ผู้จัดการรายวัน360-"บิ๊กต๊อก"ไฟเขียวดีเอสไอ บุกจับ "ธัมมชโย" ได้ถึงวัด หากไม่มามอบตัวภายในวันนี้ ย้ำยึดกฎหมาย ไม่ต้องหวาดกลัว ใครกลัวลาออกไป ดีเอสไอย้ำวันนี้คือเส้นตาย ด้านลูกศิษย์ปรับแผนอุ้มหลวงพ่อ บุกแพทยสภาร้องขอให้ส่งทีมแพทย์ไปตรวจที่วัด อ้างเพื่อให้เกิดความชัดเจน สังคมจะได้เลิกกังขา โฆษกวัดพระธรรมกายระบุ ณ ตอนนี้ ก็ยังอาพาธอยู่ ทนายโผล่ถามวงเงินประกันตัว ดีเอสไอตั้งไว้ที่ 5 ล้านบาท ด้าน"พระไพศาล" จี้ "สมเด็จช่วง" สั่งให้พักงาน เชื่อไม่กล้า
พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยถึงกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ออกหมายจับพระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ว่า หากไม่มารับทราบข้อกล่าวหาฐานสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงินและรับของโจร ภายในวันที่ 26 พ.ค.2559 ตามที่นัดหมายไว้ เจ้าหน้าที่ต้องเข้าไปจับกุมที่วัด ซึ่งถือเป็นการปฏิบัติเหมือนการจับกุมบุคคลตามหมายจับทั่วไป โดยหากเจ้าหน้าที่ไม่ทำตามกฎหมาย หรือไม่กล้าเข้าไปจับกุม ก็ไม่สมควรมาเป็นเจ้าหน้าที่สอบสวนในคดีนี้ ให้ลาออกไป เพราะเจ้าหน้าที่สอบสวนไม่สมควรหวาดกลัวอะไรทั้งสิ้น เพราะเป็นการทำงานตามอำนาจหน้าที่
"ส่วนตัวมีความเชื่อว่า จะไม่มีเหตุการณ์วุ่นวาย หรือจะมีการก่อม็อบ เพื่อขัดขวางการทำงาน แต่หากเข้าไปแล้ว มีเหตุการณ์เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ก็คงประเมินสถานการณ์กันเองได้ เพราะเป็นการทำอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และหากมีผู้มาขัดขวางการทำงานจนเกิดความเสียหายมากกว่าการบุกเข้าไปจับกุม ก็สมควรพิจารณาเอาเองว่าเหมาะสมหรือไม่"พล.อ.ไพบูลย์กล่าว
***ดีเอสไอย้ำวันนี้คือเส้นตาย
พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารคดีพิเศษ ในฐานะรองโฆษก ดีเอสไอ กล่าวยืนยันว่า พระธัมมชโย ต้องมารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายจับร่วมกันฟอกเงินและรับของโจร ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษด้วยตัวเอง หากไม่เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาภายในวันนี้ (26 พ.ค.) ซึ่งเป็นวันสุดท้ายตามที่ทางดีเอสไอได้ระบุไว้ คณะทำงานจะประชุมเพื่อหามาตรการดำเนินการร่วมกันอีกครั้ง
***ศิษย์พลิกแผนสู้ร้องแพทยสภาตรวจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (25 พ.ค.) ร.ท.นพ.ชูชัย พรพัฒนาพันธุ์ หนึ่งในคณะแพทย์ผู้รักษาพระธัมมชโย พร้อมด้วยศิษยานุศิษย์ประมาณ 20 คน เดินทางมายังสำนักงานแพทยสภา กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เพื่อยื่นหนังสือถึงนายกแพทยสภา เรื่อง ขอความอนุเคราะห์ส่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางมาตรวจและวินิจฉัยโรค โดยมีนายศุภวัฒน์ โพธิ์ทอง หัวหน้าฝ่ายจริยธรรม แพทยสภา เป็นผู้แทนรับเรื่อง เนื่องจาก ศ.นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา และผู้บริหารแพทยาสภาติดภารกิจที่ต่างจังหวัด
ร.ท.นพ.ชูชัย กล่าวว่า คณะแพทย์ผู้รักษาขอความอนุเคราะห์จากแพทยสภา ซึ่งเป็นองค์กรกลางที่ดูแลความเป็นธรรมด้านทางการแพทย์ ช่วยส่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมาตรวจอาการอาพาธของพระธัมมชโย ที่วัดพระธรรมกาย เพื่อความเป็นกลางและจะได้เป็นการยืนยันกับสังคมให้กระจ่างไปเลยว่าพระธัมมชโยป่วยจริงหรือไม่ ส่วนแพทยสภาจะส่งแพทย์เฉพาะทางด้านไหนไป ก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาตามความเหมาะสม
ทั้งนี้ ร.ท.นพ.ชูชัย ได้ยืนยันว่า การถ่ายทอดสดภาพของพระธัมมชโยที่กำลังรักษาอาการอาพาธในพื้นที่ปลอดเชื้อภายในวัด เป็นการรักษาจริง แม้จะมีแพทย์จากโรงพยาบาลรัฐบาลท่านหนึ่งออกมาวิจารณ์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่าสภาพห้องและการรักษาไม่สอดคล้องกับที่อ้างว่าเป็นผู้ป่วยอาการหนัก และมีประชาชนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมากก็ตาม
