วานนี้ (2มิ.ย.) ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช.เป้นประธานในพิธี มอบโล่รางวัลเกษตรกร และสถาบันเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2559 เนื่องในวันข้าวและชาวนาแห่งชาติ ประจำปี 2559
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวตอนหนึ่งว่า รัฐบาลชุดนี้ยืนยันว่า จะให้การดูแลเกษตรกร โดยเฉพาะชาวนาอย่างจริงจัง และแก้ไขปัญหาให้ได้มากที่สุด ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ทรงห่วงใยชาวนาอย่างมาก โดยเฉพาะปัญหาเรื่องน้ำ ภัยแล้งต่างๆในช่วงที่ผ่านมา และทรงรับสั่งให้รัฐบาลได้ดูแลดีเป็นพิเศษ ซึ่งพวกเราทุกคนก็น้อมรับในพระกระแสรับสั่ง และพระมหากรุณาธิคุณดังกล่าว โดยทุกพระองค์ไม่เคยทอดทิ้งประชาชน และขอให้ชาวนาทุกคนตระหนักว่า เราเป็นกระดูกสันหลังของชาติ ซึ่งรัฐบาลก็ทำทุกอย่าง ทั้งฝนเทียม สวดมนต์ขอให้ฝนตก
"วันนี้รัฐบาลพยายามแกะปมปัญหาของประเทศ เหมือนเชือกที่เป็นปม ซึ่งประเทศไทยมีลักษณะของเชือกที่เป็นปม ไม่รู้กี่ร้อยปม มัดรวมเป็นกลุ่มใหญ่ รัฐบาลนี้พยายามที่จะแก้ปมที่เกิดขึ้นอยู่ วันนี้ขอให้ชาวนาทุกคนเป็นชาวนาที่ เฉลียวฉลาด หรือสมาร์ทฟาร์มเมอร์ อย่าให้ใครมาหลอก และสามารถรองรับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ อย่าให้กลับไปเป็นแบบเดิม ที่ทุกอย่างมีแต่ความขัดแย้ง รายได้ไม่เพียงพอ ไม่มีเกียรติยศศักดิ์ศรี ทั้งหมดอยู่ที่การบริหารประเทศภายใต้อำนาจที่ประชาชนได้มอบไป เมื่อมอบอำนาจให้ไปแล้ว ประชาชนทุกคนต้องเป็นผู้กำหนดได้ว่า เขาจะต้องทำอะไรให้กับเรา ไม่ใช่ให้มาชี้นำ ให้ทำตาม แล้วถึงจะได้รับผลประโยชน์ ที่ผ่านมาประเทศไทยมองปัญหาเป็นเสี้ยวๆ รัฐบาลที่ผ่านมาแก้ปัญหาแบบง่ายดี คือแก้เสี้ยวนี้ เสี้ยวนี้จบ ปีหน้าก็กลับมาใหม่ วนเวียน และติดกับดักอยู่อย่างนี้ การพัฒนาอย่างอื่นก็ทำไม่ได้ เพราะติดกับดักตรงนี้ " พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกฯ ยังกล่าวถึงปัญหาความผิดพลาดของรัฐบาลที่ผ่านมาในเรื่องข้าว ถือว่าผ่านไปแล้ว ต้องเริ่มใหม่ อย่าให้รัฐบาลซื้อมาเก็บแบบเดิมอีก เพราะส่งผลให้ตลาดผันผวน ราคาข้าวตก วันนี้ข้าวที่มีอยู่ต้องเก็บบางส่วน ขายบางส่วน แต่ก็กลัวว่าที่ขายจะราคาถูกเกินไป แต่หนี้สินที่รัฐบาลต้องใช้หลายแสนล้าน จะทำอย่างไร ก็ต้องมีการฟ้องร้อง เพื่อหาผู้รับผิดชอบ เพราะวิธีการนำงบประมาณรัฐไปโปะ บางอันมากเกินไปไม่ได้ ก็ต้องรับผิดชอบกันมา ได้ไม่ได้ ไม่รู้ ศาลจะเป็นผู้ตัดสิน
