ ปมผักตบชวา เร่งส่งสายตรวจลงพื้นที่ เพื่อสอบหน่วยงานรัฐฯ ในการกำจัดผักตบชวา เพราะสงสัยมีกลิ่นเรื่องงบฯ แฉของบแต่ไม่มีผลงาน แถมปริมาณผักตบเพิ่มขึ้น
จากกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการนายกฯ พบประชาชน เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แสดงความไม่พอใจระบุว่ามีอาจารย์มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง มาวิจารณ์ว่ามัวแต่ยุ่งกับผักตบชวา ไม่ไปพัฒนาเรื่องอื่น ทั้งๆ ที่ตนทำหลายเรื่อง ล่าสุดวานนี้ (28 ส.ค.) นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เปิดเผยว่า ได้สั่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบการใช้งบประมาณแผ่นดิน ในเรื่องการจัดเก็บผักตบชวา ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีการสอบถามเข้ามากว่าแต่ละปีใช้เท่าไหร่ ทำไมจึงจัดเก็บไม่หมด มีแต่จำนวนผักตบเพิ่มมากขึ้น ในสัปดาห์นี้จะได้ทราบชัดเจน โดยเฉพาะแต่ละหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบ ในพื้นที่ทุกลุ่มน้ำ แม่น้ำ เส้นทางระบายน้ำ คูคลองต่างๆ
"เรากำลังเร่งส่งสายตรวจไปตรวจสอบเรื่องนี้ในพื้นที่ ไปเก็บตัวเลขมา ใช้งบจัดเก็บผักตบปีละเท่าไหร่ โดยเป็นงบที่รวมอยู่ในงบขุดลอก แต่ละหน่วยงานจะนำใช้ต้องเปิดมาให้สังคมรับรู้ เหมือนกับสำนักระบายน้ำของ กทม. มีงบทำเส้นทางระบายน้ำปีละ 5 พันล้านบาท แต่พอฝนตกวันหนึ่งท่วม ผู้ว่าฯ กทม.บอกว่าเป็นน้ำรอการระบาย อ้างระบบใหญ่ไม่เวิร์ค เตรียมขอใช้งบพันล้านบาทมาทำอีก 21 โครงการ จะเห็นว่าเพียงน้ำท่วมช่วงข้ามคืนคิดได้ 21 โครงการ วิกฤติสร้างโอกาส เพิ่มสถิติงาน เปอร์เซนต์งานมากขึ้นปีละ70% แต่งบที่ได้ทุกปี ปีละ 5 พันล้าน ทำไมไม่ทำ ถ้าย้อนไป 5 ปี เป็นงบ 2.7 หมื่นล้านบาท ทำไมยังมีน้ำรอระบาย" นายพิศิษฐ์กล่าว
ผู้ว่าฯ สตง.กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ออกมาพูดเรื่องผักตบชวาถือเป็นเรื่องที่ดี ช่วยกระตุ้นเตือน เพราะหน่วยงานไม่ค่อยใส่ใจเรื่องเล็กๆ กัน แต่ละพื้นที่ แต่หน่วยงานที่มีหน้าที่ก็ปล่อยให้มีมากๆ จะได้ของบกลางก้อนใหญ่ ทุกเรื่องจึงเป็นปัญหาหมักหมม ถามว่าทำไมขุดลอกคูคลองขุดได้ ทำไมไม่กำจัดผักตบชวา หรือเพราะไม่ใช่งานก่อสร้าง มีเปอร์เซ็นต์งานมากกว่า ความจริงแล้วผักตบต้องใช้วิธีป้องกัน เก็บก่อนแพร่พันธุ์ ไม่ใช่ปล่อยจนรากยึดดิน ทำน้ำเน่าเสีย ปลาตาย ควรมีการวางแผนว่าจะมีวิธีตั้งรับอย่างไร มันไม่ใช่เรื่องยาก หรือเอาเวลาไปดูงานต่างประเทศ จนไม่ได้พัฒนาสภาพบ้านเราเป็นอย่างไร ชอบไปดูงานยุโรป อเมริกา ก็ไม่มีผักตบชวาให้ดู และผักตบก็นำมาทำผลิตภัณฑ์ ทำปุ๋ยหมัก ของบางอย่างเป็นโอกาส และเป็นประโยชน์ต่อชุมชน
