1. กล่าวนำ
เนื่องจากได้เกิดเหตุการณ์สังหารหมู่ประชาชนที่ไปเที่ยวไนต์คลับเกย์ชื่อ Pulse ที่เมือง Orlando รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 2559 โดยมือสังหารที่มีชื่อว่า Omar Mateen ซึ่งเป็นชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน (Afghan American) ในภาพที่ 1
ภาพที่ 1 Omar Mateen มือสังหารหมู่ในไนต์คลับเกย์ Pulse
* https://www.rawstory.com/2016/06/father-of-orlando-shooter-omar-mateen-this-had-nothing-to-do-with-religion/ ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย
ในเหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 49 คน ส่วน Omar Mateen มือสังหารก็เสียชีวิตด้วย และมีผู้ได้บาดเจ็บจำนวน 53 คน นับว่าเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เพียงจะมีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก (รองจากเหตุการณ์ 9/11) และทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ในสหรัฐอเมริการู้สึกตื่นตกใจเท่านั้น แต่เหตุการณ์นี้ยังอาจส่งผลกระทบต่อผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้อีกด้วย
ในบทความนี้ผู้เขียนจะขอกล่าวถึงเหตุการณ์สังหารหมู่ที่ไนต์คลับ Pulse โดยสังเขป ประวัติความเป็นมาของ Omar Mateen ที่เกิด เติบโต และได้ก่อเหตุสังหารในประเทศที่ตนเกิดและเติบโต (Homegrown Terrorists) พฤติกรรมของ Mateen ในช่วงที่ศึกษาในระดับมัธยมศึกษาสถาบันต่างๆ รวมทั้งการเดินทางไปจาริกแสวงบุญของ Mateen ที่ซาอุดีอาระเบีย และในบางตอนของบทความผู้เขียนจะขอนำเสนอความคิดเห็นบางประการเกี่ยวกับการก่อเหตุสังหารหมู่ในครั้งนี้ด้วย
2. การก่อการร้ายในสหรัฐอเมริกา: เหตุการณ์สังหารหมู่ที่ไนต์คลับ Pulse ที่เมือง Orlando รัฐฟลอริด้า เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 2016
2.1 ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับเหตุการณ์สังหารหมู่ที่ไนต์คลับ Pulse
ในคืนวันเสาร์ที่ 11 มิ.ย. 2016 ไนต์คลับเกย์มีชื่อว่า Pulse อยู่ที่เมือง Orlando ในมลรัฐ Florida ได้จัดงานคืนละติน หรือ Latin Night (เน้นกลุ่มนักเที่ยวที่มีเชื้อสาย Hispanic ที่พูดภาษาสเปน) โดยมีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 320 คน (ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในห้องโถงของไนต์คลับในภาพที่ 2) และจะให้บริการเครื่องดื่มไม่เกินเวลา 2.00 a.m. นั่นก็คือ งานจะเลิกในเวลา 2 นาฬิกาของวันที่ 12 มิ.ย.
ภาพที่ 2 แผนผังของไนต์คลับ Pulse ที่มีการสังหารหมู่*
* http://truthjihad.blogspot.com/2016/06/pulse-night-club-had-8-exits-50-dead-50.html ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย
สำหรับผู้ที่เป็นมือสังหารผู้ก่อเหตุคือ นาย Omar Mateen ชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟกันได้มาถึงไนต์คลับ Pulse โดยรถแวน และเดินเข้าสู่ตัวอาคารไนต์คลับพร้อมกับอาวุธปืนไรเฟิล SIG Sauer MCX (ในภาพที่ 3 และ 4) และปืนพกขนาด 9 mm Glock 17 (ในภาพที่5) จากนั้นได้ทำการยิงผู้คนในอาคาร และได้ยิงต่อสู้กับตำรวจในเวลาราว 2:02 นาฬิกา ก่อนที่ Mateen จะถอยเข้าไปในไนต์คลับ และได้จับผู้ที่มาร่วมงานในไนต์คลับเป็นตัวประกัน
ภาพที่ 3 ปืนไรเฟิล SIG Sauer MCX*
*http://www.gunsandammo.com/first-look/sig-sauer-mcx/ ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย
ภาพที่ 4 ปืนไรเฟิล SIG Sauer MCX (พับส่วนท้าย)*
* http://www.ammoland.com/2016/02/sig-sauer-mcx-rifle-review/#axzz4C7hlm0aT ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย (ปืนรุ่นนี้มีน้ำหนักเบาสามารถพกพาไปในที่ต่างๆ ได้สะดวก และเมื่อพับส่วนท้ายปืน จะทำให้มีขนาดสั้นเหมาะที่จะใช้ในการยิงเป้าหมายในช่วงเวลาที่กระชั้นชิดหรือในช่วงเวลาและพื้นที่ที่จำกัด)
ภาพที่ 5 ปืนพกขนาด 9 mm. Glock 17*
* http://taken.wikia.com/wiki/Glock_17 ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย (ดูข้อมูลเกี่ยวกับ Glock 17 เพิ่มเติม) ปืนพก Glock 17 เป็นปืนขนาด 9 mm. ที่ผลิตโดยบริษัทในออสเตรีย ตัวโครง, แมกกาซีน และอีกหลายส่วนทำจาก a high-strength nylon-based radio-opaque polymer หรือเรียกกันว่า Polymer 2 ซึ่งจะช่วยทำให้มีน้ำหนักเบา เพิ่มอายุการใช้งาน และมีความยืดหยุ่นมากกว่า carbon steel และ steel alloys ที่ได้มีการนำไปใช้กับปืนโดยทั่วไป
2.2 ลำดับเหตุการณ์สังหารหมู่ในไนต์คลับ Pulse โดยสรุป
อย่างไรก็ดี เพื่อให้ผู้อ่านทุกท่านได้เห็นภาพของเหตุการณ์โดยรวมได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ผู้เขียนก็จะขอสรุปเหตุการณ์สังหารหมู่ในไนต์คลับ Pulse ไปตามลำดับเวลาในภาพที่ 6 ดังนี้
(1) ในเวลา 2:00 am.: Omar Mateen มือสังหารได้มาถึงไนต์คลับ Pulse โดยรถแวน เดินเข้าไปในไนต์คลับและได้ทำการยิงไปที่กลุ่มคนที่อยู่ในบริเวณห้องโถงซึ่งเป็นพื้นที่ที่เต้นรำ (Main Dance)
(2) ในเวลาประมาณ 2:03 – 2:05 am: มีการยิงต่อสู้กันระหว่าง Mateen กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำงานนอกเวลาที่ไนต์คลับ ต่อมาได้มีการเสริมกำลังตำรวจจาก Orlando Police Department (OPD) เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 100 นาย
ภาพที่ 6 ลำดับเหตุการณ์ในไนต์คลับ Pulse
* http://www.stltoday.com/online/map-the-scene-at-pulse-nightclub/html_edf2714d-20d1-575a-8f1e-20bc19cf8fee.htm ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย
