แทบไม่อยากเชื่อสายตา!! ทันทีที่เห็นภาพคุณย่าสูงวัย “สง่า-ประภาสะวัต” คุณย่ารุ่นเดอะวัย 89 ปี หัวใจเปรี้ยวซ่า ออกทริปตะลุยแดนปลาดิบในคอนเซปต์ผ้าถุงสไตล์ กับหลานชายสุดที่รัก “ชายฝั่ง-ฝั่งนที ประภาสะวัต” ถึงกับสร้างความตะลึงงุนงงกันกระหน่ำโซเชียลฯ ถึงกำลังวังชาและความทะมัดทะแมงของเธอ ซึ่งนอกจากความแข็งแรงเกินวัยแล้ว เรื่องราวของคุณย่าและหลานชายยังเป็นที่ประทับใจใครหลายคนอีกด้วย. .
“ผมรู้สึกว่าถ้าเราซื้อทัวร์พาย่าไป ย่าจะแค่ได้ "ไปเที่ยว" แต่ถ้าย่าแบ็กแพกไปกับผม ย่าจะได้ "ไปใช้ชีวิตกับหลาน" ซึ่งแกก็คงชอบอย่างหลังมากกว่านะครับ”
ฟังดูแล้วอดยิ้มตามไม่ได้ถึงความรู้สึกประทับใจในมุมความน่ารักของย่ากับหลาน คุณชายฝั่งเริ่มเล่าให้เราฟังถึงเหตุผลที่อยากพาคุณย่าออกเดินทางในครั้งนี้
“จริงๆ ผมอยากพาแกเที่ยวมานานแล้วนะ แต่คุณย่าแกเป็นคนห่วงบ้าน ห่วงหมา ไปไหนนานๆ ก็จะรีบกลับ โดยส่วนตัวผมชอบแบคแพคอยู่แล้ว พอคุณย่ายอมตกลงมาด้วยเลยอยากให้แกสัมผัสชีวิตแบ็กแพกแบบวัยรุ่นซักครั้งดู ตอนที่แกยังเดินไหวคงจะเป็นโอกาสที่ดีที่สุดครับ”
เขาเล่าต่อว่าแทบไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย ทั้งที่เป็นการเดินทางไปต่างประเทศครั้งแรกของแบคแพคเกอร์สุดแซ่บคุณย่าสง่า แต่ด้วยประสบการณ์การท่องเที่ยวของเขา คงการันตีความชำนาญและทำให้การเดินทางครั้งนี้อุ่นใจไปได้มาก
“จริงๆ แทบไม่ได้เตรียมตัวเลยครับ แพลนก่อนมาคือ 1. มีตั๋ว 2. มีที่พัก 3. ไปไหนเดี๋ยวไว้ว่ากัน แพลนมีแค่นี้จริงๆ ครับ คุณย่าแข็งแรงอยู่แล้วแกออกสวนออกนาทุกวัน ที่บ้านผมค่อนข้างปล่อยให้แกลุยๆ นะครับ คนแก่นี่จะห่วงแล้วให้แกอยู่แต่ในบ้านแกจะเฉา แต่เราก็จะคอยดูไม่ให้ออกไปสวนคนเดียว”
ถึงตรงนี้อาจสงสัยว่าการเดินทางไปเที่ยวโดยมีผู้สูงอายุไปด้วย จะเป็นอุปสรรคและทำให้ความสนุกน้อยลงบ้างหรือเปล่า ด้วยช่องว่างระหว่างวัยที่ห่างกันเช่นนั้น อาจเป็นเหตุผลที่ใครหลายคนเลือกที่จะไปเที่ยวกับคนรุ่นราวคราวเดียวกันเสียมากกว่า
“ผมไม่ได้รู้สึกว่ามันยากนะ คือมันอาจจะไม่รวดเร็วเหมือนคนหนุ่มสาวเวลาเดิน เวลารีบขึ้นรถไฟ แต่ผมก็รู้สึกว่ามันสนุกไปอีกแบบ ได้เร่งย่าบอกว่า ย่ารถไฟมาแล้ว แล้วแกก็ขำๆ วิ่งๆ มา ผมว่ามันเป็นโมเมนต์ที่แกน่ารักดีนะ ให้เจอยังงี้ซะบ้างก็เป็นรสชาติชีวิตดีครับ แกเองก็สนุกกะเราไปด้วย”
