ผู้จัดการรายวัน360-"สมชัย"โพสต์เฟซอัพเดต สิ่งผิดกฎหมายพ.ร.บ.ประชามติ ย้ำเผยแพร่ต่อมีความผิด "บิ๊กตู่"ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทำงานก่อนวันดีเดย์ 7 ส.ค. มหาดไทยย้ำยศนายกฯ ไม่ผิดพลาด ด้านตำรวจสั่งระดมกำลัง 1 แสนนายดูแลความเรียบร้อย จับตาพื้นที่ภาคเหนือเป็นพิเศษ ทนายแดงบี้ กกต. ฟัน กรธ.ชี้นำ โฆษกกรธ. ไม่หวั่นไหว 43 องค์กรไม่รับรัฐธรรมนูญ พร้อมฉะ "วรเจตน์" อย่าพูดเอามัน "มาร์ค"นัด 27 ก.ค.นี้ ประกาศจุดยืนรับไม่รับ ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ สั่งสอบนายกฯ อบจ. เอี่ยวแจกเอกสารบิดเบือน ขณะที่ตำรวจจ่อหมายจับ 5 ราย เผยมีนักการเมืองเอี่ยว เด็ก 16 ซวย เจอ 2 ข้อหา หลังฉีกเอกสาร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (25 ก.ค.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เพื่อย้ำถึงสิ่งที่ผิดต่อกฎหมาย พ.ร.บ.ประชามติ โดยระบุข้อความว่า สิ่งที่ผิดกฎหมายประชามติ คือ เอกสาร 7 เหตุผล ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญของกลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ จดหมายที่ส่งถึงประชาชนและตรวจพบที่ จ.ลำปาง จ.ลำพูน และ จ.เชียงใหม่ รวมประมาณ 10,000 ฉบับ สไลด์สรุปรัฐธรรมนูญมีชัยใน 8 บรรทัด ของเพจหยุดดัดจริตประเทศไทย สไลด์อะไรจะเกิดขึ้นถ้าโหวต No ชนะ ของเพจรวมความฮาของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และการฉีกทำลายบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิ์ออกเสียงหรือทรัพย์สินอื่นใดของราชการ
ทั้งนี้ หากมีการเผยแพร่ทางวิทยุ โทรทัศน์ สิ่งพิมพ์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยการโพสต์แชร์ ส่งต่อเอกสาร 7 เหตุผลไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ จดหมายที่แจกประชาชนกว่า 10,000 ฉบับ สไลด์สรุปรัฐธรรมนูญมีชัย ใน 8 บรรทัด และสไลด์อะไรจะเกิดขึ้น ถ้าโหวต No ชนะ ผู้ที่กระทำการดังกล่าวก็จะเป็นผู้มีความผิดด้วย
***"บิ๊กตู่"ให้กำลังใจคนทำงาน
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้ชื่นชมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และพลเรือนทั่วประเทศ ที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ก่อนถึงวันออกเสียงลงประชามติ 7 ส.ค.2559 อย่างเต็มกำลัง โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งมีผู้ที่ไม่หวังดีคอยสร้างสถานการณ์ขัดขวางการเดินหน้าประเทศตามโรดแมปที่กำหนดไว้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ายิ่งใกล้วันลงประชามติก็ยิ่งมีความพยายามสร้างความปั่นป่วนในสังคม เป็นพฤติกรรมที่เห็นแก่ตัว
***"นายกฯ บอกมี3สาเหตุคนไม่ใช้สิทธิ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวระหว่างการปฏิบัติราชการ ที่จ.นราธิวาส ถึงความคาดหวังการลงประชามติของประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ว่า เท่าที่ฟัง และการพบปะกับประชาชนรวมถึงดูโพลสำรวจความเห็นต่างๆ เขาก็ยินดีสนับสนุนรัฐบาล เรื่องนี้เป็นสิทธิส่วนบุคคล ตนและรัฐบาลไม่สามารถไปสั่งการอะไรได้ รัฐบาลไหนก็สั่งไม่ได้ ดังนั้น รัฐบาลไหนที่ชอบสั่ง ก็ให้ระวังไว้ให้ดี เพราะสิทธิต่างๆ ไม่ได้อยู่ที่ตน ขึ้นอยู่แต่ละบุคคลที่จะตัดสินใจ รัฐบาลไปสั่งไม่ได้ หากประชาชนไม่ออกไปใช้สิทธิ อาจมาจาก 3 สาเหตุ คือ 1.