(3) ในเวลา 2.06 a.m. หรือตีสอง 6 นาที : ผู้มาร่วมงานที่อยู่ในไนต์คลับได้เริ่มส่งข้อความผ่านโทรศัพท์ถือ ในขณะที่ Mateen ได้ล่าถอยเข้าไปในบริเวณห้องน้ำ พร้อมกับจับตัวประกัน
(4) ในเวลา 2:09 a.m. ไนต์คลับได้โพสต์ข้อความใน Facebook แจ้งให้ทุกคนหนีออกจากไนต์คลับ
(5) ในเวลา 2:35 a.m. Mateen ได้ใช้โทรศัพท์ติดต่อพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ 9-1-1 โดยสำนักงานสืบสวนของรัฐบาลกลาง FBI ของสหรัฐอเมริกาได้นำบทสนทนาบางตอนมาเปิดเผย โดยสรุปว่า Mateen ได้กล่าวสวามิภักดิ์ต่อ Abu Bakr al-Baghdadi ผู้นำสูงสุดของรัฐอิสลาม (ISIS หรือThe Islamic State of Iraq and Syria ในภาพที่ 7) และได้ขอให้พระเจ้า (Allah) จงคุ้มครอง al-Baghdadi นอกจากนี้ยังได้กล่าวว่า ตัวเขาเองเป็นผู้ที่สังหารกลุ่มคนที่อยู่ในไนต์คลับ
ภาพที่ 7 คือ Abu Bakr al-Baghdadi ผู้นำสูงสุดของกลุ่ม ISIS*
*http://inhomelandsecurity.com/is-the-islamic-states-leader-dead-and-does-it-matter/ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย
(6) หลังจากนั้น Mateen ยังได้ติดต่อพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่ในการเจรจาอีก 3 ครั้ง คือในเวลา 2:48 a.m, 3:03 a.m. และ 3:24 a.m. ซึ่งพอสรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
I. Mateen ได้กล่าวถึง Tamerlan และ Dzhokhar Tsarnaev สองพี่น้อง Kyrgyzstani-American ที่วางระเบิดในงาน Boston Marathon และรวมทั้ง Moner Mohammad Abu Salha ชาวอเมริกันที่เป็นมือระเบิดฆ่าตัวตายในซีเรียเมื่อปี 2014
II. Mateen ได้อ้างว่า การก่อการร้ายในครั้งนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากการตายของ Abu Salha ซึ่งอยู่ในกลุ่มแนวร่วม Al-Nusra Front (กลุ่มก่อการร้าย al-Qaeda สาขาซีเรีย)
III. Mateen ได้บอกตำรวจว่า มีระเบิดอยู่ในรถ 2 – 3 คันที่จอดอยู่ข้างนอกไนต์คลับ และได้ขู่ว่า ถ้าเจ้าหน้าที่ทำอะไรโง่ๆ ก็จะกดระเบิดที่อยู่ในรถดังกล่าวทันที นอกจากนี้ยังบอกอีกว่า ในอีก 2 – 3 วัน จะมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก และจะไม่ยุติการปฏิบัติการจนกว่ารัฐบาลสหรัฐอเมริกาจะหยุดทิ้งระเบิดในรัฐอิสลาม หรือ ISIS (ในซีเรียและอิรัก)
ความคิดเห็นของผู้เขียนในเรื่องนี้
ภายหลังมีการตรวจสอบแล้วไม่ปรากฏว่า มีการวางระเบิดไว้ตามที่กล่าวอ้าง จึงสรุปได้ว่าที่ Mateen ได้กล่าวมาเป็นเทคนิคการข่มขู่และถ่วงเวลา (ซึ่งเป็นวิธีที่นิยมใช้ของกลุ่มก่อการร้ายที่ต้องการไม่ให้จ้าหน้าที่ใช้กำลังจัดการในทันที) เพื่อผู้ก่อการร้ายจะได้มีเวลาที่จะทำในเรื่องอื่น หรือเพื่อหลบหนีออกจากพื้นที่ดังกล่าว การใช้วิธีการพูดข่มขู่ดังกล่าวจึงอนุมานได้ว่า Mateen คงได้รับการฝึกอบรมเรื่องการเจรจาข่มขู่ และการใช้อาวุธมาบ้างพอสมควร จึงน่าเชื่อว่าเหตุการณ์นี้ไม่ได้มาจากความรู้สึกส่วนตัว ของ Mateen เท่านั้น แต่น่าจะมาจากการวางแผนไว้ล่วงหน้าโดยได้รับการชี้แนะอย่างแน่นอน
(7) ต่อมาในเวลา 4:21 a.m. ตำรวจ Orlando ได้ดึงเครื่องปรับอากาศออกจากหน้าต่างห้องแต่งตัวของไนต์คลับเพื่อให้เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายในไนต์คลับได้หลบหนีออกมา
(8) ในเวลา 4:29 a.m. ผู้เคราะห์ร้ายที่ได้รับการช่วยเหลือได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า Mateen กำลังจะเอาเข็มขัดระเบิด 4 ชุด ใส่ไว้บนร่างของเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายที่ยังอยู่ในไนต์คลับ
(9) ดังนั้น ในเวลา 5:02 a.m. หน่วย SWAT จึงได้เจาะกำแพงอาคารเพื่อให้รถหุ้มเกราะเข้าไปในไนต์คลับ จากนั้นในเวลา 5:14 a.m. ได้มีการยิงต่อสู้กัน และในเวลา 5:15 a.m. (ของวันที่ 12 มิ.ย. 2016) ได้มีรายงานว่า ผู้ต้องสงสัย (Mateen) ได้ถูกยิงเสียชีวิตแล้ว
ความคิดเห็นของผู้เขียนในเรื่องนี้
ในเหตุการณ์นี้จะพบว่า เจ้าหน้าที่ได้ใช้เวลาในการติดต่อและเจรจากับผู้ก่อการร้าย Mateen เป็นเวลานานเกินไป (มากกว่า 3 ชั่วโมง) กว่าที่จะตัดสินใจใช้กำลังบุกเข้าไปจัดการกับ Mateen จึงทำให้ Mateen มีเวลาในการเตรียมการ และได้ใช้ตัวประกันเป็นโล่ป้องกัน ซึ่งได้ทำให้เหยื่อ(ตัวประกัน)เสียชีวิตเป็นจำนวนมากถึง 49 ราย และบาดเจ็บอีก 53 ราย (น่าเชื่อว่า ตัวประกันบางคนอาจเสียชีวิตจากความคลาดเคลื่อนในการระดมยิงของเจ้าหน้าที่ แต่ไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนในเรื่องนี้– ผู้เขียน)
3. ประวัติโดยสังเขปของ Omar Mateen มือสังหาร: ชีวิตที่เลือกเกิดไม่ได้
Omar Mir Seddique Mateen อายุ 29 ปี นับถือศาสนาอิสลาม นิกายสุหนี่ เกิดที่รัฐ New York สหรัฐอเมริกา มีบิดามารดาเป็นชาวแอฟริกันที่อพยพเข้ามาอยู่ในสหรัฐอเมริกานานกว่า 30 ปี Mateen พักอาศัยที่อพาร์ตเมนต์ที่ Fort Pierce รัฐ Florida ซึ่งอยู่ห่างจาก Orlando (ดูแผนที่) ประมาณ 120 ไมล์ และในในที่ 11 มิ.ย. Mateen ได้ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 51 นาทีขับรถจาก Fort Pierce มาทำการสังหารหมู่ที่ไนต์คลับ Pulse ในเมือง Orlando พฤติกรรมนี้ได้บ่งชี้ว่า Mateen ได้ตระเตรียมการล่วงหน้ามาแล้ว
ภาพที่ 8 แผนที่รัฐ Florida: เมือง Orlando และ Fort Pierce*
* http://www.export.gov/florida/ ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย
ในด้านการศึกษา Mateen ได้เข้าเรียนระดับมัธยมที่ Martin County High School รัฐฟลอริดาในปี 2000 แต่ก็ต้องออกจากโรงเรียนนี้เพราะมีเรื่องวิวาทกับเพื่อนๆ ต่อมาได้ย้ายไปเรียนที่ St. Lucie West Centennial High School และในปี 2003 จึงจบอาชีวศึกษาที่ Martin County's Stuart Adult Vocational School ซึ่งที่นี้ Mateen ได้ถูกพักการเรียน 48 วันเพราะมีส่วนร่วมในการวิวาทและทำร้ายนักเรียนคนอื่น