"ผมไม่ได้รังแกใครทั้งสิ้น อาจจะเป็นเจตนาดี แต่วิธีการไม่เหมาะสม อะไรทำนองนี้ ก็ไปว่ากันมา วัตถุประสงค์ของผม คือทำอย่างไรไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก" นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกฯ ยังกล่าวถึง ปัญหาขาดแคลนน้ำ ปัญหาการบุกรุกทำลายป่ากลายเป็นเขาหัวโล้น ที่ผ่านมาหลายคนไปปลูกป่า แล้วก็ตาย เพราะไม่มีร่มเงา เอากล้าไม้เล็กไปปลูก รดน้ำออกทีวีกันใหญ่โต ผ่านไปสองวันต้นไม้แห้งหมด น้ำไม่มี จะปลูกทำไม เขาต้องปลูกกันหน้าฝน ต้นไม้ถ้าเอาไปปลูกบนเขาต้อง 2 เมตร ถึงจะรอด ไม่ใช่เอาต้นแค่คืบเดียวไปปลูก ก็ตายหมด เสียเวลา ต้องช่วยกันทำความเข้าใจ ใครจะไปปลูกบอกเขาด้วย ไม่ใช่แค่ปลูกแล้วถ่ายรูปสวยงาม เสียเงิน เสียแรงงาน แถมทำอากาศเสียอีก ขึ้นไปปลูกเป็นพันเป็นหมื่นคน หายใจเอาของเสียออกมา นอกจากไม่เกิดป่า ยังไปปล่อยแก๊สเสียอีก แต่ได้ภาพหล่อสวย โดยปีนี้ได้สั่งให้นำต้นไม้ที่โตเร็วไปปลูก เพื่อให้เกิดร่มเงา ก่อนปลูกป่า
ในช่วงท้าย นายกฯ ได้เปิดโอกาสให้เกษตรกรได้สอบถามข้อสงสัย โดยนายทวีศักดิ์ วีระศักดิ์ นายกสมาคมชาวนาเศรษฐกิจพอเพียง กล่าวว่า อยากให้นายกฯ ใช้ ม.44 ช่วยปลดหนี้ให้กับเกษตรกรทั้งประเทศ ซึ่งชาวนาทั้งประเทศมีหนี้ 150,000 ล้านบาท โดยนายกฯ กล่าวว่า มีหลายกองทุนที่กำลังขับเคลื่อนอยู่ ก็ต้องทยอยกันไป แต่เรามีงบประมาณทั้งประเทศ 200,000 ล้านบาท วันนี้หนี้กระจายไปหมด ทั้งหนี้สินชาวนา ชาวไร่ ชาวสวน ยังไม่นับรวมหนี้ครูอีก 4 ล้านล้าน ถ้าจะต้องปลดหนี้ให้หมด คงไม่ต้องไปทำอะไรกันแล้ว ปิดประเทศไป 5–10 ปี หากินเอาเอง มันก็ทำไม่ได้ ซึ่งชาวนาเองก็ต้องมีการใช้จ่ายที่เหมาะสม ต้องเป็นหนี้ที่เป็นประโยชน์ และมีคุณค่า เช่นการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวตอนหนึ่งว่า รัฐบาลชุดนี้ยืนยันว่า จะให้การดูแลเกษตรกร โดยเฉพาะชาวนาอย่างจริงจัง และแก้ไขปัญหาให้ได้มากที่สุด ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ทรงห่วงใยชาวนาอย่างมาก โดยเฉพาะปัญหาเรื่องน้ำ ภัยแล้งต่างๆในช่วงที่ผ่านมา และทรงรับสั่งให้รัฐบาลได้ดูแลดีเป็นพิเศษ ซึ่งพวกเราทุกคนก็น้อมรับในพระกระแสรับสั่ง และพระมหากรุณาธิคุณดังกล่าว โดยทุกพระองค์ไม่เคยทอดทิ้งประชาชน และขอให้ชาวนาทุกคนตระหนักว่า เราเป็นกระดูกสันหลังของชาติ ซึ่งรัฐบาลก็ทำทุกอย่าง ทั้งฝนเทียม สวดมนต์ขอให้ฝนตก
"วันนี้รัฐบาลพยายามแกะปมปัญหาของประเทศ เหมือนเชือกที่เป็นปม ซึ่งประเทศไทยมีลักษณะของเชือกที่เป็นปม ไม่รู้กี่ร้อยปม มัดรวมเป็นกลุ่มใหญ่ รัฐบาลนี้พยายามที่จะแก้ปมที่เกิดขึ้นอยู่ วันนี้ขอให้ชาวนาทุกคนเป็นชาวนาที่ เฉลียวฉลาด หรือสมาร์ทฟาร์มเมอร์ อย่าให้ใครมาหลอก และสามารถรองรับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ อย่าให้กลับไปเป็นแบบเดิม ที่ทุกอย่างมีแต่ความขัดแย้ง รายได้ไม่เพียงพอ ไม่มีเกียรติยศศักดิ์ศรี ทั้งหมดอยู่ที่การบริหารประเทศภายใต้อำนาจที่ประชาชนได้มอบไป เมื่อมอบอำนาจให้ไปแล้ว ประชาชนทุกคนต้องเป็นผู้กำหนดได้ว่า