ไม่รู้เรื่อง 2.ไม่เห็นชอบด้วย และ 3.ไปเลือกแล้วไม่รู้ว่าจะเกิดประโยชน์อะไร
***"ประวิตร"เผยเสธ.อ้ายมโนเอง
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณี พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ"เสธ.อ้าย" ระบุว่า ตนเองได้โทรศัพท์หา เพื่อให้ยุติการแถลงข่าวเกี่ยวกับจุดยืนประชามติ ว่า ผมไม่ได้โทร เสธ.อ้าย คงคิดไปเอง ส่วนกรณีที่มีฝูงลิงฉีกบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง เดี๋ยวจะไปจับลิง ตัวไหนมันฉีก ไม่มีอะไรหรอก
***แจงยศ "พล.ต."นายกฯไม่ผิดพลาด
นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรียังมียศเป็น พล.ต.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า การพิมพ์รายชื่อเป็นการพิมพ์ตามสำเนาทะเบียนบ้านโดยพิมพ์ออกมาจากฐานข้อมูล ไม่มีการพิมพ์ใหม่ คาดว่านายกรัฐมนตรีอาจยังไม่นำหลักฐานการเลื่อนชั้นยศเป็นพล.อ. ไปยื่นต่อสำนักงานเขต แต่ขอยืนยันว่าไม่มีความผิดพลาดหรือเสียหาย และแม้ไม่เปลี่ยนชั้นยศในสำเนาทะเบียนบ้าน แต่ยังมีบัตรข้าราชการการเมืองหรือบัตรประชาชน ก็สามารถพิสูจน์ตัวบุคคลได้
***คสช.ย้ำดูแลความเรียบร้อย
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคสช. กล่าวว่า คสช. มุ่งหวังให้ประชาชนได้ออกไปใช้สิทธิอย่างเต็มที่ โดยอิสระ และจะดูแลสถานการณ์โดยรวมให้มีความสงบเรียบร้อย ไม่ให้มีการกระทำที่ผิดกฎหมายหรือทำให้สังคมเกิดความวุ่นวาย
***ตำรวจจัดกำลัง1แสนนายดูแล
พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงการดำเนินคดีเกี่ยวกับการทำลายทรัพย์สินบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิลงเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2559 ว่า จนถึงขณะนี้มีการดำเนินคดีผู้กระทำผิดไปแล้ว 7 ราย ในท้องที่ สน.เตาปูน ขณะที่ในต่างจังหวัด ที่จ.กาญจนบุรี ขอนแก่น สตูล สุพรรณบุรี ระยอง และพิจิตร ซึ่งส่วนใหญ่ เกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และภัยธรรมชาติ ซึ่งพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ได้สั่งการให้ตำรวจแต่ละท้องที่ ประสานฝ่ายปกครองและกรรมการเลือกตั้งประจำจังหวัด จัดกำลังดูแลเพิ่มเติม ขณะเดียวกันยังเริ่มพบการแจกเอกสารบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญ ในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งอยู่ระหว่างสืบสวนขยายผล แต่เบื้องต้น ยังไม่พบว่า เป็นการกระทำของขบวนการที่ต้องการล้มการลงเสียงประชามติ แต่หากสืบสวนพบความเชื่อมโยงถึงกลุ่มใด ก็ต้องดำเนินคดีทั้งหมด
ทั้งนี้ ในวันลงเสียงประชามติ 7 ส.ค.2559 จะมีการใช้กำลังตำรวจกว่า 1 แสนนาย ในการดูแลความสงบเรียบร้อย ซึ่งผบ.ตร. กำชับให้ตำรวจทุกนาย ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง โดยไม่ได้สั่งการให้ตำรวจและครอบครัว ออกเสียงอย่างใดอย่างหนึ่ง
