อีกสองสามวันก็จะถึงวันที่ 7 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันที่ คสช.และรัฐบาลจัดให้มีการลงประชามติรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับมีชัย ฤชุพันธุ์
ในสังคมโซเชียลเน็ตเวิร์กและสื่อสารมวลชนแขนงต่างๆ ต่างก็พากันเสนอข่าวกันอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด กระแสการรับและไม่รับโหมกระหน่ำจากสองฟากฝั่งอย่างเข้มข้น และบางอารมณ์เรียกได้ว่าดุเดือดเลือดพล่านกันเลยทีเดียว
ผมมองดูปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างสุดเซ็งและวังเวงในหัวใจ ความเชื่อที่เคยเชื่อว่าความคิดความเห็นต่างเป็นความสวยงามในระบอบประชาธิปไตยเหือดหายไปเลย
เพราะความคิดต่างที่เห็นนอกจากจะไม่สวยงาม มันยังสะสมความอัปลักษณ์ให้แก่ระบอบประชาธิปไตยที่ต่างฝ่ายต่างเรียกร้องโหยหากันมาโดยตลอด
หรือว่าจริงๆ แล้ว ระบอบประชาธิปไตยแบบตะวันตกที่เราลอกแบบเขามา มันครอบได้ไม่สนิทกับพื้นฐานทางสังคมไทย ที่ระบบอุปถัมภ์ยังจำหลักมั่นคงไม่คลอนแคลน
เราจึงได้เห็นการตะโกนให้รับ ไม่ให้รับร่างรัฐธรรมนูญกันอย่างคลุ้มคลั่ง ทั้งๆ ที่ฝ่ายกู่ร้องตะโกนทั้งสองฝ่ายต่างก็ไม่ได้อ่านร่างรัฐธรรมนูญอย่างละเอียดถ่องแท้ หรือแทบไม่ได้อ่านกันเลย
การลงประชามติรับหรือไม่รับ จึงมากด้วยอารมณ์มากกว่าเหตุผลที่ควรจะมีจะเป็นกัน
หลายวันก่อน ผมอ่านพบข้อเขียนในเฟซบุ๊กของผู้ที่ใช้นามว่า ท.เสนเจนจัด เขียนไว้ว่า “ในนามพลเมืองคนหนึ่งที่พึงใช้สิทธิ ก็ไม่ได้ผิดประการใดที่นิ่งเงียบ ขบคิดวิเคราะห์ใคร่ครวญ ตามกระบวนปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดมาไม่ขาดสาย จะรับหรือไม่รับหรืออะไรก็เป็นเรื่องของเรา ไม่ใช่เรื่องของใคร เพราะฉะนั้นใครที่ป่าวประกาศว่าเห็นด้วยหรือคัดค้านด้วยเหตุผลกลใดก็แล้วแต่ ก็อาจเป็นไปได้ว่าท่านกำลังคุกคามชักนำชักพาความคิดของผู้อื่นโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เราเคารพในสิทธิอันพึงมีของท่าน แต่ท่านเคารพสิทธิอันพึงมีของผู้อื่นหรือไม่ ผมว่ามันน่าคิด?”
อ่านแล้วโดนใจตรงกับที่ผมคิดและรำคาญกับเสียงร้องตะโกนโหวกเหวกรับ ไม่รับในโลกโซเชียลมีเดียอย่างอึงคะนึง
ผมนั่งเขียนระบายอารมณ์เป็นบทกวีสั้นๆ หลายบทในช่วงเวลาเสียงรับเสียงไม่รับที่ระคายรูหูมาก
“ประชามติ”
รับร่าง ไม่รับร่าง ต่างเหตุผล
ประชามติ คือต่างคน ไปออกเสียง
ทุกเสียง ต้องอิสระ เสรีเคียง
นั่นแหละ ความตรงเที่ยง ประชาธิปไตย
ต้องเคารพ ความต่าง ทางความคิด
เคารพสิทธิ ทุกสิทธิ อย่างโปร่งใส
รับไม่รับ ต่างสิทธิ ต่างเสียงไป
ร่างไม่ผ่าน ก็ร่างใหม่ เป็นไรกัน
ทำไมใช้ อารมณ์ เอาแต่ได้
ใครคิด ไม่เหมือนใคร ถูกห้ำหั่น
รับไม่รับ กลับกลาย คล้ายโรมรัน
เห็นแล้ว คันคะเยอ...ประชาธิปไตย
ว.แหวนลงยา
“รัฐธรรมนูญ ไม่ตอบโจทย์”
แปลกไหม ไม่เคยอ่าน ร่างรัฐธรรมนูญ
แต่ออกมา เทิดทูน ว่า “รับ” ได้
แปลกไหมบอก “ไม่รับ” อย่างฉับไว
ทั้งที่ยัง ไม่ได้อ่าน ร่างเลย
ปรากฏการณ์ คลุ้มคลั่ง สังคมไทย
แบ่งข้าง เอาแต่ใจ จะอ้างเอ่ย
เอาชนะ คะคาน กันจนเคย
เหตุผล จึงเฉยเมย ไม่รับรู้
ประชามติ ครั้งนี้ จึงคลับคล้าย
เขาให้เลือก กฎหมาย ใช้กฏหมู่
เลือกตาม การชี้นำ ที่ค้ำชู
เลือกข้างข้าง คูคู ตามผู้ชี้นำ
ถ้าผ่านร่าง ไปเลือกตั้ง แล้วอย่างไร
ก็ไม่ใช่ ประชาธิปไตย วันยังค่ำ
ถ้าผู้เลือก ผู้ให้เลือก ล้วนไร้ธรรม
รัฐธรรมนูญ มิใช่คำตอบ โจทย์จริง
ว.แหวนลงยา