ผมไม่เคยรังเกียจความคิดต่าง และเห็นด้วยกับนักประชาธิปไตย(ที่แท้จริง)ทุกๆคนว่า ความคิดต่าง ทำให้เกิดวิวัฒนาการทางปัญญาถ้าความคิดต่างนั้นต่างเกิดจากปัญญาที่ต่างกัน
แต่ผมก็เห็นว่าความขัดแย้งแบ่งฝ่ายของคนไทยทุกวันนี้ หาใช่เกิดจากความคิดต่างทางปัญญาแต่อย่างใดไม่
ยกตัวอย่างทางด้านการเมืองที่แบ่งข้างคนเกลียดทักษิณกับคนรักทักษิณ แรกเริ่มเดิมที ผมก็ออกจะวางใจเป็นประชาธิปไตย มองปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็นความคิดต่างเห็นต่างกันเป็นธรรมดา แต่นานวันเข้า เมื่อความไม่ชอบมาพากลทางการเมือง การฉ้อฉลปล้นชาติของฝ่ายหนึ่งปรากฏชัดแจ้งขึ้นเรื่อยๆ แต่คนไทยที่ถือหางข้างคนผิดก็ยังหลงงมงายตามคำชี้ชวนปลุกระดมของบรรดาแกนนำ รับจ้าง ที่ต่างพากันร่ำรวยขึ้นโดยไม่ต้องประกอบสัมมาอาชีพใดๆ ภาพที่เห็นนั้น ก็แจ่มแจ้งว่า หาใช่ความขัดแย้งทางความคิดที่เกิดจากสติปัญญาแบบประชาธิปไตยแต่อย่างใดไม่ เพราะเป็นความต่างดื้อๆ ด้วนๆ ที่ไม่ทำให้เกิดปัญญาแต่อย่างใดเลย
พอมาถึงปรากฏการณ์ทางศาสนา คนโกนหัวห่มเหลืองคนหนึ่งที่ตั้งตนเป็นต้นธาตุต้นธรรมทางพระพุทธศาสนา รวบรวมผู้คนและทรัพย์ศฤงคารทั้งจากการบริจาคทานแบบหลงงมงาย การบริจาคแบบมีเลศนัย รวมเข้ากับการฉ้อฉลต่างๆนานา จนสร้างสำนักขึ้นได้อย่างใหญ่โตมโหฬารพันลึก และแผ่ขยายสาขาไปอีกมากมายทั้งในประเทศและต่างประเทศ
เจ้าสำนักเคยมีความผิดฐานยักยอกที่ดินวัดที่มีผู้บริจาคเป็นที่ดินส่วนตนในนาม ชื่อตน พอถูกจับได้ จนถึงขั้นเป็นคดีความ และสมเด็จพระสังฆราชทรงมีพระลิขิตให้ต้องโทษวินัยสงฆ์ถึงขั้นปาราชิก แต่ก็เกิดปรากฏการณ์แปลกประหลาด มหาเถรสมาคมเกิดวางท่าว่าเห็นต่างจากพระสังฆบิดร ก็พากันทำเฉยเสีย ความเห็นต่างของมหาเถระเช่นว่านั้นก็น่าจะไม่ใช่ความคิดต่างทางปัญญาแต่อย่าง ใด หากแต่ถูกครอบงำด้วยอามิสติดสินบนกันต่างหากเล่า ซึ่งวิธีการเยึ่ยงนี้ฝ่ายคนที่ทำผิดคิดไม่ชอบในบ้านนี้เมืองนี้ชำนาญการกันนัก แม้แต่กระบวนการยุติธรรมก็ไม่ละเว้น อัยการสูงสุดจึงกล้าถอนฟ้องคดีอย่างไม่อับอายขายหน้าสถาบันทนายแห่งแผ่นดิน โดยอ้างอย่างหน้าด้านๆ ว่าจำเลยคืนทรัพย์ที่ยักยอกไปแล้ว ทั้งๆ ที่ระยะเวลายักยอกกับเวลาคืนทอดยาวถึง 7 ปี
มาครั้งนี้เจ้าสำนักคนเดิมร่วมกับมัคทายกคนสนิทโกงเงินฝากของสหกรณ์ส่วนรวมของประชาชนมาเข้าบัญชีเงินฝากเป็นของตน จนเป็นคดีความถูกกล่าวหาว่าร่วมกันฟอกเงินและรับของโจร พนักงานสอบสวนส่งหมายเรียกก็บ่ายเบี่ยงเลี่ยงหลบอ้างว่าป่วยแต่ส่งใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลที่ไม่เคยไปรักษา จนสุดท้ายศาลจึงอนุมัติหมายจับและหมายค้น เมื่อเจ้าหน้าที่นำกำลังไปดำเนินการตามหมายค้นหมายจับ ก็ขัดขวางโดยใช้สาวกมาเป็นโล่มนุษย์ ใช้ลวดหนามล้อมกำแพงวัด ใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่จอดขวางประตู สารพัดจะทำการอย่างไม่สมฐานานุรูปของผู้ทรงศีลและสำนักปฏิบัติธรรมเลย
