วานนี้ (25พ.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. พร้อมด้วย พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ เดินทางไปปฏิบัติราชการ ที่ จ.นครราชสีมา เพื่อติดตามการแก้ปัญหาภัยแล้ง และการบริหารจัดการน้ำ จ.นครราสีมา
ทั้งนี้ นายกฯพร้อมคณะ ได้เดินทางไปที่ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย โดยมี นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครรราชสีมา และข้าราชการ ให้การต้อนรับ และไดัเข้าร่วมประชุมหัวหน้าส่วนราชการ และกรมชลประทาน เพื่อมอบนโยบายและรับฟังการบรรยายสรุป จากหัวหน้าส่วนจังหวัดนครราชสีมา และกรมชลประทาน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การมาครั้งนี้ ไม่ได้มาอย่างเป็นทางการ แต่ต้องการมาพบปะประชาชน มาขอดูเรื่องการบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำมูล ที่รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณลงมาจำนวนหนึ่งแล้ว ซึ่งคิดว่ายังไม่เพียงพอ จึงต้องหารือกันว่าจะทำอย่างไรต่อไป เพราะในปีหน้าทุกภาคส่วนจะต้องเร่งรัดให้เกิดผลต่อประชาชนให้ได้มากที่สุด สิ่งที่เป็นโครงการระยะยาว อาจจะต้องปรับบางส่วน เพราะต้องให้เกิดผลโดยเร็วต่อประชาชน ทั้งปัจจัยการผลิต การควบคุมการผลิต การตลาด ซึ่งต้องดูทั้งต้นทาง กลางทาง ปลายทาง และต้องดูการแปรรูป เพิ่มมูลค่า สร้างนวัตกรรมไปสู่การตลาดทั้งในและนอกพื้นที่ ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ ต้องเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อให้สอดรับกันในเรื่องของการทำงาน โดยเฉพาะการบริหารจัดการน้ำ
"ดังนั้นอะไรที่รัฐบาลสามารถสนับสนุนให้ได้เพิ่มเติม ผมจะรับไปพิจารณา และนำเข้าสู่การหารือของครม. แต่ทั้งหมดจะต้องคำนึงถึงความเร่งด่วนก่อนหลัง อะไรที่ประชาชนจะได้รับผลประโยชน์เร็วที่สุดก็จะทำให้ก่อน" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ต่อมา นายกฯได้เป็นประธานสักขีพยานในการมอบหนังสืออนุญาตให้ราษฎรทำกินตามโครงการคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ มอบหนังสืออนุญาตป่าเศรษฐกิจชุมชน และมอบพันธุ์กุ้ง พันธุ์ปลาตะเพียนให้รับราษฎรด้วย
นายกฯยังกล่าวถึงช่วง 2 ปีที่เข้ามาทำงานว่า หลักใหญ่อยู่ที่การขจัดความขัดแย้งซึ่งจะต้องพยายามทำให้ได้
"ถ้ายุติไม่ได้ วันนี้ก็ยังเป็นประเทศที่รบกันอยู่ เพราะมันเตรียมจะรบกันอยู่แล้ว ประชาชนรบกันเอง ถ้าผมไม่เข้ามา แล้วมารบกันเองใครจะเป็นคนหยุด อันนี้แหละคือประเด็น ถ้ามันเกิดขึ้นอีก จะทำยังไง ท่านมาคิดให้ผม ไม่ว่าจะเรื่องประชามติ การเลือกตั้ง อะไรก็แล้วแต่ ท่านต้องคิดเอง ต้องเรียนรู้ว่าเราจะอยู่กันยังไง และที่ผ่านมามันเกิดอะไรขึ้น ต้องแยกแยะกันให้ได้ เราต้องพัฒนาประเทศเราร่วมกันอย่างจริงจัง มีทางเลือกของตัวเอง ของครอบครัว เลือกอาชีพ เลือกดำรงชีวิต" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ทั้งนี้ นายกฯพร้อมคณะ ได้เดินทางไปที่ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย โดยมี นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครรราชสีมา และข้าราชการ ให้การต้อนรับ และไดัเข้าร่วมประชุมหัวหน้าส่วนราชการ และกรมชลประทาน เพื่อมอบนโยบายและรับฟังการบรรยายสรุป จากหัวหน้าส่วนจังหวัดนครราชสีมา และกรมชลประทาน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การมาครั้งนี้ ไม่ได้มาอย่างเป็นทางการ แต่ต้องการมาพบปะประชาชน มาขอดูเรื่องการบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำมูล ที่รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณลงมาจำนวนหนึ่งแล้ว ซึ่งคิดว่ายังไม่เพียงพอ จึงต้องหารือกันว่าจะทำอย่างไรต่อไป เพราะในปีหน้าทุกภาคส่วนจะต้องเร่งรัดให้เกิดผลต่อประชาชนให้ได้มากที่สุด สิ่งที่เป็นโครงการระยะยาว อาจจะต้องปรับบางส่วน เพราะต้องให้เกิดผลโดยเร็วต่อประชาชน ทั้งปัจจัยการผลิต การควบคุมการผลิต การตลาด ซึ่งต้องดูทั้งต้นทาง กลางทาง ปลายทาง และต้องดูการแปรรูป เพิ่มมูลค่า สร้างนวัตกรรมไปสู่การตลาดทั้งในและนอกพื้นที่ ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ ต้องเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อให้สอดรับกันในเรื่องของการทำงาน โดยเฉพาะการบริหารจัดการน้ำ
"ดังนั้นอะไรที่รัฐบาลสามารถสนับสนุนให้ได้เพิ่มเติม ผมจะรับไปพิจารณา และนำเข้าสู่การหารือของครม. แต่ทั้งหมดจะต้องคำนึงถึงความเร่งด่วนก่อนหลัง อะไรที่ประชาชนจะได้รับผลประโยชน์เร็วที่สุดก็จะทำให้ก่อน" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ต่อมา นายกฯได้เป็นประธานสักขีพยานในการมอบหนังสืออนุญาตให้ราษฎรทำกินตามโครงการคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ มอบหนังสืออนุญาตป่าเศรษฐกิจชุมชน และมอบพันธุ์กุ้ง พันธุ์ปลาตะเพียนให้รับราษฎรด้วย
นายกฯยังกล่าวถึงช่วง 2 ปีที่เข้ามาทำงานว่า หลักใหญ่อยู่ที่การขจัดความขัดแย้งซึ่งจะต้องพยายามทำให้ได้
"ถ้ายุติไม่ได้ วันนี้ก็ยังเป็นประเทศที่รบกันอยู่ เพราะมันเตรียมจะรบกันอยู่แล้ว ประชาชนรบกันเอง ถ้าผมไม่เข้ามา แล้วมารบกันเองใครจะเป็นคนหยุด อันนี้แหละคือประเด็น ถ้ามันเกิดขึ้นอีก จะทำยังไง ท่านมาคิดให้ผม ไม่ว่าจะเรื่องประชามติ การเลือกตั้ง อะไรก็แล้วแต่ ท่านต้องคิดเอง ต้องเรียนรู้ว่าเราจะอยู่กันยังไง และที่ผ่านมามันเกิดอะไรขึ้น ต้องแยกแยะกันให้ได้ เราต้องพัฒนาประเทศเราร่วมกันอย่างจริงจัง มีทางเลือกของตัวเอง ของครอบครัว เลือกอาชีพ เลือกดำรงชีวิต" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว