วานนี้ (25พ.ค.) คณะกรรมการการเลือกตั้งได้จัดงาน "Kick Off 7 สิงหาประชามติร่วมใจ ประชาธิปไตยมั่นคง" เพื่อประชาสัมพันธ์ สร้างความรู้ ความเข้าใจร่วมกัน เกี่ยวกับกระบวนการและขั้นตอนการออกเสียงประชามติ รวมทั้งกระตุ้นให้ผู้มีสิทธิออกเสียงเกิดการตื่นตัวและเห็นความสำคัญของการออกมาใช้สิทธิออกเสียง ในวันอาทิตย์ที่ 7 ส.ค. โดยมีตัวแทนจากปลัดกระทรวงทุกกระทรวง ผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ ภาคประชาชน และภาคเอกชน เข้าร่วมงานคับคั่ง
นายศุภชัย สมเจริญ ประธานกกต. กล่าวตอนหนึ่งระหว่างเปิดงานว่า รัฐธรรมนูญ 2557 และ พ.ร.บ.ออกเสียงประชามติ กำหนดให้กกต. มีหน้าที่เกี่ยวกับจัดการพิมพ์ร่างรธน. และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์การออกเสียงประชามติ กิจกรรมครั้งนี้จึงเป็นการจุดประกายให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม โดยเวลาที่เหลืออีก 74 วัน กกต. มีความพร้อมในทุกด้าน ซึ่งในวันเดียวกันนี้ กกต.จะได้จัดส่งร่างรธน.และเอกสารที่เกี่ยวข้อง 1 แสนชุด ให้กับกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)
"ขอเน้นย้ำให้ผู้มีสิทธิออกเสียงทุกคนศึกษารายละเอียดของร่างรธน. และประเด็นคำถามเพิ่มเติมด้วยความรอบคอบ ขอให้เตรียมตัวให้พร้อมอย่าให้ใครชี้นำ 7 สิงหาคม อนาคตอยู่ในมือทุกคน"
ทั้งนี้ นายศุภชัย ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณที่บ่งชี้ว่าจะไม่มีการทำประชามติเกิดขึ้น หรือมีปัญหาที่จะนำไปสู่การล้มประชามติ หากวันออกเสียงประชามติมีกลุ่มบุคคลไปขัดขวาง กฎหมายก็เปิดช่องให้กกต. สามารถสั่งเลื่อนการออกเสียงในหน่วยออกเสียงนั้น ๆ ได้
ส่วนกรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน รอหนังสือชี้แจงจาก กกต.ว่า พ.ร.บ.ประชามติ มาตรา 61 วรรคสอง วรรคสี่ เข้าข่ายขัดรธน.หรือไม่ ขณะนี้สำนักกฎหมายของกกต. กำลังทำเรื่่องชี้แจงอยู่ คงจะส่งไปยังผู้ตรวจฯได้ทันวันที่ 1 มิ.ย. อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวเห็นว่า 2 มาตราดังกล่าว ไม่ขัดรธน. ก่อนตราเป็นกฎหมาย สนช.คงดูดีแล้ว
ด้านนายประวิช รัตนเพียร กกต.ด้านกิจการการมีส่วนร่วม เชื่อว่าการทำประชามติ จะมีผู้ออกมาใช้สิทธิ์กว่า 80% มากกว่าการทำประชามติร่างรธน.ปี 50 ที่มีประชาชนออกมาใช้สิทธิ์เพียง 57% พร้อมยืนยันว่าเจ้าหน้าที่กกต. เข้าใจหน้าที่ในการรณรงค์ เชิญชวนประชาชนไปออกเสียงประชามติ ส่วนการชี้แจงเนื้อหาสาระเป็นหน้าที่ของกรธ. ทุกคนไม่มีสิทธิ์ไปชี้นำ หรือรณรงค์ให้รับ หรือไม่รับร่างรธน. และสำหรับผู้ที่ต้องการลงคะแนนเสียงล่วงหน้า หรือนอกเขตภูมิลำเนาของตน สามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ของกกต.ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในงาน มีการเปิดตัวเพลงรณรงค์การออกเสียงประชามติ “7 สิงหา ประชามติร่วมใจ ประชาธิปไตยมั่นคง” ที่แต่งโดย นายประยงค์ ชื่นเย็น ศิลปินแห่งชาติ และขับร้องโดยศิลปินเพลงชื่อดัง ด้วยสำเนียงท้องถิ่น 4 ภาค ประกอบด้วย ภาคเหนือ ขับร้องโดย อาราดา พรหมพฤกษ์ (หลิว อาจารียา) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขับร้องโดย ก้องหล้า ยอดจำปา (ก้อง ห้วยไร่) ภาคกลาง ขับร้องโดย พรพิมล เฟื่องฟุ้ง (เปาวลี) ภาคใต้ ขับร้องโดย พันจ่าอากาศเอก วีรยุทธิ์ นานช้า (บ่าววี) เพื่อสื่อให้คนไทยทุกคนมีส่วนร่วมในการออกเสียงประชามติครั้งประวัติศาสตร์ นี้ รวมทั้งมีการปล่อยขบวนรถของบริษัทไปรษณีย์ไทยจำนวน 7 คน ที่บรรทุกเอกสารร่างรธน. และเอกสารที่เกี่ยวข้อง 1 แสนชุด ไปยังอาคารรัฐสภา เพื่อส่งมอบให้กับ กรธ.และ สนช.ใช้ประชาสัมพันธ์ต่อไป