***ทนายแดงบี้ฟัน กรธ.ชี้นำ
นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ได้ยื่นหนังสือถึงประธาน กกต. ขอให้ดำเนินคดีกับคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และบุคคลที่เกี่ยวข้อง กรณีจัดทำสิ่งพิมพ์ชื่อ “คำอธิบายสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญ” เล่ม 1 จำนวน 35 หน้า ซึ่งมีเนื้อหาที่ขัดต่อ พ.ร.บ.ประชามติ มาตรา 61 วรรคสอง และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 เพราะเอกสารดังกล่าวมีการชี้นำประชาชน 7-8 ประเด็น โดยมีการยกตัวอย่างไปเปรียบเทียบกับรัฐบาลในอดีตว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ดีกว่าอย่างไร และหากนำมาใช้ก็จะไม่ทำให้เกิดปัญหาเหมือนที่ผ่านมา เป็นการชี้นำให้คนไปรับร่างรัฐธรรมนูญ อาทิ มีการบอกว่าที่มา ส.ว.จากการสรรหาดีกว่า ส.ว.ที่มาจากการเลือกตั้งซึ่งยึดโยงพรรคการเมืองและสั่งได้ เป็นการอธิบายให้เห็นถึงข้อดีเพียงอย่างเดียว แต่ไม่ได้บอกถึงข้อดีข้อเสียให้ประชาชนได้รู้ ตนจึงนำดังกล่าวมาร้องต่อ กกต.เพื่อให้ดำเนินการต่อ กรธ.
***กรธ.ฉะ "วรเจตน์"อย่าพูดเอามัน
นายอมร วาณิชวิวัฒน์ โฆษกกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงกรณีเครือข่าย 43 องค์กร ร่วมกันแถลงจุดยืนไม่รับร่างรัฐธรรมนูญและไม่รับคำถามพ่วงว่า ไม่รู้สึกหวั่นไหวใดๆ อาจารย์บางท่านที่ไปพูดมีประเด็นบิดเบือนหลายเรื่อง มากล่าวหาเรา เราไม่อยากต่อล้อต่อเถียง เขาเองต้องรับผิดชอบในฐานะนักวิชาการ ส่วนที่นายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แกนนำกลุ่มนิติราษฎร์ บอกถ้ารัฐธรรมนูญประชามติผ่าน เท่ากับมัดตราสังสังคมไทย เพราะแก้ไขยาก เป็นระเบิดเวลานำไปสู่การสูญเสียในอนาคตอีกนั้น ตนว่านายวรเจตน์พูดเพื่อให้เกิดอรรถรส แต่พูดจากความไม่รู้จริง ยืนยันแก้ไขไม่ยาก แต่ต้องแก้ด้วยความปรองดองของทุกพรรคการเมืองร่วมกันแก้ไข คำพูดนั้นเป็นนายตน คนที่พูดต้องรับผิดชอบต่อคำพูดตนเองด้วย สถานะเป็นครูบาอาจารย์พูดอะไรควรไตร่ตรองให้รอบด้าน
ส่วนกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะแถลงจุดยืนไม่รับร่างรัฐธรรมนูญนั้น กรธ.คงไม่หวั่นไหว แต่ตัวแทนปวงชนทำอะไรควรระมัดระวัง และถามประชาชนที่สนับสนุนหรือยัง
***"วิษณุ"ปัดตอบคำถาม43องค์กรค้าน
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้ปฏิเสธที่จะตอบคำถามกรณี 43 องค์กรออกมาเคลื่อนไหวไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ โดยระบุว่า "ผมไม่มีความเห็นในเรื่องนี้" ส่วนการฉีกทำลายรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียง ไม่เป็นเหตุให้การลงประชามติเกิดความวุ่นวาย
***"มาร์ค"นัด27ก.ค.ประกาศจุดยืน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จะมีการแสดงจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ต่อร่างรัฐธรรมนูญในวันพุธที่ 27 ก.ค.นี้ ในช่วงบ่าย ที่พรรคประชาธิปัตย์ เพราะจากที่ศึกษารัฐธรรมนูญฉบับนี้มีทั้งก้าวหน้าและถอยหลัง โดยจะมีคำตอบแน่นอน ไม่ได้หนักใจ ไม่มีเอนเอียง เพราะมีในใจอยู่แล้ว และที่ผ่านมา ได้พูดคุยกับผู้ใหญ่ของพรรคและสมาชิกพรรคมาแล้ว ส่วนจะบอกว่าเป็นมติพรรค คงเป็นไปไม่ได้ เพราะไม่สามารถประชุมพรรคได้ แต่จะเป็นการบอกให้ทราบว่าในฐานะหัวหน้าพรรคคิดเห็นอย่างไรในเรื่องนี้ และกรณีที่มีความเห็นต่างของสมาชิกพรรค มองว่า ไม่ได้เป็นปัญหา เพราะพรรคยอมรับความเห็นต่างอยู่แล้ว
