ศูนย์ข่าวเชียงใหม่-เกิดเหตุเฮลิคอปเตอร์ รุ่น UH-72 ที่ผบ.พล.ร.4 นั่งมาด้วย รวม 5 นาย สัญญาณขาดหายขาดการติดต่อระหว่างบินอยู่แถวดอยอินทนนท์ ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ทหารพราน ป่าไม้ อุทยาน ค้นหากันวุ่น ท่ามกลางข่าวลือลงจอดฉุกเฉิน ทุกนายปลอดภัย แม่ทัพภาค 3 ยืนยัน ยังไม่พบ วอนอย่าปล่อยข่าวมั่ว ขอให้รอฟังคำยืนยันจากผู้ที่รับผิดชอบโดยตรง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.30 น. วานนี้ (14 ส.ค.) เฮลิคอปเตอร์ รุ่น UH-72 หรือลาโกต้า ซึ่งมี พล.ต.นพพร เรือนจันทร์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 4 (ผบ.พล.ร.4) พร้อมผู้โดยสารอีก 4 คน ประกอบด้วยนักบินที่ 1 ร.อ.สุทัน อ่อนเมือง , นักบินที่ 2 ร.ท.นวพัฒน์ มณีโชติ , ช่างเครื่อง จ.ส.อ.ชัยศักดา ทาโส และ จ.ส.ต.มงคลชัย รู้งาน ได้ขาดการติดต่อระหว่างบินอยู่บริเวณดอยอินทนนท์ หลังจากกลับจากภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน มุ่งหน้ากลับมายังจังหวัดพิษณุโลก
ขณะเดียวกัน นายอำเภอแม่แจ่ม ได้รับการแจ้งประสานจากนายอำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอนว่า ฮ. ของ พล.ต.นพพร ได้ยกตัวจากจังหวัดแม่ฮ่องสอน ผ่านอำเภอขุนยวม อำเภอแม่แจ่ม แล้วขาดการติดต่อ จึงประสานขอให้อำเภอแม่แจ่ม ตรวจสอบข้อมูล ต่อมาทางอำเภอแม่แจ่ม ได้แจ้งทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เน้นหน่วยป่าไม้ และท้องถิ่นท้องที่ให้ช่วยกันตรวจสอบ
ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวระดับสูงจากกรมป่าไม้ ให้ข้อมูลว่า เจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่อยู่บริเวณหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชม.16 (แม่นาฮ่อง) ได้พบเห็น และได้ยินเสียง และเงียบหายไป โดย ฮ. ลำดังกล่าวบินระดับต่ำมาก แถวๆ ดอยอินทนนท์ ซึ่งสภาพอากาศโดยทั่วไปไม่ดี มีเมฆ และหมอก ล่าสุด เจ้าหน้าที่ป่าไม้กำลังเดินทางออกค้นหาเช่นกัน
กระทั่งเวลา 15.28 น. มีข่าวลือว่ามีรายงานจากกองพล ร.7 ยืนยันว่า เฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าวได้ลงจอดฉุกเฉินที่บ้านห้วยป่าคา ตำบลยั้งเมิน อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ โดยเจ้าหน้าที่ทุกนายรวมถึง ผบ.พล.ร.4 ปลอดภัย โดยมีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติดอยอนทนนท์ ได้เข้าไปยังจุดจอดแล้ว
ขณะที่ พ.อ.อดุลย์ จำปาทอง รองผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 36 กล่าวยืนยันว่า พบเฮลิคอปเตอร์ที่ขาดการติดต่อได้ลงจอดฉุกเฉินที่บ้านห้วยป่าคา ตำบลยั้งเมิน อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ โดยบุคคลบนเครื่องทั้ง 5 คนปลอดภัย ส่วนสาเหตุเกิดจากสภาพอากาศแปรปรวน ทำให้จำเป็นต้องลงจอดฉุกเฉิน
