ผู้จัดการรายวัน 360 - อดีตรองผู้ว่าฯ กปน. โดนตีท้ายทอยด้วยไม้เบสบอลดับในไซด์งานก่อสร้าง ย่านลาดกระบัง ตำรวจตั้งปมขัดแย้งธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง พร้อมเร่งสืบสวนไล่ล่าคนร้ายมาดำเนินคดี
วานนี้ (16 มิ.ย.) เวลา 11.30 น. ร.ต.อ.วัชรพงษ์ ศรีขน รองสว.(สอบสวน) สน.จรเข้น้อย รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกฆ่าเสียชีวิตภายในไซด์งานก่อสร้าง ริมถนนหลวงแพ่ง แขวงทับยาว เขตลาดกระบัง กทม. จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุอยู่ภายในตู้คอนเทนเนอร์ที่ดัดแปลงเป็นห้องทำงาน บนเนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ ของบริษัท เทรเชอร์ เอสเตท จำกัด ในตู้แรกพบศพนายวีรชาติ โอฬาพิริยกุล อายุ 62 ปี อดีตรองผู้ว่าการผลิตและส่งน้ำการประปานครหลวง ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาวิศวะกรในโครงการดังกล่าว และเป็นหุ้นส่วนระดับสูงในโครงการ ถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนตีด้วยไม้เบสบอลเข้าที่ท้ายทอยด้านหลังเป็นแผลฉกรรจ์ เสียชีวิตในจุดเกิดเหตุ
พล.ต.ต.ชัยพร พานิชอัตรา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3 (ผบก.น.3) กล่าวว่า จากการสอบสวนพยานแวดล้อม ก่อนเกิดเหตุช่วงเช้าที่ผ่านมา ผู้ตายได้ให้คนงานเข้าไปซ่อมคอมพิวเตอร์ในที่เกิดเหตุเป็นตู้คอนเทรนเนอร์ จากนั้นได้เรียกประชุมหัวหน้างานทั้งหมด หลังเลิกประชุมขณะที่หัวหน้างานเดินออกมา พบเห็นชาย 2 คน สูงประมาณ 160-165 ซม. เดินสวนเข้าไปทางประตูด้านหน้าไซด์งานและเดินตรงไปที่ห้องทำงานของผู้ตาย
จากนั้นเวลาประมาณ 08.30 น. หัวหน้างานได้เดินมาเคาะประตูห้อง ซึ่งเป็นกลอนลูกบิด แต่ถูกล็อคจากด้านใน จึงใช้กุญแจไขเข้าไปพบนายวีรชาติ เสียชีวิตจึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ โดยปกติแล้วผู้ตายจะเข้ามาตรวจโครงการที่ไซด์งานแห่งนี้เป็นประจำทุกวันพฤหัสบดี
พล.ต.ต.ชัยพร กล่าวต่อว่า ผู้เสียชีวิตมีบาดแผลที่ท้อง หน้าอกและท้ายทอย รวม 3 จุด โดยบาดแผลที่ท้ายทอยนั้นลักษณะยาวประมาณ 15 เซนติเมตร ตรวจสอบในตัวผู้ตาย พบทรัพย์สินยังอยู่ครบทั้งโทรศัพท์มือถือไอโฟน 6 เอส สร้อยคอทองคำพร้อมพระเลี่ยมทองและกระเป๋าสตางค์และพบอาวุธที่ใช้ก่อเหตุตกอยู่เป็นท่อนเหล็กแป๊ปยาว 2 ฟุตและไม้เบสบอล 1 อัน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้เก็บลายนิ้วมือเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เบื้องต้น ได้ตัดประเด็นฆ่าชิงทรัพย์ออกไป เหลือประเด็นความขัดแย้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว
จากการพูดคุยกับลูกชายผู้เสียชีวิตทราบว่า ครอบครัวนายวีรชาติ มีลูก 2 คนโดยลูกชายและผู้ตายพักอยู่ด้วยกัน ส่วนลูกสาวแยกไปอยู่คนละที่ โดยยืนยัน ในครอบครัวไม่ได้มีปัญหาความขัดแย้งใดๆ ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้ คาดว่าจะมีมากกว่า 1 คน โดยมีการพูดคุยกันก่อนที่จะลงมือก่อเหตุ ทั้งนี่ได้มุ่งประเด็นหลักคือ ความขัดแย้งเรื่องาน เพราะผู้ตายไม่ได้รับเหมางานด้านนี้ที่เดียว ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวน กก.สส.บก.น.3 และฝ่ายสืบสวน สน.จรเข้น้อย ลงพื้นที่สืบสวนแกะรอยคนร้ายแล้ว