ความคิดเห็นของผู้เขียน
จากประวัติการศึกษาของ Mateen ในโรงเรียนต่างๆ ได้ชี้ให้เห็นว่า Mateen ไม่สามารถปรับตัวเองให้ผสมกลมกลืนไปกับสังคมของชาวอเมริกันได้ ซึ่งอาจเป็นผลจากการอบรมเลี้ยงดูตามวัฒนธรรมประเพณีของพลเมืองที่มาจากอัฟกานิสถานที่อยู่ในเอเชีย และอยู่ติดกับปากีสถาน ความแตกต่างทางด้านวัฒนธรรม การอบรมเลี้ยงดู และการนับถือศาสนาอิสลาม นิกายสุหนี่ อาจมีอิทธิพลที่ทำให้ Mateen ไม่สามารถปรับตัวเองให้เข้ากับเพื่อนๆ ชาวอเมริกันที่ส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์ และได้รับการเลี้ยงดูอย่างเสรีตามแบบอเมริกันได้ จึงอาจทำให้ Mateen ไม่มีเพื่อนชาวอเมริกันค่อนข้างโดดเดี่ยว มีพฤติกรรมที่ก้าวร้าว มักขัดแย้งทะเลาะวิวาทกับบุคคลอื่น และชอบใช้กำลังทำร้ายนักเรียนฝ่ายตรงข้ามอยู่เป็นประจำ ซึ่งบุคลิกลักษณะเช่นนี้ มักจะเป็นเป้าหมาย (ได้รับการเก็งตัว) ที่จะถูกชักจูงโดยตัวแทนของกลุ่มก่อการร้าย (ผ่านสื่อสารทาง Internet หรือด้วยวิธีการอื่นใด) ให้มีอุดมการณ์หรือมีความเชื่อถือศรัทธาต่อผู้นำกลุ่มก่อการร้าย และยินยอมที่จะกระทำการใดๆ ที่แม้จะต้องสละชีวิตตนเอง เพื่อแสดงการสนับสนุนและจงรักภักดีต่อผู้นำกลุ่มก่อการร้าย หรือผู้นำรัฐอิสลาม
ในด้านชีวิตครอบครัว ในเดือนมีนาคม 2009 Mateen ได้แต่งงานครั้งแรกกับหญิงชาวอุซเบกิสถานชื่อ Sitora Yusufiy (ในภาพที่ 9) หลังจากได้รู้จักกันทางสื่อสาร online มานานถึง 8 ปี โดยทั้งสองได้พักอยู่ที่คอนโดมิเนียม 2 ห้องนอนของครอบครัว Mateen ที่ Fort Pierce รัฐฟลอริดา ซึ่ง Yusufiy ได้เล่าว่า เธอได้พักอยู่ที่รัฐฟลอริดากับ Mateen เพียง 5 เดือนเท่านั้น (คือ ตั้งแต่เมษายนถึงสิงหาคม 2009) เพราะพ่อแม่ของเธอได้บินมาเอาตัวเธอกลับไป เนื่องจากเธอได้ถูก Mateen ทุบตีจนทนไม่ไหว หลังจากนั้นเธอก็ไม่ได้เจอ Mateen อีกเลย และได้หย่ากันตามกฎหมายในปี 2011 (ตามเอกสารของศาลรัฐฟลอริดา ข้อมูลและรูปภาพจาก http://heavy.com/news/2016/06/omar-mateen-who-is-family-father-wife-parents-bio-orlando-mass-shooting/ ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย)
ภาพที่ 9 รูปถ่ายของ Sitora Yusufiy
ภรรยาคนแรกของ Omar Mateen
ต่อมา Mateen ได้แต่งงานครั้งที่สองกับ Noor Zahi Salman ตามเอกสารของ St. Lucie County mortgage document ได้ระบุว่า Noor Salman (ในภาพที่ 10) เป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของ Mateen ในเดือนกันยายน 2013 แต่ Noor Salman ได้เข้ามาอยู่กับ Mateen ที่ Fort Pierce ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2012 และได้มีบุตรชายอายุ 3 ขวบด้วยกัน 1 คน ต่อมาในเดือนธันวาคม 2015 Salman จึงได้ย้ายไปอยู่กับญาติที่เมือง Rodeo รัฐ California (จาก https://en.wikipedia.org/wiki/Omar_Mateen)
ภาพที่ 10 Noor Zahi Salman, บุตรชาย และ Mateen*
* http://nypost.com/2016/06/21/omar-mateen-bought-his-family-plane-tickets-before-massacre/ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย
ในด้านการเดินทางไปจาริกแสวงบุญที่เมือง Mecca ประเทศซาอุดีอาระเบีย ตามข้อมูลที่ได้รับการเปิดเผย Mateen ได้เดินทางไปจาริกแสวงบุญที่เมือง Mecca ประเทศซาอุดีอาระเบีย 2 ครั้ง คือ การเดินทางครั้งแรกในปี 2011 (ในภาพที่ 11) Mateen ได้ใช้เวลาในการเดินทางจาริกแสวงบุญนาน 10 วัน และการเดินทางครั้งที่สองในปี 2012 Mateen ได้ใช้เวลาเดินทางจาริกแสวงบุญนาน 8 วัน
ภาพที่ 11 Mateen เดินทางไป Saudi Arabia ในปี 2011
http://www.foxnews.com/us/2016/06/15/mateens-twin-trips-to-saudi-arabia-raise-suspicions.htmlขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย
ความคิดเห็นของผู้เขียนเกี่ยวกับการเดินทางไปจาริกแสวงบุญของ Mateen
มีความเป็นไปได้ที่การเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางที่ประเทศซาอุดีอาระเบียของ Mateen และกลุ่มคนที่นับถืออิสลามจากภูมิภาคต่างๆ ของโลกที่มีการจัดทำโดยองค์กรต่างๆ อาจถูกสอดแทรกโดยกลุ่มก่อการร้ายโดยการชักจูงผ่านทาง Internet หรือโดยวิธีการต่างๆ และมีการจัดเตรียมให้บุคคลเป้าหมาย (ที่ได้รับการเก็งตัว) เดินทางไปยังพื้นที่อื่นๆ ที่อยู่ในเขตอิทธิพลของกลุ่มก่อการร้ายกลุ่มต่างๆที่อยู่ในสังกัดของ Al-Qaeda หรือ ISIS เช่น บางพื้นที่ในประเทศเยเมนซึ่งอยู่ติดกับประเทศซาอุดิอาระเบีย(ดูแผนที่ในรูปภาพที่ 12)และอยู่ในเขตอิทธิพลของกลุ่มก่อการร้าย เพื่อทำการฝึกอบรมอุดมการณ์ ความเชื่อต่างๆ และรวมทั้งฝึกการใช้อาวุธและวิธีการก่อการร้ายในรูปแบบต่างๆอีกด้วย
ภาพที่ 12 แผนที่ประเทศซาอุดีอาระเบียและประเทศใกล้เคียง
*ดัดแปลงจาก http://middenoosten-noordafrika-centraalazie.blogspot.com/2011/03/kaart-saoedi-arabie.html ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย
4. รายงานข่าวและข้อมูลเกี่ยวกับ Mateen ที่น่าสนใจบางประการ คือ
(1) ในเวลาประมาณตี 4 หรือ 4:00 a.m. ของวันที่ 12 มิ.ย. 2016 Mateen ได้ส่งข้อความถาม ภรรยา Noor Salman ว่า ได้ดูข่าวในโทรทัศน์หรือไม่ หลังจากนั้น Noor Salman พยายามจะโทร.กลับไปหา แต่ Mateen ก็ไม่ได้รับสาย
(2) Mateen ได้เดินทางมาที่ไนต์คลับ Pulse ในช่วงหัวค่ำของวันที่ 11 มิ.ย. แล้วออกจากไนต์คลับไป ก่อนที่จะกลับมาใหม่ในเวลาประมาณ 02:00 a.m.หรือ 2 นาฬิกา ของวันที่ 12 มิ.ย.
