xs
xsm
sm
md
lg

ศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง"ชวนนท์"ไม่ผิด แถลงข่าว"ปู"ว.5โฟร์ซีซั่นส์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ (25พ.ค.) ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีหมายเลขดำ 2492/2556 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา
ตามฟ้องโจทก์ เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 56 บรรยายพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 19 - 21 ก.พ. 55 จำเลยให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน หลายฉบับ ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ ทำนองว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไม่เข้าประชุมสภา แต่เอาเวลาไปทำธุรกิจส่วนตัว หารือกับกลุ่มคนย่อย พูดเรื่องสำคัญของประเทศถือเป็นความเสียหายอย่างยิ่ง ซึ่งสื่อมวลชนนำคำสัมภาษณ์ไปตีพิมพ์หัวข้อข่าว ปชป.ไหลตามน้ำ - ซัดปูทับซ้อน ว่าการพบปะกันระหว่างนายกฯ กับกลุ่มนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ น่าจะสอดคล้องกับที่กรมธนารักษ์ เลื่อนการปรับราคาที่ดินใหม่...นี่คือ ใบเสร็จทุจริตเชิงนโยบาย และผลประโยชน์ทับซ้อน ซึ่งทำให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้รับความเสียหาย โดยบุคคลอื่นเข้าใจว่ามีพฤติการณ์ทุจริต และประพฤติมิชอบ เอื้อประโยชน์กับกลุ่มนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยอาศัยอำนาจในฐานะนายกรัฐมนตรี ซึ่งไม่เป็นความจริง จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามกฎหมาย และให้ยึดทำลายเอกสารที่มีข้อความแสดงการหมิ่นประมาท รวมทั้งให้จำเลยโฆษณาคำพิพากษาด้วยอย่างน้อย 7 ฉบับ เป็นเวลา 7 วัน ขณะที่จำเลยให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ยกฟ้อง เนื่องจากพิเคราะห์แล้วพยานโจทก์นำสืบทำนองว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ร่วมประชุมกับนักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ โดยมีนายเศรษฐา ทวีสิน นายอนันต์ อัศวโภคิน และบุคคลอื่นๆ รวม 5 คน เพื่อรับฟังข้อเสนอแนะเกี่ยวกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ แม้ในการประชุมดังกล่าว จะไม่เป็นความลับ แต่ก็ไม่เปิดเผยในรายละเอียด โดยขณะนั้นโจทก์ร่วม และครม. ได้เลื่อนประกาศการปรับโครงสร้างการประเมินราคาที่ดิน และการปรับผังเมืองการใช้ที่ดิน
ที่โจทก์อ้างว่าเป็นเพียงการรับฟังความคิดเห็นด้านธุรกิจนั้น ยังมีข้อสงสัยว่า ทำไมจึงเป็นการประชุมกันเพียงกลุ่มย่อย ซึ่งเรื่องดังกล่าวถือว่า เป็นเรื่องที่มีความสำคัญต่อประเทศ แต่กลับไม่มีการประชุมร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย อีกทั้งการประชุมดังกล่าว ก็เป็นความลับไม่เปิดเผยต่อบุคคลภายนอก จึงทำให้เป็นที่สงสัยของฝ่ายจำเลย ในฐานะโฆษกพรรคปชป. ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ซึ่งแม้จำเลยพิสูจน์เรื่องดังกล่าวไม่ได้ และข้อความที่จำเลยแถลงข่าวนั้น อาจหมิ่นประมาทก็ตาม แต่การที่จำเลยแถลงข่าวมีลักษณะเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติ เพื่อตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ดังนั้น จึงยังไม่เป็นความผิดให้ยกฟ้อง
ต่อมาโจทก์ได้ยื่นอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนปรึกษาหารือกันแล้ว คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า การกระทำของจำเลยเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต ติชมด้วยความเป็นธรรมหรือไม่
เห็นว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ โจทก์ร่วมเป็น ส.ส. พรรคเพื่อไทย และดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นบุคคลที่ประชาชน และสื่อมวลชนให้ความสนใจ ติดตามพฤติกรรม และย่อมวิพากษ์วิจารณ์ได้ ซึ่งนายชวนนท์ จำเลยเบิกความว่า ก่อนเหตุเกิดคดีนี้ ทางราชการมีประกาศเลื่อนการประเมินที่ดินใหม่ และเลื่อนการประกาศผังเมืองใหม่ออกไปจากกำหนดเดิม ในช่วงวันที่ 9 - 19 ก.พ.55 และ นายเอกยุทธ์ อัญชันบุตร ได้ออกมาเปิดเผยว่าโจทก์ร่วม ได้ไปพบกับนักธุรกิจหลายคน ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ จำเลยในฐานะโฆษกพรรคปชป. ซึ่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาตรวจสอบ พบว่าในวันเกิดเหตุเป็นวันประชุมสภาฯ สมัยสามัญนิติบัญญัติ แต่โจทก์ร่วมไม่เข้าร่วมประชุม แต่กลับไปหารือกับกลุ่มนักธุรกิจ
ทั้งนี้ นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ผู้รับมอบอำนาจโจทก์ร่วม เบิกความตอบทนายความจำเลยถามค้าน โดยรับว่าการนัดหมายกับกลุ่มนักธุรกิจ ของโจทก์ร่วมดังกล่าวไม่ได้แจ้งให้สื่อมวลชนทราบ นอกจากนี้ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง พยานโจทก์ร่วม เบิกความว่านักธุรกิจที่เข้าร่วมพูดคุยมีนายอนันต์ อัศวโภคิน นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ระดับประเทศ นายเศรษฐา ทวีสิน นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และคนอื่นเข้าร่วมประชุมเพียง 5 คน
ดังนั้น การที่จำเลยในฐานะโฆษกพรรคปชป. ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน มีหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของโจทก์ร่วมในฐานะนายกรัฐมนตรี ขณะนั้น ซึ่งเป็นเพียงการตั้งข้อสงสัยว่า มีการนำความลับเกี่ยวกับราคาประเมินที่ดิน หรือผังเมืองไปเปิดเผย หรือไม่เท่านั้น และไม่ใช่กรณีที่จำเลยสร้างเรื่องขึ้นมาเอง ซึ่งเป็นการแสดงความคิดเห็น ติชม และวิพากษ์วิจารณ์ โดยไม่ได้ยืนยันข้อเท็จจริง การกระทำของจำเลย จึงได้รับยกเว้นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329 (3) ที่ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องมานั้น ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย พิพากษายืน
กำลังโหลดความคิดเห็น