แทบจะทุกสัปดาห์ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถูกจัดวางให้ออกเดินสายจัดกิจกรรมทางการเมือง โดยสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เดินสายพบแฟนเพจเฟซบุ๊กที่จังหวัดแพร่ จนเกิดเรื่องเกิดราวเป็นข่าวใหญ่
เพราะไลน์กลุ่มผู้ช่วยนักบินสายการบินนกแอร์หลุด และเป็นไลน์ที่โพสต์ข้อความ “จัดหนัก” ให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ที่โดยสารสายการบินนกแอร์กลับจากแพร่ โดยผู้ช่วยนักบินที่โพสต์ข้อความ อาจไม่ชอบบทบาทของนางสาวยิ่งลักษณ์ จึงระบายอารมณ์ออกมา
แต่สายการบินนกแอร์ได้ออกมาแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ทำให้ปัญหาคลี่คลายลง
นายทักษิณ ชินวัตร และครอบครัว รวมทั้งพี่น้องเคยถูกแสดงการต่อต้านซึ่งหน้ามาแล้วแทบทั้งสิ้น เพราะสังคมไทยไม่ได้มีแต่คนเสื้อแดง ไม่ได้มีแต่คนที่หลงงมงายในพรรคเพื่อไทย แต่ยังมีประชาชนอีกจำนวนมากที่รู้ไส้รู้พุงนายทักษิณ และลูกสมุน
รู้ว่าคนในตระกูลชินวัตรสร้างหายนะอะไรไว้ในแผ่นดินบ้าง จึงเกิดความชิงชังฝังใจ เมื่อพบเห็นจึงแสดงออกถึงความไม่พอใจซึ่งหน้า เช่นเดียวกับไลน์กลุ่มผู้ช่วยนักบินที่จัดหนักให้ “ยิ่งลักษณ์”
แม้จะมีคนไม่ชอบขี้หน้าจำนวนมาก แม้รู้ว่า อาจต้องเจอกับการแสดงออกถึงการต่อต้านในกิจกรรม แต่คงไม่ทำให้นางสาวยิ่งลักษณ์ยกเลิกการเดินสายสร้างกิจกรรมทางการเมือง แต่จะเดินสายถี่ขึ้นและหนักขึ้น โดยไม่เกรงกลัวคำสั่งห้ามเคลื่อนไหวทางการเมืองของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
และไม่ต้องไว้หน้าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาด้วย
นายจตุพร พรหมพันธุ์ พร้อมหัวโจกเสื้อแดง กำลังเดินหน้าตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติ ขณะที่นางสาวยิ่งลักษณ์ เดินสายปลุกมวลชนคนเสื้อแดง
การจัดกิจกรรมทางการเมืองของนางสาวยิ่งลักษณ์และหัวโจกเสื้อแดง มีสื่อที่ก้มหัวรับใช้ทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงของตระกูลชินวัตร ประโคมข่าวอย่างเกาะติด ขณะที่สื่อทั่วไปแทบไม่ให้ความสนใจกับกิจกรรมของนางสาวยิ่งลักษณ์
นางสาวยิ่งลักษณ์จะเดินสายไปแสดง “ลิเก” ที่ไหน สื่อที่ไม่ได้เป็นขี้ข้ารับใช้ “ทักษิณ” แทบไม่มีพื้นที่ข่าวนำเสนอให้ อยากไปไหนก็เชิญ ไม่เสนอข่าวเสียอย่าง เพราะรู้กันอยู่แล้วว่า
พรรคเพื่อไทยกำลังจัดฉาก รู้กันอยู่ว่า แฟนเพจที่แห่มาหน้าสลอนต้อนรับนั้น เป็นมวลชนที่กวาดต้อนกันเข้ามาจากอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทยในพื้นที่
ประชาชนทั่วไป ถ้าไม่มีค่าจ้าง ไม่ถูกเกณฑ์มา ใครจะไปชื่นชม ใครหรือจะไปเสียเวลารอให้กำลังใจคนที่รอคำตัดสินลงโทษคดีโกงโครงการรับจำนำข้าว ทำให้ประเทศเสียหายหลายแสนล้านบาท
หัวโจกคนเสื้อแดงกำลังเคลื่อนไหวทางการเมืองคู่ขนานกับการเดินสายของนางสาวยิ่งลักษณ์ โดยเป้าหมายเพื่อปลุกระดมมวลชน เพื่อสร้างกระแสทางการเมือง และเป็นการส่งสัญญาณว่า พรรคเพื่อไทยได้รับใบสั่งให้รุกฆาตพล.อ.ประยุทธ์แล้ว
การตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติร่างรัฐธรรมนูญนั้น มีคำถามว่า การลงประชามติจะโกงกันตรงไหน โกงกันเพื่ออะไร เพราะไม่ว่าจะรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