***ผู้ว่าฯเชียงใหม่สั่งสอบนายกฯ อบจ.
นายปวิณ ชํานิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อสอบข้อเท็จจริงกรณีพบการเผยแพร่เอกสารบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญแล้วว่ามีผู้บริหารส่วนท้องถิ่นของกรมการปกครองเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าวหรือไม่ และจะเกี่ยวข้องกับนายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่หรือไม่นั้น ก็ต้องรอการสอบสวนต่อไป แต่เบื้องต้น ยังไม่มีหลักฐานเชื่อมโยงถึง
***จ่อหมายจับ5คนมีนักการเมืองเอี่ยว
พล.ต.ต.มนตรี สัมบุณณานนท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า การสอบสวนพอจะทราบแล้วว่าผู้ที่กระทำผิดเป็นกลุ่มใดและมีผู้ใดบ้าง เหลือเพียงการรวมรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติออกหมายจับ เชื่อว่ามีไม่ต่ำกว่า 5 คน ซึ่งจากหลักฐานเบื้องต้น เชื่อว่าน่าจะมีส่วนเชื่อมโยงถึงนักการเมืองท้องถิ่นด้วย
***เด็ก16ปีซวยเจอ2ข้อหาหนัก
พล.ต.ท.บุญเลิศ ใจประดิษฐ ผบช.ภ.4 กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กฎหมายของ กกต.ขอนแก่น ได้แจ้งความเอาผิดกับนายเอก (นามสมมุติ) เยาวชนชายอายุ 16 ปี นักศึกษาระดับชั้น ปวช.วิทยาลัยอาชีวศึกษาแห่งหนึ่งในเขต อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ที่ทำลายและเผาเอกสารเกี่ยวกับการออกเสียประชามติ ใน 2 ข้อหา คือ ผิดพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติรัฐธรรมนูญ ฐานขัดขวางการปฏิบัติงาน และผิดกฎหมายอาญา มาตรา 188 และ 360 โดยได้ควบคุมตัวและส่งดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว ส่วนสาเหตุที่เผา เจ้าตัวบอกว่า ได้เข้าไปหลบฝน และโดนยุงกัด จึงฉีกเอกสารมาเผาไล่ยุง และไม่รู้ว่าเป็นเอกสารสำคัญ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (25 ก.ค.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เพื่อย้ำถึงสิ่งที่ผิดต่อกฎหมาย พ.ร.บ.ประชามติ โดยระบุข้อความว่า สิ่งที่ผิดกฎหมายประชามติ คือ เอกสาร 7 เหตุผล ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญของกลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ จดหมายที่ส่งถึงประชาชนและตรวจพบที่ จ.ลำปาง จ.ลำพูน และ จ.เชียงใหม่ รวมประมาณ 10,000 ฉบับ สไลด์สรุปรัฐธรรมนูญมีชัยใน 8 บรรทัด ของเพจหยุดดัดจริตประเทศไทย สไลด์อะไรจะเกิดขึ้นถ้าโหวต No ชนะ ของเพจรวมความฮาของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และการฉีกทำลายบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิ์ออกเสียงหรือทรัพย์สินอื่นใดของราชการ
ทั้งนี้ หากมีการเผยแพร่ทางวิทยุ โทรทัศน์ สิ่งพิมพ์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยการโพสต์แชร์ ส่งต่อเอกสาร 7 เหตุผลไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ จดหมายที่แจกประชาชนกว่า 10,000 ฉบับ สไลด์สรุปรัฐธรรมนูญมีชัย ใน 8 บรรทัด และสไลด์อะไรจะเกิดขึ้น ถ้าโหวต No ชนะ ผู้ที่กระทำการดังกล่าวก็จะเป็นผู้มีความผิดด้วย