(3) ได้มีข้อมูลเพิ่มเติมว่า Omar Mateen ได้เคยทำงานเป็น รปภ.หรือพนักงานรักษาความปลอดภัยของบริษัทรักษาความปลอดภัย G4S ในรัฐฟลอริด้า ตั้งแต่เดือนกันยายน 2007
(4) และได้มีรายงานข่าวระบุว่า Mateen ได้จองตั๋วเครื่องบิน 3 ที่นั่งไป San Francisco ล่วงหน้า 2 วันก่อนการสังหารหมู่ที่ไนต์คลับ Pulse ในเช้าวันที่ 12 มิ.ย. 2016 เพื่อเดินทางไปเยี่ยมแม่ของภรรยาที่เมือง Rodeo รัฐ California ในวันที่ 14 ก.ค. 2016 (ข้อมูลและข่าวจาก http://www.nbcbayarea.com/news/local/Orlando-Shooter-Omar-Mateen-Purchased-3-Plane-Tickets-to-San-Francisco-2-Days-Before-Attack-383956061.html ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย)
ความคิดเห็นของผู้เขียนต่อรายงานข่าวและข้อมูล
ประการแรก การที่ Mateen ถามภรรยา Noor Salman ว่า ได้ดูข่าวการสังหารหมู่ในไนท์คลับ Pulse หรือไม่ เพราะ Mateen ต้องการรู้ว่า การปฏิบัติการสังหารหมู่ในไนต์คลับของ Mateen มีการรายงานข่าวออกสู่สาธารณชนหรือไม่ เพราะ Mateen ต้องการให้สื่อต่างๆ ได้รายงานเหตุการณ์นี้ผ่านไปยังผู้นำกลุ่มรัฐอิสลามหรือกลุ่มก่อการร้าย เพื่อจะได้รับรู้ว่า Mateen ได้ปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายแล้ว ซึ่งก็คือ เมื่อได้เกิดมาแล้ว ก็ควรกระทำบางสิ่งบางอย่างเพื่อตอบสนองความเชื่อถือศรัทธาที่มีต่อพระเจ้าของ Mateen แม้ความตายจะทำให้ Mateen ต้องจากลูกและภรรยาหรือจากโลกในปัจจุบันไป แต่ Mateen ก็จะได้ไปอยู่กับพระเจ้าที่ Mateen นับถือและศรัทธาในอีกโลกหนึ่ง นั่นเอง
ประการที่สอง การที่ Mateen ได้มาที่ไนต์คลับในช่วงค่ำ และกลับไปนำอาวุธมาสังหารหมู่นั้น ผู้เขียนเชื่อว่า คงจะเป็นการมาดูไนต์คลับซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการว่า มีความเป็นไปได้ที่จะดำเนินการตามแผนที่วางไว้หรือไม่ หรือจะมีอุปสรรคใดๆ หรือไม่
ประการที่สาม กรณีที่ Mateen ได้เคยทำงานเป็น รปภ.หรือพนักงานรักษาความปลอดภัย จึงทำให้ Mateen มีความรู้และเข้าใจกฎระเบียบและหลักเกณฑ์การรักษาความปลอดภัย และการใช้อาวุธปืนเป็นอย่างดีเช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ประการที่สี่ การที่ Mateen ได้จองตั๋วเครื่องบินเพื่อเดินทางไปเยี่ยมแม่ของภรรยา เชื่อว่า น่าจะเป็นการเตรียมการไว้ในกรณีที่มีการล้มเลิกแผนการสังหารกลุ่มคนในไนต์คลับ Pulse อาจมองในแง่ดีคือ ถ้ามีการยกเลิกไม่ปฏิบัติการสังหารหมู่ที่ไนต์คลับ Pulse ตัว Mateen พร้อมทั้งภรรยา และบุตรก็จะเดินทางไปเยี่ยมแม่ภรรยาที่ California
แต่ถ้าพิจารณาในอีกด้านหนึ่ง การจองตั๋วเครื่องบินเพื่อเดินทางไปเยี่ยมญาติในวันที่ 14 ก.ค. อาจถือเป็นการปฏิบัติการพลางเพื่อทำให้หน่วยงานข่าวของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาวางใจไม่ติดตามความเคลื่อนไหวต่างๆ ของ Mateen ซึ่งข้อเท็จจริงที่ปรากฏก็น่าจะเป็นเช่นที่กล่าวเพราะทั้ง FBI และCIA ไม่ได้รับรู้ความเคลื่อนไหวต่างๆของ Mateen แต่อย่างใด จึงไม่ได้เตรียมการที่จะป้องกันหรือหยุดยั้งการปฏิบัติการสังหารหมู่นี้ได้
5. บทสรุป
จากข่าวสารและข้อมูลที่ได้กล่าวมา เช่น การให้ภรรยาและลูกย้ายไปอยู่กับแม่ภรรยาที่ California เพื่อความปลอดภัย ทำให้น่าเชื่อได้ว่า Mateen มีวัตถุประสงค์ที่จะก่อเหตุร้ายคือ จะสังหารกลุ่มคนในไนต์คลับ หรือในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ตามที่ได้รับการชี้นำ (Guidance) จากตัวแทนกลุ่มรัฐอิสลามหรือกลุ่มก่อการร้ายว่า เป็นการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ที่นับถือศาสนาที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงหรือปฏิเสธได้
ในเรื่องนี้คาดว่า Mateen คงจะได้รับชักจูง ยุยง ปลุกปั่น ให้มีความรู้สึกโกรธแค้น และมีความเชื่อในจิตใจว่า เป็นการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ที่นับถือศาสนาทุกคนที่จะหยุดยั้งการกระทำของฝ่ายตรงข้ามหรือศัตรูให้ได้ ซึ่งหมายความว่า บุคคลที่ได้รับมอบภารกิจหรือได้รับการคัดเลือกเช่น Mateen จะใช้ความรุนแรงใดๆ ก็ได้เพื่อตอบโต้การกระทำของฝ่ายตรงกันข้ามหรือศัตรู และแม้จะต้องสละชีวิตของตนเองก็ตาม โดยเชื่ออย่างสนิทใจว่า ถ้าตายแล้วก็จะได้ไปอยู่กับพระเจ้าที่ตนนับถือตลอดไป ดังนั้น ชีวิตของ Mateen จึงได้ถูกกำหนดมาแล้ว และไม่สามารถหลีกเลี่ยงหรือปฏิเสธได้นั่นเอง เช่นเดียวกับกรณีที่ Tamerlan และ Dzhokhar Tsarnaev สองพี่น้อง Kyrgyzstani-American ที่ได้ก่อเหตุวางระเบิดที่ Boston Marathon รัฐ Massachusetts ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่15 เม.ย. 2013 (ดูภาพที่ 13)
ภาพที่ 13 Tamerlan และ Dzhokhar Tsarnaev ผู้ต้องหาวางระเบิดที่ Boston
* http://www.nydailynews.com/news/national/boston-marathon-suspects-tamerlan-dzhokhar-tsarnaev- appeared-lead-normal-lives-article-1.1321715 ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย
อ้างอิง
1. https://www.fbi.gov/tampa/press-releases/2016/investigative-update-regarding-pulse-nightclub-shooting
2. https://www.washingtonpost.com/news/checkpoint/wp/2016/06/20/here-is-the-excerpt-of-omar-mateens-911-call-to-orlando-police/
3. http://www.foxnews.com/us/2016/06/15/mateens-twin-trips-to-saudi-arabia-raise-suspicions.html
ท้ายบทความ
เรื่องการสังหารหมู่ที่ไนต์คลับ Pulse ที่เมือง Orlando รัฐ Florida เป็นเรื่องที่ผู้อ่านหลายท่านสนใจและสอบถามมา ผู้เขียนจึงได้รวบรวมข้อมูลต่างๆ และได้เขียนบทความนี้เป็นตอนแรกมาให้ทุกท่านได้อ่าน โดยสรุปเรื่องราวที่เกิดขึ้น รวมทั้งประวัติความเป็นมาของผู้ก่อเหตุในครั้งนี้เป็นพื้นฐานก่อน และจะกล่าวถึงการพัฒนาบุคคลเป้าหมายให้เป็นผู้ก่อการร้ายในประเทศที่เกิด และเติบโตในบทความตอนต่อไป
สำหรับในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ต้องถือเป็นเดือนที่มีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นหลายเหตุการณ์ คือ