เขาจะต้องทำอะไรให้กับเรา ไม่ใช่ให้มาชี้นำ ให้ทำตาม แล้วถึงจะได้รับผลประโยชน์ ที่ผ่านมาประเทศไทยมองปัญหาเป็นเสี้ยวๆ รัฐบาลที่ผ่านมาแก้ปัญหาแบบง่ายดี คือแก้เสี้ยวนี้ เสี้ยวนี้จบ ปีหน้าก็กลับมาใหม่ วนเวียน และติดกับดักอยู่อย่างนี้ การพัฒนาอย่างอื่นก็ทำไม่ได้ เพราะติดกับดักตรงนี้ " พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกฯ ยังกล่าวถึงปัญหาความผิดพลาดของรัฐบาลที่ผ่านมาในเรื่องข้าว ถือว่าผ่านไปแล้ว ต้องเริ่มใหม่ อย่าให้รัฐบาลซื้อมาเก็บแบบเดิมอีก เพราะส่งผลให้ตลาดผันผวน ราคาข้าวตก วันนี้ข้าวที่มีอยู่ต้องเก็บบางส่วน ขายบางส่วน แต่ก็กลัวว่าที่ขายจะราคาถูกเกินไป แต่หนี้สินที่รัฐบาลต้องใช้หลายแสนล้าน จะทำอย่างไร ก็ต้องมีการฟ้องร้อง เพื่อหาผู้รับผิดชอบ เพราะวิธีการนำงบประมาณรัฐไปโปะ บางอันมากเกินไปไม่ได้ ก็ต้องรับผิดชอบกันมา ได้ไม่ได้ ไม่รู้ ศาลจะเป็นผู้ตัดสิน
"ผมไม่ได้รังแกใครทั้งสิ้น อาจจะเป็นเจตนาดี แต่วิธีการไม่เหมาะสม อะไรทำนองนี้ ก็ไปว่ากันมา วัตถุประสงค์ของผม คือทำอย่างไรไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก" นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกฯ ยังกล่าวถึง ปัญหาขาดแคลนน้ำ ปัญหาการบุกรุกทำลายป่ากลายเป็นเขาหัวโล้น ที่ผ่านมาหลายคนไปปลูกป่า แล้วก็ตาย เพราะไม่มีร่มเงา เอากล้าไม้เล็กไปปลูก รดน้ำออกทีวีกันใหญ่โต ผ่านไปสองวันต้นไม้แห้งหมด น้ำไม่มี จะปลูกทำไม เขาต้องปลูกกันหน้าฝน ต้นไม้ถ้าเอาไปปลูกบนเขาต้อง 2 เมตร ถึงจะรอด ไม่ใช่เอาต้นแค่คืบเดียวไปปลูก ก็ตายหมด เสียเวลา ต้องช่วยกันทำความเข้าใจ ใครจะไปปลูกบอกเขาด้วย ไม่ใช่แค่ปลูกแล้วถ่ายรูปสวยงาม เสียเงิน เสียแรงงาน แถมทำอากาศเสียอีก ขึ้นไปปลูกเป็นพันเป็นหมื่นคน หายใจเอาของเสียออกมา นอกจากไม่เกิดป่า ยังไปปล่อยแก๊สเสียอีก แต่ได้ภาพหล่อสวย โดยปีนี้ได้สั่งให้นำต้นไม้ที่โตเร็วไปปลูก เพื่อให้เกิดร่มเงา ก่อนปลูกป่า
ในช่วงท้าย นายกฯ ได้เปิดโอกาสให้เกษตรกรได้สอบถามข้อสงสัย โดยนายทวีศักดิ์ วีระศักดิ์ นายกสมาคมชาวนาเศรษฐกิจพอเพียง กล่าวว่า อยากให้นายกฯ ใช้ ม.44 ช่วยปลดหนี้ให้กับเกษตรกรทั้งประเทศ ซึ่งชาวนาทั้งประเทศมีหนี้ 150,000 ล้านบาท โดยนายกฯ กล่าวว่า มีหลายกองทุนที่กำลังขับเคลื่อนอยู่ ก็ต้องทยอยกันไป แต่เรามีงบประมาณทั้งประเทศ 200,000 ล้านบาท วันนี้หนี้กระจายไปหมด ทั้งหนี้สินชาวนา ชาวไร่ ชาวสวน ยังไม่นับรวมหนี้ครูอีก 4 ล้านล้าน ถ้าจะต้องปลดหนี้ให้หมด คงไม่ต้องไปทำอะไรกันแล้ว ปิดประเทศไป 5–10 ปี หากินเอาเอง มันก็ทำไม่ได้ ซึ่งชาวนาเองก็ต้องมีการใช้จ่ายที่เหมาะสม ต้องเป็นหนี้ที่เป็นประโยชน์ และมีคุณค่า เช่นการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