ตลอดการสนทนาเราสัมผัสได้ถึงความรักและความสนิทสนมกันระหว่างคุณย่ากับหลานชาย ถือได้ว่าเป็นความประทับใจที่หาได้ยากในยุคสมัยนี้ ก่อนจะให้คุณชายฝั่งเล่าให้ฟังถึงช่วงเวลาพิเศษระหว่างกัน ซึ่งต้องบอกเลยว่าทำให้ผู้ฟังอย่างเรารู้สึกหัวใจพองโตไปกับความน่ารักได้อย่างไม่ต้องสงสัย
“แกเลี้ยงผมมาตั้งแต่เด็กครับ เลยสนิทกับคุณย่ามาก ย่ากับแม่นี่รักพอๆ กันเลย ผมไม่รู้ว่าแกจะอยู่กับเราอีกนานแค่ไหน ผมไม่ได้มีเงินเยอะมากแต่ผมก็ยินดีจะจ่ายทั้งหมดเพื่อพาแม่กับย่าเที่ยวไกลๆ ด้วยกันซักครั้งครับ เป็นไปได้ก็อยากพาแกไปอีกหลายๆ ที่
ถ้าถามว่าความภูมิใจหรือเหตุการณ์ประทับใจ ผมว่ามันเป็นทุกโมเมนต์ของชีวิตที่ได้อยู่กับย่านะ ขนาดผมโตแล้วทำงานแล้ว ตอนเช้าออกไปทำงานแกยังตื่นมาทำปิ่นโตให้ผมไปกินตอนกลางวันเลยครับ จะไม่รักได้ไง”
ความรู้สึกการไปเยือนแดนปลาดิบครั้งแรกของคุณย่าสง่า ดูแล้วน่าจะตื่นเต้นไม่เบา หลานชายเล่าให้ฟังถึงความรู้สึกของผู้เป็นย่า ผ่านแววตาที่อิ่มเอมไปด้วยความสุขระหว่างการนั่งรถไปตามสถานที่ต่างๆ ทั้งยังบอกอีกว่าทริปต่อไปพวกเขาจะไปตามล่าแสงเหนือด้วยกัน
“แกดูมีความสุขนะ เรื่องมาญี่ปุ่นคงเป็นเรื่องรอง ผมว่าแกดีใจที่ได้มากับหลานๆ มากกว่าครับ แกบอกว่าชอบดูไร่นาที่นี่ แกชอบสังเกตนู่นนี่ตลอดทางผ่าน เบาะบนรถไฟที่ปรับด้านนั่งได้แกก็แอบดูเขาทำแล้วเอามาเล่าให้คนอื่นฟัง ถ้าปีหน้าแกยังคงเดินไหว เจอกันที่สวิสเซอร์แลนด์ ตามด้วย นอร์เวย์ ไปตามล่าแสงเหนือแน่นอนครับ”
จริงอยู่ที่ยุคนี้ใครๆ ต่างกระหายการเดินทาง แบกกล้อง-สะพายเป้เที่ยวกันอย่างสนุกสนาน น้อยคนนักที่เลือกออกทริปกับคนในครอบครัว โดยเฉพาะกับผู้สูงอายุในบ้าน เขาเองก็เป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่หลงใหลในการเดินทาง แต่เหตุผลที่เขาพาคุณย่าไปเที่ยวด้วยนั้น มีเพียงอย่างเดียวเท่านั้นคือ ความกลัวที่ว่าทุกๆ อย่างอาจจะสายเกินไป
“เด็กรุ่นใหม่ชอบออกไปเที่ยว ออกไปท่องโลกกว้างกันเยอะนะครับ ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่ผมคิดเสมอว่าผมไม่สามารถมีวันนี้ได้เลยถ้าไม่มีคนในบ้านคอยสนับสนุนหรือเลี้ยงให้ผมเติบโตมา ถ้าคุณได้ไปเที่ยวตามใจปราถนาแล้ว อย่าลืมหันกลับมามองคนที่ทำให้คุณเติบโตครับ
วันนึงที่คุณไม่มีโอกาสได้ดูแลพวกเค้าแล้วคุณจะไม่เสียใจเลยที่ชีวิตหนึ่งเกิดมาได้ตอบแทนบุญคุณ ได้พาเขาทำอะไรที่เขาอยากทำ ยิ่งโดยเฉพาะเขาอยากทำแต่ไม่เคยมีโอกาสเคยได้ทำมาตลอดชีวิต”