***"บิ๊กตู่"ให้กำลังใจคนทำงาน
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้ชื่นชมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และพลเรือนทั่วประเทศ ที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ก่อนถึงวันออกเสียงลงประชามติ 7 ส.ค.2559 อย่างเต็มกำลัง โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งมีผู้ที่ไม่หวังดีคอยสร้างสถานการณ์ขัดขวางการเดินหน้าประเทศตามโรดแมปที่กำหนดไว้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ายิ่งใกล้วันลงประชามติก็ยิ่งมีความพยายามสร้างความปั่นป่วนในสังคม เป็นพฤติกรรมที่เห็นแก่ตัว
***"นายกฯ บอกมี3สาเหตุคนไม่ใช้สิทธิ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวระหว่างการปฏิบัติราชการ ที่จ.นราธิวาส ถึงความคาดหวังการลงประชามติของประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ว่า เท่าที่ฟัง และการพบปะกับประชาชนรวมถึงดูโพลสำรวจความเห็นต่างๆ เขาก็ยินดีสนับสนุนรัฐบาล เรื่องนี้เป็นสิทธิส่วนบุคคล ตนและรัฐบาลไม่สามารถไปสั่งการอะไรได้ รัฐบาลไหนก็สั่งไม่ได้ ดังนั้น รัฐบาลไหนที่ชอบสั่ง ก็ให้ระวังไว้ให้ดี เพราะสิทธิต่างๆ ไม่ได้อยู่ที่ตน ขึ้นอยู่แต่ละบุคคลที่จะตัดสินใจ รัฐบาลไปสั่งไม่ได้ หากประชาชนไม่ออกไปใช้สิทธิ อาจมาจาก 3 สาเหตุ คือ 1.ไม่รู้เรื่อง 2.ไม่เห็นชอบด้วย และ 3.ไปเลือกแล้วไม่รู้ว่าจะเกิดประโยชน์อะไร
***"ประวิตร"เผยเสธ.อ้ายมโนเอง
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณี พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ"เสธ.อ้าย" ระบุว่า ตนเองได้โทรศัพท์หา เพื่อให้ยุติการแถลงข่าวเกี่ยวกับจุดยืนประชามติ ว่า ผมไม่ได้โทร เสธ.อ้าย คงคิดไปเอง ส่วนกรณีที่มีฝูงลิงฉีกบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง เดี๋ยวจะไปจับลิง ตัวไหนมันฉีก ไม่มีอะไรหรอก
***แจงยศ "พล.ต."นายกฯไม่ผิดพลาด
นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรียังมียศเป็น พล.ต.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า การพิมพ์รายชื่อเป็นการพิมพ์ตามสำเนาทะเบียนบ้านโดยพิมพ์ออกมาจากฐานข้อมูล ไม่มีการพิมพ์ใหม่ คาดว่านายกรัฐมนตรีอาจยังไม่นำหลักฐานการเลื่อนชั้นยศเป็นพล.อ. ไปยื่นต่อสำนักงานเขต แต่ขอยืนยันว่าไม่มีความผิดพลาดหรือเสียหาย และแม้ไม่เปลี่ยนชั้นยศในสำเนาทะเบียนบ้าน แต่ยังมีบัตรข้าราชการการเมืองหรือบัตรประชาชน ก็สามารถพิสูจน์ตัวบุคคลได้
***คสช.ย้ำดูแลความเรียบร้อย
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคสช. กล่าวว่า คสช. มุ่งหวังให้ประชาชนได้ออกไปใช้สิทธิอย่างเต็มที่ โดยอิสระ และจะดูแลสถานการณ์โดยรวมให้มีความสงบเรียบร้อย ไม่ให้มีการกระทำที่ผิดกฎหมายหรือทำให้สังคมเกิดความวุ่นวาย