***แพทยสภาพร้อมเข้าไปตรวจสอบ
ศ.นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา กล่าวว่า กรณีที่เกี่ยวข้องกับคดีความ ไม่ใช่หน้าที่ของแพทยสภา แต่เมื่อมีการร้องขอให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงทางด้านการแพทย์ ก็จะนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารเพื่อพิจารณาประมาณสัปดาห์หน้า และส่งต่อให้ราชวิทยาลัยที่เกี่ยวข้องส่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเข้าไปตรวจสอบ และไม่กังวลว่าจะมีการใช้ช่องว่างในการประชุมของแพทยสภาไปเป็นข้ออ้าง เพราะแพทยสภาดำเนินการตามขั้นตอน
***โฆษกย้ำ"พระธัมมชโย"ยังอาพาธ
พระมหานพพร ปุญฺญชโย ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย กล่าวว่า ยังไม่ได้รับการประสานจากดีเอสไอว่าจะเดินทางเข้ามาแจ้งข้อกล่าวหาพระธัมมชโยที่วัดตามคำเชิญของวัดพระธรรมกายหรือไม่ โดยยังคงยืนยันว่าพระธัมมชโย อาพาธจริง ไม่สามารถเดินทางไปที่ดีเอสไอได้ และไม่ได้มีเจตนาจะหลบหนีแต่อย่างใด ทั้งนี้ หากดีเอสไอไม่เดินทางมาที่วัดตามคำเชิญ ทางวัดและทีมกฎหมายจะมีการหารือกันอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างละมุนละม่อมและหาทางออกที่ดีที่สุดให้กับทั้งสองฝ่าย
นายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย กล่าวว่า พระธัมมชโยยังอาพาธนอนพักฟื้นอยู่ภายในวัดพระธรรมกาย ไม่สามารถเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายจับ ที่ดีเอสไอกำหนดในวันนี้ได้
***ทนายโผล่สอบถามวงเงินประกันตัว
วันเดียวกันนี้ นายสัมพันธ์ เสริมชีพ ทนายความของพระธัมมชโย ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ รองอธิบดี ดีเอสไอ และ พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล ผู้บัญชาการสำนักคดีการเงินการธนาคาร ดีเอสไอ เพื่อสอบถามเรื่องเงินประกันตัวตามกระบวนการกฎหมาย โดยใช้เวลาหารือร่วม 2 ชั่วโมง
นายสัมพันธ์ กล่าวว่า ได้เดินทางมาสอบถาม พ.ต.ท.สมบูรณ์ และ พ.ต.ท.ปกรณ์ เกี่ยวกับเรื่องหลักทรัพย์ประกันตัวของ พระธัมมชโยว่าจำนานเท่าไร ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตั้งวงเงินจำนวน 5 ล้านบาท โดยตนเป็นทีมฝ่ายกฎหมายได้สอบถามเพียงเรื่องเดียวเท่านั้นและจะกลับไปบอกท่านว่าใช้หลักประกันจำนวนดังกล่าว ส่วนกรณีที่วัดพระธรรมกายออกมายืนยันว่าพระธัมมชโยไม่สามารถเดินทางมาดีเอสไอได้ เนื่องจากอาพาธนั้น ไม่ใช่ส่วนที่ตนรับผิดชอบ
“ถ้าไม่มาวันนี้ แล้วไปประกันตัวในชั้นศาล จะเกิดความยุ่งยาก ผมได้เคยอธิบายเหตุผลไปแล้ว แต่ไม่ทราบว่าจะดำเนินการอย่างไร ผมทำหน้าที่เป็นทีมฝ่ายกฎหมายของวัดพระธรรมกาย ไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าพระธัมมชโยจะเดินทางมาในวันนี้หรือไม่”นายสมพันธ์กล่าว
ด้านพ.ต.ท.สมบูรณ์ กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า สำหรับหลักทรัพย์ประกันตัวพระธัมมชโย จำนวนเงิน 5 ล้านบาท เป็นการประเมินจากความหนักเบาของคดี รวมทั้งมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด โดยรายละเอียดขอให้ข่าวในวันนี้ (26 พ.ค.) อีกครั้ง
***"พระไพศาล"จี้ "สมเด็จช่วง"จัดการ
พระไพศาล วิสาโล เจ้าอาวาสวัดป่าสุคะโต จ.ชัยภูมิ พระนักเผยแผ่ กล่าวว่า คดีของพระธัมมชโยเป็นความผิดทางโลก แต่ในทางสงฆ์ พฤติกรรมถือว่าไม่เหมาะกับความเป็นพระ มหาเถรสมาคม (มส.) จะต้องไม่นิ่งเฉย และต้องสั่งพักงาน โดยสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ต้องพิจารณา ส่วนกรณีไม่ยอมไปให้ปากคำกับดีเอสไอ เพราะต้องการให้ประชาชนมองว่าดีเอสไอไม่มีน้ำยา และยังคิดว่าตนเองมีฐานมวลชนสนับสนุน และปกป้องตัวเองได้ แต่เห็นว่า หากพระธัมมชโยมั่นใจว่าตัวเองถูกต้อง ก็ต้องยอมให้ดีเอสไอตรวจสอบ โดยไม่บ่ายเบี่ยง