ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ผบช.ภ.4 แถลงเองหลังจับวัยรุ่นวัย 16 ปี ก่อเหตุเผาทำลายบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติที่ อ.ชุมแพ เผยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ นั่งรอแฟนสาวแต่ถูกยุงกัดเลยดึงมาเผาไล่ยุง
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีมีบุคคลนิรนามได้เผาทำลายใบปิดประกาศกำหนดหน่วยออกเสียงประชามติ หรือใบ อส.4 และบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ หรือใบ อส.6 ภายในศาลาประคมในชุมชนใหม่สามัคคี หมู่ 10 บ้านใหม่สามัคคี ต.ไชยสอ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น เหตุเกิดเมื่อช่วงกลางคืนวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชุมแพ สามารถจับกุมผู้ที่ลงมือก่อเหตุได้แล้ว เป็นชายวัยรุ่นอายุ 16 ปี เป็นนักศึกษาระดับชั้น ปวช.วิทยาลัยอาชีวศึกษาแห่งหนึ่งใน อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น
ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น.วันนี้ (25 ก.ค.) พล.ต.ท.บุญเลิศ ใจประดิษฐ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชุมแพได้ร่วมกันแถลงข่าวที่ สภ.ชุมแพ
พล.ต.ท.บุญเลิศ เปิดเผยว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาที่ลงมือเผาทำลายเอกสารเกี่ยวกับการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญดังกล่าวซึ่งเป็นเยาวชนและนำตัวมาสอบปากคำ ทราบว่าคืนวันที่ 21 กรกฎาคม 2559 ที่ผ่านมาเยาวชนชายรายนี้ได้โทรศัพท์นัดเจอแฟนสาว แต่แฟนสาวไม่สะดวกให้ไปหาที่บ้าน เลยไปนั่งรอที่ศาลาประชาคมของชุมชนใหม่สามัคคี แต่เนื่องจากเป็นที่มืดประกอบกับมียุงชุกชุม ทำให้เยาวชนรายนี้ไปดึงกระดาษบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงฯ ที่ติดประกาศอยู่บอร์ดมาจุดไฟเพื่อเผาไล่ยุง
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบเชิงลึกไม่พบว่าเยาวชนชายรายนี้มีความยุ่งเกี่ยวหรือรู้จักกับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับทางการเมืองทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับชาติแต่อย่างใด จึงทำให้เชื่อได้ว่าเป็นการทำโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่ก็ถือว่ามีความผิดต้องส่งพนักงานสอบสวน สภ.ชุมแพ เพื่อดำเนินการลงโทษตามกฎหมายต่อไป
“อยากขอความร่วมมือหน่วยเลือกตั้งหรือหน่วยออกเสียงประชามติ ได้ทำการจัดเก็บบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงร่างรัฐธรรมนูญไว้ในที่เหมาะสม เพราะบางแห่งติดประกาศใต้ชายคาอาคาร เมื่อฝนตกก็ทำให้บัญชีรายชื่อเสียหาย บางแห่งวางไว้ต่ำใกล้มือเด็กจึงทำให้เด็กน้อยที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ดึงมาเล่นก็เกิดความเสียหายได้” พล.ต.ท.บุญเลิศกล่าว
สำหรับชายวัยรุ่นรายนี้ถือว่ามีความผิดในข้อกล่าวหาในฐานความผิดตามมาตรา 57 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2559 ฐานขัดขวางการปฏิบัติงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ฯลฯ และเข้าข่ายความผิดมาตรา 188 และ 360 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ฐานผู้ใดทำให้เสียหายทำลายซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหายหรือเสียประโยชน์ ซึ่งพินัยกรรมหรือเอกสารใดของผู้อื่น ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และฐานผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งทรัพย์สินที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์