***ตำรวจจัดกำลัง1แสนนายดูแล
พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงการดำเนินคดีเกี่ยวกับการทำลายทรัพย์สินบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิลงเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2559 ว่า จนถึงขณะนี้มีการดำเนินคดีผู้กระทำผิดไปแล้ว 7 ราย ในท้องที่ สน.เตาปูน ขณะที่ในต่างจังหวัด ที่จ.กาญจนบุรี ขอนแก่น สตูล สุพรรณบุรี ระยอง และพิจิตร ซึ่งส่วนใหญ่ เกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และภัยธรรมชาติ ซึ่งพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ได้สั่งการให้ตำรวจแต่ละท้องที่ ประสานฝ่ายปกครองและกรรมการเลือกตั้งประจำจังหวัด จัดกำลังดูแลเพิ่มเติม ขณะเดียวกันยังเริ่มพบการแจกเอกสารบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญ ในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งอยู่ระหว่างสืบสวนขยายผล แต่เบื้องต้น ยังไม่พบว่า เป็นการกระทำของขบวนการที่ต้องการล้มการลงเสียงประชามติ แต่หากสืบสวนพบความเชื่อมโยงถึงกลุ่มใด ก็ต้องดำเนินคดีทั้งหมด
ทั้งนี้ ในวันลงเสียงประชามติ 7 ส.ค.2559 จะมีการใช้กำลังตำรวจกว่า 1 แสนนาย ในการดูแลความสงบเรียบร้อย ซึ่งผบ.ตร. กำชับให้ตำรวจทุกนาย ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง โดยไม่ได้สั่งการให้ตำรวจและครอบครัว ออกเสียงอย่างใดอย่างหนึ่ง
***ทนายแดงบี้ฟัน กรธ.ชี้นำ
นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ได้ยื่นหนังสือถึงประธาน กกต. ขอให้ดำเนินคดีกับคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และบุคคลที่เกี่ยวข้อง กรณีจัดทำสิ่งพิมพ์ชื่อ “คำอธิบายสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญ” เล่ม 1 จำนวน 35 หน้า ซึ่งมีเนื้อหาที่ขัดต่อ พ.ร.บ.ประชามติ มาตรา 61 วรรคสอง และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 เพราะเอกสารดังกล่าวมีการชี้นำประชาชน 7-8 ประเด็น โดยมีการยกตัวอย่างไปเปรียบเทียบกับรัฐบาลในอดีตว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ดีกว่าอย่างไร และหากนำมาใช้ก็จะไม่ทำให้เกิดปัญหาเหมือนที่ผ่านมา เป็นการชี้นำให้คนไปรับร่างรัฐธรรมนูญ อาทิ มีการบอกว่าที่มา ส.ว.จากการสรรหาดีกว่า ส.ว.ที่มาจากการเลือกตั้งซึ่งยึดโยงพรรคการเมืองและสั่งได้ เป็นการอธิบายให้เห็นถึงข้อดีเพียงอย่างเดียว แต่ไม่ได้บอกถึงข้อดีข้อเสียให้ประชาชนได้รู้ ตนจึงนำดังกล่าวมาร้องต่อ กกต.เพื่อให้ดำเนินการต่อ กรธ.
***กรธ.ฉะ "วรเจตน์"อย่าพูดเอามัน
นายอมร วาณิชวิวัฒน์ โฆษกกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงกรณีเครือข่าย 43 องค์กร ร่วมกันแถลงจุดยืนไม่รับร่างรัฐธรรมนูญและไม่รับคำถามพ่วงว่า ไม่รู้สึกหวั่นไหวใดๆ อาจารย์บางท่านที่ไปพูดมีประเด็นบิดเบือนหลายเรื่อง มากล่าวหาเรา เราไม่อยากต่อล้อต่อเถียง เขาเองต้องรับผิดชอบในฐานะนักวิชาการ ส่วนที่นายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แกนนำกลุ่มนิติราษฎร์ บอกถ้ารัฐธรรมนูญประชามติผ่าน เท่ากับมัดตราสังสังคมไทย เพราะแก้ไขยาก เป็นระเบิดเวลานำไปสู่การสูญเสียในอนาคตอีกนั้น ตนว่านายวรเจตน์พูดเพื่อให้เกิดอรรถรส แต่พูดจากความไม่รู้จริง ยืนยันแก้ไขไม่ยาก แต่ต้องแก้ด้วยความปรองดองของทุกพรรคการเมืองร่วมกันแก้ไข คำพูดนั้นเป็นนายตน คนที่พูดต้องรับผิดชอบต่อคำพูดตนเองด้วย สถานะเป็นครูบาอาจารย์พูดอะไรควรไตร่ตรองให้รอบด้าน