(1) การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์ยุโรปที่เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย. จนถึงวันที่ 10 ก.ค. ที่ฝรั่งเศส
(2) ต่อมาในวันที่ 12 มิ.ย.มีการสังหารหมู่ที่ไนต์คลับ Pulse ที่เมือง Orlando สหรัฐอเมริกา
(3) ถัดจากนั้นในวันที่ 23 มิ.ย.เป็นวันที่มีการแสดงประชามติของประชาชนในสหราชอาณาจักร (United Kingdom) ที่จะออกจากสหภาพยุโรป ผลปรากฏว่า กลุ่มประชาชนที่ต้องการออก จากสหภาพยุโรปชนะด้วยคะแนนเสียงประมาณ 52%
(4) และส่งท้ายด้วยการก่อการร้ายที่ Istanbul Ataturk Airport ในประเทศตุรกี เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ซึ่งข่าวล่าสุดแจ้งว่า มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 44 คน และบาดเจ็บอีกมากกว่าสองร้อยคน
ตอบคำถามผู้อ่าน
ได้มีผู้อ่านถามมาว่า ไทยควรให้บริการสาธารณสุขแก่แรงงานต่างด้าวในประเทศไทยหรือไม่ ในเรื่องนี้ผู้เขียนมีความเห็นว่า ควรให้แรงงานต่างด้าวและสมาชิกครอบครัวทุกคนในประเทศไทย ต้องทำประกันสุขภาพกับบริษัทประกันของเอกชน หรือของรัฐที่ผ่านการคัดเลือกจากรัฐบาลแล้ว เพราะจะเป็นการไม่ยุติธรรมต่อคนไทยที่เสียภาษีทั้งแผ่นดิน ถ้าจะนำงบประมาณแผ่นดินมาสนับสนุนการให้บริการในส่วนนี้
ขอขอบคุณทุกท่านที่มีคำถามมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
วีระศักดิ์ นาทะสิริ (4 ก.ค. 2559)
เนื่องจากได้เกิดเหตุการณ์สังหารหมู่ประชาชนที่ไปเที่ยวไนต์คลับเกย์ชื่อ Pulse ที่เมือง Orlando รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 2559 โดยมือสังหารที่มีชื่อว่า Omar Mateen ซึ่งเป็นชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน (Afghan American) ในภาพที่ 1
ภาพที่ 1 Omar Mateen มือสังหารหมู่ในไนต์คลับเกย์ Pulse
* https://www.rawstory.com/2016/06/father-of-orlando-shooter-omar-mateen-this-had-nothing-to-do-with-religion/ ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย
ในเหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 49 คน ส่วน Omar Mateen มือสังหารก็เสียชีวิตด้วย และมีผู้ได้บาดเจ็บจำนวน 53 คน นับว่าเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เพียงจะมีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก (รองจากเหตุการณ์ 9/11) และทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ในสหรัฐอเมริการู้สึกตื่นตกใจเท่านั้น แต่เหตุการณ์นี้ยังอาจส่งผลกระทบต่อผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้อีกด้วย
ในบทความนี้ผู้เขียนจะขอกล่าวถึงเหตุการณ์สังหารหมู่ที่ไนต์คลับ Pulse โดยสังเขป ประวัติความเป็นมาของ Omar Mateen ที่เกิด เติบโต และได้ก่อเหตุสังหารในประเทศที่ตนเกิดและเติบโต (Homegrown Terrorists) พฤติกรรมของ Mateen ในช่วงที่ศึกษาในระดับมัธยมศึกษาสถาบันต่างๆ รวมทั้งการเดินทางไปจาริกแสวงบุญของ Mateen ที่ซาอุดีอาระเบีย และในบางตอนของบทความผู้เขียนจะขอนำเสนอความคิดเห็นบางประการเกี่ยวกับการก่อเหตุสังหารหมู่ในครั้งนี้ด้วย
2. การก่อการร้ายในสหรัฐอเมริกา: เหตุการณ์สังหารหมู่ที่ไนต์คลับ Pulse ที่เมือง Orlando รัฐฟลอริด้า เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 2016
2.1 ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับเหตุการณ์สังหารหมู่ที่ไนต์คลับ Pulse
ในคืนวันเสาร์ที่ 11 มิ.ย. 2016 ไนต์คลับเกย์มีชื่อว่า Pulse อยู่ที่เมือง Orlando ในมลรัฐ Florida ได้จัดงานคืนละติน หรือ Latin Night (เน้นกลุ่มนักเที่ยวที่มีเชื้อสาย Hispanic ที่พูดภาษาสเปน) โดยมีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 320 คน (ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในห้องโถงของไนต์คลับในภาพที่ 2) และจะให้บริการเครื่องดื่มไม่เกินเวลา 2.00 a.m. นั่นก็คือ งานจะเลิกในเวลา 2 นาฬิกาของวันที่ 12 มิ.ย.
ภาพที่ 2 แผนผังของไนต์คลับ Pulse ที่มีการสังหารหมู่*
* http://truthjihad.blogspot.com/2016/06/pulse-night-club-had-8-exits-50-dead-50.html ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย
สำหรับผู้ที่เป็นมือสังหารผู้ก่อเหตุคือ นาย Omar Mateen ชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟกันได้มาถึงไนต์คลับ Pulse โดยรถแวน และเดินเข้าสู่ตัวอาคารไนต์คลับพร้อมกับอาวุธปืนไรเฟิล SIG Sauer MCX (ในภาพที่ 3 และ 4) และปืนพกขนาด 9 mm Glock 17 (ในภาพที่5) จากนั้นได้ทำการยิงผู้คนในอาคาร และได้ยิงต่อสู้กับตำรวจในเวลาราว 2:02 นาฬิกา ก่อนที่ Mateen จะถอยเข้าไปในไนต์คลับ และได้จับผู้ที่มาร่วมงานในไนต์คลับเป็นตัวประกัน
ภาพที่ 3 ปืนไรเฟิล SIG Sauer MCX*
*http://www.gunsandammo.com/first-look/sig-sauer-mcx/ ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย
ภาพที่ 4 ปืนไรเฟิล SIG Sauer MCX (พับส่วนท้าย)*
* http://www.ammoland.com/2016/02/sig-sauer-mcx-rifle-review/#axzz4C7hlm0aT ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย (ปืนรุ่นนี้มีน้ำหนักเบาสามารถพกพาไปในที่ต่างๆ ได้สะดวก และเมื่อพับส่วนท้ายปืน จะทำให้มีขนาดสั้นเหมาะที่จะใช้ในการยิงเป้าหมายในช่วงเวลาที่กระชั้นชิดหรือในช่วงเวลาและพื้นที่ที่จำกัด)
ภาพที่ 5 ปืนพกขนาด 9 mm. Glock 17*
* http://taken.wikia.com/wiki/Glock_17 ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย (ดูข้อมูลเกี่ยวกับ Glock 17 เพิ่มเติม) ปืนพก Glock 17 เป็นปืนขนาด 9 mm. ที่ผลิตโดยบริษัทในออสเตรีย ตัวโครง, แมกกาซีน และอีกหลายส่วนทำจาก a high-strength nylon-based radio-opaque polymer หรือเรียกกันว่า Polymer 2 ซึ่งจะช่วยทำให้มีน้ำหนักเบา เพิ่มอายุการใช้งาน และมีความยืดหยุ่นมากกว่า carbon steel และ steel alloys ที่ได้มีการนำไปใช้กับปืนโดยทั่วไป
2.2 ลำดับเหตุการณ์สังหารหมู่ในไนต์คลับ Pulse โดยสรุป
อย่างไรก็ดี เพื่อให้ผู้อ่านทุกท่านได้เห็นภาพของเหตุการณ์โดยรวมได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ผู้เขียนก็จะขอสรุปเหตุการณ์สังหารหมู่ในไนต์คลับ Pulse ไปตามลำดับเวลาในภาพที่ 6 ดังนี้
(1) ในเวลา 2:00 am.: Omar Mateen มือสังหารได้มาถึงไนต์คลับ Pulse โดยรถแวน เดินเข้าไปในไนต์คลับและได้ทำการยิงไปที่กลุ่มคนที่อยู่ในบริเวณห้องโถงซึ่งเป็นพื้นที่ที่เต้นรำ (Main Dance)
(2) ในเวลาประมาณ 2:03 – 2:05 am: มีการยิงต่อสู้กันระหว่าง Mateen กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำงานนอกเวลาที่ไนต์คลับ ต่อมาได้มีการเสริมกำลังตำรวจจาก Orlando Police Department (OPD) เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 100 นาย
ภาพที่ 6 ลำดับเหตุการณ์ในไนต์คลับ Pulse
* http://www.stltoday.com/online/map-the-scene-at-pulse-nightclub/html_edf2714d-20d1-575a-8f1e-20bc19cf8fee.htm ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย
(3) ในเวลา 2.06 a.m. หรือตีสอง 6 นาที : ผู้มาร่วมงานที่อยู่ในไนต์คลับได้เริ่มส่งข้อความผ่านโทรศัพท์ถือ ในขณะที่ Mateen ได้ล่าถอยเข้าไปในบริเวณห้องน้ำ พร้อมกับจับตัวประกัน
(4) ในเวลา 2:09 a.m. ไนต์คลับได้โพสต์ข้อความใน Facebook แจ้งให้ทุกคนหนีออกจากไนต์คลับ
(5) ในเวลา 2:35 a.m. Mateen ได้ใช้โทรศัพท์ติดต่อพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ 9-1-1 โดยสำนักงานสืบสวนของรัฐบาลกลาง FBI ของสหรัฐอเมริกาได้นำบทสนทนาบางตอนมาเปิดเผย โดยสรุปว่า Mateen ได้กล่าวสวามิภักดิ์ต่อ Abu Bakr al-Baghdadi ผู้นำสูงสุดของรัฐอิสลาม (ISIS หรือThe Islamic State of Iraq and Syria ในภาพที่ 7) และได้ขอให้พระเจ้า (Allah) จงคุ้มครอง al-Baghdadi นอกจากนี้ยังได้กล่าวว่า ตัวเขาเองเป็นผู้ที่สังหารกลุ่มคนที่อยู่ในไนต์คลับ
ภาพที่ 7 คือ Abu Bakr al-Baghdadi ผู้นำสูงสุดของกลุ่ม ISIS*
*http://inhomelandsecurity.com/is-the-islamic-states-leader-dead-and-does-it-matter/ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย
(6) หลังจากนั้น Mateen ยังได้ติดต่อพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่ในการเจรจาอีก 3 ครั้ง คือในเวลา 2:48 a.m, 3:03 a.m. และ 3:24 a.m. ซึ่งพอสรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
I. Mateen ได้กล่าวถึง Tamerlan และ Dzhokhar Tsarnaev สองพี่น้อง Kyrgyzstani-American ที่วางระเบิดในงาน Boston Marathon และรวมทั้ง Moner Mohammad Abu Salha ชาวอเมริกันที่เป็นมือระเบิดฆ่าตัวตายในซีเรียเมื่อปี 2014
II. Mateen ได้อ้างว่า การก่อการร้ายในครั้งนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากการตายของ Abu Salha ซึ่งอยู่ในกลุ่มแนวร่วม Al-Nusra Front (กลุ่มก่อการร้าย al-Qaeda สาขาซีเรีย)
III. Mateen ได้บอกตำรวจว่า มีระเบิดอยู่ในรถ 2 – 3 คันที่จอดอยู่ข้างนอกไนต์คลับ และได้ขู่ว่า ถ้าเจ้าหน้าที่ทำอะไรโง่ๆ ก็จะกดระเบิดที่อยู่ในรถดังกล่าวทันที นอกจากนี้ยังบอกอีกว่า ในอีก 2 – 3 วัน จะมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก และจะไม่ยุติการปฏิบัติการจนกว่ารัฐบาลสหรัฐอเมริกาจะหยุดทิ้งระเบิดในรัฐอิสลาม หรือ ISIS (ในซีเรียและอิรัก)
ความคิดเห็นของผู้เขียนในเรื่องนี้
ภายหลังมีการตรวจสอบแล้วไม่ปรากฏว่า มีการวางระเบิดไว้ตามที่กล่าวอ้าง จึงสรุปได้ว่าที่ Mateen ได้กล่าวมาเป็นเทคนิคการข่มขู่และถ่วงเวลา (ซึ่งเป็นวิธีที่นิยมใช้ของกลุ่มก่อการร้ายที่ต้องการไม่ให้จ้าหน้าที่ใช้กำลังจัดการในทันที) เพื่อผู้ก่อการร้ายจะได้มีเวลาที่จะทำในเรื่องอื่น หรือเพื่อหลบหนีออกจากพื้นที่ดังกล่าว การใช้วิธีการพูดข่มขู่ดังกล่าวจึงอนุมานได้ว่า Mateen คงได้รับการฝึกอบรมเรื่องการเจรจาข่มขู่ และการใช้อาวุธมาบ้างพอสมควร จึงน่าเชื่อว่าเหตุการณ์นี้ไม่ได้มาจากความรู้สึกส่วนตัว ของ Mateen เท่านั้น แต่น่าจะมาจากการวางแผนไว้ล่วงหน้าโดยได้รับการชี้แนะอย่างแน่นอน
(7) ต่อมาในเวลา 4:21 a.m. ตำรวจ Orlando ได้ดึงเครื่องปรับอากาศออกจากหน้าต่างห้องแต่งตัวของไนต์คลับเพื่อให้เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายในไนต์คลับได้หลบหนีออกมา
(8) ในเวลา 4:29 a.m. ผู้เคราะห์ร้ายที่ได้รับการช่วยเหลือได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า Mateen กำลังจะเอาเข็มขัดระเบิด 4 ชุด ใส่ไว้บนร่างของเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายที่ยังอยู่ในไนต์คลับ
(9) ดังนั้น ในเวลา 5:02 a.m. หน่วย SWAT จึงได้เจาะกำแพงอาคารเพื่อให้รถหุ้มเกราะเข้าไปในไนต์คลับ จากนั้นในเวลา 5:14 a.m. ได้มีการยิงต่อสู้กัน และในเวลา 5:15 a.m. (ของวันที่ 12 มิ.ย. 2016) ได้มีรายงานว่า ผู้ต้องสงสัย (Mateen) ได้ถูกยิงเสียชีวิตแล้ว
ความคิดเห็นของผู้เขียนในเรื่องนี้
ในเหตุการณ์นี้จะพบว่า เจ้าหน้าที่ได้ใช้เวลาในการติดต่อและเจรจากับผู้ก่อการร้าย Mateen เป็นเวลานานเกินไป (มากกว่า 3 ชั่วโมง) กว่าที่จะตัดสินใจใช้กำลังบุกเข้าไปจัดการกับ Mateen จึงทำให้ Mateen มีเวลาในการเตรียมการ และได้ใช้ตัวประกันเป็นโล่ป้องกัน ซึ่งได้ทำให้เหยื่อ(ตัวประกัน)เสียชีวิตเป็นจำนวนมากถึง 49 ราย และบาดเจ็บอีก 53 ราย (น่าเชื่อว่า ตัวประกันบางคนอาจเสียชีวิตจากความคลาดเคลื่อนในการระดมยิงของเจ้าหน้าที่ แต่ไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนในเรื่องนี้– ผู้เขียน)
3. ประวัติโดยสังเขปของ Omar Mateen มือสังหาร: ชีวิตที่เลือกเกิดไม่ได้
Omar Mir Seddique Mateen อายุ 29 ปี นับถือศาสนาอิสลาม นิกายสุหนี่ เกิดที่รัฐ New York สหรัฐอเมริกา มีบิดามารดาเป็นชาวแอฟริกันที่อพยพเข้ามาอยู่ในสหรัฐอเมริกานานกว่า 30 ปี Mateen พักอาศัยที่อพาร์ตเมนต์ที่ Fort Pierce รัฐ Florida ซึ่งอยู่ห่างจาก Orlando (ดูแผนที่) ประมาณ 120 ไมล์ และในในที่ 11 มิ.ย. Mateen ได้ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 51 นาทีขับรถจาก Fort Pierce มาทำการสังหารหมู่ที่ไนต์คลับ Pulse ในเมือง Orlando พฤติกรรมนี้ได้บ่งชี้ว่า Mateen ได้ตระเตรียมการล่วงหน้ามาแล้ว
