จากเด็กชายผู้เกิดมาพร้อมกับความบกพร่อง สู่การเป็นเชพดังที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ทว่าชีวิตของเขาล้มลุกคลุกคลานมาตลอดเส้นทาง ความฝันที่ยิ่งใหญ่บอกกับเขาว่าไม่ให้ยอมแพ้ นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นเส้นทางของเชฟที่โด่งดังระดับโลก และยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นๆ ให้ลุกขึ้นมาทำในสิ่งที่ฝันเอาไว้อีกด้วย
Jamie Oliver เด็กชายผู้เกิดมาพร้อมกับโรค Dyslexia ซึ่งคือโรคที่มีความบกพร่องในการอ่าน นั่นจึงทำให้เป็นอุปสรรคอย่างมากต่อการเรียนรู้ของเขา ทว่าหัวใจของเขาไม่เคยก้มหัวให้กับความบกพร่องที่ได้มาอย่างไม่ยินดี เขาค้นพบว่าตัวเองชอบทำอาหารและสนุกไปกับมัน อาจเป็นเพราะพ่อแม่ของเขามีร้านอาหารเล็กๆ จึงทำให้เขาได้ฝึกฝีมือเข้าครัวอยู่บ่อยๆ
แน่นอนว่าความฝันของเขาต้องเกี่ยวข้องกับการทำอาหารแน่ๆ หลังเรียนจบเขาจึงเริ่มเดินตามเส้นทางฝันด้วยการสมัครเป็นเชพตามร้านอาหารต่างๆ จึงทำให้ความฝันของเขาเริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา
ทว่าในปี 1997 ความโชคดีเข้ามาเยือนเขาถึงครัว เมื่อผู้จัดของ BBC มองเห็นแววของเขาหลังจากที่ได้ออกทีวีช่วงสั้นๆ ในรายการทำอาหาร ด้วยสไตล์และความโดดเด่นของเชฟหนุ่มคนนี้ที่ต่างกับผู้อื่น จึงทำให้ความสามารถของเขาเข้าตาทาง BBC และได้ชักชวนเขามาทำรายการด้วยกัน
รายการ The Naked Chef ทำให้เขาดังชั่วข้ามคืน และรายการอาหารอื่นๆ ต่างทาบทามให้เขาไปออกรายการด้วย เขาได้กลายเป็นเชฟที่รวยที่สุดในโลก โดยนิตยสาร Forbes ประมาณทรัพย์สินของเขาไว้มากกว่า 10,000 ล้านบาทเชียวล่ะ
ไม่เพียงเท่านั้น Jamie Oliver ยังมีบทบาทในการช่วยขับเคลื่อนการเปลี่ยนอาหารโรงเรียนในอังกฤษให้ดีต่อสุขภาพของเด็กๆ มากขึ้น รวมถึงในประเทศอเมริกาด้วย รวมถึงโครงการ Fifteen ซึ่งมีการนำเอาเด็กที่ด้อยโอกาส เข้ามาฝึกในร้านอาหารของเขา เพื่อให้มีความสามารถและมีโอกาสในการทำงานได้นั่นเอง
ถึงแม้โรค Dyslexia จะเล่นงานเข้าหนัก และทำให้เขามีอุปสรรคในด้านการอ่าน โดยหนังสือเล่มแรกที่เขาอ่านจบคือเรื่อง The Hunger Games ตอนอายุ 38 ปี นั่นไม่ทำให้เขายอมแพ้ต่อความบกพร่องได้เลย และมันก็ไม่อาจหยุดยั้งการเรียนรู้ของเขา ในปัจจุบันนี้ Jamie Oliver มีร้านอาหารเป็นของตัวเองมากกว่า 50 ร้าน และยังมีการทำหนังสืออาหารมากมายวางอยู่ในท้องตลาดอีกด้วย
อ้างอิงข้อมูล http://www.jamieoliver.com/