วานนี้ (16 มิ.ย.) เวลา 11.30 น. ร.ต.อ.วัชรพงษ์ ศรีขน รองสว.(สอบสวน) สน.จรเข้น้อย รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกฆ่าเสียชีวิตภายในไซด์งานก่อสร้าง ริมถนนหลวงแพ่ง แขวงทับยาว เขตลาดกระบัง กทม. จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุอยู่ภายในตู้คอนเทนเนอร์ที่ดัดแปลงเป็นห้องทำงาน บนเนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ ของบริษัท เทรเชอร์ เอสเตท จำกัด ในตู้แรกพบศพนายวีรชาติ โอฬาพิริยกุล อายุ 62 ปี อดีตรองผู้ว่าการผลิตและส่งน้ำการประปานครหลวง ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาวิศวะกรในโครงการดังกล่าว และเป็นหุ้นส่วนระดับสูงในโครงการ ถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนตีด้วยไม้เบสบอลเข้าที่ท้ายทอยด้านหลังเป็นแผลฉกรรจ์ เสียชีวิตในจุดเกิดเหตุ
พล.ต.ต.ชัยพร พานิชอัตรา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3 (ผบก.น.3) กล่าวว่า จากการสอบสวนพยานแวดล้อม ก่อนเกิดเหตุช่วงเช้าที่ผ่านมา ผู้ตายได้ให้คนงานเข้าไปซ่อมคอมพิวเตอร์ในที่เกิดเหตุเป็นตู้คอนเทรนเนอร์ จากนั้นได้เรียกประชุมหัวหน้างานทั้งหมด หลังเลิกประชุมขณะที่หัวหน้างานเดินออกมา พบเห็นชาย 2 คน สูงประมาณ 160-165 ซม. เดินสวนเข้าไปทางประตูด้านหน้าไซด์งานและเดินตรงไปที่ห้องทำงานของผู้ตาย
จากนั้นเวลาประมาณ 08.30 น. หัวหน้างานได้เดินมาเคาะประตูห้อง ซึ่งเป็นกลอนลูกบิด แต่ถูกล็อคจากด้านใน จึงใช้กุญแจไขเข้าไปพบนายวีรชาติ เสียชีวิตจึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ โดยปกติแล้วผู้ตายจะเข้ามาตรวจโครงการที่ไซด์งานแห่งนี้เป็นประจำทุกวันพฤหัสบดี
พล.ต.ต.ชัยพร กล่าวต่อว่า ผู้เสียชีวิตมีบาดแผลที่ท้อง หน้าอกและท้ายทอย รวม 3 จุด โดยบาดแผลที่ท้ายทอยนั้นลักษณะยาวประมาณ 15 เซนติเมตร ตรวจสอบในตัวผู้ตาย พบทรัพย์สินยังอยู่ครบทั้งโทรศัพท์มือถือไอโฟน 6 เอส สร้อยคอทองคำพร้อมพระเลี่ยมทองและกระเป๋าสตางค์และพบอาวุธที่ใช้ก่อเหตุตกอยู่เป็นท่อนเหล็กแป๊ปยาว 2 ฟุตและไม้เบสบอล 1 อัน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้เก็บลายนิ้วมือเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เบื้องต้น ได้ตัดประเด็นฆ่าชิงทรัพย์ออกไป เหลือประเด็นความขัดแย้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว
จากการพูดคุยกับลูกชายผู้เสียชีวิตทราบว่า ครอบครัวนายวีรชาติ มีลูก 2 คนโดยลูกชายและผู้ตายพักอยู่ด้วยกัน ส่วนลูกสาวแยกไปอยู่คนละที่ โดยยืนยัน ในครอบครัวไม่ได้มีปัญหาความขัดแย้งใดๆ ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้ คาดว่าจะมีมากกว่า 1 คน โดยมีการพูดคุยกันก่อนที่จะลงมือก่อเหตุ ทั้งนี่ได้มุ่งประเด็นหลักคือ ความขัดแย้งเรื่องาน เพราะผู้ตายไม่ได้รับเหมางานด้านนี้ที่เดียว ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวน กก.สส.บก.น.3 และฝ่ายสืบสวน สน.จรเข้น้อย ลงพื้นที่สืบสวนแกะรอยคนร้ายแล้ว