ภาพที่ 8 แผนที่รัฐ Florida: เมือง Orlando และ Fort Pierce*
* http://www.export.gov/florida/ ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย
ในด้านการศึกษา Mateen ได้เข้าเรียนระดับมัธยมที่ Martin County High School รัฐฟลอริดาในปี 2000 แต่ก็ต้องออกจากโรงเรียนนี้เพราะมีเรื่องวิวาทกับเพื่อนๆ ต่อมาได้ย้ายไปเรียนที่ St. Lucie West Centennial High School และในปี 2003 จึงจบอาชีวศึกษาที่ Martin County's Stuart Adult Vocational School ซึ่งที่นี้ Mateen ได้ถูกพักการเรียน 48 วันเพราะมีส่วนร่วมในการวิวาทและทำร้ายนักเรียนคนอื่น
ความคิดเห็นของผู้เขียน
จากประวัติการศึกษาของ Mateen ในโรงเรียนต่างๆ ได้ชี้ให้เห็นว่า Mateen ไม่สามารถปรับตัวเองให้ผสมกลมกลืนไปกับสังคมของชาวอเมริกันได้ ซึ่งอาจเป็นผลจากการอบรมเลี้ยงดูตามวัฒนธรรมประเพณีของพลเมืองที่มาจากอัฟกานิสถานที่อยู่ในเอเชีย และอยู่ติดกับปากีสถาน ความแตกต่างทางด้านวัฒนธรรม การอบรมเลี้ยงดู และการนับถือศาสนาอิสลาม นิกายสุหนี่ อาจมีอิทธิพลที่ทำให้ Mateen ไม่สามารถปรับตัวเองให้เข้ากับเพื่อนๆ ชาวอเมริกันที่ส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์ และได้รับการเลี้ยงดูอย่างเสรีตามแบบอเมริกันได้ จึงอาจทำให้ Mateen ไม่มีเพื่อนชาวอเมริกันค่อนข้างโดดเดี่ยว มีพฤติกรรมที่ก้าวร้าว มักขัดแย้งทะเลาะวิวาทกับบุคคลอื่น และชอบใช้กำลังทำร้ายนักเรียนฝ่ายตรงข้ามอยู่เป็นประจำ ซึ่งบุคลิกลักษณะเช่นนี้ มักจะเป็นเป้าหมาย (ได้รับการเก็งตัว) ที่จะถูกชักจูงโดยตัวแทนของกลุ่มก่อการร้าย (ผ่านสื่อสารทาง Internet หรือด้วยวิธีการอื่นใด) ให้มีอุดมการณ์หรือมีความเชื่อถือศรัทธาต่อผู้นำกลุ่มก่อการร้าย และยินยอมที่จะกระทำการใดๆ ที่แม้จะต้องสละชีวิตตนเอง เพื่อแสดงการสนับสนุนและจงรักภักดีต่อผู้นำกลุ่มก่อการร้าย หรือผู้นำรัฐอิสลาม
ในด้านชีวิตครอบครัว ในเดือนมีนาคม 2009 Mateen ได้แต่งงานครั้งแรกกับหญิงชาวอุซเบกิสถานชื่อ Sitora Yusufiy (ในภาพที่ 9) หลังจากได้รู้จักกันทางสื่อสาร online มานานถึง 8 ปี โดยทั้งสองได้พักอยู่ที่คอนโดมิเนียม 2 ห้องนอนของครอบครัว Mateen ที่ Fort Pierce รัฐฟลอริดา ซึ่ง Yusufiy ได้เล่าว่า เธอได้พักอยู่ที่รัฐฟลอริดากับ Mateen เพียง 5 เดือนเท่านั้น (คือ ตั้งแต่เมษายนถึงสิงหาคม 2009) เพราะพ่อแม่ของเธอได้บินมาเอาตัวเธอกลับไป เนื่องจากเธอได้ถูก Mateen ทุบตีจนทนไม่ไหว หลังจากนั้นเธอก็ไม่ได้เจอ Mateen อีกเลย และได้หย่ากันตามกฎหมายในปี 2011 (ตามเอกสารของศาลรัฐฟลอริดา ข้อมูลและรูปภาพจาก http://heavy.com/news/2016/06/omar-mateen-who-is-family-father-wife-parents-bio-orlando-mass-shooting/ ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย)
ภาพที่ 9 รูปถ่ายของ Sitora Yusufiy
ภรรยาคนแรกของ Omar Mateen
ต่อมา Mateen ได้แต่งงานครั้งที่สองกับ Noor Zahi Salman ตามเอกสารของ St. Lucie County mortgage document ได้ระบุว่า Noor Salman (ในภาพที่ 10) เป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของ Mateen ในเดือนกันยายน 2013 แต่ Noor Salman ได้เข้ามาอยู่กับ Mateen ที่ Fort Pierce ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2012 และได้มีบุตรชายอายุ 3 ขวบด้วยกัน 1 คน ต่อมาในเดือนธันวาคม 2015 Salman จึงได้ย้ายไปอยู่กับญาติที่เมือง Rodeo รัฐ California (จาก https://en.wikipedia.org/wiki/Omar_Mateen)
ภาพที่ 10 Noor Zahi Salman, บุตรชาย และ Mateen*
* http://nypost.com/2016/06/21/omar-mateen-bought-his-family-plane-tickets-before-massacre/ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย
ในด้านการเดินทางไปจาริกแสวงบุญที่เมือง Mecca ประเทศซาอุดีอาระเบีย ตามข้อมูลที่ได้รับการเปิดเผย Mateen ได้เดินทางไปจาริกแสวงบุญที่เมือง Mecca ประเทศซาอุดีอาระเบีย 2 ครั้ง คือ การเดินทางครั้งแรกในปี 2011 (ในภาพที่ 11) Mateen ได้ใช้เวลาในการเดินทางจาริกแสวงบุญนาน 10 วัน และการเดินทางครั้งที่สองในปี 2012 Mateen ได้ใช้เวลาเดินทางจาริกแสวงบุญนาน 8 วัน
ภาพที่ 11 Mateen เดินทางไป Saudi Arabia ในปี 2011
http://www.foxnews.com/us/2016/06/15/mateens-twin-trips-to-saudi-arabia-raise-suspicions.htmlขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย
ความคิดเห็นของผู้เขียนเกี่ยวกับการเดินทางไปจาริกแสวงบุญของ Mateen
มีความเป็นไปได้ที่การเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางที่ประเทศซาอุดีอาระเบียของ Mateen และกลุ่มคนที่นับถืออิสลามจากภูมิภาคต่างๆ ของโลกที่มีการจัดทำโดยองค์กรต่างๆ อาจถูกสอดแทรกโดยกลุ่มก่อการร้ายโดยการชักจูงผ่านทาง Internet หรือโดยวิธีการต่างๆ และมีการจัดเตรียมให้บุคคลเป้าหมาย (ที่ได้รับการเก็งตัว) เดินทางไปยังพื้นที่อื่นๆ ที่อยู่ในเขตอิทธิพลของกลุ่มก่อการร้ายกลุ่มต่างๆที่อยู่ในสังกัดของ Al-Qaeda หรือ ISIS เช่น บางพื้นที่ในประเทศเยเมนซึ่งอยู่ติดกับประเทศซาอุดิอาระเบีย(ดูแผนที่ในรูปภาพที่ 12)และอยู่ในเขตอิทธิพลของกลุ่มก่อการร้าย เพื่อทำการฝึกอบรมอุดมการณ์ ความเชื่อต่างๆ และรวมทั้งฝึกการใช้อาวุธและวิธีการก่อการร้ายในรูปแบบต่างๆอีกด้วย
ภาพที่ 12 แผนที่ประเทศซาอุดีอาระเบียและประเทศใกล้เคียง
*ดัดแปลงจาก http://middenoosten-noordafrika-centraalazie.blogspot.com/2011/03/kaart-saoedi-arabie.html ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย
4. รายงานข่าวและข้อมูลเกี่ยวกับ Mateen ที่น่าสนใจบางประการ คือ
(1) ในเวลาประมาณตี 4 หรือ 4:00 a.m. ของวันที่ 12 มิ.ย. 2016 Mateen ได้ส่งข้อความถาม ภรรยา Noor Salman ว่า ได้ดูข่าวในโทรทัศน์หรือไม่ หลังจากนั้น Noor Salman พยายามจะโทร.กลับไปหา แต่ Mateen ก็ไม่ได้รับสาย
(2) Mateen ได้เดินทางมาที่ไนต์คลับ Pulse ในช่วงหัวค่ำของวันที่ 11 มิ.ย. แล้วออกจากไนต์คลับไป ก่อนที่จะกลับมาใหม่ในเวลาประมาณ 02:00 a.m.หรือ 2 นาฬิกา ของวันที่ 12 มิ.ย.