อย่างไรก็ตาม กระทั่งถึงช่วงเย็น ก็ยังไม่มีการยืนยันการตรวจพบเฮลิคอปเตอร์ดังกล่าวในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่แต่อย่างใด แม้ว่าจะมีกระแสข่าวเผยแพร่ออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะทางสื่อสังคมออนไลน์ว่าพบเฮลิคอปเตอร์ดังกล่าวลงจอดฉุกเฉิน และผู้โดยสารทั้งหมดปลอดภัยดีก็ตาม ซึ่งล่าสุดกองทัพภาคที่ 3 , มณฑลทหารบกที่ 33 และหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 7 ได้ยืนยันว่ากระแสข่าวการพบเฮลิคอปเตอร์ ไม่เป็นความจริง ขณะนี้เจ้าหน้าที่เดินเท้าเข้าค้นหายังจุดพิกัดที่ อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ อย่างต่อเนื่อง โดยปฏิเสธกระแสข่าวและขอให้ฟังการรายงานข่าวจากกองทัพภาค 3 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 7 และมณฑลทหารบกที่ 33 เท่านั้น
ขณะที่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อำเภอจอมทอง และพื้นที่อำเภอแม่แจ่ม ซึ่งเป็นพื้นที่เป้าหมายในการค้นหาเฮลิคอปเตอร์ดังกล่าวนั้น รายงานข่าวแจ้งว่า สภาพอากาศในพื้นที่ช่วงเย็นวันนี้ยังคงมืดครึ้ม มีเมฆหนา และมีฝนตกเป็นช่วงๆ ซึ่งอาจจะเป็นอุปสรรคต่อการค้นหา
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกำลังพลจากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 รวมทั้งเจ้าหน้าที่ป่าไม้และอุทยานได้มีการเตรียมความพร้อมอยู่แล้วที่ที่ว่าการอำเภอ อำเภอแม่แจ่ม พร้อมที่จะเดินเท้าเข้าพื้นที่ทันทีที่ทราบพิกัดแน่ชัด
พล.ท.สมศักดิ์ นิลบรรเจิดกุล แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า ได้รายงาน พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผบ.ทบ. รับทราบแล้ว ซึ่ง ผบ.ทบ. สั่งการให้ตั้งกองบัญชาการค้นหา (บก.ค้นหา) ที่ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ โดยเน้นย้ำให้เร่งส่งกำลังภาคพื้นเข้าสำรวจในพื้นที่ที่ขาดการติดต่อ พร้อมสั่งการให้ศูนย์การบินทหารบกเตรียมพร้อมขึ้นบินสำรวจสนับสนุนกำลังภาคพื้น แต่สภาพอากาศในพื้นที่ตอนนี้ไม่ค่อยดี เนื่องจากมีเมฆมาก
"แผนการค้นหา จะเน้นใช้เครื่องมือประกอบแผนที่ ซึ่งเราได้พิกัดที่จะเข้าค้นหาคร่าวๆ คือ ห่างจากสนาม เฮลิคอปเตอร์ต้นทาง ประมาณ 82 กิโลเมตร ห่างจากอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ประมาณ 6 กิโลเมตร ซึ่งครอบคลุมใน 3 หมู่บ้านของ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ได้แก่ หมู่บ้านแม่แจ่มหลวง หมู่บ้านแม่หอย และหมู่บ้านแม่นาจร ทั้งนี้ ยืนยันว่า ยังไม่ได้รับรายงานว่าเฮลิคอปเตอร์ลงจอดฉุกเฉินที่ใด"พล.ท.สมศักดิ์กล่าว
นายทศพล เผื่อนอุดม นายอำเภอแม่แจ่ม กล่าวว่า ได้สั่งการแจ้งขอความร่วมมือกำนันทุกตำบล ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ และนายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดชุดลาดตระเวนค้นหา โดยเฉพาะชุด อปพร.ของแต่ละท้องถิ่น หากพบข้อมูล และเบาะแสแจ้งให้อำเภอทราบด่วน และทางอำเภอยังได้ตั้งศูนย์บัญชาการค้นหา และได้ประชุมเจ้าหน้าที่ เพื่อเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว อส.เจ้าหน้าที่ ตำรวจสภ.แม่แจ่ม ทหาร จากกรมทหารพรานที่ 36 แม่สะเรียง เจ้าหน้าที่ป่าไม้ พร้อมชุดผจญภัยเข้าพื้นที่เมื่อได้รับทราบเบาะแส