ทิ้งท้ายกันด้วยคำพูดดีๆ ที่น่าคิดตามถึงเรื่องการหากิจกรรมทำร่วมกันกับคนในครอบครัว เขามองว่าผู้ใหญ่ในบ้านล้วนมีความเป็นเด็กในตัวเองเสมอ รอคอยการเอาใจใส่และความรักจากลูกหลาน และการได้ออกไปเที่ยว ไปใช้เวลาด้วยกัน คงเป็นเรื่องที่ดีที่จะช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างคนในครอบครัว เสมือนเป็นการเยียวยาและดูแลรักษาจิตใจคนในบ้านนั่นเอง
“นึกถึงตัวเองวันที่ออกเที่ยวเองครั้งแรกว่ามันตื่นเต้นแค่ไหน ไม่ต่างกับผู้ใหญ่ในบ้านหรอกครับ เขาเองก็ตื่นเต้นไม่แพ้เรา ส่วนใครที่อยากไปแต่กล้าๆ กลัวๆ อย่ากลัวจนแกไม่อยู่ให้เราพาไปนะครับ ลุยเลยรออะไร คนแก่ก็เหมือนกันครับ เขามีความเป็นเด็กในตัวเสมอ อยากชวนทุกคน พาท่านมา "ปล่อยแก่" ปลุกความเป็นเด็กในตัวเขากันครับ”
5 สิ่งที่ควรรู้..ก่อนพาผู้สูงอายุออกเที่ยว! ว่าด้วยเรื่องการพาผู้สูงอายุออกเดินทาง หลายคนอาจกำลังคิดหนัก ด้วยช่องว่างระหว่างวัยและอุปสรรคต่างๆ อาจเกรงว่าจะหมดสนุกกันหรือเปล่า คราวนี้ลองมาดูวิธีเตรียมตัวก่อนออกเดินทาง รับรองได้ว่าการไปเที่ยวกับผู้สูงอายุจะไม่หมดสนุกและไม่น่าเบื่ออย่างที่คิดแน่นอน 1. วางแผนการท่องเที่ยวให้แน่นอน กำหนดตารางการท่องเที่ยวไว้คร่าวๆ แจ้งให้ท่านทราบเพื่อเข้าใจว่ากินที่ไหน พักที่ไหน และจะทำอะไรบ้าง เพื่อง่ายต่อการเดินทางสำหรับผู้สูงอายุ 2. เลือกการเดินทางและสถานที่ให้เหมาะสม ผู้สูงอายุส่วนใหญ่มีปัญหาเรื่องสุขภาพ บางคนอาจเดินได้ในระยะทางสั้นๆ บางคนมีโรคประจำตัวที่ต้องระวัง จึงต้องวางแผนให้ดีสำหรับสถานที่ที่จะพาท่านไป เพื่อให้ทริปของคุณราบเรียบและมีแต่ความสุข 3. อุปกรณ์ต้องอย่าขาดมือ ยาประจำตัว ไม้เท้า รถเข็น ผ้าพันคอ พัดลมมือ หรืออุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้ระหว่างการไปเที่ยว ต้องเตรียมพร้อมให้ดีโดยเฉพาะการพกเบอร์โทรศัพท์โรงพยาบาลท้องถิ่นที่ไปท่องเที่ยวไว้ด้วย 4. ไม่ต้องเร่งรีบในการเที่ยว แน่นอนว่าผู้สูงอายุมักมีอาการเหนื่อยหอบง่าย ควรให้ท่านได้พักเป็นระยะๆ หมั่นแวะข้างทางให้ได้ยืดเส้นยืดสาย ที่สำคัญคุณต้องพูดคุยกับท่านด้วยความใจเย็นจะดีที่สุด 5. ระวังการพลัดหลง หากต้องไปในสถานที่ที่คนพลุพล่าน ควรนัดแนะกับผู้สูงอายุให้ดีว่าหากเกิดการพลัดหลงให้ไปรอที่จุดไหน หรือหากบางครอบครัวที่ผู้สูงอายุใช้เทคโนโลยีไม่ชำนาญ คุณอาจต้องเขียนชื่อ ที่อยู่ เบอร์ติดต่อติดไว้ในกระเป๋าท่านด้วยเพื่อความปลอดภัย |
เรื่องโดย : พิมพรรณ มีชัยศรี
ภาพประกอบ : Pro Go Go