xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.รุกขอประชุมพรรค อ้างสมาชิกที่บวชจะวืดลงเลือกตั้ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ คสช.และรัฐบาล มีมติยกเลิกการห้ามบุคคลออกนอกประเทศนั้น นับว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้องเหมาะสม ที่คสช. ตัดสินใจยกเลิก เพราะจะทำให้คนในสังคมมีความรู้สึกผ่อนคลายขึ้น ยิ่งขณะนี้อยู่ในช่วงเวลาการทำประชามติว่าจะรับ หรือไม่รับ ร่างรธน.อยู่ด้วย ย่อมช่วยทำให้เกิดบรรยากาศดีขึ้น
อย่างไรก็ดี ทาง คสช.และรัฐบาล ควรจะต่อยอดบรรยากาศเช่นนี้ ให้มีคุณูปการต่อการทำประชามติ และการเดินตามโรดแมปด้วยการใช้อำนาจในทางบริหารจัดการทำให้เกิดบรรยากาศในทางสร้างสรรค์มากยิ่งขึ้น
นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คนที่ 2กล่าวถึง กรณี คสช.ปลดล็อก ให้นักการเมืองที่ไม่มีคดีติดตัวเดินทางออกนอกประเทศได้ว่า ไม่ใช่นักการเมืองอย่างเดียว มีทั้งนักวิชาการ หรือคนที่ถูกเรียกไปรายงานตัว ตั้งแต่ยึดอำนาจใหม่ๆ ตนเคยหารือกับครม. ในการประชุมแม่น้ำ 5 สายคราวก่อน บอกพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช. ว่า บางคน บางกรณี น่าจะผ่อนผันให้ เพราะเวลาผ่านไป 2 ปีแล้ว ซึ่งเชื่อว่าการปลดล็อกจะเป็นเรื่องที่ดี อีกเรื่องที่เสนอนายกฯ คือ คนที่ถูกมาตรา 44 สั่งพักราชการ ถูกสอบสวน บุคคลใดที่ยืนยันได้ว่าไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ก็ควรปลดล็อกให้เขา
เมื่อถามว่า ถึงเวลาที่คสช. จะปลดล็อกให้พรรคการเมือง ประชุมกันได้หรือยัง นายพีระศักดิ์ กล่าวว่า ตอนนี้ประเด็นสำคัญอยู่ในช่วงการทำประชามติ บรรยากาศยังอ่อนไหวไม่น่าให้รวมกลุ่มกันได้ พ.ร.บ.ประชามติ ค่อนข้างเข้มงวดด้วย หากเข้าข่ายกระทำผิดอีก จะไปกันใหญ่ ควรรอบรรยากาศให้ดีกว่านี้ก่อน ค่อยมาทบทวนอีกครั้ง
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ หากนักวิชาการที่ถูกปลดล็อก จะไปวิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญที่ต่างประเทศ นายพีระศักดิ์ กล่าวว่า ต้องไม่ลืมว่า คสช. ก็ยังอยู่ อำนาจ มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราวยังอยู่ คนใดที่มีเจตนาแบบนั้น ก็ออกคำสั่งใหม่ได้ทันที อย่างที่บอกไว้คือ ควรจำกัดเฉพาะบุคคลที่ล่อแหลม ไม่ใช่เหวี่ยงแหไปเหมือนตอนแรก
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี นายพีระศักดิ์ พอจิต เห็นด้วยกับคสช. และรัฐบาล ที่ยังไม่อนุญาตให้พรรคการเมืองจัดกิจกรรมทางการเมืองว่า ที่พรรคการเมืองเรียกร้องให้ปลดล็อกให้พรรคการเมืองสามารถทำกิจกรรมทางการเมืองต่างๆได้นั้น มีหลายสาเหตุ ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์หลังการปฏิวัติยึดอำนาจอดีต ส.ส.หลายคนได้ไปบวช ซึ่งตามระเบียบข้อบังคับพรรคถือว่า ได้ขาดจากการเป็นสมาชิกพรรคไปแล้วโดยปริยาย ซึ่งมีหลายคน เมื่อคสช.ยังไม่เปิดช่องในเรื่องเหล่านี้ ก็ทำให้กังวลว่า เมื่อถึงเวลาให้พรรคการเมืองสามารถ ทำกิจกรรมได้ มันจะกระชั้นชิดกับช่วงเวลาเตรียมการเลือกตั้ง คนเหล่านี้อาจจะสมัครกลับมาเป็นสมาชิกพรรคไม่ทันตามห้วงระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด
ทั้งนี้ หากคสช.ยังไม่สะดวกที่จะคลายล็อกให้พรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมในช่วงนี้ได้ ก็ขอให้คำนึงถึงข้อเท็จจริงในเรื่องเหล่านี้ด้วย หรือหากกลัวว่าปลดล็อกแล้วพรรคการเมืองจะมีการประชุมหารือ ทำในสิ่งที่ผิดกฎหมาย หรือขัดคำสั่ง คสช. ตนรับรองว่าในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีแน่นอน โดยเฉพาะเรากำลังเดินเข้าสู่เส้นทางประชาธิปไตย ก็ควรจะปลดล็อกตรงนี้ เพื่อสร้างบรรยากาศ และส่งเสริมระบอบประชาธิปไตยที่ถูกต้อง
" เวลานี้ สปท.หรือ สนช. ต่างแข่งขันกันเชียร์รัฐบาลมาก เมื่อคนเชียร์มากแต่ละคนก็ต้องพยายามส่งเสียงดัง หรือเชียร์ให้ดังกว่าคนอื่นเพื่อที่จะเข้าตาคสช. ผมอยากบอกว่า อย่าเชียร์เขามาก เพราะเขาอาจจะคิดว่าสิ่งที่ทำมาทั้งหมดนั้นถูกต้อง หรือทำถูกหมด ยิ่งเชลียร์กันแบบตะพึดตะพือไม่ลืมหูลืมตาอย่างนี้ ก็อาจจะทำให้คสช.หลงทางได้ ซึ่งไม่เป็นผลดีกับใคร แต่เข้าใจได้ว่าคนประเภทนี้มีในทุกยุคสมัย เหมือนกับเห็ดที่ออกดอกในหน้าฝน" นายนิพิฏฐ์ กล่าว
นางอังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) กล่าวว่า สิ่งที่ประชาชนร้องเรียนมากในขณะนี้ก็คือ ประเด็นสิทธิการแสดงความคิดเห็น โดยเฉพาะช่วงการทำประชามติร่างรธน. เนื่องจากกลุ่มชาวบ้านทั่วไปยังไม่มีความเข้าใจร่างรธน.ดังนั้นส่วนตัวคิดว่ารัฐบาลควรผ่อนปรน และเปิดโอกาสให้ประชาชนได้ถกแถลงร่างรธน.เพราะจะเป็นการให้ความรู้กับประชาชน
กำลังโหลดความคิดเห็น