พล.อ.ประยุทธ์คงไม่ลงจากหลังเสือง่ายอยู่ดี
และการเดินสายออกเยี่ยมแฟนเพจของนางสาวยิ่งลักษณ์นั้น มีคำถามถึงการมีอยู่จริงของแฟนเพจจำนวน 5 ล้านราย นอกจากนั้นการเดินสายยังเข้าข่ายการจัดกิจกรรมทางการเมือง ซึ่งฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ที่ห้ามเคลื่อนไหวทางการเมือง
การเคลื่อนไหวของหัวโจกเสื้อแดงและนางสาวยิ่งลักษณ์ จึงเป็นการท้าท้าย คสช.เป็นการ “ลองของ” กับพล.อ.ประยุทธ์
สำหรับนายจตุพรและหัวโจกเสื้อแดงที่กำลังตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติทั่ว ประเทศนั้น คสช.คงเล่นไม่ยาก เพราะถ้าก่อเรื่องสร้างความวุ่นวายมากเกินไป สามารถเล่นบทหนักยื่นศาลขอถอนประกันในคดีเผาบ้านเผาเมือง
ทำให้นายจตุพรและหัวโจกเสื้อแดงคนอื่น เดินคอตกเข้าคุกได้
ขอเตือนว่า “จตุพร” และหัวโจกเสื้อแดงระวังจะเข้าคุกเร็วกว่ากำหนด
แต่ที่ยังรอวัดใจพล.อ.ประยุทธ์อยู่ คือ กล้าเล่นงานนางสาวยิ่งลักษณ์ที่กำลังเดินสายปลุกระดมหรือไม่
ประชาชนทั่วไปไม่รู้สึกเดือดร้อนอะไรด้วยหรอก สำหรับกิจกรรมของนางสาวยิ่งลักษณ์ อยากไปจัดฉากที่ไหนก็ช่าง แต่คนที่เดือดร้อนคือพล.อ.ประยุทธ์
ถ้าทนให้ “ยิ่งลักษณ์” ลอยหน้าลอยตา เดินสายเยาะเย้ยถากถาง ท้าทายอำนาจ พล.อ.ประยุทธ์ก็ก้มหน้าก้มตาทนไปแล้วกัน
การเคลื่อนไหวของนางสาวยิ่งลักษณ์และหัวโจกเสื้อแดง ประชาชนไม่มีส่วนได้เสียอะไร นอกจากรอดูฤทธิ์เดชของลูกสมุน “ทักษิณ” และรอดูว่าพล.อ.ประยุทธ์จะทำอย่างไรเท่านั้น
อย่าหวังว่าประชาชนเชียร์ฝ่ายใด เพราะระหว่างคนเสื้อแดงกับรัฐบาลเสื้อเขียว ตอนนี้แทบไม่มี
อะไรแตกต่างกันสักเท่าไหร่
เพราะไลน์กลุ่มผู้ช่วยนักบินสายการบินนกแอร์หลุด และเป็นไลน์ที่โพสต์ข้อความ “จัดหนัก” ให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ที่โดยสารสายการบินนกแอร์กลับจากแพร่ โดยผู้ช่วยนักบินที่โพสต์ข้อความ อาจไม่ชอบบทบาทของนางสาวยิ่งลักษณ์ จึงระบายอารมณ์ออกมา
แต่สายการบินนกแอร์ได้ออกมาแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ทำให้ปัญหาคลี่คลายลง
นายทักษิณ ชินวัตร และครอบครัว รวมทั้งพี่น้องเคยถูกแสดงการต่อต้านซึ่งหน้ามาแล้วแทบทั้งสิ้น เพราะสังคมไทยไม่ได้มีแต่คนเสื้อแดง ไม่ได้มีแต่คนที่หลงงมงายในพรรคเพื่อไทย แต่ยังมีประชาชนอีกจำนวนมากที่รู้ไส้รู้พุงนายทักษิณ และลูกสมุน
รู้ว่าคนในตระกูลชินวัตรสร้างหายนะอะไรไว้ในแผ่นดินบ้าง จึงเกิดความชิงชังฝังใจ เมื่อพบเห็นจึงแสดงออกถึงความไม่พอใจซึ่งหน้า เช่นเดียวกับไลน์กลุ่มผู้ช่วยนักบินที่จัดหนักให้ “ยิ่งลักษณ์”
แม้จะมีคนไม่ชอบขี้หน้าจำนวนมาก แม้รู้ว่า อาจต้องเจอกับการแสดงออกถึงการต่อต้านในกิจกรรม แต่คงไม่ทำให้นางสาวยิ่งลักษณ์ยกเลิกการเดินสายสร้างกิจกรรมทางการเมือง แต่จะเดินสายถี่ขึ้นและหนักขึ้น โดยไม่เกรงกลัวคำสั่งห้ามเคลื่อนไหวทางการเมืองของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
และไม่ต้องไว้หน้าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาด้วย
