วานนี้ (22มิ.ย.) นายสุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ในฐานะประธานอนุกรรมการด้านเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎหมายเพื่อส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ได้เชิญผู้แทนจากหน่วยงานรัฐและเอกชน ธนาคารแห่งประเทศไทย นักกฎหมาย นักวิชาการ และสื่อมวลชน ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับ ร่างกฎหมายชุดเศรษฐกิจดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม 3 ฉบับ ได้แก่ ร่าง แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 , ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และ ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ เพื่อรวบรวมข้อเท็จจริง จัดทำเป็นข้อเสนอแนะให้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นำไปปรับปรุงกฎหมาย เพิ่อให้เกิดการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมประชุม จากฝ่ายนักกฎหมาย นักวิชาการ และสื่อมวลชน ส่วนใหญ่ต่างแสดงความเป็นห่วงตรงกันว่า ชุดร่างกฎหมายดังกล่าว มุ่งจะควบคุมและจำกัดสิทธิประชาชน มากกว่าให้ความคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของบุคคล โดยเฉพาะ ร่าง แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ได้มีการเพิ่มอำนาจให้ รมว.ยุติธรรม ตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองข้อมูลคอมพิวเตอร์ ขึ้นมาทำหน้าที่เซ็นเซอร์ และลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ของประชาชน ที่ไม่เป็นความผิดต่อกฎหมายได้ รวมทั้งยังมีการจัดตั้งคณะกรรมการเปรียบเทียบปรับ มาทำหน้าที่แทนอำนาจศาล ตลอดจนการกำหนดฐานความผิดอย่างคลุมเครือ เช่น ความผิดฐานโพสต์ข้อมูลอันเป็นเท็จต่อความปลอดภัยสาธารณะ หรือความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ซึ่งไม่มีนิยามอยู่ในกฎหมาย
นายสุรเชษฐ์ กล่าวด้วยว่า ตนจะรีบรวบรวมความคิดเห็นจากทุกฝ่าย เพื่อนำเสนอให้รัฐบาลพิจารณา ภายใน 30 วันนี้
ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมประชุม จากฝ่ายนักกฎหมาย นักวิชาการ และสื่อมวลชน ส่วนใหญ่ต่างแสดงความเป็นห่วงตรงกันว่า ชุดร่างกฎหมายดังกล่าว มุ่งจะควบคุมและจำกัดสิทธิประชาชน มากกว่าให้ความคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของบุคคล โดยเฉพาะ ร่าง แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ได้มีการเพิ่มอำนาจให้ รมว.ยุติธรรม ตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองข้อมูลคอมพิวเตอร์ ขึ้นมาทำหน้าที่เซ็นเซอร์ และลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ของประชาชน ที่ไม่เป็นความผิดต่อกฎหมายได้ รวมทั้งยังมีการจัดตั้งคณะกรรมการเปรียบเทียบปรับ มาทำหน้าที่แทนอำนาจศาล ตลอดจนการกำหนดฐานความผิดอย่างคลุมเครือ เช่น ความผิดฐานโพสต์ข้อมูลอันเป็นเท็จต่อความปลอดภัยสาธารณะ หรือความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ซึ่งไม่มีนิยามอยู่ในกฎหมาย
นายสุรเชษฐ์ กล่าวด้วยว่า ตนจะรีบรวบรวมความคิดเห็นจากทุกฝ่าย เพื่อนำเสนอให้รัฐบาลพิจารณา ภายใน 30 วันนี้