ส่วนกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะแถลงจุดยืนไม่รับร่างรัฐธรรมนูญนั้น กรธ.คงไม่หวั่นไหว แต่ตัวแทนปวงชนทำอะไรควรระมัดระวัง และถามประชาชนที่สนับสนุนหรือยัง
***"วิษณุ"ปัดตอบคำถาม43องค์กรค้าน
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้ปฏิเสธที่จะตอบคำถามกรณี 43 องค์กรออกมาเคลื่อนไหวไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ โดยระบุว่า "ผมไม่มีความเห็นในเรื่องนี้" ส่วนการฉีกทำลายรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียง ไม่เป็นเหตุให้การลงประชามติเกิดความวุ่นวาย
***"มาร์ค"นัด27ก.ค.ประกาศจุดยืน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จะมีการแสดงจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ต่อร่างรัฐธรรมนูญในวันพุธที่ 27 ก.ค.นี้ ในช่วงบ่าย ที่พรรคประชาธิปัตย์ เพราะจากที่ศึกษารัฐธรรมนูญฉบับนี้มีทั้งก้าวหน้าและถอยหลัง โดยจะมีคำตอบแน่นอน ไม่ได้หนักใจ ไม่มีเอนเอียง เพราะมีในใจอยู่แล้ว และที่ผ่านมา ได้พูดคุยกับผู้ใหญ่ของพรรคและสมาชิกพรรคมาแล้ว ส่วนจะบอกว่าเป็นมติพรรค คงเป็นไปไม่ได้ เพราะไม่สามารถประชุมพรรคได้ แต่จะเป็นการบอกให้ทราบว่าในฐานะหัวหน้าพรรคคิดเห็นอย่างไรในเรื่องนี้ และกรณีที่มีความเห็นต่างของสมาชิกพรรค มองว่า ไม่ได้เป็นปัญหา เพราะพรรคยอมรับความเห็นต่างอยู่แล้ว
***ผู้ว่าฯเชียงใหม่สั่งสอบนายกฯ อบจ.
นายปวิณ ชํานิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อสอบข้อเท็จจริงกรณีพบการเผยแพร่เอกสารบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญแล้วว่ามีผู้บริหารส่วนท้องถิ่นของกรมการปกครองเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าวหรือไม่ และจะเกี่ยวข้องกับนายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่หรือไม่นั้น ก็ต้องรอการสอบสวนต่อไป แต่เบื้องต้น ยังไม่มีหลักฐานเชื่อมโยงถึง
***จ่อหมายจับ5คนมีนักการเมืองเอี่ยว
พล.ต.ต.มนตรี สัมบุณณานนท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า การสอบสวนพอจะทราบแล้วว่าผู้ที่กระทำผิดเป็นกลุ่มใดและมีผู้ใดบ้าง เหลือเพียงการรวมรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติออกหมายจับ เชื่อว่ามีไม่ต่ำกว่า 5 คน ซึ่งจากหลักฐานเบื้องต้น เชื่อว่าน่าจะมีส่วนเชื่อมโยงถึงนักการเมืองท้องถิ่นด้วย
***เด็ก16ปีซวยเจอ2ข้อหาหนัก
พล.ต.ท.บุญเลิศ ใจประดิษฐ ผบช.ภ.4 กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กฎหมายของ กกต.ขอนแก่น ได้แจ้งความเอาผิดกับนายเอก (นามสมมุติ) เยาวชนชายอายุ 16 ปี นักศึกษาระดับชั้น ปวช.วิทยาลัยอาชีวศึกษาแห่งหนึ่งในเขต อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ที่ทำลายและเผาเอกสารเกี่ยวกับการออกเสียประชามติ ใน 2 ข้อหา คือ ผิดพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติรัฐธรรมนูญ ฐานขัดขวางการปฏิบัติงาน และผิดกฎหมายอาญา มาตรา 188 และ 360 โดยได้ควบคุมตัวและส่งดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว ส่วนสาเหตุที่เผา เจ้าตัวบอกว่า ได้เข้าไปหลบฝน และโดนยุงกัด จึงฉีกเอกสารมาเผาไล่ยุง และไม่รู้ว่าเป็นเอกสารสำคัญ