บรรดาสาวกที่หลงศรัทธาก็ต่างออกมาตะแบงว่า เป็นการคิดต่างเห็นต่าง โดยสังคมไม่เข้าใจข้อเท็จจริง และทำการล่วงเกินไม่เคารพพระพุทธศาสนา ทั้งยังมีฝ่ายที่อ้างว่าเป็นองค์กรปกป้องพระพุทธศาสนาก็ออกมาแก้ต่างการกระทำผิดของเจ้าสำนักต้นธาตุต้นธรรม เพื่อเป็นการปกป้องพระพุทธศาสนาเสียอย่างงั้น
ดูกันให้ถ่องแท้แล้วการขัดแย้งแบ่งข้างทางการเมืองและการศาสนาอย่างที่ปรากฏให้เห็นอยู่ในสังคมไทยขณะนี้ จึงเป็นความคิดต่างที่ไม่ใช้ปัญญาและไม่ก่อให้เกิดปัญญาใดๆ เลย นอกจากความคิดที่จะเอาชนะคะคานของฝ่ายผู้กระทำผิดที่ไม่ยอมรับความจริง และไม่ยอมรับกฎหมายบ้านเมือง
มองมาที่ฝ่ายผู้ถืออำนาจรัฐเองก็ยังไม่เห็นการใช้ปัญญาที่จะแก้ไขปัญหาขจัดปัด เป่าความไม่ถูกต้องสารพันในบ้านเมือง ซึ่งหลายอย่างถึงขั้นวิปลาสวิปริตกันไปแล้ว แต่ก็ยังลอยนวลท้าทายความศักดิ์สิทธิ์ของขื่อแปบ้านเมือง ชนิดที่สังคมส่วนใหญ่ยอมรับไม่ได้เลย
อำนาจรัฐก็มุ่งแต่จะร่างจะเขียนรัฐธรรมนูญ เพื่อมุ่งไปสู่การเลือกตั้ง ทั้งๆ ที่รู้ว่า เลือกแล้วจะเป็นเช่นไร ผมค่อนข้างจะเห็นด้วยกับความคิดต่างส่วนหนึ่งของผู้รู้ในสังคมไทยที่เริ่มคิดกันว่า ตราบใดที่ระบบอุปถัมภ์ยังฝังรากลึกในหมู่คนไทย พื้นฐานการศึกษาของผู้มีสิทธิมีเสียงในการเลือกตั้ง ยังไม่ได้รับการพัฒนาให้มีจิตวิญญาณของความเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ต่อให้ร่างรัฐธรรมนูญอีกร้อยฉบับ เลือกตั้งกันแบบเดิมอีกร้อยครั้ง บ้านเมืองก็จะเป็นได้แค่ประชาธิปไตยจอมปลอม อย่างที่เป็นกันมาเกือบร้อยปีแล้ว
ถึงเวลาแล้วหรือยังที่คนไทยจะกล้าออกแบบการเมืองการปกครองที่เหมาะสมสอดคล้องกับพื้นฐานสังคมไทยอย่างแท้จริง โดยไม่ต้องดัดจริตลอกแบบการเมืองในซีกโลกตะวันตกอีกต่อไป
“ต้องกล้าเปลี่ยนการเมืองไทย”
อาณาจักร ประเทศจีน อันยิ่งใหญ่
ปกครองด้วย กลไก อันเชื่อมั่น
“ประโยชน์สุข คนจีน ทุกเผ่าพันธุ์”
คือหลักการ สำคัญ การปกครอง
ประชากร ร่วมกัน เป็นพันล้าน
สังคมนิยม ขับขาน อย่างแคล่วคล่อง
อยู่ร่วมสังคมโลก ตามครรลอง
ในท่วงทำนอง แบบของตน
ไม่เคยตื่น ตามโลกาภิวัตน์
ยืนหยัด ขนบจีน อย่างเข้มข้น
ปกครอง โดยสภา ประชาชน
ไม่เดิน ตามก้น ประชาธิปไตย
ทำไม การเมืองไทย วิตกจริต
ตามก้นติด ตะวันตก กันยกใหญ่
ไม่พลิกฟื้น พื้นฐาน ความเป็นไทย
ทำไม ต้องตามก้น อเมริกา
เกี่ยวก้อย การเมือง เป็นธุรกิจ
เอาเลือกตั้ง ทุจริต ตั้งบังหน้า
แลกเปลี่ยน อธิปไตย ด้วยเงินตรา
เสียงข้างมาก จึงได้มา อย่างสามานย์
ระบอบ การเมืองไทย จึงโสมม
สร้างปัญหา สะสม อยู่รอบด้าน
ก็ยังดื้อ ยังด้าน ยังดักดาน
จะเลือก การปกครอง ประชาธิปไตย
ถึงเวลา ต้องกล้าแหวก แหกคอกแล้ว
กำหนดแนว ปกครอง ประเทศใหม่
สุดแท้แต่ จะเรียก ระบอบอะไร?
ขอให้เป็น “ประเทศไทย-แผ่นดินธรรม”
ว.แหวนลงยา