(3) ได้มีข้อมูลเพิ่มเติมว่า Omar Mateen ได้เคยทำงานเป็น รปภ.หรือพนักงานรักษาความปลอดภัยของบริษัทรักษาความปลอดภัย G4S ในรัฐฟลอริด้า ตั้งแต่เดือนกันยายน 2007
(4) และได้มีรายงานข่าวระบุว่า Mateen ได้จองตั๋วเครื่องบิน 3 ที่นั่งไป San Francisco ล่วงหน้า 2 วันก่อนการสังหารหมู่ที่ไนต์คลับ Pulse ในเช้าวันที่ 12 มิ.ย. 2016 เพื่อเดินทางไปเยี่ยมแม่ของภรรยาที่เมือง Rodeo รัฐ California ในวันที่ 14 ก.ค. 2016 (ข้อมูลและข่าวจาก http://www.nbcbayarea.com/news/local/Orlando-Shooter-Omar-Mateen-Purchased-3-Plane-Tickets-to-San-Francisco-2-Days-Before-Attack-383956061.html ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย)
ความคิดเห็นของผู้เขียนต่อรายงานข่าวและข้อมูล
ประการแรก การที่ Mateen ถามภรรยา Noor Salman ว่า ได้ดูข่าวการสังหารหมู่ในไนท์คลับ Pulse หรือไม่ เพราะ Mateen ต้องการรู้ว่า การปฏิบัติการสังหารหมู่ในไนต์คลับของ Mateen มีการรายงานข่าวออกสู่สาธารณชนหรือไม่ เพราะ Mateen ต้องการให้สื่อต่างๆ ได้รายงานเหตุการณ์นี้ผ่านไปยังผู้นำกลุ่มรัฐอิสลามหรือกลุ่มก่อการร้าย เพื่อจะได้รับรู้ว่า Mateen ได้ปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายแล้ว ซึ่งก็คือ เมื่อได้เกิดมาแล้ว ก็ควรกระทำบางสิ่งบางอย่างเพื่อตอบสนองความเชื่อถือศรัทธาที่มีต่อพระเจ้าของ Mateen แม้ความตายจะทำให้ Mateen ต้องจากลูกและภรรยาหรือจากโลกในปัจจุบันไป แต่ Mateen ก็จะได้ไปอยู่กับพระเจ้าที่ Mateen นับถือและศรัทธาในอีกโลกหนึ่ง นั่นเอง
ประการที่สอง การที่ Mateen ได้มาที่ไนต์คลับในช่วงค่ำ และกลับไปนำอาวุธมาสังหารหมู่นั้น ผู้เขียนเชื่อว่า คงจะเป็นการมาดูไนต์คลับซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการว่า มีความเป็นไปได้ที่จะดำเนินการตามแผนที่วางไว้หรือไม่ หรือจะมีอุปสรรคใดๆ หรือไม่
ประการที่สาม กรณีที่ Mateen ได้เคยทำงานเป็น รปภ.หรือพนักงานรักษาความปลอดภัย จึงทำให้ Mateen มีความรู้และเข้าใจกฎระเบียบและหลักเกณฑ์การรักษาความปลอดภัย และการใช้อาวุธปืนเป็นอย่างดีเช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ประการที่สี่ การที่ Mateen ได้จองตั๋วเครื่องบินเพื่อเดินทางไปเยี่ยมแม่ของภรรยา เชื่อว่า น่าจะเป็นการเตรียมการไว้ในกรณีที่มีการล้มเลิกแผนการสังหารกลุ่มคนในไนต์คลับ Pulse อาจมองในแง่ดีคือ ถ้ามีการยกเลิกไม่ปฏิบัติการสังหารหมู่ที่ไนต์คลับ Pulse ตัว Mateen พร้อมทั้งภรรยา และบุตรก็จะเดินทางไปเยี่ยมแม่ภรรยาที่ California
แต่ถ้าพิจารณาในอีกด้านหนึ่ง การจองตั๋วเครื่องบินเพื่อเดินทางไปเยี่ยมญาติในวันที่ 14 ก.ค. อาจถือเป็นการปฏิบัติการพลางเพื่อทำให้หน่วยงานข่าวของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาวางใจไม่ติดตามความเคลื่อนไหวต่างๆ ของ Mateen ซึ่งข้อเท็จจริงที่ปรากฏก็น่าจะเป็นเช่นที่กล่าวเพราะทั้ง FBI และCIA ไม่ได้รับรู้ความเคลื่อนไหวต่างๆของ Mateen แต่อย่างใด จึงไม่ได้เตรียมการที่จะป้องกันหรือหยุดยั้งการปฏิบัติการสังหารหมู่นี้ได้
5. บทสรุป
จากข่าวสารและข้อมูลที่ได้กล่าวมา เช่น การให้ภรรยาและลูกย้ายไปอยู่กับแม่ภรรยาที่ California เพื่อความปลอดภัย ทำให้น่าเชื่อได้ว่า Mateen มีวัตถุประสงค์ที่จะก่อเหตุร้ายคือ จะสังหารกลุ่มคนในไนต์คลับ หรือในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ตามที่ได้รับการชี้นำ (Guidance) จากตัวแทนกลุ่มรัฐอิสลามหรือกลุ่มก่อการร้ายว่า เป็นการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ที่นับถือศาสนาที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงหรือปฏิเสธได้
ในเรื่องนี้คาดว่า Mateen คงจะได้รับชักจูง ยุยง ปลุกปั่น ให้มีความรู้สึกโกรธแค้น และมีความเชื่อในจิตใจว่า เป็นการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ที่นับถือศาสนาทุกคนที่จะหยุดยั้งการกระทำของฝ่ายตรงข้ามหรือศัตรูให้ได้ ซึ่งหมายความว่า บุคคลที่ได้รับมอบภารกิจหรือได้รับการคัดเลือกเช่น Mateen จะใช้ความรุนแรงใดๆ ก็ได้เพื่อตอบโต้การกระทำของฝ่ายตรงกันข้ามหรือศัตรู และแม้จะต้องสละชีวิตของตนเองก็ตาม โดยเชื่ออย่างสนิทใจว่า ถ้าตายแล้วก็จะได้ไปอยู่กับพระเจ้าที่ตนนับถือตลอดไป ดังนั้น ชีวิตของ Mateen จึงได้ถูกกำหนดมาแล้ว และไม่สามารถหลีกเลี่ยงหรือปฏิเสธได้นั่นเอง เช่นเดียวกับกรณีที่ Tamerlan และ Dzhokhar Tsarnaev สองพี่น้อง Kyrgyzstani-American ที่ได้ก่อเหตุวางระเบิดที่ Boston Marathon รัฐ Massachusetts ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่15 เม.ย. 2013 (ดูภาพที่ 13)
ภาพที่ 13 Tamerlan และ Dzhokhar Tsarnaev ผู้ต้องหาวางระเบิดที่ Boston
* http://www.nydailynews.com/news/national/boston-marathon-suspects-tamerlan-dzhokhar-tsarnaev- appeared-lead-normal-lives-article-1.1321715 ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย
อ้างอิง
1. https://www.fbi.gov/tampa/press-releases/2016/investigative-update-regarding-pulse-nightclub-shooting
2. https://www.washingtonpost.com/news/checkpoint/wp/2016/06/20/here-is-the-excerpt-of-omar-mateens-911-call-to-orlando-police/
3. http://www.foxnews.com/us/2016/06/15/mateens-twin-trips-to-saudi-arabia-raise-suspicions.html
ท้ายบทความ
เรื่องการสังหารหมู่ที่ไนต์คลับ Pulse ที่เมือง Orlando รัฐ Florida เป็นเรื่องที่ผู้อ่านหลายท่านสนใจและสอบถามมา ผู้เขียนจึงได้รวบรวมข้อมูลต่างๆ และได้เขียนบทความนี้เป็นตอนแรกมาให้ทุกท่านได้อ่าน โดยสรุปเรื่องราวที่เกิดขึ้น รวมทั้งประวัติความเป็นมาของผู้ก่อเหตุในครั้งนี้เป็นพื้นฐานก่อน และจะกล่าวถึงการพัฒนาบุคคลเป้าหมายให้เป็นผู้ก่อการร้ายในประเทศที่เกิด และเติบโตในบทความตอนต่อไป
สำหรับในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ต้องถือเป็นเดือนที่มีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นหลายเหตุการณ์ คือ
(1) การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์ยุโรปที่เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย. จนถึงวันที่ 10 ก.ค. ที่ฝรั่งเศส
(2) ต่อมาในวันที่ 12 มิ.ย.มีการสังหารหมู่ที่ไนต์คลับ Pulse ที่เมือง Orlando สหรัฐอเมริกา
(3) ถัดจากนั้นในวันที่ 23 มิ.ย.เป็นวันที่มีการแสดงประชามติของประชาชนในสหราชอาณาจักร (United Kingdom) ที่จะออกจากสหภาพยุโรป ผลปรากฏว่า กลุ่มประชาชนที่ต้องการออก จากสหภาพยุโรปชนะด้วยคะแนนเสียงประมาณ 52%
(4) และส่งท้ายด้วยการก่อการร้ายที่ Istanbul Ataturk Airport ในประเทศตุรกี เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ซึ่งข่าวล่าสุดแจ้งว่า มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 44 คน และบาดเจ็บอีกมากกว่าสองร้อยคน
ตอบคำถามผู้อ่าน
ได้มีผู้อ่านถามมาว่า ไทยควรให้บริการสาธารณสุขแก่แรงงานต่างด้าวในประเทศไทยหรือไม่ ในเรื่องนี้ผู้เขียนมีความเห็นว่า ควรให้แรงงานต่างด้าวและสมาชิกครอบครัวทุกคนในประเทศไทย ต้องทำประกันสุขภาพกับบริษัทประกันของเอกชน หรือของรัฐที่ผ่านการคัดเลือกจากรัฐบาลแล้ว เพราะจะเป็นการไม่ยุติธรรมต่อคนไทยที่เสียภาษีทั้งแผ่นดิน ถ้าจะนำงบประมาณแผ่นดินมาสนับสนุนการให้บริการในส่วนนี้
ขอขอบคุณทุกท่านที่มีคำถามมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
วีระศักดิ์ นาทะสิริ (4 ก.ค. 2559)