นายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษกกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (วิป สปท.) แถลงผลการประชุม วิปสปท.ว่า ที่ประชุมได้พิจารณารายงานปฏิรูป ของคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม จำนวน 2 เรื่อง คือการวางแนวทางมาตรฐานการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ และการปฏิรูปทนายความอาสา ทนายความขอแรง และ ที่ปรึกษากฎหมายของเด็ก หรือเยาวชน โดยในการปฏิรูปแนวทางการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจนั้น เป็นการดำเนินการเพื่อให้การพิจารณาแต่งตั้งฯ เป็นไปด้วยความโปร่งใส เป็นธรรม สามารถตรวจสอบได้ ซึ่งจะเป็นหลักประกันความมั่นคงในการทำงาน
ทั้งนี้ ทางคณะกรรมาธิการฯ ได้วางหลักเกณฑ์เอาไว้คือ หากมีการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจในระดับตำแหน่งตั้งแต่ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขึ้นไป ให้เรียงตามลำดับอาวุโส และหากมีการแต่งตั้งฯ ตั้งแต่ระดับสารวัตรขึ้นไป ถึงผู้บัญชาการ ให้พิจารณาเรียงตามลำดับอาวุโส ประกอบ กับความรู้ ความสามารถ และความประพฤติ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 และ ร้อยละ 30 ก็ให้พิจารณาในหลักเกณฑ์เดียวกัน ยกเว้นแต่จะมีเหตุผลและความจำเป็น ให้ข้ามลำดับอาวุโสได้ โดยจะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) โดยจะมีการพิจารณารายงานการปฏิรูปดังกล่าว ในการประชุม สปท.วันที่ 13 มิ.ย.นี้ ส่วนเรื่องการปฏิรูปทนายความอาสาฯนั้น จะมีการบรรจุเป็นระเบียบวาระการประชุม ในวันที่ 20 มิ.ย. ทั้งนี้ การปฏิรูปทั้ง 2 เรื่อง สอดคล้องกับเนื้อหาในร่างรัฐธรรมนูญฯ มาตรา 258
ทั้งนี้ ทางคณะกรรมาธิการฯ ได้วางหลักเกณฑ์เอาไว้คือ หากมีการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจในระดับตำแหน่งตั้งแต่ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขึ้นไป ให้เรียงตามลำดับอาวุโส และหากมีการแต่งตั้งฯ ตั้งแต่ระดับสารวัตรขึ้นไป ถึงผู้บัญชาการ ให้พิจารณาเรียงตามลำดับอาวุโส ประกอบ กับความรู้ ความสามารถ และความประพฤติ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 และ ร้อยละ 30 ก็ให้พิจารณาในหลักเกณฑ์เดียวกัน ยกเว้นแต่จะมีเหตุผลและความจำเป็น ให้ข้ามลำดับอาวุโสได้ โดยจะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) โดยจะมีการพิจารณารายงานการปฏิรูปดังกล่าว ในการประชุม สปท.วันที่ 13 มิ.ย.นี้ ส่วนเรื่องการปฏิรูปทนายความอาสาฯนั้น จะมีการบรรจุเป็นระเบียบวาระการประชุม ในวันที่ 20 มิ.ย. ทั้งนี้ การปฏิรูปทั้ง 2 เรื่อง สอดคล้องกับเนื้อหาในร่างรัฐธรรมนูญฯ มาตรา 258