"ยิ่งตอนนี้พอเป็นข่าวส่วนท้องถิ่น ก็ชอบใช้งบฉุกเฉินจำเป็นอย่างมีความสุข ก็จ้างแรงงาน ใช้น้ำมัน ค่าล่วงเวลา ค่าจ้างคนไปเก็บ ลำน้ำคูคลองเล็ก แทนที่จะเก็บตอนน้อย ๆ รอมาก ๆ ค่อยเก็บ ถ้าให้ผมวิจารณ์ดูแล้วหน่วยงานที่รับผิดชอบมาแก้ไขที่ปลายเหตุ ภาระหน้าที่ตรวจตรา รักษาความสะอาดผิวน้ำ เก็บก่อนที่จะระบาด ไม่ใช่ปล่อยมาเต็มแม่น้ำ เต็มเขื่อน แทนที่ใช้งบเล็กๆ ต้องมาใช้งบฯ มาก" ผู้ว่าฯ สตง. กล่าว
สำหรับการสอบสวนหลายโครงการจัดซื้อของ กทม.นั้น จะเร่งสรุป เช่นโครงการจัดซื้อรถกู้ภัยขนาดเล็ก ที่มีการระงับการจัดซื้อลอตใหม่ไปแล้ว จากเดิมที่ซื้อมาแล้ว 20 คันๆ ละ 8 ล้านบาท ที่ผ่านมา สตง.ได้แจ้งเตือนอย่างน้อยสองครั้ง แต่ กทม. ไม่ฟัง สุดท้ายก็ทำผิดจากเงื่อนไขสัญญา แสดงถึงการเอื้อประโยชน์ชัดเจน และยังมีอีกหลายโครงการ เช่นการจัดซื้อรถดูดไขมัน ประจำทุกเขต ทั้งที่ไม่มีงานดูดไขมันทุกวัน ซื้อเปียโนให้โรงเรียน กทม. เป็นต้น.
จากกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการนายกฯ พบประชาชน เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แสดงความไม่พอใจระบุว่ามีอาจารย์มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง มาวิจารณ์ว่ามัวแต่ยุ่งกับผักตบชวา ไม่ไปพัฒนาเรื่องอื่น ทั้งๆ ที่ตนทำหลายเรื่อง ล่าสุดวานนี้ (28 ส.ค.) นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เปิดเผยว่า ได้สั่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบการใช้งบประมาณแผ่นดิน ในเรื่องการจัดเก็บผักตบชวา ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีการสอบถามเข้ามากว่าแต่ละปีใช้เท่าไหร่ ทำไมจึงจัดเก็บไม่หมด มีแต่จำนวนผักตบเพิ่มมากขึ้น ในสัปดาห์นี้จะได้ทราบชัดเจน โดยเฉพาะแต่ละหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบ ในพื้นที่ทุกลุ่มน้ำ แม่น้ำ เส้นทางระบายน้ำ คูคลองต่างๆ