นายจตุพร พรหมพันธุ์ พร้อมหัวโจกเสื้อแดง กำลังเดินหน้าตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติ ขณะที่นางสาวยิ่งลักษณ์ เดินสายปลุกมวลชนคนเสื้อแดง
การจัดกิจกรรมทางการเมืองของนางสาวยิ่งลักษณ์และหัวโจกเสื้อแดง มีสื่อที่ก้มหัวรับใช้ทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงของตระกูลชินวัตร ประโคมข่าวอย่างเกาะติด ขณะที่สื่อทั่วไปแทบไม่ให้ความสนใจกับกิจกรรมของนางสาวยิ่งลักษณ์
นางสาวยิ่งลักษณ์จะเดินสายไปแสดง “ลิเก” ที่ไหน สื่อที่ไม่ได้เป็นขี้ข้ารับใช้ “ทักษิณ” แทบไม่มีพื้นที่ข่าวนำเสนอให้ อยากไปไหนก็เชิญ ไม่เสนอข่าวเสียอย่าง เพราะรู้กันอยู่แล้วว่า
พรรคเพื่อไทยกำลังจัดฉาก รู้กันอยู่ว่า แฟนเพจที่แห่มาหน้าสลอนต้อนรับนั้น เป็นมวลชนที่กวาดต้อนกันเข้ามาจากอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทยในพื้นที่
ประชาชนทั่วไป ถ้าไม่มีค่าจ้าง ไม่ถูกเกณฑ์มา ใครจะไปชื่นชม ใครหรือจะไปเสียเวลารอให้กำลังใจคนที่รอคำตัดสินลงโทษคดีโกงโครงการรับจำนำข้าว ทำให้ประเทศเสียหายหลายแสนล้านบาท
หัวโจกคนเสื้อแดงกำลังเคลื่อนไหวทางการเมืองคู่ขนานกับการเดินสายของนางสาวยิ่งลักษณ์ โดยเป้าหมายเพื่อปลุกระดมมวลชน เพื่อสร้างกระแสทางการเมือง และเป็นการส่งสัญญาณว่า พรรคเพื่อไทยได้รับใบสั่งให้รุกฆาตพล.อ.ประยุทธ์แล้ว
การตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติร่างรัฐธรรมนูญนั้น มีคำถามว่า การลงประชามติจะโกงกันตรงไหน โกงกันเพื่ออะไร เพราะไม่ว่าจะรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
พล.อ.ประยุทธ์คงไม่ลงจากหลังเสือง่ายอยู่ดี
และการเดินสายออกเยี่ยมแฟนเพจของนางสาวยิ่งลักษณ์นั้น มีคำถามถึงการมีอยู่จริงของแฟนเพจจำนวน 5 ล้านราย นอกจากนั้นการเดินสายยังเข้าข่ายการจัดกิจกรรมทางการเมือง ซึ่งฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ที่ห้ามเคลื่อนไหวทางการเมือง
การเคลื่อนไหวของหัวโจกเสื้อแดงและนางสาวยิ่งลักษณ์ จึงเป็นการท้าท้าย คสช.เป็นการ “ลองของ” กับพล.อ.ประยุทธ์
สำหรับนายจตุพรและหัวโจกเสื้อแดงที่กำลังตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติทั่ว ประเทศนั้น คสช.คงเล่นไม่ยาก เพราะถ้าก่อเรื่องสร้างความวุ่นวายมากเกินไป สามารถเล่นบทหนักยื่นศาลขอถอนประกันในคดีเผาบ้านเผาเมือง
ทำให้นายจตุพรและหัวโจกเสื้อแดงคนอื่น เดินคอตกเข้าคุกได้
ขอเตือนว่า “จตุพร” และหัวโจกเสื้อแดงระวังจะเข้าคุกเร็วกว่ากำหนด
แต่ที่ยังรอวัดใจพล.อ.ประยุทธ์อยู่ คือ กล้าเล่นงานนางสาวยิ่งลักษณ์ที่กำลังเดินสายปลุกระดมหรือไม่
ประชาชนทั่วไปไม่รู้สึกเดือดร้อนอะไรด้วยหรอก สำหรับกิจกรรมของนางสาวยิ่งลักษณ์ อยากไปจัดฉากที่ไหนก็ช่าง แต่คนที่เดือดร้อนคือพล.อ.ประยุทธ์
ถ้าทนให้ “ยิ่งลักษณ์” ลอยหน้าลอยตา เดินสายเยาะเย้ยถากถาง ท้าทายอำนาจ พล.อ.ประยุทธ์ก็ก้มหน้าก้มตาทนไปแล้วกัน
การเคลื่อนไหวของนางสาวยิ่งลักษณ์และหัวโจกเสื้อแดง ประชาชนไม่มีส่วนได้เสียอะไร นอกจากรอดูฤทธิ์เดชของลูกสมุน “ทักษิณ” และรอดูว่าพล.อ.ประยุทธ์จะทำอย่างไรเท่านั้น
อย่าหวังว่าประชาชนเชียร์ฝ่ายใด เพราะระหว่างคนเสื้อแดงกับรัฐบาลเสื้อเขียว ตอนนี้แทบไม่มี
อะไรแตกต่างกันสักเท่าไหร่