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.30 น. วานนี้ (14 ส.ค.) เฮลิคอปเตอร์ รุ่น UH-72 หรือลาโกต้า ซึ่งมี พล.ต.นพพร เรือนจันทร์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 4 (ผบ.พล.ร.4) พร้อมผู้โดยสารอีก 4 คน ประกอบด้วยนักบินที่ 1 ร.อ.สุทัน อ่อนเมือง , นักบินที่ 2 ร.ท.นวพัฒน์ มณีโชติ , ช่างเครื่อง จ.ส.อ.ชัยศักดา ทาโส และ จ.ส.ต.มงคลชัย รู้งาน ได้ขาดการติดต่อระหว่างบินอยู่บริเวณดอยอินทนนท์ หลังจากกลับจากภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน มุ่งหน้ากลับมายังจังหวัดพิษณุโลก
ขณะเดียวกัน นายอำเภอแม่แจ่ม ได้รับการแจ้งประสานจากนายอำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอนว่า ฮ. ของ พล.ต.นพพร ได้ยกตัวจากจังหวัดแม่ฮ่องสอน ผ่านอำเภอขุนยวม อำเภอแม่แจ่ม แล้วขาดการติดต่อ จึงประสานขอให้อำเภอแม่แจ่ม ตรวจสอบข้อมูล ต่อมาทางอำเภอแม่แจ่ม ได้แจ้งทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เน้นหน่วยป่าไม้ และท้องถิ่นท้องที่ให้ช่วยกันตรวจสอบ
ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวระดับสูงจากกรมป่าไม้ ให้ข้อมูลว่า เจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่อยู่บริเวณหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชม.16 (แม่นาฮ่อง) ได้พบเห็น และได้ยินเสียง และเงียบหายไป โดย ฮ. ลำดังกล่าวบินระดับต่ำมาก แถวๆ ดอยอินทนนท์ ซึ่งสภาพอากาศโดยทั่วไปไม่ดี มีเมฆ และหมอก ล่าสุด เจ้าหน้าที่ป่าไม้กำลังเดินทางออกค้นหาเช่นกัน
กระทั่งเวลา 15.28 น. มีข่าวลือว่ามีรายงานจากกองพล ร.7 ยืนยันว่า เฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าวได้ลงจอดฉุกเฉินที่บ้านห้วยป่าคา ตำบลยั้งเมิน อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ โดยเจ้าหน้าที่ทุกนายรวมถึง ผบ.พล.ร.4 ปลอดภัย โดยมีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติดอยอนทนนท์ ได้เข้าไปยังจุดจอดแล้ว
ขณะที่ พ.อ.อดุลย์ จำปาทอง รองผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 36 กล่าวยืนยันว่า พบเฮลิคอปเตอร์ที่ขาดการติดต่อได้ลงจอดฉุกเฉินที่บ้านห้วยป่าคา ตำบลยั้งเมิน อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ โดยบุคคลบนเครื่องทั้ง 5 คนปลอดภัย ส่วนสาเหตุเกิดจากสภาพอากาศแปรปรวน ทำให้จำเป็นต้องลงจอดฉุกเฉิน