นายศุภชัย สมเจริญ ประธานกกต. กล่าวตอนหนึ่งระหว่างเปิดงานว่า รัฐธรรมนูญ 2557 และ พ.ร.บ.ออกเสียงประชามติ กำหนดให้กกต. มีหน้าที่เกี่ยวกับจัดการพิมพ์ร่างรธน. และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์การออกเสียงประชามติ กิจกรรมครั้งนี้จึงเป็นการจุดประกายให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม โดยเวลาที่เหลืออีก 74 วัน กกต. มีความพร้อมในทุกด้าน ซึ่งในวันเดียวกันนี้ กกต.จะได้จัดส่งร่างรธน.และเอกสารที่เกี่ยวข้อง 1 แสนชุด ให้กับกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)
"ขอเน้นย้ำให้ผู้มีสิทธิออกเสียงทุกคนศึกษารายละเอียดของร่างรธน. และประเด็นคำถามเพิ่มเติมด้วยความรอบคอบ ขอให้เตรียมตัวให้พร้อมอย่าให้ใครชี้นำ 7 สิงหาคม อนาคตอยู่ในมือทุกคน"
ทั้งนี้ นายศุภชัย ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณที่บ่งชี้ว่าจะไม่มีการทำประชามติเกิดขึ้น หรือมีปัญหาที่จะนำไปสู่การล้มประชามติ หากวันออกเสียงประชามติมีกลุ่มบุคคลไปขัดขวาง กฎหมายก็เปิดช่องให้กกต. สามารถสั่งเลื่อนการออกเสียงในหน่วยออกเสียงนั้น ๆ ได้
ส่วนกรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน รอหนังสือชี้แจงจาก กกต.ว่า พ.ร.บ.ประชามติ มาตรา 61 วรรคสอง วรรคสี่ เข้าข่ายขัดรธน.หรือไม่ ขณะนี้สำนักกฎหมายของกกต. กำลังทำเรื่่องชี้แจงอยู่ คงจะส่งไปยังผู้ตรวจฯได้ทันวันที่ 1 มิ.ย. อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวเห็นว่า 2 มาตราดังกล่าว ไม่ขัดรธน. ก่อนตราเป็นกฎหมาย สนช.คงดูดีแล้ว
ด้านนายประวิช รัตนเพียร กกต.ด้านกิจการการมีส่วนร่วม เชื่อว่าการทำประชามติ จะมีผู้ออกมาใช้สิทธิ์กว่า 80% มากกว่าการทำประชามติร่างรธน.ปี 50 ที่มีประชาชนออกมาใช้สิทธิ์เพียง 57% พร้อมยืนยันว่าเจ้าหน้าที่กกต. เข้าใจหน้าที่ในการรณรงค์ เชิญชวนประชาชนไปออกเสียงประชามติ ส่วนการชี้แจงเนื้อหาสาระเป็นหน้าที่ของกรธ. ทุกคนไม่มีสิทธิ์ไปชี้นำ หรือรณรงค์ให้รับ หรือไม่รับร่างรธน. และสำหรับผู้ที่ต้องการลงคะแนนเสียงล่วงหน้า หรือนอกเขตภูมิลำเนาของตน สามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ของกกต.ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในงาน มีการเปิดตัวเพลงรณรงค์การออกเสียงประชามติ “7 สิงหา ประชามติร่วมใจ ประชาธิปไตยมั่นคง” ที่แต่งโดย นายประยงค์ ชื่นเย็น ศิลปินแห่งชาติ และขับร้องโดยศิลปินเพลงชื่อดัง ด้วยสำเนียงท้องถิ่น 4 ภาค ประกอบด้วย ภาคเหนือ ขับร้องโดย อาราดา พรหมพฤกษ์ (หลิว อาจารียา) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขับร้องโดย ก้องหล้า ยอดจำปา (ก้อง ห้วยไร่) ภาคกลาง ขับร้องโดย พรพิมล เฟื่องฟุ้ง (เปาวลี) ภาคใต้ ขับร้องโดย พันจ่าอากาศเอก วีรยุทธิ์ นานช้า (บ่าววี) เพื่อสื่อให้คนไทยทุกคนมีส่วนร่วมในการออกเสียงประชามติครั้งประวัติศาสตร์ นี้ รวมทั้งมีการปล่อยขบวนรถของบริษัทไปรษณีย์ไทยจำนวน 7 คน ที่บรรทุกเอกสารร่างรธน. และเอกสารที่เกี่ยวข้อง 1 แสนชุด ไปยังอาคารรัฐสภา เพื่อส่งมอบให้กับ กรธ.และ สนช.ใช้ประชาสัมพันธ์ต่อไป
