xs
xsm
sm
md
lg

ฆ่าก่อนจัดฉาก ตร.แฉเบื้องหลัง "บรรยิน"ปัดกิ๊ก"อุรชา"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการรายวัน360-ตำรวจนำตัว "บรรยิน" ขอฝากขัง 12 วัน ระบุยังสอบสวนไม่เสร็จ พร้อมคัดค้านประกันตัว เกรงหลบหนีและไปยุ่งเหยิงพยาน ยกเหตุวางแผนเป็นขั้นเป็นตอน ลักเอาหุ้น "เสี่ยชูวงษ์" ก่อนวางแผนฆ่า เพราะกลัวเรื่องแดง ด้านครอบครัวชูวงษ์มั่นใจไม่ได้ทำคนเดียว ด้านบรรยินปัดเป็นกิ๊ก "อุรชา" เชื่อมีขบวนการดิสเครดิต หลังมาจับเอาตอนนี้ เผยล่าสุดศาลให้ประกันตีมูลค่า 2 ล้านบาท พร้อมสั่งห้ามออกนอกประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ (29 มิ.ย.) ที่ศาลจังหวัดพระโขนง ถ.สรรพาวุธ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ พนักงานสอบสวนกองปราบปราม ได้ควบคุมตัว พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง คดีร่วมกันฆ่านายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ โดยเจตนา และไตร่ตรองไว้ก่อน มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 29 มิ.ย.-10 ก.ค.2559 เนื่องจากการสอบสวนไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบปากคำพยานอีก 10 ปาก และรอผลตรวจลายพิมพ์นิ้วมือผู้ต้องหาจากกองประวัติอาชญากร

ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนขอคัดค้านการให้ประกันตัว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูงถึงประหารชีวิต หากได้รับการปล่อยชั่วคราวแล้วเกรงผู้ต้องหาจะหลบหนี และไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน รวมทั้งก่อเหตุร้ายประการอื่น และการกระทำของผู้ต้องหาเกี่ยวกับการปลอมใบโอนหุ้นและลักเอาหุ้นของนายชูวงษ์ ผู้ตายไป และวางแผนฆ่าผู้ตายในคดีนี้ เป็นการกระทำผิดอาศัยความใกล้ชิดและผู้ตายไว้วางใจในฐานะเพื่อน โดยการกระทำผิดด้วยความแยบยล สร้างพยานหลักฐานเท็จเพื่อบิดเบือนข้อเท็จจริงในคดี อีกทั้งผู้ต้องหายังมีพฤติกรรมข่มขู่ผู้เสียหายและพยานที่เกี่ยวข้อง

ขณะที่คำร้องฝากขัง ระบุพฤติการณ์สรุปว่า ผู้ต้องหาเป็นเพื่อนสนิทสนมกับผู้ตาย และลงทุนทำธุรกิจที่ดินด้วยกัน โดยผู้ตายมีฐานะทางการเงินดี มีหุ้นในบริษัทจำนวนมาก จึงได้สมคบคิดกับ น.ส.อุรชา วชิรกุลฑล หรือป้อนข้าว เจ้าหน้าที่การตลาดบริษัทหลักทรัพย์ที่ผู้ตายมีหุ้นอยู่ และพวก แล้วปลอมเอกสารใบโอนหุ้นของผู้ตาย โดยผู้ต้องหาอ้างตัวเองกับพนักงานฝ่ายจัดการหลักทรัพย์ว่าเป็นนายชูวงษ์ ยืนยันการโอนหุ้น กระทั่งหลงเชื่อในกลอุบายแล้ว วันที่ 8 มิ.ย.2558 จึงมีการโอนหุ้น 3 ตัวไปให้ น.ส.อุรชา มูลค่า 35,050,000 บาท หลังจากนั้นมีการโอนหุ้นให้ น.ส.ศรีธรา พรหมา มารดาของ น.ส.อุรชา ต่อมาวันที่ 22 มิ.ย. ยังมีการโอนหุ้นของนายชูวงษ์อีก 1 ตัว ให้แก่ น.ส.กัญฐณา ศิวาธนาพล หรือน้ำตาล จำนวน 9,500,000 หุ้น มูลค่า 228 ล้านบาท หลังเกิดเหตุพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม ดำเนินคดีต่อผู้ต้องหา, น.ส.อุรชา, น.ส.ศรีธรา และ น.ส.กัญฐณา ฐานร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม, ร่วมกันลักทรัพย์ หรือรับของโจร ซึ่งพนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้องคดีดังกล่าว ขณะนี้สำนวนอยู่ระหว่างการพิจารณาของอัยการ

โดยผู้ต้องหารู้ดีว่า ช่วงสิ้นเดือน มิ.ย.2558 บริษัทหลักทรัพย์จะต้องรายงานการโอนหุ้นให้นายชูวงษ์ทราบตามระเบียบ ผู้ต้องหาจึงวางแผนเอานายชูวงษ์ไปฆ่า เพื่อไม่ให้ล่วงรู้การกระทำของตนและเพื่อเอาหุ้นไป ซึ่งวันเกิดเหตุ ผู้ต้องหาออกอุบายขับรถไปหานายชูวงษ์ที่บริษัท และรับไปสนามกอล์ฟย่านบางนา หลังจากตีกอล์ฟและกินอาหาร ผู้ต้องหาวางแผนจะออกจากสถานที่เป็นคนสุดท้าย ซึ่งรับนายชูวงษ์นั่งโดยสารออกจากสนามกอล์ฟไปด้วยแล้วหยุดรถ พบกับพรรคพวกที่นัดหมายไว้ ซึ่งยังไม่ทราบว่าเป็นใคร แล้วก่อเหตุฆาตกรรมตามแผนที่วางไว้ โดยทำร้ายที่หน้าและศีรษะจนมีบาดแผลหลายแห่ง กระดูกคอหัก และบาดเจ็บที่ศีรษะด้านซ้ายอย่างรุนแรง ทำให้นายชูวงษ์ถึงแก่ความตาย ก่อนจะนำศพของนายชูวงษ์ไปนั่งที่เบาะด้านหน้าซ้ายในรถคันเกิดเหตุโดยไม่คาดเข็มขัดนิรภัย