อย่างไรก็ตาม กระทั่งถึงช่วงเย็น ก็ยังไม่มีการยืนยันการตรวจพบเฮลิคอปเตอร์ดังกล่าวในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่แต่อย่างใด แม้ว่าจะมีกระแสข่าวเผยแพร่ออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะทางสื่อสังคมออนไลน์ว่าพบเฮลิคอปเตอร์ดังกล่าวลงจอดฉุกเฉิน และผู้โดยสารทั้งหมดปลอดภัยดีก็ตาม ซึ่งล่าสุดกองทัพภาคที่ 3 , มณฑลทหารบกที่ 33 และหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 7 ได้ยืนยันว่ากระแสข่าวการพบเฮลิคอปเตอร์ ไม่เป็นความจริง ขณะนี้เจ้าหน้าที่เดินเท้าเข้าค้นหายังจุดพิกัดที่ อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ อย่างต่อเนื่อง โดยปฏิเสธกระแสข่าวและขอให้ฟังการรายงานข่าวจากกองทัพภาค 3 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 7 และมณฑลทหารบกที่ 33 เท่านั้น
ขณะที่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อำเภอจอมทอง และพื้นที่อำเภอแม่แจ่ม ซึ่งเป็นพื้นที่เป้าหมายในการค้นหาเฮลิคอปเตอร์ดังกล่าวนั้น รายงานข่าวแจ้งว่า สภาพอากาศในพื้นที่ช่วงเย็นวันนี้ยังคงมืดครึ้ม มีเมฆหนา และมีฝนตกเป็นช่วงๆ ซึ่งอาจจะเป็นอุปสรรคต่อการค้นหา
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกำลังพลจากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 รวมทั้งเจ้าหน้าที่ป่าไม้และอุทยานได้มีการเตรียมความพร้อมอยู่แล้วที่ที่ว่าการอำเภอ อำเภอแม่แจ่ม พร้อมที่จะเดินเท้าเข้าพื้นที่ทันทีที่ทราบพิกัดแน่ชัด
พล.ท.สมศักดิ์ นิลบรรเจิดกุล แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า ได้รายงาน พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผบ.ทบ. รับทราบแล้ว ซึ่ง ผบ.ทบ. สั่งการให้ตั้งกองบัญชาการค้นหา (บก.ค้นหา) ที่ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ โดยเน้นย้ำให้เร่งส่งกำลังภาคพื้นเข้าสำรวจในพื้นที่ที่ขาดการติดต่อ พร้อมสั่งการให้ศูนย์การบินทหารบกเตรียมพร้อมขึ้นบินสำรวจสนับสนุนกำลังภาคพื้น แต่สภาพอากาศในพื้นที่ตอนนี้ไม่ค่อยดี เนื่องจากมีเมฆมาก
"แผนการค้นหา จะเน้นใช้เครื่องมือประกอบแผนที่ ซึ่งเราได้พิกัดที่จะเข้าค้นหาคร่าวๆ คือ ห่างจากสนาม เฮลิคอปเตอร์ต้นทาง ประมาณ 82 กิโลเมตร ห่างจากอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ประมาณ 6 กิโลเมตร ซึ่งครอบคลุมใน 3 หมู่บ้านของ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ได้แก่ หมู่บ้านแม่แจ่มหลวง หมู่บ้านแม่หอย และหมู่บ้านแม่นาจร ทั้งนี้ ยืนยันว่า ยังไม่ได้รับรายงานว่าเฮลิคอปเตอร์ลงจอดฉุกเฉินที่ใด"พล.ท.สมศักดิ์กล่าว
นายทศพล เผื่อนอุดม นายอำเภอแม่แจ่ม กล่าวว่า ได้สั่งการแจ้งขอความร่วมมือกำนันทุกตำบล ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ และนายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดชุดลาดตระเวนค้นหา โดยเฉพาะชุด อปพร.ของแต่ละท้องถิ่น หากพบข้อมูล และเบาะแสแจ้งให้อำเภอทราบด่วน และทางอำเภอยังได้ตั้งศูนย์บัญชาการค้นหา และได้ประชุมเจ้าหน้าที่ เพื่อเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว อส.เจ้าหน้าที่ ตำรวจสภ.แม่แจ่ม ทหาร จากกรมทหารพรานที่ 36 แม่สะเรียง เจ้าหน้าที่ป่าไม้ พร้อมชุดผจญภัยเข้าพื้นที่เมื่อได้รับทราบเบาะแส