"เรากำลังเร่งส่งสายตรวจไปตรวจสอบเรื่องนี้ในพื้นที่ ไปเก็บตัวเลขมา ใช้งบจัดเก็บผักตบปีละเท่าไหร่ โดยเป็นงบที่รวมอยู่ในงบขุดลอก แต่ละหน่วยงานจะนำใช้ต้องเปิดมาให้สังคมรับรู้ เหมือนกับสำนักระบายน้ำของ กทม. มีงบทำเส้นทางระบายน้ำปีละ 5 พันล้านบาท แต่พอฝนตกวันหนึ่งท่วม ผู้ว่าฯ กทม.บอกว่าเป็นน้ำรอการระบาย อ้างระบบใหญ่ไม่เวิร์ค เตรียมขอใช้งบพันล้านบาทมาทำอีก 21 โครงการ จะเห็นว่าเพียงน้ำท่วมช่วงข้ามคืนคิดได้ 21 โครงการ วิกฤติสร้างโอกาส เพิ่มสถิติงาน เปอร์เซนต์งานมากขึ้นปีละ70% แต่งบที่ได้ทุกปี ปีละ 5 พันล้าน ทำไมไม่ทำ ถ้าย้อนไป 5 ปี เป็นงบ 2.7 หมื่นล้านบาท ทำไมยังมีน้ำรอระบาย" นายพิศิษฐ์กล่าว
ผู้ว่าฯ สตง.กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ออกมาพูดเรื่องผักตบชวาถือเป็นเรื่องที่ดี ช่วยกระตุ้นเตือน เพราะหน่วยงานไม่ค่อยใส่ใจเรื่องเล็กๆ กัน แต่ละพื้นที่ แต่หน่วยงานที่มีหน้าที่ก็ปล่อยให้มีมากๆ จะได้ของบกลางก้อนใหญ่ ทุกเรื่องจึงเป็นปัญหาหมักหมม ถามว่าทำไมขุดลอกคูคลองขุดได้ ทำไมไม่กำจัดผักตบชวา หรือเพราะไม่ใช่งานก่อสร้าง มีเปอร์เซ็นต์งานมากกว่า ความจริงแล้วผักตบต้องใช้วิธีป้องกัน เก็บก่อนแพร่พันธุ์ ไม่ใช่ปล่อยจนรากยึดดิน ทำน้ำเน่าเสีย ปลาตาย ควรมีการวางแผนว่าจะมีวิธีตั้งรับอย่างไร มันไม่ใช่เรื่องยาก หรือเอาเวลาไปดูงานต่างประเทศ จนไม่ได้พัฒนาสภาพบ้านเราเป็นอย่างไร ชอบไปดูงานยุโรป อเมริกา ก็ไม่มีผักตบชวาให้ดู และผักตบก็นำมาทำผลิตภัณฑ์ ทำปุ๋ยหมัก ของบางอย่างเป็นโอกาส และเป็นประโยชน์ต่อชุมชน
"ยิ่งตอนนี้พอเป็นข่าวส่วนท้องถิ่น ก็ชอบใช้งบฉุกเฉินจำเป็นอย่างมีความสุข ก็จ้างแรงงาน ใช้น้ำมัน ค่าล่วงเวลา ค่าจ้างคนไปเก็บ ลำน้ำคูคลองเล็ก แทนที่จะเก็บตอนน้อย ๆ รอมาก ๆ ค่อยเก็บ ถ้าให้ผมวิจารณ์ดูแล้วหน่วยงานที่รับผิดชอบมาแก้ไขที่ปลายเหตุ ภาระหน้าที่ตรวจตรา รักษาความสะอาดผิวน้ำ เก็บก่อนที่จะระบาด ไม่ใช่ปล่อยมาเต็มแม่น้ำ เต็มเขื่อน แทนที่ใช้งบเล็กๆ ต้องมาใช้งบฯ มาก" ผู้ว่าฯ สตง. กล่าว
สำหรับการสอบสวนหลายโครงการจัดซื้อของ กทม.นั้น จะเร่งสรุป เช่นโครงการจัดซื้อรถกู้ภัยขนาดเล็ก ที่มีการระงับการจัดซื้อลอตใหม่ไปแล้ว จากเดิมที่ซื้อมาแล้ว 20 คันๆ ละ 8 ล้านบาท ที่ผ่านมา สตง.ได้แจ้งเตือนอย่างน้อยสองครั้ง แต่ กทม. ไม่ฟัง สุดท้ายก็ทำผิดจากเงื่อนไขสัญญา แสดงถึงการเอื้อประโยชน์ชัดเจน และยังมีอีกหลายโครงการ เช่นการจัดซื้อรถดูดไขมัน ประจำทุกเขต ทั้งที่ไม่มีงานดูดไขมันทุกวัน ซื้อเปียโนให้โรงเรียน กทม. เป็นต้น.