จากนั้น ผู้ต้องหาขับรถคันเกิดเหตุไปตามเส้นทางที่วางไว้ที่ถนนบางนา-ตราด แล้วเข้ามาทางถนนกาญจนาภิเษก เลี้ยวเข้าถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 มุ่งหน้ามาทาง สวนหลวง ร.9 ทิศทางมุ่งหน้าไปยังบ้านพักนายชูวงษ์ เพื่อไม่ให้เป็นพิรุธ เมื่อถึงที่เกิดเหตุผู้ต้องหาได้ขับรถโดยเจตนาพุ่งเข้าชนต้นยูคาลิปตัส ห่างจากขอบทาง 43 เมตร สร้างสถานการณ์ว่าเป็นอุบัติเหตุรถชนต้นไม้ เพื่ออำพรางคดีว่านายชูวงษ์เสียชีวิต เพราะอุบัติเหตุ เหตุเกิดที่ริมถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ระหว่างซอย 48 กับซอย 50 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร (กทม.)

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องหาได้ที่ลานจอดรถหน้าอาคารทาวน์สแควร์ โรงแรมทอสคาน่า สวีท วัลเลย์ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา เวลา 09.40 น. แล้วแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อนเพื่อจะเอาผลประโยชน์ที่ตนได้กระทำผิดอื่น และเพื่อปกปิดความผิดอื่นของตนให้พ้นคดีอาญาในชั้นจับกุมและสอบสวน ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธโดยตลอด ศาลพิจารณาคำร้องแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้ตามคำร้อง

น.ส.วันเพ็ญ ธนธรรมสิริ พี่สาวของนายชูวงษ์ และนางศิริรัตน์ แซ่ตั๊ง ภรรยาของนายชูวงษ์ พร้อมด้วยนายเอนก คำชุ่ม ทนายความ ได้เดินทางมายังศาลจังหวัดพระโขนงด้วย เพื่อยื่นคำร้องต่อศาลขอคัดค้านการให้ประกันตัว พ.ต.ท.บรรยิน โดย น.ส.วันเพ็ญ พี่สาวของนายชูวงษ์ กล่าวว่า ส่วนตัวยังเชื่อว่า พ.ต.ท.บรรยินไม่ได้ก่อเหตุเพียงคนเดียว เนื่องจากลักษณะการเสียชีวิตและสภาพศพของนายชูวงษ์ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ โดยมั่นใจในพยานหลักฐานที่มอบให้ตำรวจจะสามารถนำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีได้ ส่วนคดีปลอมแปลงเอกสารการโอนหุ้นอยู่ระหว่างรอให้อัยการมีความเห็นสั่งฟ้อง

ต่อมาญาติของ พ.ต.ท.บรรยิน ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 2 ล้านบาท ขอปล่อยตัวชั่วคราว ศาลพิจารณาคำร้องและหลักทรัพย์แล้วมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างสู้คดี โดยตีราคาประกัน 2 ล้านบาท และให้มารายงานตัวทุก 12 วัน พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล

ขณะที่ พ.ต.ท.บรรยิน กล่าวยืนยันก่อนเดินทางออกจากกองปราบปรามว่า ตนเองไม่ได้มีความสัมพันธ์กับน.ส.อุรชา เพราะวันที่โดนจับกุม ไปตีกอล์ฟกันหลายคน รวมทั้ง น.ส.อุรชา ด้วย พร้อมกับท้าครอบครัวนายชูวงษ์ ให้ไปสาบานว่า นายชูวงษ์ ไม่เคยมีคนอื่นจริงหรือไม่ ส่วนสาเหตุที่พี่สาวของนายชูวงษ์ ออกมาระบุว่า นายชูวงษ์ ตายเพราะปมหุ้น 300 ล้าน ตนเองก็ได้นำชื่อของพี่สาวของนายชูวงษ์ มาร่วมลงทุนธุรกิจมูลค่า 1 ล้านด้วย เงินแค่ 300 ล้าน จะเป็นสาเหตุได้อย่างไร

อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.บรรยิน ได้ตั้งข้อสังเกตว่า คดีนี้ผ่านมาแล้ว 1 ปี แต่เพิ่งจะมาออกหมายจับตัวเอง หลังจากที่ครอบครัวนายชูวงษ์ ทำบุญครบรอบการเสียชีวิต 1 ปี เชื่อว่าน่าจะมีขบวนการดิสเครดิต

ด้าน พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.1บก.ป. กล่าวว่า ตำรวจได้รวบรวมหลักฐานที่มีความสำคัญในคดีที่สามารถหาได้ทั้งหมด และมีหลักฐานที่ชี้ถึงแค่ตัวพ.ต.ท.บรรยิน เพียงคนเดียว ส่วนจะมีผู้ต้องหารายอื่นหรือไม่ ต้องหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมก่อน และยืนยันว่า การทำคดีไม่ได้ล่าช้า เพราะหลังจากรับมอบคดีจาก สน.อุดมสุข กองปราบปรามต้องหาหลักฐานเพิ่มเติม และบางรายการต้องประสานขอจากหน่วยงานรัฐที่มีขั้นตอนยุ่งยากและล่าช้า และคดียังมีความซับซ้อน เกี่ยวข้องกับบุคคลสำคัญ จึงต้องทำด้วยความรอบคอบ
กำลังโหลดความคิดเห็น